EP 2 - คนหล่อใกล้ฉัน
หลังจากที่เอิงเอยเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองเพื่อเตรียมตัวออกมาเรียนพร้อม ๆ กัน ในขณะที่มุกไหมเพิ่งอาบน้ำเสร็จ แต่เธอยังคงยืนงงอยู่หน้ากระจกบานเก่าในหอพักมหา’ลัย มองตัวเองในเสื้อโปโลแขนจั๊มป์กับกระโปรงพลีทยาวคลุมเข่าแบบที่เคยบ่นว่า "เชยสัส" ตอนปีหนึ่ง แล้วอดหัวเราะขื่น ๆ ออกมาไม่ได้
“นี่มันอะไรกันวะเนี่ย”
บ่นกับตัวเองอย่างงง ๆ ก่อนที่เอิงเอยจะมาเคาะประตูเรียกที่หน้าห้อง จากนั้นพวกเธอจึงพากันเดินตรงไปยังป้ายรถประจำทางที่เคยใช้เป็นประจำทุกเช้าเหมือนแต่ก่อน
ระหว่างทางเดิน ลมอ่อน ๆ โชยพัดมาปะทะใบหน้า มุกไหมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด มันไม่ใช่ลมแบบในปีปัจจุบันที่อบอ้าวและเต็มไปด้วยฝุ่นจากรถ EV แต่เป็นลมธรรมดา ๆ แบบที่เธอเคยรู้สึกในอดีต
ว่าแต่…เธอควรจะเริ่มรีเซตชีวิตใหม่ยังไงดี
ควรจะแก้เกรดการเรียน ที่เคยเรียนเกรดยอดแย่และเกือบตกในปีนี้
หรือ
ควรจะแก้ชีวิตตัวเอง ด้วยการหาผัวใหม่ในชาตินี้ไปเลยดี
ไหน ๆ ก็อุตส่าห์ได้โอกาสเริ่มใหม่แล้ว
ในจังหวะที่ตบตีกับสมองของตัวเองเพราะยังงง ๆ กับชีวิตอยู่ เสียงใครบางคนตะโกนจากทางข้างหลัง ทำให้ทั้งมุกไหมและเอิงเอยหันไปตามเสียงเรียกนั้นโดยอัตโนมัติ
“เฮ้ ยัยเอิง ยัยมุก ทางนี้!“
แล้วภาพที่เห็นตรงหน้า ก็ทำให้มุกไหมแทบจะน้ำตารื้นออกมา
“ยัยขิง...”
น้ำขิงเพื่อนสนิทอีกคนที่เธอเคยสนิทกันมาก ๆ แต่พอในอนาคตน้ำขิงแต่งงานกับผู้ชายที่ชื่อฟินิกซ์ แล้วพากันไปทำธุรกิจต่างประเทศ ทำให้เริ่มห่างกันออกไป
ความจริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะพอถึงจุดหนึ่งที่คนเราเติบโตขึ้น ต่างคนต่างก็มัวยุ่งกับการทำงานและการใช้ชีวิต ทำให้มีโอกาสคุยกันได้น้อยลง อย่างเก่งก็ได้คุยกันทางวีดีโอคอล หรือตอนที่น้ำขิงกลับมาเที่ยวเมืองไทยปีละครั้ง
แต่ดูตอนนี้สิ…
น้ำขิงยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ทรงผมหางม้าหยักศก ติดกิ๊บเล็ก ๆ หนึ่งอันตรงข้างหู ใส่กระโปรงนักศึกษาแบบพับขอบสองทบ รองเท้าผ้าใบคู่เดิมที่มุกไหมจำได้ว่า น้ำขิงชอบบ่นว่ามันขาดตรงส้น
“แกเป็นไรเปล่าวะ มองหน้าฉันอย่างกับไม่เคยเจอมาก่อน” น้ำขิงถามพลางเดินมาควงแขน
แต่มุกไหมกลับโผไปกอดนางในทันที
“โอ้ย คิดถึงแกว่ะ ขิง“
“เห้ย บ้า เมื่อคืนก็เจอกันยังมาคิดถงคิดถึงอะไร ปะ ไปเรียนได้แล้วเดี๋ยวจะสาย!”
