สามวันต่อมา...
ณ โรงแรมหรูระดับห้าดาว
“เฟิร์นแน่ใจนะว่ามันคือที่นี่จริงๆ”
เฌอรีนถามเพื่อนด้วยน้ำเสียงหวั่นวิตกปนความตื่นตระหนก
“น่าจะใช่นะ เพราะเฟิร์นดูตามที่อยู่และชื่อของโรงแรมมันถูกต้อง แต่ชื่อคนจองเขาไม่เปิดเผย มีแต่บอกว่าให้เรามานั่งรอตรงนี้แล้วจะมีคนพาไป”
“เฌอกลัว...”
เฌอรีนเอ่ยกับเพื่อนด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เหตุการณ์ที่เธอจะเผชิญในไม่กี่นาทีข้างหน้านี้ เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในชีวิตของเฌอรีน แต่เธอก็ต้องทำเพราะความจำเป็น
“เฟิร์นจะรอเฌออยู่ข้างล่างนะ จะไม่ไปไหนเด็ดขาดจนกว่า เฌอจะลงมา เฌอทำใจดีๆ ไว้นะเราเปลี่ยนใจไม่ได้แล้ว”
ปวีณ์พรปลอบใจเพื่อน หลังจากที่เธอได้ติดต่อรุ่นพี่โดยนำรูปของเฌอรีนส่งให้ เพียงวันเดียวรุ่นพี่ก็ตอบกลับมา โดยเธอบอกว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งต้องการสาวบริสุทธิ์อายุ 18-19ปีกระเป๋าหนักทุ่มให้เฌอรีนห้าแสนหลังจากดูรูปของเฌอรีน และยังย้ำว่าถ้าทางฝ่ายเฌอรีนโกหกเรื่องความบริสุทธิ์ และผิดสัญญาก็จะถูกปรับอีกสิบเท่าเลยทีเดียว เธอเลยตอบกลับเพื่อยืนยันไป เบ็ดเสร็จเฌอรีนเพื่อนของเธอก็จะได้เงินเกือบสี่แสนหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าจัดหาต่างๆ เรียบร้อยแล้ว...
“เฌอพยายามทำใจแล้วนะเฟิร์น แต่ตอนนี้เฌอกลัวมากทำไงดีล่ะเฟิร์น ยกเลิกตอนนี้ทันไหมเฌอไม่ไหวแล้ว”
เฌอรีนบอกกับปวีณ์พร เธอจับมือเพื่อนสาวเอาไว้แน่น เด็กสาวทั้งสองคนนั่งรอตรงโซฟารับแขกของโรงแรม
“เฌอทำใจดีๆ ไว้นะ เรายกเลิกไม่ได้แล้ว ถ้าเรายกเลิกเราจะเสียค่าปรับสิบเท่านะ เฌอลองคิดดูเงินสามแสนห้าที่เฌอจะได้คูณอีกสิบเท่ามันจะหนักกว่าเดิมเลยรู้ไหม”
ปวีณ์พรพยายามสรรหาคำปลอบใจให้กับเพื่อน
“มันจะนานไหมเฟิร์น”
“เฟิร์นก็ไม่รู้นะว่าใช้เวลาเท่าไหร่ แต่เท่าที่คุยกับรุ่นพี่เขาบอกว่าไม่เกินสามชั่วโมงแล้วแต่แขก มันต้องผ่านไปได้สิ เฌอกินยาแก้เครียดไปแล้วใช่ไหม”
ปวีณ์พรพยายามค้นหาข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ รวมไปถึงการคุมกำเนิดให้กับเพื่อนสาว มีการเตรียมตัวเรียบร้อย แค่ครั้งเดียวเท่านั้นหลังจากนี้ชีวิตของเธอทั้งสองจะดีขึ้น จะได้เรียนตามความฝันที่ทั้งสองตั้งไว้
“กินแล้วหนึ่งเม็ด...เฟิร์นถ้าเกินสามชั่วโมงแล้วเฌอยังไม่ลงมาเฟิร์นต้องขึ้นไปตามเฌอนะ หรือโทรหาเฌอเลยทันทีนะ”
