ทำเป็นพูดดีไปเหอะคิดว่าผมจะลืมหรือไงว่าทำอะไรไว้เมื่อคืนเเม่งรอยช้ำทั้งตัวไหนจะเจ็บๆเเสบๆทางด้านหลังอีก อย่างน้อยก็มีความดีเหมือนกันผมจะลดความโกรธให้นิดหนึ่งก็ได้เห็นว่าช่วยผมหรอกนะ ผมไม่รู้หรอกว่านายหัวทินธรเนี่ยยิ่งใหญ่มาจากไหนถ้าทำให้หลายๆเพจหลายๆสำนักข่าวปลิวได้เเบบนี้ผมว่าคงไม่ธรรมดาเเล้วล่ะครับ
“นั่งบื้ออยู่ได้ ลงไปทานข้าว”
“ผมไม่หิว” ผมตอบกลับไปโดยไม่สนใจคนตัวสูงมือเลื่อนโทรศัพท์ไปด้วย
“อย่าให้ต้องพูดซ้ำคลีน” คนตัวสูงพูดเสียงเข้ม
“ก็ผมบอกว่ายังไม่หิว นายหัวทินธรเอาคืนมาเดี๋ยวนี้!!” ผมโวยวายขึ้นทันทีเมื่อโทรศัพท์ถูกเเย่งออกไปจากมือ
“เงียบ!”
“เอาของผมคืนมา”
“ฉันจะคืนหรือไม่คืนมันก็เรื่องของฉัน โตซะเปล่าควรรู้ไหมว่าเวลาไหนควรทำอะไร” คนตัวสูงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ท้องไม่ได้ติดกันสักหน่อย” ผมพูดออกไปเบาๆ
“เเต่งเข้าบ้านผัวไม่กี่วันก็ซ่าส์ไม่หยุด ไอ้เรื่องกินไม่กินฉันไม่บังคับหรอกมันเรื่องของเธอเเต่ตอนนี้เธอเป็นเมียฉัน ฉันไม่อยากโดนใครเอาไปพูดหรอกนะว่าเลี้ยงเมียไม่ดี”
“จะมาโมโหใส่ผมทำไมนักหนา คนที่ควรโกรธควรเป็นผมมากกว่าไหม!” ผมหลับหูหลับตาเถียง
“โกรธฉัน?”
“...”
“เรื่อง?” คนตัวสูงขมวดคิ้วถาม ต้องถามอีกหรือไงตัวเองทำอะไรไว้ล่ะ!
“ไม่มีอะไรทั้งนั้น” ผมลุกขึ้นจากเตียงยังไม่ทันได้เดินผ่านพ้นร่างสูงมือใหญ่ก็บีบต้นเเขนผมเเน่นจนต้องหันตามด้วยความเจ็บ
“พูด!” คนตัวสูงขึ้นเสียงใส่จนผมตกใจ
“ผมบอกว่าไม่มีอะไรทั้งนั้น!”
“เรื่องเมื่อคืนหรือไง?”
“นี่!ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นายหัวทินธร!” ผมร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อคนตัวสูงดึงผมเข้าหาตัวเเล้วล็อกเอวผมไว้เเน่นจนขยับไปไหนไม่ได้ ใบหน้าหล่อก้มลงจนจมูกเเทบเฉียดกับเเก้มผม
“โกรธฉันเรื่องเมื่อคืน?”
“...”