น้ำขิงไม่อินและไม่เกทกับความคิดถึงของเธอเลยสักนิด และเธอเองก็ไม่กล้าบอกตรง ๆ ว่าตัวเองเพิ่งจะย้อนเวลามาหมาด ๆ เลยได้แต่ยิ้มแห้ง มองเพื่อนด้วยความคิดถึงจนล้นอก
ขืนบอกพวกเพื่อนไปสิว่าตัวเองเพิ่งย้อนเวลามา ทั้งสองคนคงหาว่่าเธอเป็นบ้าแน่
ในจังหวะที่เธอยังจ้องหน้าและอิ่มเอมกับความคิดถึงเพื่อนรักอยู่ รถสองแถวที่รอก็ขับมาจอดอยู่ตรงหน้า มุกไหมกับเพื่อนรีบพากันขึ้นรถ และเลือกนั่งลงที่เบาะหลังสุดตรงมุมที่เธอเคยชอบ เพราะมันโยกแรงดีเวลารถเลี้ยว
ซึ่งเธอยังจำทุกดีเทลในอดีตได้เป็นอย่างดี เพราะวัยนี้ คือวัยที่โคตรมีความสุขอย่างที่สุด
และเมื่อถึงทางโค้งระหว่างทางที่รถวิ่งผ่านหน้าคณะวิศวกรรมศาสตร์
อยู่ ๆ สายตาของมุกไหมก็ดันหันไปมองด้านหลังไม่รู้ตัว พลันนั้นหัวใจกลับเต้นแรงขึ้นมาเองอย่่างประหลาด
ตึก ตึก ตึก
“อุ๊ย นั่นกลุ่มผู้ชายวิศวะ หล่อชิบ”
เสียงน้ำขิงดังขึ้น ในขณะที่มุกไหมเบนสายตามองตามมือของน้ำขิงที่ชี้ิอยู่
และทันใดนั้นเอง เธอกลับรู้สึกเหมือนเวลาหยุดเดินไปชั่วขณะ
ร่างสูงในเสื้อช็อปสีแดงเลือดหมูพาดบ่า เดินชิลล์ ๆ อยู่หน้าคณะ และกำลังเดินมาทางรถสองแถวที่กำลังจอดรับนักศึกษาคนอื่น ๆ
ใบหน้าที่ยังคงหล่อเหลา และคมจัด สีหน้าที่ดูเรียบนิ่งไร้อารมณ์ไม่เคยเปลี่ยน และคนคนนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก…
คิระ
คนที่เธอเคยรัก และเป็นคนเดียวกันกับคนที่ทำให้เธอร้องไห้จะเป็นจะตายเมื่อคืนก่อน แต่ตอนนี้…เขายืนอยู่ตรงนั้น ในวันที่เธอกับเขายังไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำไป
หัวใจของมุกไหมกระตุกแกว่ง และเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนโลกทั้งใบมันหรี่แสงลง เหลือไว้แค่ตรงที่คิระยืนอยู่
“น่านน เห็นคนหล่อแล้วถึงกับเหม่อ?”
น้ำขิงสะกิดแขนมุกไหมเบา ๆ ทำเอาเธอสะดุ้งก่อนจะหันกลับมามองหน้าเพื่อนสาว
“อะไร? ใครเหม่ออะไร ไม่มีอะ” ถึงแบบนั้นก็ใช่จะยอมรับ
“แหม อย่าเถียงยัยมุก ก็แกเล่นมองเขาแบบอ่านกินขนาดนั้น”
“อ่านกินอะไรก่อนยะ ฉันไม่เหมือนแกซะหน่อยยัยขิง อย่างแกอะมองจนต้องหาคลินิคจัดฟันใกล้ฉันเลยละมั้ง”
“หืม? ไปหาทำไมคลินิคจัดฟัน?” เอิงเอยทำหน้างง มองหน้าน้ำขิงกับมุกไหมสลับกันไปมา
“เอ้า ก็เจอคนหล่อใกล้ฉัน ยัยขิงก็เลยฟินจัดพอฟินจัดจนห้ามใจไม่อยู่ ปากก็เลยยิ้มไม่หุบ ถึงต้องไปคลินิคจัดฟันใกล้ฉันยังไงยะ” เธออธิบายยาวยืด แต่น้ำขิงกับเอิงเอยยังคงทำหน้างงเข้าไปอีกสิบระดับ
“อะ อะไรนะ? แล้วคนหล่อใกล้ฉันคืออะไร? อ่อ หรือหมายถึงแกกับเขาสนิทแบบใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก่อนแบบนี้เหรอ?”
เอิ่ม~
จะบ้าตาย ศัพท์เจน Z ยุคที่เธอเคยอยู่ เอามาใช้กับวัยรุ่นปี 61 ไม่เกทเฉย
“เออ…ไม่มีอะไร ช่างมันเถอะ” มุกไหมส่ายหน้าเบา ๆ เพื่อตัดบท เพราะถึงพูดอะไรออกไปสองสาวก็คงไม่เข้าใจอยู่ดี
จากนั้นเธอจึงหันไปมองกลุ่มของคิระที่ยืนอยู่อีกครั้ง
ทว่า…เสี้ยววินาทีนั้น อีกฝ่ายดันเงยหน้าขึ้นมามองทางเธอพอดี
แล้ว…สายตาของทั้งคู่ก็สบกันโดยบังเอิญ
เหมือนโลกหยุดหมุนไปอีกรอบ
หัวใจของมุกไหมเต้นระส่ำไม่หยุดราวกลับจะเกิดแผ่นดินไหว ก่อนที่เธอจะรีบเบือนหน้าหนีเสมองไปอีกทาง พร้อม ๆ กับรถสองแถวที่กำลังเคลื่อนตัวห่างออกมา
ว่าแต่สายตาว่างเปล่าคู่นั้นที่มองมา
ทำไมมันว่างเปล่าขนาดนี้นะ
ใช่สิ…
ตอนนี้เขายังไม่รู้จักเธอเลยด้วยซ้ำ