ตอนที่6

1512 คำ
ตอนที่6 “ พี่แม๊ค ผมถามอะไรหน่อยสิ เพื่อนพี่ที่ชื่ออาเธอร์นะเขาเป็นใครเหรอพี่ทำไม เขาถึงได้รวยขนาดลงทุนให้พี่เปิดร้านเหล้าได้เลย ทั้งที่เราไปกู้เงินธนาคาร ธนาคารก็ไม่กล้าให้ขนาดคุณพ่อกับคุณแม่ยังไม่กล้าให้เราเลย แต่เพื่อนพี่คนนี้โคตรใจอ๊ะ ทำไหมกล้าให้พี่ยื่มมาลงทุนได้ “ แมน ถามพี่ชายออกมาด้วยความสงสัย เพราะที่ผ่านมาสองคนพี่น้องตั้งใจเก็บเงินเพื่อนำมาเปิดร้าน แต่เก็บเท่าไหร่ก็ไม่พอสักทีนั้นก็เลยทำให้เขากับพี่ชายทำเรื่องกู้ธนาคาร แต่ก็ต้องอกหักเพราะธนาคารได้ปฏิเสธ ส่วนพ่อกับแม่ไม่ต้องพูดถึงท่านไม่มีทางให้มาลงทุนอย่างแน่นอน เพราะท่านคิดว่าเอาเงินไปเผาทิ้งเล่นยังจะดีกว่า แต่ว่าอยู่ๆแมนก็ได้รับข่าวดีว่าเพื่อนของเขาที่อยู่ปักกิ่งจะมาทำธุรกิจที่ไทย เขาก็เลยให้เงินมาทำทุนก่อน โดยที่เขาขอมีหุ้นแค่5เปอร์เซ็นเท่านั้น อีกทั้งเรื่องเมื่อคืนที่อาเธอร์จ้องหน้าของปั๊กด้วยสายตาที่น่ากลัวอย่างบอกไม่ถูกเขาสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของเพื่อนพี่ชายคนนี้ นั้นก็เลยทำให้แมนตัดสินใจถามผู้เป็นพี่ชายออกมาว่า เพื่อนคนนี้ของพี่เป็นใครกันแน่ “ เอ้อ….คือว่า…เอ้อ…..มันก็เป็นลูกเศษฐีไง ที่บ้านมันทำอสังห์หาริมทรัพย์ เรื่องเงินมันก็เลยไม่มีปัญหา แกก็เห็นนี้ขนาดคอนโดมันซื้อทีก็ซื้ทั้งตึกเลย “ แม๊ค ที่โดนน้องชายถามแบบนั้น เขาก็ไม่รู้ว่าจะตอบผู้เป็นน้องได้ยังไง เพราะเรื่องของอาเธอร์มันเป็นอะไรที่ไม่ค่อยมีใครกล้าพูดหรอก ขนาดตัวเขาที่เป็นเพื่อนแท้ๆยังไม่ค่อยอยากจะยุ่งกับเรื่องของอาเธอร์เลย แมนที่ได้ยินแบบนั้นเขาก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ “ ออ้ แบบนี้นี่เอง แต่มันก็แปลกนะพี่ที่เพื่อนพี่ สนใจน้องแป้งอ๊ะ อย่าเรียกว่าสนใจเลยต้องเรียกว่า โคตรสนใจเลยละ ขนาดจ้องหน้าไอ้ปั๊กอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อมัน ผมเห็นแล้วขนลุกเลยว่ะ ฮึ้ย……” แมน เมื่อนึกถึงสายตาที่อาเธอร์มองมาที่เพื่อนของตัวเองเมื่อคืนก็เลานเอาเขาถึงกับร้องฮู้…ออกมาขนทั้งตัวเขาลุกโชนอย่างอัตโนมัติแค่นึกถึงสายตาเพื่อนพี่ชายเฉยๆ แม๊คที่ได้ยินแบบนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยน ก่อนจะพูดออกมาด้วยสีหน้าที่โคตรจะจริงจังกับน้องชายทันที “ แมนพี่ขอเตือนนะ บอกเพื่อนแกด้วยถ้าไม่อยากเดือดร้อนอย่ายุ่งกับน้องแป้งเลยว่ะ เชื่อพี่อย่ายุ่ง อย่าคุย ยิ่งไม่เข้าใกล้ยิ่งดี “ ด้วยความเป็นห่วงน้องชาย แม๊คก็อดที่จะเตือนน้องชายไม่ได้ แต่เพราะเรื่องนี้มันน้ำถ้วมปากเขาจึงพูดไม่ได้ว่า ทำไมเขาถึงห้ามน้องชาย แมนที่ได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้วหนามองพี่ชายด้วยความสงสัย เพราะสีหน้าของพี่ที่พูดกับเขามันดูซีเรียส อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นั้นเลยทำให้แมนรู้สึกแปลกใจไม่น้อย แต่ไม่ทันที่แมนจะได้ถามก็รถหรูก็วิ่งเข้ามาจอดที่หน้าร้านซะก่อน บรื้น……บรื้น……บรื้น “ เห้ย ไอ้แม๊คเร็ว แม่กูรออยู่” เจมส์ ที่ขับรถหรูมารับแม๊ค เพื่อเขาไปหาแม่ของเจมส์ที่ต้องการความช่วยเหลือเรื่องดูเพรชโบราณว่าเป็นของจริงรึเปล่า แม๊คที่เห็นรถของเพื่อนวิ่งเข้ามาจอดเขาก็รีบเดินออกไปนั้นเลยทำให้แมนได้แต่มองตามไป พร้อมกับความสงสัยเรื่องของเพื่อนพี่ชายเท่านั้น “ อ้าว ยังไม่ทันได้รู้เรื่องเลยไปซะแล้ว “ แมน พูดกับตัวเองพร้อมกับเกาหัวด้วยความงุนงง ยังไม่ทันได้ถามพี่ชายของเขาก็นั่งรถไปกับเจมส์ซะแล้ว ด้านโรงงานทอผ้า “ คุณกิ่ง คุณอานนท์ คะเกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ “ เสียงของเลขาวิ่งเข้ามาหา กิ่งกับอานนท์ ผู้เป็นเจ้าของโรงงาน กิ่งและก็อานนท์ที่ได้ยินแบบนั้นก็มองมาที่เลขาด้วยความแปลกใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นทำไม เลขาถึงได้วิ่งเข้ามาเอะอะโวยวายอย่างกับกระต่ายตื่นตูม “ มีอะไรอนงท์ เอะอะโวยวายตกใจหมด “ “ ดูนี้สิขาลูกขายกเลิกสินค้าหมดเลยคะ เขาหาว่าของเราไม่มีคุณภาพ “ อนงท์ รายงานเรื่องที่กำลังจะเป็นปัญหาใหญ่ กิ่งและก็อานนท์พอได้ยินแบบนั้นก็ต้องตกใจ ก่อนจะหยิบเอกสารที่อยู่ในมือของเลขามาดู “ เราจะทำยังไงกันดีละทีนี้คุณอานนท์ ก้าสินค้าของเราถูกตีกลับแบบนี้เราจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายพนักงานละ ฮืออออ ฮืออออ ฮืออออ “ ด้วยความที่ช่วงนี้ โดรงงานเย็บผ้าที่เคยขายดี แต่อยู่ๆของทุกอย่างก็เริ่มขายไม่ค่อยได้ เพราะพิษของเศษฐกิจ แล้วยิ่งมาโดนยกเลิกสินค้าจากลูกค้ารายใหญ่ที่เคยสั่งมาตลอดแบบนี้ กิ่งก็รู้สึกร้อนรน ถึงกับร้องไห้ออกมาเพราะสินค้าล๊อตนี้เป็นสิค้าล๊อตสุดท้ายแล้ว “ ใจเย็นก่อนคุณกิ่ง อย่าเพิ่งโวยวาย มันต้องมีทางออกสิ “ อานนท์ ดึงเมียเข้ามากอด พร้อมกับบอกกับผู้เป็นเมียว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนี้มันต้องมีทางออกทั้งที่ความจริงแล้วอานนท์ไม่มีทางไหนแล้ว ด้านแป้ง กับเพื่อน “ แป้ง มีอะไรรึเปล่า “ แป้งที่ได้รับสายจากทางบ้านว่าทางโรงงานมีปัญหาเรื่องเงินอีกแล้ว แต่ปัญหาคราวนี้ดูเหมือนว่าจะใหญ่กว่าคราวก่อน เพราะโรงงานไม่มีเงินที่จะไปจ่ายพนักงาน รวมทั้งโรงงานเป็นหนี้นอกระบบเพื่อเอางเงินมาหมุนให้กับโรงงาน แต่คราวนี้ที่พ่อกับเม่เธอโทรมาบอกคือ พวกท่านอยากให้เธอด๊อปเรียนหรือไม่ก็ไปเรียนที่วิทยาลัยของรัฐเพื่อที่จะได้ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่าย พอเธอได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับช๊อกไป ปั๊กที่นั่งอ่านหนังสืออยู่กับเธอพอเห็นหน้าของผู้หญิงที่เขารักเป็นแบบนั้นเขาก็อดที่จะถามออกมาด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ “เปล่าคะไม่มีอะไร // แป้ฃต้องขอตัวก่อนนะคะพอดีว่ามีธุระคะ “ แป้ง ที่รู้สึกไม่สบายใจพอได้ยินปัญหาที่พ่อแม่ของเธอพูด แล้วก็ไม่อยากให้ใครมารู้เรื่องปัญหาของครอบครัวของเธอ พอเธอโดนถามแบบนั้น เธอก็เลยคิดจะเลี่ยงขอตัวออกมาก่อน ผลึบ “ แป้งมีเรื่องอะไรรึเปล่า พี่พอจะช่วยได้ไหม “ เมื่อปั๊กเห็นหน้าของหญิงสาวเหมือนจะร้องไห้ เขาก็รีบรั้งเธอเอาไว้โดยการที่เขาดึงแขนของเธอเอาไว้ พร้อมกับถามเธอย้ำอีกครั้ง แป้ที่เห็นสายตาที่ห่วงใยของปั๊กเธอที่กลั้นความเจ็บปวดเอาไว้ไหนจะเรื่องที่เธอโดนข่มขู่ แล้วก็โดนข่มขื่น ไหนจะเรื่องทางบ้านดูเหมือนว่าทุกอย่างมันจะประเดประดังเข้ามาอย่างกับว่า น้ำป่าก็ไม่ปาน “ พี่ปั๊ก ฮืออออออ ฮือออออออ ฮืออออออ แป้ง แป้ง “ แป้ง ที่รู้สึกอึดอัด แล้วก็รู้สึกกดดันกับเรื่องมามายที่เกิดขึ้นกับเธอในช่วงนี้ พอมาโดนสะกิดเธอก็ถึงกับปล่อยโฮออกมาด้วยความรู้สึกเสียใจ จากนั้นเธอก็ได้เล่าเรื่องปัญหาของที่บ้านให้ปั๊กฟังยกเว้นเรื่องที่เธอโดนอาเธอร์ข่มขื่น ซึ่งเรื่องนี้เธอไม่มีทางกล้าเล่าอย่างแน่นอน “ หึหึหึ ร่านทั้งพี่ทั้งน้องเอากับกูไม่กี่วัน วันนี้ก็มากอดกับผู้ชายอื่นพวกมึงไม่ต่างอะไรกับโสเภณีข้างทางจริงๆ อีผู้หญิงโสโครก “ อาเธอร์ที่จอดรถอยู่ข้างทางตอนแรกเขากระจะมาต่อรองเรื่องบริษัทของเธอ แต่พอเขาขับรถมาถึง อาเธอร์ก็มาเห็นเข้ากับแป้งที่กอดกัยปั๊ก โดยมีชายหนุ่มเอามือลูบหลังเหมือนกับคู่รักที่หวานซึงกันมาก อาเธอร์ที่เห็นแบบนั้นก็ถึงกับหัวร้อนออกมาทันที “ ต้าเหวย สั่งให้คนของเราไปทวงหนี้ แล้วก็บอกให้ทนายความทำเรื่องยึดโรงงาน ยิ่งใหญ่ทรัพย์ซะ “ อาเธอร์จ้องมองแป้งที่กำลังกอดกับปั๊กแล้วก็ร้องไห้อยู่ ด้วยความโกรธไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันทำไมเขาถึงได้รู้สึกโกรธมากมายขนาดนั้น โกรธมากจนถึงขั้นโทรไปบอกมือขวาให้จัดการกับตะกูลยิ่งใหญ่ทรัพย์ “ ครับนาย ผมจะจัดการให้เดี๋ยวนี้ “ ติ๊ด
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม