“อย่าทำเขา! คุณอย่าทำเขา!!” ริสาที่พยายามส่งเสียงร้องห้ามอย่างแผ่วเบา เพราะตอนนี้พวงแก้มทั้งระบม ท้องก็ยังเจ็บและจุก…
เฟิงหยางหันปืนมาจ่อที่ริสาแทน เขาหาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมเรื่องแค่นี้ถึงได้เป็นเดือดเป็นแค้นนัก จริงอยู่ว่าเวลาที่สาวไฮโซใจแตกอัพยาที่คลับ และจงใจซิ่งหนี ลูกน้องของเขามักจะจัดการด้วยวิธีการแบบนี้ แต่กับริสาเธอไม่ได้ใกล้เคียงกับผู้หญิงพวกนั้นเลย แล้วทำไมไอ้ลูกน้องปัญญาอ่อนพวกนี้มันดูไม่ออก
ริสาตัวแข็งทื่อสันหลังเย็นวูบ น้ำในตาเอ่ออย่างไม่รู้ตัว เธอสัมผัสได้ว่าเขาไม่ธรรมดา แต่ไม่คิดว่าเขาจะน่ากลัวขนาดนี้ ริสาตัวสั่นเทาสัมผัสได้ถึงกระบอกปืนเย็นเฉียบที่จ่อที่หน้าผากของตัวเอง ความหวาดกลัวทำให้น้ำตาเธอไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้
เฟิงหยางเห็นน้ำตาและความกลัวบนใบหน้าหญิงสาว เขาก็ทิ้งปืนลงรวบร่างบางเดินเข้าห้องแล้วปล่อยให้วินจัดการปัญหาด้านนอกแทน
“ถ้าไม่อยากให้ใครตาย…ห้ามหนี!!” เสียงเย็นเยียบเอ่ยขึ้นตวัดสายตาดุมองคนที่กล้าหนีออกมา
“ริสาไม่ได้หนีค่ะ...ริสาแค่ตื่นมาไม่เห็นคุณ ก็เลยคิดว่าคุณไปแล้ว…เลยจะกลับบ้าน” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เธอยังสลัดภาพกระบอกปืนดำมะเมื่อมที่ชี้มาที่เธอไม่ได้เลย
“โกหก!”
เฟิงหยางจับร่างงามที่อาการยังไม่ค่อยดีนักคว่ำลงบนโซฟา สองมือไพล่หลังโดยมีกุญแจมือสีเงินเงาวับถูกงับไว้
“ขอโทษค่ะ ริสาขอโทษค่ะ…ปล่อยริสาเถอะนะคะ” ริสาหันมาร้องขอความเห็นใจทั้งน้ำตา รอยช้ำที่แก้มนวลปลั่ง ทำเอาเฟิงหยางปวดหนึบในอก
“เหี้ยเอ๊ย! แม่ง!” เขาสบถออกมาด้วยความหัวเสียหากริสาไม่ห้ามไว้ เขาคงได้เป่าหัวลูกน้องให้กระจุยไปแล้ว
ริสาที่ได้ยินคำหยาบคายเธอก็ตัวสั่นด้วยความกลัวเพราะเขาคงโกรธที่เธอกำลังจะหนี เธอได้แต่กล่าวขอโทษอย่างคนสิ้นหวัง
“ริสาขอโทษ...อย่าฆ่าริสาเลยนะ ริสาไม่หนีแล้ว…ริสาจะเชื่อฟังคุณ ฮือ…”
จ๊วบ!
มือหนาคว้าท้ายทอยของคนตัวเล็กตรึงเอาไว้ก่อนจะตะโบมจูบทั้งแก้มทั้งริมฝีปากจนริสาหายใจแทบไม่ออก คนที่ไม่เคยจูบกับใครถึงกับมือไม้อ่อนไร้การขัดขืนภายในท้องวูบโหวง เบาหวิวราวกับมีผีเสื้อบินวนในท้อง ลมหายใจติดขัดคล้ายคนจะเป็นลม
เฟิงหยางจับหญิงสาวนั่งคร่อมลงบนตักทั้งที่มือยังไพล่หลังอยู่อย่างนั้น เขาบดจูบอย่างคนกระหาย จนริสารู้สึกหลงเคลิ้มสมองเบลอตาพร่าไปหมด ลิ้นร้อนเข้าฉกดุนกับลิ้นนุ่มในช่องปากของร่างบาง มือหนาเลื่อนมาลูบไล้แผ่นหลังแล้วกระชับกอด จนอกนุ่มเบียดกับอกแกร่งถูไถจนเกิดอาการเสียดเสียวไปพร้อมกัน
หลังจากจูบจนพอใจปากหยักก็ไล้ลงมาจุมพิตลำคอระหง ขบเม้มไล้เลียชิมรสชาติหวานหอมจากกายสาวอย่างหลงใหลโดยไม่รู้ตัว ลมหายใจอุ่นร้อนที่พ่นรดต้นคอทำเอาสาวน้อยไร้เดียงสาส่งเสียงคราง มือขวาเคล้นคลึงอกที่แอ่นรับอย่างเคลิบเคลิ้ม
แฮ่ก! แฮ่ก!
กลางกายของชายหนุ่มแข็งชูชันจนริสารู้สึกได้ เธอไม่เคยมีแฟนมาก่อนในชีวิต แต่ก็พอจะรู้เรื่องอย่างว่าจากเพื่อนในคณะมาบ้าง เธอพยายามบิดสะโพกหนี แต่ก็ไม่พ้นถูกเฟิงหยางรั้งกลับมายังจุดสงวน แก่นกายในกางเกงที่โปงนูนของเขาทำเอาเธอผวามันทั้งแข็งและร้อนรุ่มจนเธอสัมผัสได้
“อย่าหนี!!” เสียงกระซิบที่หูแผ่วเบา แต่กลับทำเธอกลัวจนขนลุก เขายังคงคลอเคลียอยู่ที่ซอกคอขาวไม่มีมีท่าจะหยุด
“ฉันจะทำเบาๆ” จมูกโด่งและปากหยักทำหน้าที่อย่างช่ำชองทั้งดูดทั้งขบเม้มผิวเนื้ออ่อน ทำเอาเธอซ่านหวิวตื่นเต้นและตระหนกไปพร้อมกัน
“ริสารู้สึกแปลก ๆ …”
พรึบ!!
เฟิงหยางคว้าร่างที่เป็นลมคอพับแทบไม่ทัน เขารู้ตัวว่าเขารุกรานเธอด้วยความใจร้อน แต่ไม่คิดว่าจะทำให้เด็กน้อยอย่างริสาถึงกับต้องเป็นลมไปจริง ๆ
“ผู้หญิงทุกคนอยากได้ฉันจะเป็นจะตาย แต่นี่เธอทำท่าจะหนีแถมยังเป็นลมใส่ ใครรู้เข้าไม่มองฉันเป็นตัวตลกหรอกเหรอริสา…”
มือหนาลูบไล้แก้มขาวที่นอนหมดสติอย่างอ่อนโยน มองเมคอัพเลอะคราบน้ำตาเปรอะเปื้อนตามใบหน้า เม็ดเหงื่อชื้นซึมตามเสื้อผ้า เขาขอถือเป็นข้ออ้างในการจับเธอแก้ผ้าทำความสะอาดร่างกายโดยไม่ต้องขออนุญาต
มือหนาจัดการเปลื้องเสื้อผ้าของเธอออกอย่างรวดเร็ว สาวตาคมจมอยู่กับทรวงอกงามสล้างที่โชว์เย้ยหลอกล่อเขาตรงหน้า เฟิงหยางเลียริมฝีปากแห้งผากจนชุ่มก่อนจะฉกลิ้นเลียตวัดยอดถันชมพู มือหยาบนวดเต้าขยำขยี้ จากเลียช้า ๆ เป็นดูดแรง ๆ เหมือนคนตายอดตายอยาก
“ทำไมกูต้องทำตัวเหมือนคนโรคจิตแบบนี้ด้วยวะ…” ถึงจะพูดไปแบบนั้นแต่ก็ไม่คิดหยุด เรียวนิ้วกรีดร่องอุ่นชื้นเบา ๆ เขารู้ประวัติเธอมาบ้างว่าเธอยังบริสุทธิ์ทั้งกายทั้งใจ แฟนสักคนก็ยังไม่เคยมี โง่ ๆ เซ่อ ๆ แถมยังเป็นติ่งเกาหลี ชอบดูผู้ชายหล่อ ๆ ตามซีรีส์ทั่วไป
นิ้วยาวแทรกเข้าหลืบร่องแคบชื้นชักเข้าออกเนิบช้า ทำสะโพกขาวบิดเบา ๆ
“ขนาดไม่ได้สติ สะโพกยังบิดยั่ว…ข้างในก็ตอดรับนิ้วไม่หยุด” เสียงพร่าเอ่ยอย่างพอใจ
“อื๊อ…”
ริสารู้สึกถึงความเย็นที่ปะทะผิวกาย แถมยังรู้สึกวูบวาบที่ส่วนล่างของร่างกายแปลก ๆ ทั้งรู้สึกดีและเจ็บตึงในเวลาเดียวกัน
แผล็บ!!
“อ๊า...อ๊ะ”
ลิ้นสากลากเข้าปาดตรงกลางหว่างขาอย่างไม่ทันตั้งตัว ริสาเผลอกระดกก้นหนีบขาเข้าหากัน เฟิงหยางจับเข่าแยกออกอีกครั้งพร้อมลงลิ้นอีกหลายต่อหลายครั้งพร้อมกับดูดกลืนน้ำหวานใสที่ไหลเยิ้มออกมา
“คะ..คุณทำอะไร อย่านะ...”