6# ตอน ตัวตรงไม่กลัวเงาเอียง

2028 คำ
“ผมขอยืนยันว่าผมไม่ได้โกหก ผมยินดีมากจะให้ทหารเข้ามาตรวจสอบ อย่างไรแถวนี้มีผู้คนมากมายที่รู้จักผม” “ถุย! หน้าอย่างแกเนี่ยนะมารับของ คนมีที่ดินแทบจะนับนิ้วได้ แกตั้งใจมาฉวยโอกาสมากกว่า” “ใช่หรือไม่ใช่เจ้าหน้าที่เขาตรวจสอบได้ ไม่จำเป็นให้ป้ามาใส่ใจหรอก ทุกคนที่ได้รับมีรายชื่อขึ้นทะเบียนไว้ทั้งนั้น” “ถูกต้อง แค่ยืนยันหมายเลขประจำตัว กับมีหลักฐานแสดงตัวตนก็หาได้แล้วว่ามีสิทธิ์หรือไม่ เอาเป็นว่าฉันช่วยยืนยันอีกแรง ว่าหนุ่มสาวสองคนนี้หลบออกมาก่อนเหตุการณ์บานปลาย” “ช่วยยืนยันฮะฮะ! ที่แท้พวกแกทำกันเป็นขบวนการ เพื่อซ้ำเติมคนที่กำลังเผชิญความยากลำบาก ดูไว้! คนพวกนี้ท้าทายอำนาจทหาร” หญิงคนเดิมยังไม่ยอมศิโรราบโดยง่าย เธอมั่นใจว่าอี้หานกับคนกลุ่มนี้ต้องเป็นฝ่ายต่อต้านมาเพื่อทำลายความสงบ และคำพูดของเธอมันทำให้เหล่าทหารตื่นตัว หากว่าเป็นฝ่ายต่อต้านจริงนั่นคือเรื่องใหญ่ พวกเขายกปืนขึ้นมาตั้งลำกล้องพร้อมลั่นไก “แกพูดจาเหลวไหล! นี่ต่างหากเรียกว่าใส่ร้ายคน” ชายวัยสี่สิบที่อยู่ข้างๆ อี้หานโมโหจนหน้าแดง ชี้หน้าด่าตวาดเสียงกร้าวทั้งยังดุดัน ผู้คนต่างถอยร่นตกใจขวัญหนี แต่ทหารคือผู้ได้รับการฝึกฝนมาอย่างหนัก เขาไม่มีอาการสะดุ้งแม้แววตายังคงจ้องเขม็ง “โว้สหายทั้งหลาย! พวกนายเล็งปืนมาที่เราแบบนี้ คิดว่าเราคือฝ่ายต่อต้านจริงๆ มันไม่น่าขันไปหน่อยหรือ ที่ไม่แม้จะตรวจสอบตัวตนสักนิด” แต่ชายอีกคนที่อ่อนวัยกว่ายืนสังเกตมาสักพัก เขาไม่ตระหนกเขาเพียงยิ้มเย้ยแล้วพูดโน้มน้าวให้ทหารใจเย็น ในเมื่อหญิงยากจนใช้ปากทำร้ายคนอื่นได้ ใช่ว่าคนอื่นจะทำไม่ได้ “มีพยานชัดเจน! ทั้งยังยืนยันคำเดิมอย่างหนักแน่น และผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีบุญคุณความแค้นกับพวกนาย ทำไมเธอต้องใส่ร้าย นอกจากว่านายคือพวกต่อต้าน!” “นั่นเป็นเพียงคำกล่าวอ้าง ไม่ว่าใครก็พูดได้ ทำไมสหายไม่คิดบ้างว่าคนที่พลิกลิ้นเกลี้ยกล่อมใส่ร้ายคนอื่นขนาดนี้ อาจเป็นนางนกต่อที่เข้ามาปลุกปั่นสร้างสถานการณ์บางอย่าง ฝ่ายต่อต้านไม่ได้มีแค่ผู้ชาย หรือกฎของทหารแนวทางการปฏิบัติที่ร่ำเรียนมา พวกนายก็ลืมหมดแล้ว” “ไม่จริง! ฉันแค่หญิงชาวบ้านคนหนึ่งที่หิวโหย จะเป็นนางนกต่อได้ยังไง แกอย่ามาเบี่ยงประเด็น” “หญิงชาวบ้านรึ แล้วกลุ่มคนที่เข้าไปปล้นคลังเสบียงก่อนสงครามจะยุติ กับพวกวางระเบิดทางรถไฟ ตามจุดที่มั่นสำคัญ คนเหล่านั้นไม่เพียงมีผู้หญิงแก่ๆ ยังมีเด็กตัวเล็กๆ คนชรา หากพูดตามจริงแล้วคนที่ดูธรรมดาที่สุดคือคนที่น่าสงสัยที่สุด” “เหลวไหล! ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนั้น” “ก็ไม่แน่นะ ป้าพยายามพุ่งเป้ามาที่เรา ไม่ใช่ว่าอยากใส่ร้ายอย่างเดียว แต่กำลังทำให้สายตาทุกคู่หันมาทางนี้ ไม่ได้สนใจทิศทางอื่น บางที่นี่อาจเป็นการเบี่ยงประเด็นที่ว่า” “หืม! แบ่งกำลังคนไปตรวจสอบด้านนั้น! ดูว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่” คราวนี้ผู้บัญชาการทหารเอะใจแล้ว เขามัวแต่ให้ความสำคัญกับคนกลุ่มเล็กๆ ที่ยังไม่สามารถยืนยันความผิด จนลืมใส่ใจคลังพืช หากว่าเกิดการสูญหายเขาที่เป็นหัวหน้าจะต้องรับผิดชอบ “จับได้แล้วครับ! มีคนกำลังอาศัยโอกาสชุลมุนขโมยพืชออกไป เขาใช้รถเข็นลำเลียงไปจำนวนมาก ตอนนี้ถูกควบคุมตัวไว้ได้ ที่สำคัญคนคนนั้นเป็นเด็กผู้ชายสามคน เขาบอกว่าได้วางแผนกับแม่” “นี่ยายแก่! ตกลงแกต้องการอะไร แกแน่ใจใช่มั้ยว่าคือพวกเขา บอกไว้ก่อนว่าฉันจะตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด ถ้าแกพูดมั่วๆ ฉันจะไม่ปล่อยแกกับครอบครัวไป รวมถึงแกอีกคน” “ไม่ใช่ฉันนะ! ฉันไม่รู้จักเด็กคนนั้น ฉันมีแต่ลูกสาวไม่มีลูกชาย” “ผมว่าแทนที่จะถามปากเปล่า ทำไมสหายทั้งหลายไม่ตรวจสอบล่ะ มีคนตั้งหลายคน ในตอนนี้เหตุการณ์สงบแล้ว ผมยินดีให้ตรวจสอบ จะได้ไม่มีใครมาใส่ร้าย เพื่อหาช่องว่างลงมือทำลายความสงบมั่นคง” คำพูดของอี้หาน ทำให้ใบหน้าของผู้บัญชาการแดงเพราะอับอาย เขาไม่คิดว่าตนเองจะพลาดจนถูกหนุ่มน้อยคนหนึ่งสั่งสอน แต่เพราะตนประมาท เชื่อคำยุยงจนเกือบสูญเสียพันธุ์พืชสำหรับเพาะปลูก ทุกเมล็ดทุกหัวถูกจดบันทึกไว้และมีเจ้าของ หากขาดไปชิ้นหนึ่งนั่นคือความผิดของเขา ที่กองทัพเข้มงวดขนาดนี้ เนื่องจากผลกระทบด้านทรัพยากรที่ขาดแคลน หลายปีมานี้อาหารมีราคาสูงมากและมีน้อยไม่เพียงพอต่อประชากร การซื้อต้องจำกัดปริมาณให้ได้รับทั่วถึง ภาครัฐจึงออกมาตรการคุมเข้ม “นายชื่ออี้หาน แล้วเธอล่ะ” “ฉันชื่อเฟิ่งอิงค่ะ เราอยู่บ้านเดียวกัน” “พวกเธอสองคนเป็นอะไรกัน เหมือนจะไม่ใช่พี่น้องสินะ” “เธอคือคู่หมั้นผมครับ” “เอ๋?” เฟิ่งอิงอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง เธอคิดว่าเขาจะบอกว่าเธอคือพี่สาวบุญธรรม ไม่คิดว่าเขาจะพูดออกไปแบบนั้น “เธอลืมไปแล้วหรือ เราไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ เราอยู่ด้วยกันมาขนาดนี้ อย่างไรฉันจะแต่งงานกับเธอ” “สาวน้อย ตกลงมันใช่อย่างที่เขาอ้างมั้ย” “คือว่าเราอยู่บ้านเดียวกันจริงๆ ค่ะ อยู่มาสองปีแล้ว ที่เขาพูดจึง..