เรื่อง: ไม่มีนิยามของคำว่ารัก ภาค 2
ตอนที่.10 อยากลองรักใหม่(2)
โดย:srikarin2489
เสียงแตรรถดังมาจากหน้าประตูรั้วบ้านของยงยศ ทำให้ยงยศ ยุพากับลูกชายและลูกสาววัยขวบกว่าพร้อมด้วยบุษกรและตุลยา นั่งอยู่ที่เก้าอี้บริเวณหน้าบ้านจะใช้จัดงานวันเกิดย้อนหลังให้ยศกรหันไปดูทางเสียง
“อินคงมาแล้ว ตุลไปเปิดประตูเองพี่ยอร์ช” ตุลยาลุกแล้วเดินเร็วไปยังประตูรั้วบ้าน สักครู่รถยุโรปสีเทานมของอินทิรา เป็นคันที่เคยเอาให้ปาลิดาไปขับ วิ่งเข้ามาจอดข้างรถของตุลยา
“อาอิน” ยศกรร้องเรียกดีใจวางมือจากของเล่น วิ่งไปรับเมื่อเห็นอินทิรา ลงจากรถพร้อมอุ้มกล่องของขวัญกล่องใหญ่มาด้วย ส่วนณิชมนมีกล่องของขวัญเช่นกันแต่กล่องเล็กกว่า
ยศกรยิ้มแฉ่งตาโตเป็นประกายตื่นเต้นดีใจ มองดูกล่องของขวัญกล่องใหญ่ ที่คนเป็นอาอุ้มอยู่รู้ว่าเป็นของตัวเองแน่นอน ทักอาแล้วเอาแต่จ้องมองกล่องของขวัญไม่วางตา
“จอร์จ ทำไมไม่สวัสดีอาแนน” อินทิราบอก เมื่อหลานเอาแต่จ้องมองกล่องของขวัญกล่องใหญ่ จนไม่ได้สนใจณิชมน
“สวัสดีครับอาแนน” ณิชมนยิ้มเอ็นดูและทักทายตอบ เมื่อยศกรหันมายกมือไหว้แล้วหันกลับไปสนใจกล่องของขวัญ
“ของจอร์จใช่มั้ยครับอาอิน”
“ครับ” ยศกรยิ้มจนตาหยีด้วยความดีใจ เมื่ออาพยักหน้า
อินทิรากับณิชมนเดินตาม เมื่อเจ้าของงานวันเกิดพาเดินไปหาทุกคนที่นั่งอยู่ บนโต๊ะมีกล่องของขวัญวางอยู่ก่อนแล้วหลายกล่อง พร้อม ทั้งอาหารหวานคาว ผลไม้และเครื่องดื่มสำหรับผู้ใหญ่จัดวางเต็มโต๊ะตัวยาว
“สวัสดีค่ะพี่ยอร์ชพี่ยุ” ณิชมนยกมือไหว้ทั้งสอง
“ไม่เจอกันนาน สบายดีหรือแนน”
“สบายดีค่ะ” ยงยศเรียกลูกชายมารับกล่องของขวัญจากณิชมน แล้วนำไปวางที่โต๊ะ ส่วนกล่องของอินทิรายงยศยกไปวางเอง เป็นกล่องใหญ่เกินกำลังเด็กอย่างยศกรจะยกไหว ยศกรเดินตามพ่อไปติดๆสนใจมากว่าข้างในจะเป็นอะไร
“ให้อะไรหลานหรืออิน กล่องใหญ่เชียว”
“ตัวต่อเลโก้ครับ เอาไว้ให้หลานต่อฝึกสมาธิ บุษบอกว่าจอร์จกำลังสนใจเล่นตัวต่อเลโก้ ต่อเป็นหุ่นยนต์กับรถหลายรุ่น น่าจะถูกใจน้องจอร์จ”
ระหว่างที่ยงยศกำลังจัดวางกล่องของขวัญอยู่ มีเสียงสัญญาณข้อความเข้าโทรศัพท์ จึงดึงโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงมาดู พออ่านข้อความแล้วหันไปทางอินทิรา
“อินโอนเงินให้หลาน เป็นของขวัญวันเกิด เงินเข้าแล้วใช่มั้ยพี่ยอร์ช”
“ให้หลานเยอะขนาดนี้เลยหรืออิน มันมากไปมั้ย” ยงยศเงยหน้ามาท้วงเมื่อเห็นยอดเงินที่อีกฝ่ายโอนมา อินทิราเพียงยิ้ม
“อินให้เงินเป็นของขวัญวันเกิดหลานทุกปี กว่าจอร์จจะโตเป็นหนุ่ม คงมีเงินเก็บตั้งตัวได้เลย” ตุลยาแซวหลานที่ไม่ได้สนใจเรื่องเงินของขวัญ สนใจแต่กล่องของขวัญที่วางอยู่
“ไม่ต้องเกรงใจมันหรอกพี่ยอร์ช อินได้รับเงินปันผลค่าหุ้นโรงพยาบาล เงินปันผลหุ้นธุรกิจของครอบครัว ปีหนึ่งแปดเก้าหลัก เงินเดือนแต่ละเดือนยังใช้ไม่หมด มันจะเอาเงินไปทำอะไร ครอบครัวก็ไม่มี อยากได้อะไรพ่อแม่ควักเงินซื้อให้เอง แต่ก่อนเคยคิดจะสะสมรถบิ๊กไบค์ แต่ซื้อเพิ่มไม่ได้มีแค่2คันแทบไม่ได้ขับ”
“จริงด้วยสิคะ ไม่เห็นพี่อินขับบิ๊กไบค์เลย”
ณิชมนหันมาถามด้วยความแปลกใจ เพราะรู้ว่าอินทิราชอบบิ๊กไบค์มาก แต่มาระยะหลังไม่เห็น อินทิราขับบิ๊กไบค์เลย เวลาไปไหนมาไหนหันมาขับรถยนต์แทน
“ตั้งแต่ผ่าตัดครั้งล่าสุด พี่ไม่ได้ขับบิ๊กไบค์เลย เพิ่งเริ่มกลับมาขับใหม่ แต่ยังไม่คล่องเหมือนแต่ก่อน”
“ทำไมคะ หรือแผลพี่อินยังไม่หายดี ปกติพี่อินชอบขับบิ๊กไบค์มาก” ตุลยาหัวเราะเห็นเพื่อนมีสีหน้าเก้อเขิน เมื่อถูกณิชมนถามเรื่องนี้
“บอกแนนเขาไปสิ ว่าทำไมถึงขับบิ๊กไบค์ไม่ถนัด” ณิชมนมองหน้าสองหนุ่มทรานส์แมนสลับกัน เห็นตุลยายิ้มขำแต่อินทิรา ยิ้มเขิน
“รู้ว่าอินเขาเขินยังไปจี้เขา” บุษกรหันไปว่าตุลยาที่ยังยิ้มสนุก
“ทำไมหรือคะพี่อิน มีปัญหาอะไรหรือคะ” ณิชมนมองหน้าอินทิราด้วยความสงสัยอยากรู้
“เวลาขับของใหม่มันเบียดถังน้ำมัน ต้องระวังมาก” เสียงบอกเบาอุบอิบหน้าเป็นสีชมพูระเรื่อด้วยความขัดเขิน
“อะไรคะของใหม่” คนถามทำหน้างงขณะที่ตุลยาหัวเราะเสียงดังชอบใจ แต่พอเห็นตุลยาทำหน้าบุ้ยใบ้ไปที่เป้ากางเกง ของอินทิราณิชมนเริ่มเข้าใจ
“อ๋อ...เข้าใจแล้วค่ะ” ณิชมนยิ้มขำตัวเอง
“เจ้าของวันเกิดเขาอยากแกะกล่องของขวัญแล้ว มาช่วยกันร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้หลานหน่อย”
ยงยศร้องบอก ทุกคนจึงลุกไปยืนล้อมรอบยศกร เจ้าตัวยิ้มแก้มแทบปริตาเป็นประกายจับจ้องอยู่ที่เค้กวันเกิดในมือพ่อ หน้าเค้กแต่งเป็นรูปการ์ตูนตัวโปรด ผู้ใหญ่ช่วยกันร้องเพลงอวยพรวันเกิดให้ ขณะที่เจ้าของวันเกิดแหงนหน้ามองรอบ ๆ ยิ้มตาเป็นประกายดีใจมีความสุข
“อธิษฐานก่อนลูก ค่อยเป่าเทียน” ยศกรยกมือพนมระหว่างอกหลับตาอธิษฐานตามที่แม่บอก ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูจนผู้ใหญ่ที่ยืนล้อมรอบอยู่ต่างยิ้มเอ็นดู
“อธิษฐานดี ๆ นะจอร์จ ขอให้ได้เงินของขวัญจากอาอินทุกปี” ตุลยาแซวหลานอีก
“แกล่ะตุล ไม่คิดจะให้หลานบ้างเหรอ นอกจากซื้อของเล่นให้ทุกปี” บุษกรแขวะไม่จริงจัง
“ได้เลย” ตุลยาดึงโทรศัพท์ของตัวเองออกมาจากกระเป๋าเสื้อ แล้วจัดการโอนเงินให้ทันที
“ตุลร่วมสมทบทุน ไว้เป็นทุนการศึกษาหลานนะพี่ยอร์ช แต่ให้มากเหมือนอินไม่ได้ อินมันได้เงินปันผลปีหนึ่งแปดเก้าหลัก ตุลได้เงินปันผลจากพ่อปีหนึ่งแค่เจ็ดหลัก”
“ไม่ต้องให้ก็ได้ แค่พวกเอ็งมาร่วมงานพี่ก็ขอบใจแล้ว”
“แกล่ะบุษให้หลานหรือเปล่า ว่าแต่ฉันตัวเองให้หลานมั้ย”
“ให้ตั้งแต่วันเกิดจริงแล้ว ฉันโอนเงินเข้าบัญชีหลานทุกเดือน ถึงจะไม่เยอะแต่ให้ทุกเดือน ตั้งใจจะให้อย่างนี้ไปจนเขาเรียนจบมหาวิทยาลัย”
หลังจากช่วยกันกับแม่ตัดเค้กแจกจ่ายทุกคนแล้ว ยศกรขอเปิดกล่องของขวัญโดยมีอินทิรากับณิชมนอาสาช่วยแกะ ส่วนยุพาพาลูกสาวเข้าไปนอนก่อนเมื่อลูกเริ่มงอแง ยงยศจึงเดินไปนั่งลงใกล้ตุลยากับบุษกร มองดูอินทิราที่นั่งอยู่พื้นกระเบื้องหน้าบ้าน มีณิชมนนั่งอิงแอบชิดใกล้ช่วยหลานเปิดกล่องของขวัญ คุยกันเสียงสดใส บางครั้งหยอกล้อหัวเราะกันคิกคัก ยงยศมองภาพนั้นแล้วหันไปทางน้องสาวกับตุลยา แววตาเต็มไปด้วยความสงสัยกับความสนิทสนมของทั้งสอง พอรู้ว่าณิชมนชอบอินทิรามานานแล้ว
“อินมันเปลี่ยนใจ ไปชอบแนนแล้วเหรอ” ตุลยากับบุษกรหันมาสบตากัน แล้วหันไปทางเพื่อนเมื่อถูกยงยศตั้งคำถามด้วยแววตาครุ่นคิดสงสัย
“ดูอินมันสนิทสนม กับแนนขึ้นเยอะเลย”
“ทำไมพี่ยอร์ชไม่ถามน้องรักดูล่ะ ว่ามันจะเอายังไงเรื่องนี้ เราสองคนอยากรู้เหมือนกัน”
“ถ้าอินกับฟางต้องจบกันจริงๆ คงเป็นแนนนี่แหละมีโอกาสมากกว่าใคร หน้าตาเขาคล้ายฟางด้วย ตามชอบอินมาตั้งแต่ม.1 เนตรพี่สาวของแนนบอกว่า แนนชื่นชอบอินมาก ตอนเรียนอยู่ชอบหาเหตุมาหาพี่สาวบ่อยๆ เพราะอยากเจออิน”
บุษกรมองดูเพื่อนกับณิชมนที่นั่งพูดคุยกันชิดใกล้ยิ้มหัวเป็นระยะ พอดูออกว่าอินทิรา ไม่ได้คิดอะไรแค่เอ็นดูในฐานะน้องสาวเพื่อน แต่ณิชมน แสดงออกเปิดเผยมาแต่ต้นแล้วว่าชอบอินทิรามาก
“ถ้าเป็นแนนก็น่าสนับสนุน เพราะเขาชอบอินจริงๆเป็นคนนิสัยดีใช้ได้ หรือแกจะเชียร์น้องสาวแกตุล” หันไปถามตุลยาที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการจิบเบียร์ แต่สายตามองอยู่ที่เพื่อนกับณิชมน
“ตาลชอบอินมานานแล้วเหมือนกัน”
“ฉันยังไงก็ได้ อินจะเลือกใครแล้วแต่เขา ขอแค่ให้เขามีความสุขก็พอ”
“อินมันรักฟางมาก จะจบได้จริงเหรอ” ยงยศพึมพำมองดูอินทิราด้วยแววตาครุ่นคิด
“ก็ไม่แน่นะพี่ยอร์ช ฟางคนใหม่ปากร้ายมาก อินมันเจอฤทธิ์ปากของฟางแล้วหลายครั้ง ตุลเองก็เคยถูกฟางตอกหน้าหงายมาแล้ว โกรธแทบคลั่งแต่ทำอะไรไม่ได้ อินเคยบอกว่าไม่ชอบฟางคนใหม่ เจอทีไรเป็นแซะแขวะตลอด แต่ก่อนชอบเรียกอินว่าหมอทอม ตอนนี้หันมาเรียกว่าผู้ชายปลอม ปากร้ายไม่เหลือเค้าคนเดิมเลย”
“ไม่อยากเชื่อว่าฟางจะกลายเป็นคนปากร้าย เห็นเขาว่าอินแล้ว ไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาเคยรักอินมาก” บุษกรส่ายหน้าว่า
“พี่ยอร์ชคิดยังไง ถ้าจะเปลี่ยนจากฟางมาเป็นแนน” ยงยศมองสบตาน้องสาว แล้วหันไปทางอินทิรากับณิชมน
“พวกเราจะคิดหรือรู้สึกยังไง มันไม่สำคัญหรอก มันอยู่ที่ตัวเขามากกว่า ขอแค่อินอยู่กับใครแล้วเขามีความสุข พี่ยินดีด้วยทั้งนั้น แนนเองก็น่ารักนิสัยดีชอบอินจริงๆ พี่เป็นห่วงฟางมากกว่า ถ้าฟางจะได้กับนายธีระ สถานภาพของมันโสดก็จริง แต่เลี้ยงผู้หญิงแบบไม่เปิดเผยไว้หลายคน ถ้าฟางได้กับคนแบบนี้ เชื่อได้เลยว่าชีวิตภายภาคหน้าเขาไม่มีความสุขแน่นอน ตอนยังใหม่อยู่มันคงเอาอกเอาใจสารพัด เป็นของเก่าเมื่อไหร่คงถูกปล่อยทิ้งเหมือนคนอื่นๆ มันเป็นนักธุรกิจสีเทา ชีวิตอยู่บนความเสี่ยงสูง” ยงยศได้แต่ถอนใจแววตาเป็นกังวลห่วงใยปาลิดา
“ห่วงแค่ไหนพวกเราก็ทำอะไรไม่ได้หรอกพี่ยอร์ช ฟางเขาไม่เหมือนเดิม คุณน้าฝ้ายยังออกปากเลยว่าเขาดื้อขึ้นเยอะ เขาจำพวกเราไม่ได้ กลับไปชอบคนที่เคยคิดร้ายกับตัวเอง การแต่งตัวดูเปลี่ยนไปเยอะ เปิดเผยมากขึ้น”
“แกลืมแล้วหรือว่าเขาเป็นดารานางแบบ โชว์พอสวยงามไม่ถึงขั้นน่าเกลียด ตั้งแต่เขามีซื่อเสียงเขาดูสวยขึ้นเยอะเลยนะมีออร่าด้วย คงเพราะงานเขาต้องขายรูปร่างหน้าตาผิวพรรณ ต้องดูแลตัวเองมากเป็นพิเศษ เขาดูดีขึ้นมากทั้งรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณผมถ่ายโฆษณาได้หมด คุณน้าฝ้ายพลอยมีงานถ่ายโฆษณาคู่กับลูกสาวด้วย แม่ลูกถ่ายโฆษณาด้วยกันสวยสูสีกันเลย คนดูคงคิดว่าเป็นพี่กับน้อง มากกว่าเป็นแม่กับลูก” ตุลยาพยักหน้าเห็นด้วย
“พวกเราได้แต่ห่วงเขาเท่านั้น แต่ก่อนตุลกับฟางถูกคอกันมาก แต่ตอนนี้ไม่ไหว”
“ตุลมันโกรธแทบคลั่ง ถูกฟางตอกหน้าแล้วทำอะไรไม่ได้” บุษกรว่าแล้วยิ้มขำ คนถูกพาดพิงถึงได้แต่ส่ายหน้าเซ็ง
“สงสารอินมันเหมือนกันนะ มันรักฟางมากเฝ้ารักเฝ้ารอมาตั้งหลายปี ไม่เคยสนใจใครอีก ฟางไม่เพียงจำอินไม่ได้ แถมยังไม่ชอบหน้าเสียอีก โชคชะตาอะไรจะโหดร้ายแบบนี้” ยงยศถอนใจมองดูอินทิราอย่างเห็นใจ