episode 6 ที่บ้านไม่ได้ขาดเงิน

1624 คำ
Episode 6 ที่บ้านไม่ได้ขาดเงิน นับดาวรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงสายของอีกวัน ดวงตากลมโตกวาดมองรอบห้องก็พบว่าคนที่นอนร่วมเตียงด้วยกันทั้งคืนไม่อยู่แล้ว ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านอยู่รอบห้องเป็นสัญลักษณ์ว่าเขาพึ่งจากใจ และพอคิดว่าเราทำอะไรกันไปบ้าง ใบหน้านวลก็ปรากฏร่องรอยแห่งความอับอายจนทั่วทั้งกรอบหน้า นับดาวซุกตัวลงไปอยู่ภายใต้ผ้านวมนุ่มก่อนที่ร่างบอบบางจะพลิกตัวตามความเคยชินเช่นทุกวัน หากแต่ทันทีที่ขยับตัวจะลุก ความผิดปกติบางอย่างในร่างกายก็เล่นงานจนร่างอ้อนแอ้นซวนเซทรุดลงข้างพื้นเตียงเย็นเยียบ "อ้ะ!" "รีบอะไรขนาดนั้น" เสียงทุ้มต่ำมาพร้อมกับเสียงฝีเท้าไกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทันทีที่ร่างสูงก้าวเข้ามาแนบชิด กลิ่นมิ้นท์จางๆประจำตัวเขาก็ลอยมากระทบจมูกนับดาวอีกครั้ง "พี่...ถอยออกไปหน่อยได้ไหมคะ " กลีบปากบางเม้มเป็นเส้นตรง เมื่อในหัวคิดขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังโป๊….โป๊มากด้วย “คะ…คือ..เราขอเวลาจัดการตัวเองหน่อย” นับดาวเอ่ยออกไปเสียงสั่น สองมือกำจิกกันด้วยความประหม่า "ฮึ" "ไกล้ว่านี้ ก็ทำมาแล้ว " "ลึกกว่านี้...ตั้งกี่ครั้ง" “ยังมีตรงไหนอีกหรอ…ที่พี่ไม่เคยเห็น” เสียงทุ้มขรึมเอ่ยชิดใบหูก่อนที่เครื่องหน้าฟ้าประทานจะเบนมองคนที่นั่งจุ้มปุกอยู่กลับพื้นนิ่งๆ ท่าทางแบบนั้น ขัดกลับประโยคสองแง่สองง่ามที่เขาพูดโดยสิ้นเชิง “….”สองมือน้อยขยำยุ้มป้านวมเกรดเอแน่น เตรื่องหน้าสวยค่อยๆซับสีเลือด ก่อนจะแปลเปลี่ยนเป็นสีแดงจางๆในที่สุด ทิวากรที่มองเธออยู่ตลอดในตาขรึม เริ่มสาดประกายบางอย่างที่มันต่างไปจากเดิม "ไปอาบน้ำเถอะ ชุดเมื่อวาน ให้คนเอาไปส่งซักแล้ว" หางคิ้วเรียวยกโค้งทันทีที่ฟังเขาจบประโยค 'เท่าที่จำได้ คนตรงหน้าก็หลับไปพร้อมกับเธอ แล้วเขาเอาเวลาไหน ไปทำ?' "เลิกทำหน้าเป็นหมาสงสัย" "มันไม่ได้หน้ามองขนาดนั้น" นับดาวชะงักใบหน้าหวานย่นยู่ทันทีที่ฟังเขาพูดจบประโยคทำไมถึงดูไม่ออกว่าเขาเป็นคน 'ปากร้าย...ปากร้ายมาก 'ก็บอกแล้วไง ว่าไม่ชอบให้ใครขัดใจ' 'ชิ!' 'อย่าหวังจะได้เข้าไกล้เราอีก!' ใบหน้าหวานสะบัดพรืด จนกลุ่มผมสีน้ำตาลอ่อนที่เจ้าตัวบรรจงดัดลอนสยายคล้ายเกรียวคลื่น กลิ่นของมันหอมหวาน จนคนที่เผลอได้ดมต้องทิ้งสายตามองตาม "คนเรา มันจะหอมทั้งตัวได้ขนาดนี้หรอวะ" ดวงตาคมกริบมองตามแผ่นหลังขาวนวลจนลับสายตา และใช่...