ไม่ผิดนัก” ทหารคนนั้นถอนหายใจเล็กน้อย ขณะในมือยังจดบันทึกคำพูดของทั้งคู่ลงไป เฟิ่งอิงไม่เข้าใจว่าเขาทำไมจึงดูหงุดหงิด แต่อี้หานที่เป็นผู้ชายย่อมรู้ดี ตอนนี้เฟิ่งอิงอายุสิบห้า เธอเป็นสาวน้อยหน้าตาสวยเพราะเป็นลูกเศรษฐีมีชาติตระกูล มันทำให้เธอดูโดดเด่นกว่าผู้หญิงทั้งหมด ใครมองเธอแล้วจะไม่สนใจบ้าง ดังนั้นเขาต้องแสดงตัวเป็นเจ้าของ ป้องกันคนอื่นมาวุ่นวายภายหลัง “จากการตรวจสอบพวกนายไม่มีความผิดตามที่ถูกกล่าวหา เอาเป็นว่านายบริสุทธิ์” ไม่ใช่แค่หลักฐานจากการยืนยันตัวตนเท่านั้น แต่มีชาวบ้านในหมู่บ้านเดียวกันช่วยยืนยัน พวกเขาอยู่ห่างไกลออกไปด้านหลัง จึงไม่เห็นว่าใครคือผู้ถูกกล่าวหา พอรู้ว่าเป็นเขาทุกคนจึงให้การตรงกัน “เดี๋ยวก่อนครับ แล้วผู้ชายที่ถูกกล่าวหาเช่นเดียวกับผม พวกเขาได้รับการพิสูจน์รึยัง” “ระเรื่องนั้น! ก็เป็น... การเข้าใจผิด” คำพูดตะกุกตะกักของทหารที่สอบสวนเขา ทำให้อี้หานกับเฟิ่งอิงสงสัย “สหายคุณดูตกใจนะ คำถามของเราทำให้คุณไม่สบายใจหรือคะ” “นั่นเพราะยายแก่สองคนนั้นที่พูดมั่ว ใส่ร้ายพวกนายยังพอไหว แต่ดันไปใส่ร้ายผู้พันเข้า คนที่ยืนกับเธอคนหนึ่งคือพันโทหมิง อีกสามคนคือคนของเขา ยศสูงกว่าฉันไม่รู้กี่ขั้น งานนี้ทั้งกองคงถูกลงโทษกันยาว” “แต่ทำไมคุณถึงไม่รู้จักล่ะ ฉันก็คิดอยู่ พวกเขาไม่เหมือนคนมารอรับของจัดสรรเลย” “เขามาเป็นการส่วนตัวเพื่อดูการทำงานของหน่วยฉัน จังหวะช่างดีเหลือเกิน” “แต่ผมคิดว่าพวกเขามีเหตุผล นี่ไม่ใช่การยุยงจากคนที่มีความคิดชั่วร้ายหรือ ขอเพียงคุณลากตัวคนผิดมาลงโทษ เชื่อว่าจะสามารถผ่อนหนักให้กลายเป็นเบา บางทีเด็กๆ ที่เข้ามาขโมยของอาจถูกใครเป่าหู” เฟิ่งอิงหันขวับ! มองอี้หานที่กำลังแนะนำทางรอดให้ทหารตรงหน้า นี่มันใช่ความคิดของคนอายุสิบสี่แน่นะ ถ้าใช่ เขาคนนี้จะฉลาดเกินไปแล้ว ไม่แปลกใจว่าทำไมในห้วงฝันของเธอ เขาจึงประสบความสำเร็จก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว กลายเป็นรองนายพลที่กุมอำนาจมากมายไว้ในมือ “มองอะไรของเธอ” “ฉันแปลกใจ ที่นายคิดเรื่องที่คนอื่นยังคิดไม่ออก” “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ชาวบ้านหวาดกลัวเจ้าหน้าที่ขนาดนั้น แต่ทำไมใจกล้าทำเรื่องที่รู้ว่าเสี่ยงทั้งอันตราย นอกจากมีคนบอกบางอย่างกับพวกเขา จนลืมว่าการกระทำใดย่อมมีบทลงโทษที่ตามมา” “แล้วนายว่าป้าสองคนนั้นที่กล่าวหาเรา จะใช่ตัวต้นเรื่องไหม?” “ไม่ใช่ตัวต้นเรื่อง แต่คือตัวการของความวุ่นวาย ถึงอย่างไรพวกเขาก็กล่าวหาคนอื่นอย่างร้ายกาจ ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ถูกใส่ร้ายยังเป็นทหารยศนายพัน งานนี้ท่าจะรอดยากแล้ว” “ดี! มีปากไว้ทำร้ายคน สู้อย่ามีเลยจะดีกว่า ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาทำร้ายคนไปเท่าไหร่” “อิงอิงของฉันโหดไม่เบา” “ต้องบอกว่าผดุงคุณธรรมสิ” “ใช่ เธอถูก” เขามองเธอที่สดใส แม้จะอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดจึงยิ้มตาม ดวงตาของอี้หานไม่มีสิ่งอื่นใดนอกจากเฟิ่งอิงคนเดียว “ไป่จิ้ง นายไปสืบประวัติของสองคนนั้นมา ฉันรู้สึกว่าเจ้าหนุ่มน้อยกับสาวน้อยคนนั้นน่าสนใจ” “ครับท่าน” “คุณอาครับ ผมว่าผมเคยเห็นคนที่ชื่ออี้หาน เหมือนเขาจะเคยถูกแนะนำให้เข้ากองทัพ แต่สาวน้อยคนนั้นปฏิเสธ หากว่าสามารถโน้มน้าวเธอได้เขาจะตกลง” “เจ้าหมอนั่นมีแววฉลาด ทั้งที่ถูกกดดันอย่างหนักกลับไม่ตกใจยังนิ่งสงบ คนแบบนี้เหมาะจะเอาไว้ใช้งาน เขาจะช่วยสนับสนุนแกในอนาคต” “ตอนนี้สงครามนอกจบแล้ว มีสหประชาชาติมาช่วยไกล่เกลี่ยไม่ให้เกิดสงครามอีก แต่ศึกในบ้านยังคุกรุ่น การแย่งชิงอำนาจเพื่อขึ้นมาเป็นผู้นำ สร้างแนวความคิดใหม่น่าจะยืดเยื้อไปอีกเป็นทศวรรษ ฉันแก่แล้วต่อไปหน้าที่นี้จะต้องเป็นแกที่รับช่วงต่อ” “คุณอาอย่าพูดแบบนั้นสิครับ ตอนนี้ประเทศกำลังพัฒนาควบคู่ไปกับการฟื้นฟู ไม่นานพวกเราจะต้องไปได้ไกลไม่น้อยหน้าชาติอื่น” “ฉันหวังว่าจะทันได้เห็นวันนั้น ไม่ว่าใครจะก้าวขึ้นมา ขอเพียงมีความตั้งใจดี ตอนนี้คงต้องทุ่มสุดตัวเข้าไว้ จะได้ไม่เสียใจ” ปณิธานอุดมการณ์ที่แรงกล้าของผู้เป็นอา หลานชายได้จดจำไว้แล้ว พวกเขามุ่งมั่นที่จะให้ทุกอย่างดีขึ้น แม้ว่าเส้นทางนี้ยังมองไม่เห็นจุดสิ้นสุดที่ปลายอุโมงค์ คนที่ถูกจับจ้องไม่ทราบว่าใครคิดอะไรกับตน แต่ถึงเขาจะมาอีกเฟิ่งจะยืนกรานในคำเดิม จะว่าเธอเห็นแก่ตัวก็ได้ แต่เธอไม่ต้องการซ้ำรอยความฝัน เช่นเดียวกับอี้หานที่เชื่อฟังเพียงคนข้างๆ เขาจะไม่อุทิศชีวิตเพื่อสิ่งใดอีก “ฮาในที่สุดก็ได้กลับบ้านเสียที! คิดว่าต้องรอจนมืดเสียอีก” “วันนี้เราคงไปไร่ไม่ทันแล้ว” “ยังทันนะ ปลูกตอนเย็นอากาศไม่ร้อน แช่เมล็ดข้าวโพดไว้สักชั่วโมงสองชั่วโมงสามารถเพิ่มอัตราการงอกได้เยอะ ช่วงนี้ฟ้าฝนมาๆ หายๆ ที่แน่ๆ คือประกาศบอกว่าอาทิตย์นี้จะมีฝน” “ที่เธอออกไปเดินตลาดเพื่อหาข่าวนี่เอง แต่เอาตามเธอว่าก็ได้ หากธรรมชาติเป็นใจ เราคงปลูกทันสองรุ่น” “อืม ตอนนี้ที่ปลูกไว้รอบบ้านมันแทงยอดงอกขึ้นมาแล้ว ขอแค่ไม่มีตัวอะไรมาแทะจนสั้น” “อะไรจะมาแทะได้เล่า ในเมื่อเธอลงทุนหาไฟมาตั้งล่อแมลงลงอ่างน้ำ” “ไม่คิดว่ามันดีหรือ ทั้งกำจัดแมลงและยังได้กินมัน โรยเกลือแล้วอร่อยสุดๆ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม