“อาทิตย์หน้าพี่วินัยจะลงทุกคนต้องแต่งตัวให้ถูกระเบียบ และมาให้ทันเวลา ทราบไม่ทราบ”
“ทราบครับ/ทราบค่ะ”
ชีวิตในรั้วมหาลัยได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว ฉันที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะใช้ชีวิตของปีหนึ่งให้สุดเหวี่ยงและสนุกที่สุดก็ต้องโดนคุณแม่สุดที่รักทำให้ผิดแผนไปหมด
ปีหนึ่งแล้วก็แม่ก็ยังคอยรับส่งอยู่ทุกวัน เคยขอมาอยู่คอนโดแต่ก็โดนปฏิเสธทุกที
หลังจากที่รุ่นพี่ปล่อยให้แยกย้ายฉันและเพื่อนก็เลือกที่จะอยู่แถวลานเกียร์ อาจจะเพราะไม่อยากเดินไปไหนไกล อีกอย่างเพื่อนใหม่อย่างอองฟองและเฟรย์ก็อยากจะนั่งอยู่แถวนี้เผื่อจะสะดุดลานเกียร์กับเขาบ้าง พอได้ยินสิ่งที่ต้องการฉันก็ได้แต่นึกขำอยู่ในใจ ไม่แปลกใจเลยทำไมพวกเราถึงเป็นเพื่อนกันได้
“เห็นเขาบอกว่ากลุ่มพี่ว๊ากงานดีมากเลยนะ”
“จริงเหรอ อยากเห็นแล้ว เผื่อมีผัวเป็นพี่ว๊ากกับเขาบ้าง”
“พักค่ะ มีแฟนอยู่แล้วก็พัก ปล่อยให้คนโสดแบบกูกับนะโมมีที่ยืนบ้างค่ะ จริงไหมมึง?”
“อดีตค่ะ แค่อดีต”
แรงสะกิดที่มาจากข้างกายเรียกสติที่กำลังเหม่อลอยของฉันให้กลับมาอยู่กับตัว
ว่าอะไรนะ”
“มึงเหม่ออะไรเนี่ย”
“ปล่าว แค่กำลังคิดว่าจะขอแม่มาอยู่คอนโดยังไงดี”
“แม่มึงยังไม่ยอมอีกเหรอ”
“ยังเลย มีวิธีไหม”
“มึงแน่ใจนะว่าจะให้กูแนะนำ”
“ไม่เอาดีกว่า”
หลังจากที่ตอบกลับไปก็สร้างเสียงหัวเราะให้เกิดขึ้นทันที บุคคลที่อยู่ในวงสนทนาตอนนี้เป็นเพื่อนใหม่ที่เพิ่งจะเจอกันตอนเปิดเทอม สงสัยใช่ไหมล่ะว่าทำไมถึงได้คุยเหมือนรู้จักกันมานาน ก็อาจจะเพราะเป็นคนที่การใช้ชีวิตและความคิดคล้ายกัน มันก็เลยทำให้คุยกันได้ง่ายและสบายใจ
พูดมาตั้งนานจนลืมแนะนำตัวเองไปเลย...
ฉันชื่อนะโม นักศึกษาปีหนึ่งแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ เป็นลูกสาวคนเดียวของที่บ้าน ส่วนเพื่อนที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานอยู่ตอนนี้คือ อันดา อองฟอง และเฟรย์ สำหรับอันดาเป็นเพื่อนสนิทที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่ประถม จะมีแค่ตอนที่ฉันต้องย้ายตามพ่อไปต่างประเทศที่ทำให้เราไม่ได้เรียนด้วยกัน
แต่ถึงแม้ระยะทางจะไกลกันแค่ไหนแต่ฉันกับอันดาเราก็คุยกันทุกวัน คุยกันทุกเรื่อง เราสองคนค่อนข้างที่จะชอบและรักอะไรเหมือนกัน
เหมือนอย่างตอนนี้ที่เลือกเรียนวิศวะ เรายังเลือกเหมือนกันเลย อีกอย่างช่วงที่ฉันไม่อยู่ก็ได้อันดาที่คอยรายงานเรื่องของเขาคนนั้นให้ฟังอยู่ตลอด
ต้องขอบคุณอันดามากนะ อยากจะไหว้ย่อเพื่อนมากค่าทำให้หายคิดถึงเขาไปได้บ้าง ว่าแต่...ตอนนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ มีแฟนหรือยัง แล้วจะยังจำเด็กน้อยที่ตามบอกชอบเขาในวันนั้นได้ไหม
“พวกมึง ๆ นั้นกลุ่มพี่พายุนี่หว่า หูยยย งานดีสมคำล่ำลือมากค่ะคุณพี่”
เสียงจากเฟรย์ทำให้ความสนใจของทุกคนไปอยู่ยังกลุ่มของผู้ชายที่อยู่ตรงทางเดินข้างลานเกียร์
เพียงแค่ชั่ววินาทีหัวใจของฉันก็ต้องเต้นเร็วขึ้นมาอีกครั้ง มุมปากที่ยกยิ้มขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นและดีใจ ถึงคราวที่จะเจอก็เจอกันง่ายขนาดนี้เลยเหรอ?
"พี่ยูตะ…”
รักแรกที่ฉันเอาแต่คอยบอกชอบเขาเหมือนคนบ้าแต่ก็ไร้การตอบรับกลับมาจากเขา ฉันเฝ้าถามหัวใจและความรู้สึกของตัวเองมาตลอดว่ายังรู้สึกกับเขาเหมือนเดิมไหม และคำตอบมันก็ยังเหมือนเดิม ฉันโคตรจะชอบพี่เขาเลยยยยย
ถึงเวลาแล้วที่ฉันจะต้องไปทวงคำตอบที่เคยพูดเอาไว้ก่อนที่จะย้ายไปต่างประเทศ...หวังว่าพี่จะไม่ลืมมันนะ
"เอาไงดีมึง หวานใจมาหาถึงที่”
“ลุยสิเพื่อนรัก”
“เดี๋ยว ๆ พวกมึงสองคนมีความลับอะไรกับพวกกูไหม บอกมาเลยนะ” อองฟองและเฟรย์หันมาสนใจที่ฉันกับอันดาพร้อมกับส่งสายตาถึงความสงสัยมาให้
“พี่คนนั้น กูจอง”
นิ้วเรียวชี้ไปยังตำแหน่งของผู้ชายหน้าตี๋เพียงหนึ่งเดียวในกลุ่มของผู้ชายหน้าตาดีที่กำลังมีคนให้ความสนใจ ก็ต้องยอมรับว่าทุกคนในนั้นต่างหน้าตาดีและมีเสน่ห์ แต่ก็ไม่มีใครดึงความสนใจของฉันออกไปจากเขาได้
“คนไหนวะไอ้นะโม”
“คนนั้นไงที่ตาขีดเดียว ห้ามใครยุ่งเด็ดขาด”
“รักแรกของนะโม”
อันดาตอบข้องสงสัยของอองฟองและเฟรย์หลังจากที่ได้เห็นสีหน้างุนงงจากทั้งคู่
“เดี๋ยวมานะ”
“อ้าวเห้ย! ไปไหน ไอ้นะโม”
ไม่ว่าเสียงของเพื่อนจะดังมากแค่ไหนแต่มันก็ไม่สามารถฉุดรั้งและทำให้สองขาของฉันที่กำลังก้าวเดินไปข้างหน้าหยุดลง เพราะตอนนี้หัวใจดันเรียกร้องคนตรงหน้ามากกว่า อีกอย่างฉันดันเป็นคนคลั่งรักก็เลยต้องทำตามที่หัวใจสั่งงาน
กึก!
“สวัสดีค่ะ”
“มีอะไรหรือเปล่าครับน้อง”
ทันทีที่สองขาหยุดตรงหน้าผู้ชายทั้งสี่คน รอบข้างก็หันมาให้ความสนใจ อาจจะเพราะอยากรู้ว่าเด็กปีหนึ่งอย่างฉันทำไมถึงได้มายืนประชันหน้ากับพี่วินัยที่ทุกคนต่างก็เกรงกลัวและอีกอย่างพวกเขาดันเป็นสมบัติของคณะเสียด้วย
“ว่าไงครับน้อง” พี่อีกคนที่ฉันก็ไม่รู้ว่าชื่ออะไรเอ่ยถามขึ้นเสียงเรียบ
“นะโมไม่มีอะไรกับพี่ ๆ ค่ะ แต่มีกับพี่คนนี้”
ตำแหน่งของนิ้วเรียวของฉันชี้ไปยังคนตรงหน้าที่เป็นรักแรก หลังจากที่ตอบพี่อีกคนไปก็ต้องหันมาหาคนตรงหน้า แต่พอหันกลับมาก็พบว่าเขาจ้องมองมาที่ฉันอยู่ก่อนแล้ว
แววตาที่ส่งมาช่างอ่านยากเหลือเกิน
“มึงรู้จักน้องเหรอไอ้ยู”
“ไม่แน่ใจ” ไม่แน่ใจ? หมายความว่ายังไงงงงงง หรือว่าลืมกันไปแล้ว
“พี่ตอบแบบนี้นะโมก็เสียใจนะ”
"สรุปว่าน้องรู้จักกับมันใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ พี่ยูตะเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่าของนะโมเอง”
"อ้าวไอ้ยูแล้วมึงบอกไม่รู้จักน้อง”
“ไม่ได้บอกไม่รู้จัก แค่บอกไม่แน่ใจ”
“เออก็จริงของมัน”
คนที่เหลือต่างหัวเราะกับสิ่งที่พี่ตาโตเอ่ยออกมา แต่มีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่ทำหน้าตาเหมือนอาหารไม่ย่อย ห่างกันไปก็นาน กลับมาเจอกันอีกครั้งแต่ยังไม่ยอมยิ้มให้กันอีกเหรอ แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวนะโมคนนี้จะเป็นรอยยิ้มให้พี่เอง
“แล้วมีอะไร”
คนตรงหน้าเอ่ยถามขึ้นมาท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อน เพียงเท่านั้นทุกคนก็เงียบและหันมาให้ความสนใจที่บทสนทนาระหว่างฉันและเขาทันที
ผู้ชายที่กำลังรอคำตอบของฉันเขาชื่อยูตะ อย่างที่ทุกคนรู้ว่าพี่เขาเป็นรักแรกและยังเป็นรักเดียวของฉัน ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาจะโดนปฏิเสธมานับครั้งไม่ถ้วนก็ไม่เป็นไร ฉันจะบอกชอบเขาไปจนกว่าเขาจะชอบฉันขึ้นมาบ้าง
“นะโมมาทวงคำสัญญา...เราเจอกันแล้ว งั้นก็แสดงว่าพี่ต้องเป็นแฟนนะโม”
“เพ้อเจ้อ”