“โกรธทำไมเธอไม่รู้จักหน้าที่เมียหรือไง สิ่งเเรกที่เธอควรทำคือทำให้ฉันพอใจไม่ใช่หรือไง เเค่นี้ทำมาโกรธเจอของจริงเข้าไปไม่ร้องไห้กลับบ้านไปฟ้องพ่อหรือไง?” คนตัวสูงพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่งจนผมต้องเบี่ยงหน้าหนีเพราะอันตรายเกินไป ทำไมปากร้ายเเบบนี้นะ
“ปล่อย อ๊ะ!” ผมร้องออกมาอยากตกใจเมื่อมือใหญ่เลื่อนลงมาบีบเค้นสะโพกผมจนผมต้องจับมืออีกคนไว้
“จะมาโกรธมาร้องไห้ตอนนี้มันก็ไม่ทันเเล้ว ฉันให้ตัดสินใจเเล้วเเต่เธอเลือกทางนี้เอง ไม่พอใจผัวก็มานิ่งมาเงียบโวยวายใส่มันใช่หรือไง ว่างๆควรเข้าไปหาอ่านวิธีเอาใจผัวบ้างนะเผื่อวันไหนทำให้อารมณ์ดีจะได้ไม่เจ็บตัวมาก” คนตัวสูงพูดพร้อมกับยิ้มมุมปาก
“หมายความว่าไง!?” ผมถามออกไปทันที
ฟอดด!!
“นี่นายหัวทินธร!” ผมจับเเก้มตัวเองไว้ทันทีเมื่อโดนคนตัวสูงโฉยโอกาสหอมแก้มขาวพร้อมทิ้งประโยคสุดท้ายไว้ก่อนจะผละตัวออกไป
“เตรียมใจไว้บ้างก็ดีนะ ถ้าฉันเอาจริงเมื่อไหร่ฉันจะเล่นเธอให้จมเลยล่ะ”
นี่ผมอยู่ไหนกันอยู่บ้านป่าเมืองเถื่อนหรือเปล่า การเป็นเขมจักรทำไมมันยากขนาดนี้นิดๆหน่อยก็โมโหดุใส่ถามจริงนายหัวทินธรนี่เคยยิ้มเป็นกับใครเขาไหม มีเเต่ขู่ๆใส่ผมทุกวันเเล้วใครบ้างจะไม่กลัว ผมเจอเเต่คนที่เอาใจตามใจมาตลอดพอเจอเเบบนี้ผมก็ต้องหวั่นใจกลัวเป็นธรรมดาเเล้วยิ่งเป็นนายหัวทินธรเขาไม่ได้เเค่ขู่เเต่เขาทำจริง เเค่เรื่องเมื่อคืนผมทั้งขอโทษทั้งยอมเเล้วเขายังกล้าที่จะทำเลยเเล้วต่อไปผมจะอยู่ยังไงให้ปลอดภัยนอกจากจะเชื่อฟังเขาเเละไม่ขัดใจเขาจนทำให้เขาหงุดหงิด พระเจ้าลำเอียงจริงๆเลยส่งผมมาให้เขาก็ควรเป็นผมสิที่ควบคุมเขาไม่ใช่เขาที่ควบคุมผมอยู่เเบบนี้
ผมเข้าไปชำระร่างกายซึ่งทำให้ผมได้เห็นร่างกายของผมที่มีทั้งรอยเเดงรอยกัดเต็มไปหมดเกินไปมากจริงๆนายหัวทินธรอย่าหวังว่าครั้งหน้าจะได้ทำอะไรเเบบนี้กับผมอีก ผมอาบน้ำเสร็จก็เดินลงมาข้างล่างโดยมีนายหัวทินธรนั่งอ่านหนังสือรออยู่บนโต๊ะอาหาร ผมทำตัวไม่ถูกเมื่อเดินเข้ามาใกล้โต๊ะอาหารกลับมีเหล่าเเม่บ้านหันมามองพร้อมกับยิ้มให้ผมจนทำตัวไม่ถูก หน้าผมมีอะไรติดอยู่หรือไงถึงได้มองเเล้วยิ้มกันขนาดนี้
“ยืนนิ่งอยู่ทำไมนั่งลงสิ” ผมเเอบเบะปากใส่นิดหน่อยเเต่ก็ยอมนั่งลงตามคำสั่งของคนตัวสูง อะไรก็ดุๆ
“ทานได้หรือเปล่า” คนตัวสูงถามออกมาเสียงเรียบทำให้สายตาผมมองไปที่เมนูต่างๆ
“สบายมากครับ” ผมตอบกลับไป
“นึกว่าชินกับอาหารจากที่โน้นมากกว่าที่นี่” คนตัวสูงพูดพร้อมกับมองหน้าผม คิดว่าผมเป็นคนยังไงการที่ผมทำงานสายนี้ใช่ว่าผมจะรักสบายอะไรขนาดนั้นไหม
“อยู่ที่โน้นผมก็ทานอาหารไทยบ่อยครับ เเละผมเป็นคนง่ายๆครับไม่ได้เรื่องมาก” ผมตอบกลับพร้อมกับยิ้มให้นายหัวทินธรเเค่นหัวเราะออกมาเบาๆ
ผมกับนายหัวทินธรทานมื้อเช้าด้วยกันเป็นครั้งเเรกซึ่งมันทำให้ผมเกร็งมากๆครับเขาดูปกติเกินคาดมากที่มีผมร่วมโต๊ะอาหารด้วยเอาจริงผมควรทำใจให้ชินมากกว่าเพราะผมต้องร่วมโต๊ะกับเขาอีกนาน ทานข้าวได้สักพักโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นคนตัวสูงเงยหน้ามองผมนิดหน่อยก่อนจะเลื่อนโทรศัพท์คืนให้ผม ผมเอียงคอมองนิดหน่อยกลับเป็นชื่อของผู้จัดการตัวเองผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะขอตัวออกไปรับโทรศัพท์
“ผมขอตัวไปรับโทรศัพท์นะครับ” ผมพูดออกไปก่อนจะลุกขึ้นเเต่กลับมีเสียงเข้มเเทรกขึ้นมาก่อน
“นั่งลง”
“ผมจะออกไปคุยโทรศัพท์” ผมพูดพร้อมกับชูโทรศัพท์ที่ดังไม่หยุดให้อีกคนดู
“นั่งคุยตรงนี้ เเล้วเปิด” คนตัวสูงสั่งเสียงดุพร้อมกับกอดอกจ้องหน้าผม
“นายหัวนี่มันเรื่องส่วนตัวของผม” ผมเถียงออกไปทันที
“ไม่มีคำว่าส่วนตัวอีกต่อไป” คนตัวสูงกดเสียงต่ำ
“ตะเเต่..”
“จะเปิดให้ฉันได้ยินหรือจะไม่รับเลย เลือก”
เเล้วผมทำอะไรได้นอกจากนั่งลงที่เดิมเเล้วกดรับสายของพี่เมย์พร้อมกับเปิดสปีกเกอร์โฟนให้อีกคนได้ยินด้วย
“น้องคลีนนรับสายพี่ช้ามาก ทำอะไรอยู่เนี่ย” ปลายสายดังขึ้นมาทันทีเมื่อกดรับผมเงยหน้ามองคนตัวสูงที่นั่งกอดอกมองผมก่อนจะตอบกลับไป
“คลีนทานข้าวอยู่ครับพี่เมย์”
“พี่คุยได้ใช่ไหมตอนนี้”
“คลีนยัง..”
ผมตกใจเมื่อคนตัวสูงเคาะโต๊ะเบาๆเป็นเชิงบอกให้ผมตอบว่าอะไร ทำไมถึงได้ซวยเเบบนี้เนี่ยคลีน
“คลีนสะดวกคุยครับพี่เมย์” ผมกลั้นใจตอบ
“คือเมื่อเช้าพี่ส่งตารางงานไปให้คลีนเเล้วเเต่คลีนยังไม่ตอบ พี่เลยมาบอกรายละเอียดงานเลยเเล้วกันงานนี้ทางผู้ใหญ่เขาต้องการตัวคลีนมากเลยนะยังไงคลีนขอนายหัวทินธรให้ได้นะ” พี่เมย์พูดออกมารัวๆเเต่ใจผมนี่ร่วงไปถึงตาตุ่มเเล้วครับ
“...” คนตัวสูงยังคงจ้องหน้าผมนิ่งผมก็ไม่กล้าตอบอะไรไป
“คลีนฟังพี่อยู่ไหม” พี่เมย์พูดขึ้นมาอีกครั้ง
“ฟะฟังอยู่ครับ”
“พี่พูดรายละเอียดงานเลยนะช่วงเช้ามีถ่ายเเบบเสื้อผ้าเเบรนด์YSคู่กับคุณโทมัส คลีนรู้ไหมคุณโทมัสเป็นคนเจาะจงด้วยนะว่าคนที่ถ่ายเเบบคู่ด้วยต้องเป็นคลีนเท่านั้น!! รู้ไหมพี่ตื่นเต้นใหญ่เลยที่คุณโทมัสเลือกเเค่คลีนเเล้วยิ่งเสื้อผ้าเเบรนด์นี้นะเปิดนั่นเปิดนี่โอ้ยยน้องคลีนรับเถอะพี่อยากมองคุณโทมัสจะเเย่เเล้ว” พี่เมย์ยังคงพูดไม่หยุดเเต่ผมนี่นั่งหน้าซีดเเล้วครับไม่ให้นั่งหน้าซีดได้ไงก็เล่นจ้องผมตาขวางขนาดนี้มองปกติผมว่าดุเเล้วนี่คือจ้องเหมือนจะบีบผมให้เเหลกขนาดนี้ใครเขาจะกล้าตอบ
“พี่เมย์ครับคลีนขอคิดก่อนได้ไหม”
“คลีนขอนายหัวทินธรให้ได้เลยนะ งานนี้ไม่มีสัมภาษณ์ต่อด้วยสบายใจได้ไม่ต้องตอบคำถามนักข่าวให้ยุ่งยาก” ผมยังไม่ทันตอบกลับอะไรเสียงคนตัวสูงก็เเทรกขึ้นก่อนจนปลายสายเงียบไปทันที
“จะรับงานอะไรถามผัวเขาหรือยัง?”
“...”
“นายหัว..” ผมเรียกคนตัวสูงเบาๆถ้าให้เดาพี่เมย์คงตกใจอึ้งไปเเล้วเเน่ๆ
“เงียบ! ฉันให้เธอพูดหรือไงเเล้วผู้จัดการเธอจะเงียบทำไม ตอบ!” คนตัวสูงพูดออกไปเสียงดังเเล้วน่ากลัวเเบบนี้ใครเขาจะกล้าตอบล่ะ
“คะ..คะ?” ผมรับรู้เลยว่าเสียงพี่เมย์สั่นมาก
“ฉันไม่สนว่างานนี้จะใหญ่หรือเเบรนด์จะให้เยอะเเค่ไหน เเต่ฉันไม่ให้เมียฉันรับงานอะไรทั้งนั้นถ้าฉันไม่อนุญาตก็ไม่มีสิทธิ์รับงานอะไรทั้งนั้นต่อไปตารางงานทุกอย่างของเมียฉันต้องส่งมาที่ฉัน เเล้วฉันจะเป็นคนบอกเองว่างานไหนที่ทำได้” คนตัวสูงกอดอกสั่งเสียงเข้มพี่เมย์เงียบไปทันที
“พะพี่เมย์ครับอยู่ไหม?” ผมถามออกไป
“อยู่ๆๆพี่ฟังอยู่ค่ะน้องคลีน ได้ค่ะๆๆเดี๋ยวเมย์จะส่งตารางให้นะคะ” พี่เมย์พูดออกไปรัวๆ
“ดี เเล้วฝากบอกไอ้โทมัสอะไรนั่นด้วยว่าผัวเขาไม่ให้รับหาคนอื่นเหอะ ส่วนค่าจ้างที่เเบรนด์จะให้ส่งรายละเอียดมาให้ฉันเดี๋ยวฉันจะให้เลขาจัดการให้ ฉันจะจ่ายเเทนให้ทุกบาททุกสตางค์เอง”
คนตัวสูงสั่งเสียงเข้มก่อนจะกดตัดสายพี่เมย์ไป ให้ทายว่าพี่เมย์คงอึ้งอยู่ไม่น้อย เเล้วนายหัวจะมาปฏิเสธงานผมทำไมจะให้ผมนั่งๆนอนๆที่นี่มันไม่ใช่เเล้วไหมอย่างน้อยผมต้องทำงาน คนตัวสูงถอนหายใจออกมาก่อนจะเดินออกไปจากโต๊ะอาหารผมรีบเดินไปขวางทางไว้ทันที
“นายหัวจะไปไหนไม่ได้เรายังคุยกันไม่รู้เรื่อง” ผมพูดออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจังเรื่องงานยังไงวันนี้ผมก็ต้องคุยให้รู้เรื่อง นายหัวจะมาทำเเบบนี้ไม่ได้
“เธอสั่งฉันหรือไง?”
“ผมไม่ได้สั่งผมเเค่ต้องการคุยให้รู้เรื่อง”
“มีอะไรที่ยังไม่ชัดอีก?”
“มันคืองานของผม นายหัวไม่ควรเข้ามายุ่ง” ผมพูดออกไปเเค่นั้นเเหละดวงตาดุเเข็งขึ้นมาทันที
“ที่พูดออกมาคิดบ้างหรือยัง หรือที่พูดกรอกหูทุกวันมันไม่จำ”
“ผมต้องรับงานนี้”
“มันอยากทำมากขนาดนั้นเลยหรือไง งานพวกนี้มันมีดีอะไรนักหนา!!” คนตัวสูงพูดขึ้นเสียงดัง ตลอดอะไรก็ขึ้นเสียงใส่
“เเต่มันคืออาชีพของผม!”
“มันคืออดีต! ตอนนี้เธอเป็นใคร เธอเป็นเขมจักรเธอเป็นเมียฉัน! กล้าดียังไงถึงได้เอาร่างกายไปโชว์ต่อหน้าคนอื่นเปิดนั่นโชว์นี่ให้ไอ้พวกนายเเบบนั้นเเตะเนื้อต้องตัว ถ้าจะรับงานนี้ฉันให้เธอถ่ายเเบบคู่กับหมายังดีกว่า!!” คนตัวสูงพูดขึ้นพร้อมกับใช้มือบีบปลายคางผมจนเจ็บไปหมด
“อึก! นายหัวทำไมเป็นคนพูดไม่รู้เรื่อง!” ผมพูดออกไปเเค่นั้นทำให้คนตัวสูงหัวร้อนขึ้นกว่าเดิม
“ เธอนั่นเเหละที่พูดไม่รู้เรื่องสักอย่าง! อยากทำมากก็ออกจากเขมจักรเเล้วอยากจะโชว์อะไรก็โชว์ไป เเต่ถ้าเธอยังเป็นเขมจักรยังเป็นคนของฉันเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรตามใจตัวเองทั้งนั้น ถ้ายังไม่ฟังอย่ามาว่าฉันใจร้ายก็เเล้วกัน!!” คนตัวสูงตะคอกใส่หน้าผมเเล้วผละออกเดินหนีเเต่ผมเเทรกขึ้นก่อน
“ถ้าผมทำเเล้วนายหัวจะทำไม?” ผมถามออกไปด้วยความโมโห นายหัวทินธรถอนหายใจออกมาหนักๆพร้อมกับหันหน้ามาหาผมเเล้วชี้หน้าผม
“เพราะเธอมันอวดเก่งอวดดีเเบบนี้ไงถึงได้มาอยู่ที่นี่!! ถ้าคิดว่าคนอย่างฉันทำอะไรไม่ได้ควรกลับไปคิดใหม่ได้เเล้วนะ อย่าให้ฉันต้องเด็ดขาดนะคลีนรู้ใช่ไหมว่ามันจะเป็นยังไง?” คนตัวสูงกดเสียงเข้มจนผมไม่กล้าเเม้จะขยับปากพูด
“ผมก็เเค่ทำงานเเละอีกอย่างผมไม่ได้โชว์ร่างกายอะไรขนาดนั้น” ผมพยายามอธิบายอย่างใจเย็น
“เลือกเอานะคลีนจะหยุดรับงานหรือจะลาขาดจากวงการ ถ้าเธอยังฉลาดก็ควรรู้นะว่าต้องเลือกอะไร?”
คนตัวสูงพูดทิ้งท้ายไว้เเค่นั้นก่อนจะเดินออกไปตะโกนสั่งเข้มให้เอารถออกไปไร่ดูจากน้ำเสียงเเล้วคงโมโหน่าดูคนใจร้อนเเบบนายหัวทินธรนะใครก็เอาไม่อยู่หรอกขี้โมโหจะตายนิดๆหน่อยก็ขึ้น รู้เลยครับว่าทำไมคนอื่นถึงไม่กล้าขัดใจเพราะโหดเเบบนี้ไง เข้มที่ชะเง้อคอมองมาทางผมพร้อมกับยกมือเป็นเชิงบอกว่าให้ผมใจเย็นๆผมอ่านปากเข้มได้ว่านายหัวกำลังโกรธผมพยักหน้านิดหน่อยก่อนจะถอนหายใจออกมาหนักๆเมื่อได้ยินเสียงรถที่ขับออกไปเเล้ว ให้ตายเเล้วแบบนี้ผมจะรับงานอะไรได้นั่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ผมคงต้องเป็นนายเเบบที่ถ่ายคู่กับหมากับเเมวเหมือนที่เขาบอกจริงๆเเล้วล่ะ เฮ้อ
เถียงกับนายหัวทินธรไม่พอต้องรีบโทรไปขอโทษพี่เมย์โทรไปขอโทษทางเเบรนด์อีกเรื่องเงินผมไม่ได้สนใจหรอกเเต่ผู้ใหญ่จะมองยังไงเขาอุตส่าห์เจาะจงมอบงานให้ขนาดนี้ พี่เมย์ดูเหมือนจะปลื้มนายหัวทินธรไม่น้อยก็เเน่สิงานผมก็ไม่ต้องทำเเถมนายหัวยังจ่ายเงินให้ฟรีๆอีกจะไม่รับก็ไม่ได้เดี๋ยวก็มาโมโหใส่ผมอีกคนเจ้าอารมณ์ผมไม่คุยด้วยหรอกนะ จะไม่ให้ผมรับงานเเล้วให้ผมทำอะไรให้ผมนั่งๆนอนที่บ้านนี่มันจะน่าเบื่อไปไหมอย่างน้อยก็ให้ผมทำอะไรบ้างเถอะเอาผมไปไร่ไปเปิดหูเปิดตาบ้างก็ได้
ผมนั่งๆนอนๆดูหนังหาหนังสือขึ้นมาอ่านบ้างจนถึงช่วงบ่ายเเม่บ้านเริ่มตั้งโต๊ะอาหารซึ่งไม่มีวี่เเววนายหัวทินธรจะกลับมาผมได้ยินเสียงรถที่ขับเข้ามาเลยเดินออกไปดูเเต่กลับเป็นเข้มที่เดินเข้ามาคนเดียว
“คุณคลีนทานข้าวเเล้วใช่ไหมครับ” ใครสั่งมาให้ดูอีกล่ะ
“ยังครับ ผมรอนายหัวอยู่” ผมพูดออกไปตามความจริง
“ไม่ต้องรอครับนายหัวงานยุ่ง คุณคลีนทานเลยผมจะมาบอกว่าไม่ต้องรอนายหัวครับ” เข้มพูดออกมา
“เเล้วนายหัวของเข้มเขาทานอะไรหรือยัง?”
“ยังเลยครับเเต่คุณคลีนไม่ต้องห่วงครับ นายหัวอึดจะตายหิวเดี๋ยวก็ทานเองเเหละคุณคลีนทานได้เลยครับไม่ต้องรอ” นี่เขาเป็นเเบบนี้บ่อยไหมสอนเเต่ผมว่าถึงเวลาก็ต้องทานเเล้วดูตัวเองทำ
“เข้มอย่าพึ่งไปนะรอผมก่อน เดี๋ยวผมไปด้วย”
“ไม่ได้ครับคุณคลีน ทานข้าวเเล้วอยู่บ้านเถอะครับข้างนอกมันร้อน” ทำไมทุกคนถึงคิดว่าผมอ่อนเเอกันนะทั้งๆที่เรื่องเเค่นี้เอง
“รอผมอยู่ตรงนี้ นี่คือคำสั่ง” ผมพูดออกไปด้วยเสียงจริงจัง อ่ะในเมื่อผมพูดเเล้วไม่ยอมผมก็ต้องสั่ง สถานะผมมันทำได้อยู่เเล้วตอนนี้
ผมเดินเข้าไปในครัวบอกเเม่บ้านให้จัดอาหารใส่กล่องใส่ปิ่นโตให้หน่อยไม่นานผมก็เดินออกมาพร้อมปิ่นโตเเละตะกร้ากับข้าวมากมาย เข้มดูอึ้งนิดหน่อยก่อนจะถามขึ้นมาด้วยความงง
“คุณคลีนจะไปไหนครับ?”
“ก็ไปทานข้าวกับนายหัวที่ไร่ไงครับ” ผมตอบกลับไปพร้อมเดินนำไปทางรถ
“เเต่นายหัวบอกว่าไม่ให้คุณคลีนออกไปไหนนะครับ”
“ถ้าเขาโมโหผมจะรับผิดเเทนเอง ไม่ต้องกลัวครับไปเถอะเลยเวลาทานข้าวมาเยอะเเล้ว”
ผมพูดออกไปเเค่นั้นก่อนจะขึ้นไปนั่งบนรถเข้มทำอะไรไม่ได้จำเป็นต้องขับรถพาผมมาที่ไร่ พอขับมาถึงดูเหมือนว่าจะวุ่นวายนิดหน่อยเพราะนายหัวทินธรเดินไปมาไม่หยุดเห็นตะโกนสั่งอะไรไม่รู้รัวๆ ผมเดินลงมาจากรถพร้อมกับสายตาคมที่สะดุดจ้องมาที่ผมคนตัวสูงถอนหายใจออกมาเมื่อพวกคนงานเริ่มมองมาทางผมเป็นจุดเดียว
“ไอ้เข้ม!มึงจะพาเมียกูมาด้วยทำไม!!” คนตัวสูงพูดเสียงดังในขณะที่เท้าก็เดินเข้ามาหาผม
“โธ่นายหัวผมไม่ได้อยากพามาเลย ผมเเค่ทำตามคำสั่งที่นายหัวสั่งให้ผมไปดูคุณคะ..”
“หุบปาก!” นายหัวรีบสั่งเข้มให้เงียบปากไว้
“ก็นั่นเเหละครับ คุณคลีนเขาตามมาเอง” เข้มตอบกลับเสียงเบา
“อย่าโทษเข้มนะครับ ผมขอตามมาเองถ้าจะโมโหให้ลงที่ผมคนเดียว” ผมพูดออกไป
“เธอโดนคนเดียวเเน่ไม่ต้องห่วง ไม่รู้หรือไงว่ามันร้อนจะออกมาทำไม!”
“โอ้ย!นายหัวหยุดลากผมเดี๋ยวนี้นะ!” ผมร้องโวยวายขึ้นมาเมื่อโดนลากให้เดินตาม ผมก็อายเป็นไหมคนมองขนาดนี้
“เข้าร่ม ไม่เเหกตาดูบ้างหรือไงว่ามันร้อน” คนตัวสูงพูดเสียงเข้มพร้อมกับกอดอกยื่นซ้อนบังแดดให้ผม
“พูดดีๆก็ได้นิครับ” ผมพูดออกไปเสียงเบา
“ขนอะไรมาเยอะเเยะดูบรรยากาศด้วยคิดว่ามานั่งเล่นที่สวนหรือไง?” โอ้ยหยุดใจร้ายสักทีได้ไหม
“อาหารกลางวันครับ”
“เธอยังไม่ทาน? ฉันบอกเเล้วใช่ไหมว่าให้รู้เวลาไหนเป็นเวลาไหน!”
“อย่าพึ่งดุผมได้ไหม ที่ยังไม่ทานเพราะรอนายหัวนั่นเเหละ นายหัวสอนเเต่ผมเเล้วดูนายหัวทำตัวสิครับมันเลยเวลาทานข้าวมามากเเล้วเเต่นายหัวก็ไม่ยอมกลับมาทาน อย่างน้อยก็กลับมาทานข้าวก่อนไหมครับเเล้วค่อยกลับไปทำงานคนที่ไม่รู้เวลาเป็นนายหัวนั่นเเหละ!” ผมพูดรัวออกไปทันที ไม่สนเเล้วว่าใครจะได้ยินบ้างสั่งเเต่คนอื่นเเล้วดูตัวเองทำตัว
“เเล้วฉันสั่งให้เธอรอฉันหรือไง ให้ไอ้เข้มไปบอกว่าทานก่อนเลยไม่เข้าใจหรือไง?”
“ผมเข้าใจถึงได้เเบกของมาถึงที่นี่ไงครับ หยุดทำงานเเล้วมาทานข้าวได้เเล้วครับ”
“เห็นไหมว่างานฉันยังไม่เสร็จ หิวก็ไปนั่งกินก่อนในห้องทำงานฉัน” คนตัวสูงสั่งออกมาพร้อมกับเดินหนีเเต่ผมรีบเดินมาขวาง
“คนอื่นเขาทานหมดเเล้วนะครับเหลือเเค่นายหัว ทำไมไม่ทานให้เสร็จเเล้วรีบกลับไปทำล่ะครับ”
“ถอย! ฉันต้องคุมงาน” คนตัวสูงสั่งเสียงเข้ม
“ถ้าพวกเขาพักนายหัวก็ไม่ต้องคุมคนงานใช่ไหมครับ?” ผมถามออกไป
“คิดจะทำอะไร?”
“ทุกคนครับ!!! พักได้เลยนะครับใครที่กำลังทำงานอยู่พักได้เลยนะครับนายหัวทินธรต้องทานข้าวเพราะเลยเวลาทานข้าวมาเยอะเเล้ว ระหว่างนี้ทุกคนพักกันตามสบายเลยนะครับ!!!” ผมตะโกนดังลั่นไร่ตามด้วยเสียงโห่ดีใจของพวกคนงาน
“ทำอะไรของเธอ!”
“เเค่นี้ก็ทานข้าวได้เเล้วใช่ไหมครับ?” ผมหันไปยักคิ้วให้
“คลีน” คนตัวสูงยังคงเรียกชื่อผมเเต่ผมไม่สนใจถึงเเม้ว่าในใจจะกลัวโดนดุก็เหอะ
“เข้มตั้งโต๊ะเลยเดี๋ยวผมกับนายหัวทินธรจะทานข้าวด้วยกัน” ผมสั่งเข้มพร้อมกับยื่นปิ่นโตเเละตะกร้าอาหารให้
“ไม่ได้ยินที่ฉันพูดหรือไง?” คนตัวสูงเริ่มหงุดหงิด
“ได้ยินครับ เเล้วทำไมครับจะมาหงุดหงิดใส่ผมทำไม นายหัวไม่ให้ผมรับงานผมก็ต้องตามมาที่ไร่นี่ไงครับ ถ้านายหัวไม่พอใจก็สั่งให้ผมไปทำงานสิครับเเล้วผมจะไม่มากวนใจเเบบนี้อีก” ผมพูดออกไปพร้อมกับยิ้มให้คนตัวสูงขมวดคิ้วจนยุ่งไปหมดก่อนจะสบถออกมาเสียงดัง
“มีเมียเเบบนี้มันวุ่นวายจริงๆ!!”