“แน่นอนเฌอ...เฟิร์นจะนั่งรอตรงนี้ และเราจะกลับบ้านพร้อมกันนะเฌอ สู้ๆ คิดถึงอนาคตเราจะต้องผ่านจุดนี้ไปให้ได้เชื่อเฟิร์นนะ”
ปวีณ์พรบีบมือเพื่อนเบาๆ เพื่อให้กำลังใจเธอสงสารเฌอรีนเหลือเกิน ไม่อยากให้เพื่อนต้องทำแบบนี้ ตัวเธอเองอยากจะช่วยเพื่อนได้มากกว่านี้ แต่ก็ทำไม่ได้มันจุกอยู่ในอกไปหมดจนหายใจแทบไม่ออกเลย
“โอเค...เฌอจะสู้นะเฟิร์น...ชีวิตของเฌอมันคงไม่แย่ไปตลอดหรอกนะ...วันนี้เฌอถอยไม่ได้แล้ว...ก็คงต้องก้าวต่อไปเป็นกำลังใจให้เฌอนะเฟิร์น”
ชีวิตของเฌอรีนตอนนี้คือช่วงที่ตกต่ำอย่างที่สุดแล้ว ความกลัว ความละอาย และความอดสูมันเกิดขึ้นท่ามกลางความยากลำบากที่มีตัวเธอ แม่ และน้องเป็นเดิมพัน ถ้าเธอไม่เลือกวิธีนี้ก็อาจจะไม่มีทางที่จะไปถึงฝันสำเร็จ
“อืม...สู้ๆ นะเฌอ”
ปวีณ์พรมองนาฬิกาบนข้อมือของเธอ ได้เวลาที่เพื่อนของเธอนั้นจะต้องไปเผชิญเหตุการณ์แล้ว
“T-T”
“น้องคะ...น้องคือคนที่เรานัดไว้หรือเปล่าคะ”
หญิงสาวนางหนึ่งเดินเข้ามาทักเด็กสาวสองคนที่นั่งรออยู่เป็นเวลานานพอสมควร
“พี่ใช่พี่ส้มหรือเปล่าคะ”
ปวีณ์พรถามออกไปทันที เพราะตามนัดหมายจะมีหญิงสาวชื่อนี้มาถามและนำไป
“ใช่ค่ะ...คนไหนคะที่คุณแนนส่งมาคะ”
หญิงสาวมองเด็กสาวหน้าตาดีทั้งคู่อย่างสับสน
“นี่ค่ะ”ปวีณ์พรจับมือเพื่อนสาว
“งั้นเชิญทางนี้เลยนะคะ ส่วนน้องจะกลับบ้านไปก่อนก็ได้นะคะ หรือจะรอด้านล่างนี้ก็ได้ค่ะ”
“หนูขอรอเพื่อนข้างล่างนี้ค่ะ”
“เดี๋ยวก็เรียบร้อยนะเฌอ ไม่ต้องกลัวเฟิร์นรออยู่ตรงนี้นะ”
ปวีณ์พรปลอบใจเพื่อนจนวินาทีสุดท้าย ถ้าเป็นเธอเฌอรีนก็คงจะทำแบบนี้เหมือนกัน ปวีณ์พรมานอนบ้านเฌอรีนตลอดสองสามวันมานี้ เพื่อคอยช่วยเหลือและปลอบใจเพื่อนสาวอยู่ไม่ห่าง
“เฌอไปนะ”
เฌอรีนหันมาบอกเพื่อนก่อนที่จะเดินตามหญิงสาวคนหนึ่งไป ตอนนี้หัวใจเธอระทึกอย่างที่สุด มือบางเย็นเฉียบร่างกายของเธอสั่นเทา ไม่เคยมีความกลัวครั้งไหนจะยิ่งใหญ่เท่าครั้งนี้อีกแล้ว เธออยากจะร้องไห้ออกมาแต่ทว่าน้ำตาก็ไหลย้อนเข้าไปในอก เมื่อเฌอรีนคิดได้ว่า ‘มันจำเป็นนะเฌอรีน แกต้องผ่านมันไปให้ได้’
หญิงสาวชื่อส้มพาเฌอรีนขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นสิบสอง ชั้นเกือบสูงสุดของโรงแรมนี้ เฌอรีนจ้องมองตัวเลขของลิฟต์ที่พาเธอขึ้นไปเรื่อยๆ ใจของเฌอรีนตอนนี้อยากให้เวลานี้มันเป็นความฝันเหลือเกิน ไม่อยากให้เป็นเรื่องจริงเลยสักนิด...
“ถึงแล้วค่ะ...เดี๋ยวพี่เปิดห้องให้นะคะ”
พี่ส้มหันมาบอกเธอพร้อมกับหยุดตรงหน้าห้องๆ หนึ่งหญิงสาวหยิบคีย์การ์ดสแกนเปิดประตูเข้าไป
“น้องเข้าไปรอแขกก่อนนะคะ...อีกสักสิบนาทีเดี๋ยวเขามาค่ะ...ว่าแต่น้องเตรียมตัวมาเรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ พี่หมายถึงอาบน้ำน่ะค่ะ”
“เรียบร้อยค่ะ”
ก่อนที่เฌอรีนจะมาทางนายหน้าก็บอกมาทางปวีณ์พรและเฌอรีนเตรียมตัวเตรียมความพร้อมทุกอย่างแล้ว สิ่งที่มันไม่พร้อมตอนนี้คือ ใจของเฌอรีนเองที่มันเต้นโครมครามจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ เธอห้ามตัวเองไม่ให้ตื่นเต้นไม่ได้เลย ยิ่งเวลาใกล้เข้ามาเธอก็เหมือนจะเป็นลม หายใจติดขัด มือไม้เย็นไปหมด ‘เธอกลัว กลัวมากๆ’
“โอเค...งั้นพี่ไปแล้วนะ...โชคดีนะคะ”
พี่ส้มหันมาและจับมือเธอบีบเบาๆ เพื่อให้กำลังใจและเดินออกจากห้องไป
“T-T” เฌอรีนอยากร้องไห้เหลือเกิน ทำไมชีวิตเธอต้องรันทดถึงเพียงนี้ ทำไมเฌอรีนต้องมาทำอะไรแบบนี้ ถ้าเธอเลือกสอบชิงทุนตั้งแต่แรกก็คงจะดี พ่อของเธอไม่อยากให้เธอเลือกทุนในการเป็นหมอ พ่อบอกว่าเก็บทุนไว้ให้สำหรับคนที่ยากจนและขาดโอกาส ‘ป๊ายังมีแรงส่งหนูเรียนได้นะ ลูกไม่ต้องห่วง ป๊าคนนี้แหละจะส่งลูกถึงฝั่งเองนะเฌอ’ คำพูดของผู้เป็นพ่อยังวนอยู่ในหัวของเฌอรีนตลอด เมื่อเธอตัดสินใจไม่สอบชิงทุน เพื่อเปิดโอกาสนี้ให้กับคนอื่นที่ลำบากกว่าเธอ...แต่ทว่าตอนนี้เฌอรีนลำบากอย่างที่สุด และมันก็ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้อีกแล้ว...
แกร๊ก! เสียงประตูบานใหญ่ถูกเปิด
เฌอรีนหันไปที่ประตูทันทีพร้อมกับใจที่เต้นระทึกราวกับกลองที่ตีกันรวมทีเดียวสิบชุด ‘ทำไงดีเฌอ’
ร่างของใครคนหนึ่งก้าวเข้ามาพร้อมกับหยุดยืนอยู่ตรงหน้าหญิงสาวที่นั่งรออยู่ตรงโซฟา มือบางบีบเข้าหากันโดยไม่เงยหน้า
‘คนนี้ฉันเลือกกับมือเลยนะธีร์ รับรองนายไม่ผิดหวังแน่นอน เปิดประสบการณ์ได้เต็มที่’ เสียงของธราธิปยังก้องอยู่ในหัวของเขาตลอดเวลาที่ขับรถมา เขาตัดสินใจที่จะเคลียร์ทุกอย่างในตัวของเขาให้หมดในวันนี้ ไม่ว่าตัวเองจะเป็นอะไรเขาก็พร้อมที่จะรับกับมันให้ได้
“คุณมารอนานหรือยังครับ”
ปรินทร์มองเด็กสาวที่นั่งก้มหน้า ร่างของเธอสั่นเทาจนเขารู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะท้านทั่วร่างบาง
“...”ไม่มีเสียงตอบกลับจากหญิงสาว
“คุณได้ยินที่ผมถามมั้ย”
ปรินทร์ถามไปอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น พิจารณาร่างบางตั้งแต่หัวจรดเท้า ‘ทำไมเขาต้องมาทำอะไรแบบนี้นะ’ เขาถามตัวเอง ตลอดทาง แต่ก็ได้คำตอบว่าถ้าเขาไม่ลองแล้วเขาจะรู้ได้อย่างไร ว่าตัวเองชอบผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่ ทดลองกับคนที่ไม่รู้จัก ยังดีกว่าที่มารู้ทีหลังว่าตัวเองไม่ได้ชอบผู้หญิงเลยในคืนวันเข้าหอ...
“ขะ-ค่ะ T-T”
เฌอรีนตอบออกไปด้วยน้ำเสียงแบบตะกุกตะกักไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้น เธอกลัวจนรนรานไปหมด
“เอาล่ะ...มานั่งคุยกันสักครู่ก่อนไหม”
ปรินทร์นั่งลงตรงโซฟาตรงข้ามกับหญิงสาว เขาเองรู้สึกว่าเธอคนนี้น่าจะกลัวเขามากๆ เธอไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาด้วยซ้ำ หรือเธออาจโดนบังคับมาโดยไม่เต็มใจ
“...”ไม่มีเสียงตอบรับ
“เงยหน้าขึ้น คุณจะอยู่แบบนี้อีกนานไหม”
ปรินทร์ใช้น้ำเสียงที่ดุดันขึ้นเอ่ยออกไป จนอีกฝ่ายสะดุ้งขึ้นมาทันที
“ขะ-ค่ะ” เฌอรีนกลัวจนทำอะไรไม่ถูก เธอเงยหน้าขึ้นเพื่อมองคนตรงหน้า ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้น เมื่อภาพที่ปรากฎตรงหน้าเธอนั้นมันไม่ใช่ชายแก่หรือเสี่ยอายุมาก แต่กลับเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี ต่างกับที่เธอจินตนาการไว้ลิบลับ ‘ชายหนุ่มรูปงามหน้าตาคมเข้มสะดุดตาเป็นอย่างมาก เขาดูเป็นผู้ดีไม่ใช่ผู้ชายหน้าตา หื่นกามตามที่เธอคิดเลยสักสักนิด’
“เธอถูกบังคับมาหรือสาวน้อย”
ปรินทร์มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความตะลึงเช่นกัน ไม่คิดว่าเด็กสาวที่เพื่อนเขาเลือกคนนี้ จะมีใบหน้าที่งดงามผุดผ่องเช่นนี้ มันตรงข้ามกับสิ่งที่เขาคิดไว้มาก ‘คนนี้ฉันเลือกมากับมือ’เสียงของธราธิปดังก้องขึ้นมาอีกครั้ง ปรินทร์เองไม่คิดว่าเพื่อนตัวร้ายของเขาจะสายตาหลักแหลมถึงเพียงนี้
“มะ-ไม่ค่ะ”
เฌอรีนตอบเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอมองเขาอย่างเต็มตา อีกครั้งดวงตากลมโตกวาดมองเขาไปเรื่อยๆ เธออึ้งในสิ่งที่เธอเห็นเป็นอย่างมาก ภาพชายหนุ่มที่ดูสุภาพอ่อนโยนนี้ ทำให้เฌอรีนเริ่มผ่อนคลาย ความกลัวของตัวเองลดลงไปเกือบครึ่ง
“เธอรู้ใช่ไหมว่าต้องมาทำอะไรที่นี่”
ปรินทร์ถามย้ำเด็กสาวอีกครั้งเพื่อเขาจะได้แน่ใจว่าสิ่งที่เขาจะทำนั้น อีกฝ่ายไม่ได้โดนบังคับหรือขู่เข็ญมา
“ระ-รู้ค่ะ”
เฌอรีนกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น เมื่อนึกมาถึงจุดนี้ เธอกับเขาจะทำแบบนั้นได้อย่างไรกัน ‘เฌอต้องทำตัวสบายๆ อย่าขัดขืนเขานะ’ เสียงของปวีณ์พรยังดังวนอยู่ในห้วงคำนึงของเธอ ก่อนหน้านี้เธอกับปวีณ์พรก็ค้นหาข้อมูลและศึกษา พร้อมวิธีรับมือกับเรื่องนี้มาบ้างแล้ว แต่ทว่าในสถานการณ์จริงนั้นมันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอกับเพื่อนเธอคิดเลยสักนิด...
“เธอชื่ออะไรสาวน้อย”
ปรินทร์ถามออกไปเพื่อสร้างความคุ้นเคย และกำลังประเมินความรู้สึกของตัวเองไปในตัว เขามองใบหน้าสวยหวาน ตาของเธอกลมโต สวยเด่น และมองเห็นความฉลาดในแววตาของเธอ ‘ธราธิปตาถึงจริงๆ เขายอมรับ’ ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนที่มองเห็นอย่างชัดเจนถึงวัยสาว ยิ่งมองเขายิ่งได้สัมผัสความงดงามผุดผ่องและความบริสุทธิ์ของเธอ
“เฌอรีนค่ะ”หญิงสาวตอบออกไปทันที จนลืมนึกถึงสิ่งที่เพื่อนเธอสั่งไว้ ‘ห้ามบอกชื่อจริงกับเขานะ เฌอต้องใช้ชื่อปลอม’ แต่มันไม่ทันแล้ว เฌอรีนมองผู้ชายตรงหน้าอย่างไว้ใจ เธอก็ไม่ทราบว่าตัวเองทำไมถึงเป็นเช่นนี้ไปได้
“อืม...ชื่อเพราะดีนะครับ”
ชื่อเธอช่างเหมาะกับรูปร่างหน้าตาของเธอยิ่งนัก ความสวยน่ารักสมวัย รูปร่างอวบอิ่มอยู่ภายใต้ชุดเดรสสีชมพูอ่อนที่ตัวชุดเผยให้เห็นอกอวบที่นูนออกมาเกือบจะครึ่งแต่ไม่มากนัก ผิวของเธอนวลเนียนจนน่าสัมผัส
ปรินทร์กวาดสายตาไปทั่วร่างอย่างใจเย็น ลำคอของเขาเริ่มแห้งผาก ความรู้สึกบางอย่างกำลังแทรกเข้ามา ‘ถ้านายเห็นเธอแล้ว และอยากจะสัมผัสเธอ นั่นแหละความเป็นชายนายเริ่มตื่นขึ้นมาแล้ว’เสียงธราธิปปรากฎขึ้นมาในหัวเขาอีกครั้ง...
“เอ่อ...ขอบคุณค่ะ”
เฌอรีนเผลอยิ้มให้ชายหนุ่ม เธอรู้สึกไม่กังวลแล้ว เขาคนนี้ดูอ่อนโยนเหมาะสมกับหน้าตาเขามาก ‘เขาเป็นดารานายแบบหรือเปล่านะ ความหล่อเหลาของเขามันไม่ได้เหมือนคนปกติธรรมดาทั่วไปเลย ทำไมเขาถึงเลือกที่จะมาทำแบบนี้นะ’
“คะ-ครับ” ปรินทร์กลืนน้ำลายลงคอทันที เมื่อเห็นรอยยิ้มที่น่ารักนั้น ‘เธอช่างน่ารักเหลือเกิน’ เขาไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้เข้า ก่อนหน้านี้เขาก็เคยเจอผู้หญิงนับไม่ถ้วนที่เข้าใกล้เขา แต่ทว่าก็ไม่มีเลยสักคน ที่จะทำให้เขารู้สึกเช่นนี้ได้...
....................