ปากมันหลุดพูดสิ่งที่หัวคิดออกมาอีกครั้ง.. ครึ่งชั่วโมงผ่านไป.. เคยได้ยิน ลูกน้องบ่น ว่าเมียมันอาบน้ำนาน ทิวากรยังเคยออกปากปราม หาว่าคนในบังคับบัญชาพูดเกินจริง เอาสนุกปาก จนได้มาเจอของจริง "นี่! ไม่ใช่ตายในห้องน้ำรึไง!" เสียงทุ้มต่ำเอ่ยรอดไรฟันหลังจากการไปเคาะถามเป็นครั้งที่สาม ใช่ ฟังไม่ผิด สามรอบ และทุกรอบ ก็จะได้อยู่แค่คำตอบเดียว "เราบอกว่าจะเสร็จแล้ว!" โอเคร คนในห้องจะเสร็จเป็นรอบที่สาม ในขณะที่กู ดูดบุหรี่รอจนมะเร็งแทบจะลงไปวิ่งเล่นในปอด เจริญละชีวิตใครได้ไปเป็นเมียคงปวดหัวชิบหาย!...... ยกเว้นกูคนนึง….. ราวสิบห้านาที ร่างเล็กในชุดนักศึกษา ถูกระเบียบ มั้งนะ ก็เดินออกมา ที่บอกว่ามั้งนะ ก็แค่นึกแปลกใจว่ากระโปรงที่สั้นจนเห็นขาอ่อน กับเสื้อ ที่รัดจนนมปรินั่น มันเรียกว่าถูกระเบียบไหม........ กว่าที่นับดาวจะออกมาจากห้องน้ำ คนที่นั่งรออยู่ภายนอกก็จัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วเมื่อคืนเธอเพลียจนมองไม่ชัดอีกทั้งฝ่ายตรงข้ามยังอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย ตอนนั้น นับดาวยังมองว่าเขาก็หล่อ พอได้มองเต็มตัวแบบนี้ มันคนละเรื่องกันเลย คนตรงหน้า ไม่ได้ดูแบดบอย เท่าเฮียคิณพัฒน์ ไม่ได้เป๊ะทุกระเบียดนิ้วเหมือนเฮียเหนือสมุทร ไม่ได้ดูกร้าวใจเท่าเฮียเมฆินทร์ แต่เขา กลับเหมือนทั้งสามคนรวมกัน! ร่างกำยำที่สูงไม่ต่ำกว่า190 นัยน์ตาเรียบเฉยดูดุดัน สันจมูก รับกับกลีบปากเชิดรั้น ไหนจะทรงผมอันเดอร์คัด ที่ถูกจัดแต่งจนเข้าทรงนั้นอีก นับดาวพึ่งรู้ ว่าผู้ชายหล่อในลุคออลแบ็คเท่ที่สุด เพอร์เฟคจนอยากจะยกไลท์ให้สักสามรอบ "เลขบัญชีมา" คนหน้าดุเอ่ยออกมาเรียบๆ เรียกสติคนเด็กกว่าเพียงแต่เป็นประโยคที่คนฟังสงสัย "คะ?" "เลขบัญชีเรา" "คุณจะเอาเลขบัญชีเราไปทำไม" เสียงหวานถามกลับทันที "ให้ค่าขนม" ทิวากรพยายามเลี่ยงใช้คำที่ดูสุภาพที่สุด ไม่ให้คนตัวเล็ก คิดว่าเขาดูถูกเธอมากจนเกินไป เขาอยากจะให้อะไรเธอสักหน่อย ดีกว่าปล่อยเธอไปแบบนี้ เมื่อคืน...เอาเปรียบเธอไปขนาดนั้น แล้วยัง..ไม่ได้ป้องกันสักครั้ง.. "ที่บ้านเราไม่ได้ขาดเงิน" "เราจะย้ำอีกรอบ ว่าเราไม่ได้ขายตัว" "ถือว่าจบกันไปแล้วกัน หวังว่าคุณจะเป็นลูกผู้ชายพอ ไม่แอบถ่ายคลิปเราใว้ หรืออะไรจำพวกนั้น" เสียงหวานแข็งขึ้น ขณะที่ดวงตากลมโตจับจ้อง คาดคั้น 'แล้วทิวากรจะพูดได้หรอ...ว่าถ้าเขารู้สักนิด ว่าคนที่มาจะตรงเสปคขนาดนี้ เขาคงตั้งกล้องถ่ายใว้ดูแก้เครียดสักยกสองยก คิดแล้วยังแอบเสียดายอยู่นิดหน่อยเลย "เพ้อเจ้อ" "จะให้ไปส่งที่ไหน" ร่างสูงคว้ากุญแจรถเดินนำออกมาด้วยท่าทีคุ้นเคยไร้ความประหม่า ต่างจากนับดาว ที่สอดส่ายสายตามองซ้ายทีขวาที ร่างเล็กสั่นเกร็งไปหมด กลัวจะมีสักคนที่จำเธอได้ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นสมองน้อยๆนี่ไม่กล้าคิดต่อเลย นับดาวเดินลับๆล่อๆตามคนตรงหน้ามาจนถึงลานจอดรถ คราวแรกไม่ได้คาดหวัง แต่พอได้เห็นว่าอีกฝ่าย ถึงกับมีรถเบนซ์คันทรูหัวคิ้วเรียวก็พลันขมวดมุ่นขึ้นมาอีกรอบ 'ดูจากการแต่งตัว ก็ไม่หน้าจะรวย' 'ไม่มีสักชิ้น ที่เป็นแบรนด์เนม' 'คงผ่อนรถหมดแน่ๆ' 'หน้าสงสารจัง' ใบหน้านวลเปลี่ยนสีไปมาตามประสาคนเก็บสีหน้าไม่อยู่ และใช่....คนช่างสังเกตุอ่านขาดจนหมดสิ้น "คิดอะไรพิเรนพิเรนทร์อีก สรุปไม่เอาเงิน? " "คงไม่คิดจะใช้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างมาเจอกันอีกใช่ไหม..ลองตัดสินใจให้ดี...ถ้าคิดว่าได้น้อยไป ระหว่างทางลองคำนวนตัวเลขในใจมา" คนหน้าดุเอ่ยเรียบๆ ไม่แม้แต่จะปรายตามองคนข้างๆ 'เดี๋ยว ไม่มอง แล้วรู้ได้ไงว่าเราคิด ตาทึ่มนี่ ทำยังกับมีตาที่สาม เอ้ะ หรือว่ามี!' นับดาวคิดในใจอย่างหงุดหงิด และยังไม่ทันที่จินตนาการในหัวจะไปถึงจุดที่แย่ไปกว่านั้น รถเบนซ์สีดำด้าน ก็เทียบจอดข้างฟุตบาทหน้ามหาลัยชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ นับดาวรีบเปิดประตูลงไปในทันทีที่รถจอด ไม่หันมาลาคนที่อุส่าห์อ้อมมาส่งสักคำ ทิวากรมองแผ่นหลังบอบบางที่เดินห่างออกไปเรื่อยๆ ดวงตาสีดำสนิทหม่นแสงลงแปลเปลี่ยนเป็นเขาคนเดิม vineyard Detdecho รถเบนซ์สีดำด้านคันเดิม วิ่งตรงเข้ามาในทิวไร่องุ่นกว้างสุดลูกหูลูกตาบ้านของเหล่าเพื่อนสนิทที่ทิวากรมักมาฝากท้องบ่อยๆ ถึงและส่วนมากมักเป็นน้ำเมา "ลมอะไรหอบมึงมา" คิณพัฒน์ ละมือจากงานที่ทำอยู่ ดวงตาเรียวรีกวาดมองรุ่นน้องคนสนิทด้วยท่าทีสงสัยเมื่อเห็นว่าบุรุษที่มักโผล่มาตามราตรี กลับปรากฏตัวตั้งแต่ช่วงเที่ยง "วันศุกร์ ก็ว่าจะมาค้างด้วย" "เจอกันสักตั้งสิเฮีย" มุมปากหยักกระตุกยิ้ม ทันทีที่แขกผู้มาเยือนเอ่ยจบประโยค และแน่นอน คืนนี้มียาว "แม่ง..เล่นดีๆดิวะ!" "รับยิงหาพ่อง!" "บ่นเชี่ยไรวะ!" เสียงเอะอะดังออกมานอกตัวบ้าน นับดาวได้ยินมันตั้งแต่ยังไม่ทันก้าวลงรถ หัวคิ้วเรียวขมวดมุ่น จริงอยู่ ว่าพวกเฮียมักจะกลับบ้านวันศุกร์ แต่ก็ไม่เคยเสียงดังสนั่นกันขนาดนี้ ใบหน้างามฉายแววฉงน จากที่คราวแรกที่ตั้งใจจะเดินเลี่ยงไปยังครัวหลังบ้าน คนตัวเล็กจึงเปลี่ยนทิศทาง ตรงเข้าตัวบ้านไปดูด้วยตาให้หายสงสัย "ทำอะไรกันคะ เสียงดังไปยันข้างนอก" ปากจิ้มลิ้มเอ่ยถามทันทีที่เท้าเรียวก้าวถึงห้องโถงกลางบ้าน ดวงตากลมโตกวาดมองเหล่าบุรุษ ที่เปลือยช่วงอกเล่นเกมส์กันอย่างเมามัน ไหนจะขวดไวน์หลายขวดที่กลิ้งอยู่รอบบริเวณนั้นอีก 'เมากันตั้งแต่หัววันอีกแล้ว!' "เฮีย!" คนตัวเล็กตะเบ็งเสียงลั่นทันทีที่เริ่มหงุดหงิด "ชิบหาย! ชิบหาย! ชิบหาย!" เสียงขรึมสบถพร้อมกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม