EP 1 - iphone 7
“มุก!”
“มุกเว้ยย ตื่นได้แล้วเดี๋ยวจะสาย”
เสียงใครบางคนตะโกนแข่งกับเสียงแจ้งเตือนจากสมาร์ตโฟนที่วางอยู่บนหัวเตียงดังขึ้น ปลุกให้มุกไหมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาจากความฝันแปลกประหลาด
เธอฝันว่า ตัวเองอยู่ท่ามกลางกลุ่มดาวบนจักรวาลที่มีแสงระยิบระยับสีขาวจ้าสะท้อนเข้าดวงตาจนแสบตาไปหมด ราวกับตอนนี้เธอกำลังถูกดึงเข้าไปในห้วงอวกาศ
แล้วอยู่ ๆ เสียงใครบางคนกลับกระชากตัวให้หล่นลงมาบนพื้นดินอย่างรวดเร็วจนสะดุ้ง
เฮือก!
“ยัง ยังอีก ยังไม่ตื่น! สายแล้วนะแก”
เสียงบ่นที่คุ้นหูเหมือนเคยได้ยินมาก่อนเมื่อนานมาแล้ว ทำเอามุกไหมงุนงงไปเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะลืมตาขึ้นมาแล้วพบว่า
“ห๊ะ! ยัยเอิง!”
ใบหน้าเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ยืนเท้าสะเอวอยู่ตรงหน้า แต่ตอนนี้เพื่อนของเธอผอมไปมาก น้ำหนักน่าจะราว ๆ 45 หน้าสวยและหุ่นดีเหมือนสมัยตอนเรียนมหา’ลัยไม่มีผิด ผิดกับวันก่อนที่เจอกัน เพราะที่เธอเห็นคือ เอิงเอยน้ำหนักปาไปแล้วเกือบ 70 โล เพราะอ้วนขึ้นหลังคลอดลูก
แต่…เดี๋ยวนะ นี่มันอะไรก่อน?
มุกไหมอ้าปากค้าง มองเอิงเอยตาปริบ ๆ
“เออ ฉันเอง ทำไม รู้ไหมยะ ฉันเคาะประตูเรียกแกตั้งนาน แกไม่ตื่น ฉันก็เลยลองหมุนลูกบิดประตูดู เลยรู้ว่าแกนอนโดยไม่ล็อกห้อง ดีนะว่าพวกเราอยู่หอหญิง ถ้าเกิดไปอยู่หอรวมแล้วแกนอนไม่ล็อกห้อง โคตรอันตรายเลยอะ ปะ ไปได้แล้ว ไปอาบน้ำ”
แถมยังบ่นเก่งเหมือนตอนมหา’ลัยไม่มีผิด
มุกไหมทำหน้าเหวอ ความรู้สึกแปลกประหลาดวิ่งวูบเข้ามาในอก ตั้งแต่ลมหายใจแรกที่เธอสูดเข้าไป มันไม่ใช่อากาศแบบที่เธอเคยตื่นมาเจอในคอนโดกลางเมืองกรุงเทพฯ แต่มันคือกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มอ่อน ๆ ที่ลอยปะปนมากับอากาศเย็นเฉื่อยจากพัดลมตั้งโต๊ะ กลิ่นเดียวกับที่ห้องนอนเก่าที่เคยมีก่อนเข้าเรียนมหา’ลัย
“ดะ เดี๋ยวยัยเอิง” มุกไหมยกมือขึ้นมาทำท่าราวกับปางห้ามญาติ แต่ของเธอคือปางห้ามบ่น
“แก อย่าบ่นยาวขอฉันตั้งสติแป๊บ”
มุกไหมยันตัวลุกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะไล่สายตามองไปรอบ ๆ ห้องและสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงที่ไม่คุ้นตาเอาเสียเลย
เพดานปูนเรียบ ๆ สีขาวซีดมีรอยร้าวเส้นบาง ๆ ตรงมุมที่จำได้ว่าเคยบ่นให้พ่อฟังเป็นประจำ
โปสเตอร์วง GOT7 แปะอยู่บนผนังอย่างภูมิใจเหมือนสมัยตอนม.ปลาย
โต๊ะเครื่องแป้งที่เคยวางไว้ชิดผนังยังอยู่ตรงนั้นเหมือนเดิม และมีน้ำหอม Victoria's Secret กลิ่นที่เคยใช้ตอนวัยรุ่นวางคู่กับครีมกันแดดของ Nivea แบบหลอด
มุมโต๊ะหนังสือมีกระเป๋าถือหนังเทียมสีชมพูตุ่น ๆ ใบเล็กที่ห้อยโบว์อยู่ มันคือของที่แม่ซื้อให้เธอตอนขึ้นปีหนึ่ง และเป็นของที่ไม่ได้ใช้มานานแล้ว
มุกไหมหันขวับไปมองโทรศัพท์บนหัวเตียงด้วยหัวใจเต้นโครมคราม
ความรู้สึกเหมือนถูกดึงย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีก่อน
“…วะ เวรแล้ว?” เสียงพึมพำหลุดออกจากลำคอ ก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วแล้วคว้า โทรศัพท์ขึ้นมาดู
“เฮ้ย นี่มัน... iPhone 7?”
เป็นสีโรสโกลด์ยอดฮิตในสมัยนั้น แถมหน้าจอยังแสดงผลเป็น
วันที่ 7 เดือน 7 แต่เป็นปี 2017
เวลา 7.07 นาที
เหมือนสมองค้างไปเจ็ดวิ ราวกับมีบางอย่างกำลังกระแทกเข้าแรง ๆ ที่กลางอก
“ฝะ ฝันบ้าอะไรวะเนี่ย”
เธอรีบสไลด์หน้าจอ เช็กทุกอย่างรัวๆ ไม่หยุด
และไม่ได้สนคนตรงหน้าอย่างเอิงเอย ที่กำลังยืนมองอาการของเธอ ด้วยความงุนงงปนสงสัย
“แกเป็นบ้าอะไรอะ ยัยมุก”
คำถามเหมือนจะไม่กระทบเข้าโสตประสาทหูของมุกไหมเลยแม้แต่น้อย เพราะเธอกำลังสนใจระบบปฏิบัติการในมือถือที่ยังคงเป็น iOS 11
“อะไรวะเนี่ย~”
แอปยอดฮิตจาก TikTok เพิ่งเปิดตัวมาใหม่ ๆ แต่ยังดูไม่ฮิตเท่าปีปัจจุบันที่ที่เคยอยู่
ไม่มี Threads ไม่มี X แต่คงยังมีทวิตเตอร์ และหน้าจอไม่มี Dark Mode
ส่วน Facebook ก็ยังคงชื่อเดิม ไม่ได้ถูกรีแบรนด์อะไร โลกโซเชียลในตอนนี้ยังไม่เปลี่ยนไปมากเท่าที่เธอเคยคุ้นเคย
มุกไหมรีบเข้าไปใน LINE อย่างลนลาน และพบว่าสติกเกอร์ยังเป็น Brown & Cony รุ่นยอดฮิต ที่เคยซื้อด้วยเงินค่าข้าวเที่ยง
ส่วน Story ล่าสุดใน Face ที่เพื่อนกำลังแชร์อยู่คือเพลง “ก่อนฤดูฝน” ของ The TOYS
ซึ่ง...ใช่! มันเพิ่งปล่อยได้ไม่นานในช่วงนั้น แล้วขึ้นอันดับในคลื่นวิทยุทุกคลื่นแบบยืนหนึ่งสมัยนั้น
“บ้าไปแล้ว…”
เธอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ความคิดในหัวพันกันยุ่งเหยิงไปหมด ก่อนจะเงยหน้ามองเอิงเอยที่ยังมองดูด้วยสีหน้างุนงง
นี่มันไม่ใช่แค่ฝันธรรมดาใช่ไหม?
ไม่ใช่แน่ ๆ
หรือว่าฝัน?
จังหวะที่เถียงกับสมองตัวเองว่าเป็นความฝันหรือเรื่องจริง เธอจึงลองยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเองเบา ๆ เพื่อพิสูจน์
ตบครั้งแรกดัง แป!
แต่อาจจะเบามือไปหน่อยเลยไม่ค่อยรู้สึกเจ็บ
พอครั้งที่สอง เลยลองกดน้ำหนักมือลงไปแรงอีกนิดดัง เพี้ยะ!
เออรอบนี้ถึงรู้ได้ว่าเจ็บจริง
แต่ถึงแบบนั้นมุกไหมก็ยังหยิกแก้มตัวเองต่ออีกครั้ง
โอ๊ะ... คราวนี้เจ็บกว่าเดิม และแก้มน่าจะเป็นรอยแดง ๆ ไปแล้วด้วย
ถึงตอนนี้เธอจึงมั่นใจแล้วว่า มันไม่น่าใช่แค่ฝันธรรมดา!
“แกเป็นบ้าอะไรอะมุก!”
เสียงคนตรงหน้าไม่หยุดถามต่อ ในขณะที่มุกไหมไม่สนใจ และรีบลุกจากเตียงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า และเปิดมันออกอย่างแรงจนบานสั่น
ไม่มีเสื้อครอป ไม่มีเสื้อเปิดหลัง ไม่มีกางเกงเอวสูงหรือชุดเกาหลีที่เคยซื้อผ่าน TikTok shop มีแต่กางเกงยีนเอวต่ำเต็มราว เสื้อกล้ามสีขาวที่มีรูปโลโก้วินเทจจาง ๆ รองเท้าผ้าใบที่ต้องผูกเชือก และเสื้อฮู้ดตัวโคร่งที่เธอเคยใส่ไปเรียนตอนเช้ามืด
“อะ อะไรวะเนี่ย~”
“ยัยมุกหยุดละเมอดิ๊ ถ้าแกยังไม่หยุดแล้วไม่ไปเตรียมตัวอาบน้ำ ฉันจะไม่รอแกจริง ๆ แล้วนะ”
“แก~” คราวนี้หญิงสาวหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทอย่างเอิงเอยขวับ
“อะไร?”
“แกคือเอิงเอยจริง ๆ ปะ”
“เออสิ คนจริง ๆ ไม่ใช่ผี!”
“แล้วปีนี้ปีอะไร พศ.อะไร?”
“ปี 2017 พศ. 2560 ถามทำไม แกเพี้ยนไปปะเนี่ย”
เท่านั้นแหละ มุกไหมถึงกับทรุดตัวลงนั่งกองกับพื้นเพราะรู้สึกเข่าอ่อนขึ้นมาในทันที
ยะ อย่าบอกนะว่าเธอกลับมาอยู่ในร่างเดิม ของตัวเองในปี 2560 !
แล้วโลกที่เธอจากมาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ล่ะ? มันหายวับไปไหน?
และ! ที่บ้าไปกว่านั้น…
นี่คือช่วงเวลาที่เธอยังไม่รู้จักคิระเลยด้วยซ้ำ
ให้ตายเถอะ! สวรรค์ได้ยินคำอธิษฐานในวันเกิดปี 2568 ของเธอ เพื่อให้ย้อนเวลากลับมาก่อนจะรักเขาอีกครั้ง อย่างงั้นเหรอ
ถ้าอย่างนั้น...
เธอควรจะเลือกทางเดิม
หรือเปลี่ยนทุกอย่างใหม่ดีล่ะ