บทที่ 1 กลับมา NC
มีบางอย่างกดทับอยู่บนตัว สิ่งนี้ก็นุ่มและแน่น
เธอรู้สึกหนัก…และหายใจไม่ออก
ม่านตะวันพยายามขยับตัวหนีเมื่อรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ แต่ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปก่อนหน้านั้นทำให้ร่างกายไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะผลักไสออกไป
หญิงสาวที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้ายเธอกลับมาร่วมงานเลี้ยงประจำปีของครอบครัว ม่านตะวันจำได้ว่าล็อกประตูห้องนอนเรียบร้อยแล้ว แม้จะปรือตาไม่ขึ้นแต่สิ่งที่ทับเธออยู่ตอนนี้ทำให้หัวใจของม่านตะวันสั่นระรัว
“กลับมาที่นี่ในรอบปี…ไม่คิดจะอยู่รอทักทายผัวหน่อยเหรอ?” เป็นเขา…
“ปล่อยม่าน…” ร่างเล็กดิ้นอยู่ในอ้อมกอดและพยายามผลักให้เขาออกไปให้ห่างเธอ
“ทำเหมือนไม่เคยเอากันไปได้…” เสียงทุ้มดังอยู่ใกล้ใบหู ก่อนที่นัยน์ตาสีเข้มจะจ้องมองเธอที่มีอาการตื่นตระหนก
“คุณยศ…” เธอพึมพำชื่อไม่เต็มเสียง และความเจ็บแปลบแล่นขึ้นมาจากช่วงล่างราวกับถูกทิ่มแทง
“ฉันยังไม่ได้เข้าไปเลย…” เขาพูดเสียงเรียบก่อนจะมุดใบหน้าคมคายลงซุกไซ้กับลำคอระหง
“มันเข้าไปไม่ได้…เธอแน่น” เสียงนั้นแผ่วเบาแต่กลับทำให้หัวใจคนฟังสั่นได้
“ได้โปรด...ลุกออกไปเถอะค่ะ” ม่านตะวันใจเต้นระรัวด้วยความหวาดกลัว
“ถ้าไม่ให้ ชีวิตเธอก็จะวุ่นวายไม่จบสิ้น งั้นมาทำเรื่องนี้ให้มันจบ!” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าอารมณ์เต็มไปด้วยความอยากครอบครอง
“ม่านไม่ต้องการแบบนี้…” ม่านตะวันมองเขาอย่างอ้อนวอน
“แล้วมันสำคัญอะไร! ในตอนที่ฉันไม่ต้องการมีใครฟังฉันบ้าง! แล้วตอนนี้ฉันต้องการเอาเธอ! ฉันจะเอาเธอ! กว่าจะโผล่มาให้เห็นหน้า คิดว่าฉันจะปล่อยเธอไปง่าย ๆ หรือไง! ทำหน้าที่บนเตียงให้สมกับบุญคุณที่ฉันช่วยเหลือครอบครัวเธอบ้าง!”
แค่นี้ม่านตะวันเธอสะอึกจนไม่รู้จะปฏิเสธเขายังไงแล้ว หญิงสาวได้แต่กัดเรียวปากก่อนจะหันหน้าหนีเมื่อเขาเคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้
สองมือเธอยกขึ้นดันหน้าอกแกร่ง แต่เพราะเขาตัวหนักมากทั้งยังซุกใบหน้ามาคลอเคลียลำคอไม่ห่าง
“งั้นคุณก็ทำเถอะค่ะ…พรุ่งนี้ม่านก็จะกลับแล้ว” น้ำเสียงของเธอสั่นไปด้วยความเจ็บปวดและความหวาดกลัว
และเพียงคำพูดเดียวของม่านตะวันก็เรียกรอยยิ้มร้ายจากยศชัยได้เป็นอย่างดี
“ฉันทำแน่! และพรุ่งนี้ถ้าฉันตื่นมายังเห็นเธออยู่…” ยศชัยยังพูดไม่ทันจบ
“ม่านจะไปตั้งแต่คืนนี้เลยค่ะ ฮึกกก” แววตาตัดพ้อของคนใต้ร่างไม่ได้ทำให้ยศชัยสงสารเธอแต่อย่างใด
“ก็ดี! ฉันก็ไม่ได้อยากเห็นหน้าเธอ อ้าขาและทำหน้าที่ของเธอให้ดี!” ม่านตะวันหลับตาลงเพื่อปกปิดความเจ็บปวดจากคำพูดของเขาที่แทรกซึมเข้ามาในจิตใจ
มันเจ็บจนต้องระบายความเจ็บปวดเป็นหยาดน้ำอุ่นที่ไหลออกจากดวงตา
“อย่ามาสำออยบีบน้ำตาให้ฉันเห็น!”
มือหนาบีบปากเธอก่อนจะประกบปากจูบดูดดื่มด้วยอารมณ์อัดแน่นที่เก็บกักมานานปี
ร่างเล็กที่กำลังดิ้นรนอยู่ใต้ร่างกลับยิ่งกระตุ้นความต้องการในตัวเขาให้พลุ่งพล่าน ยศชัยไม่คิดว่าสิ่งที่กำลังทำมันผิด เพราะม่านตะวันเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา!
ยศชัยไม่ใช่นักบุญที่จะยอมให้ใครมาปอกลอกโดยที่อีกฝ่ายเชิดหน้าชูคอราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังไม่คิดจะตอบแทนอะไรกันด้วย
เดิมทียศชัยไม่ยินยอมรับงานแต่งงานนี้ แต่เพราะก็ไม่ต้องการให้ธุรกิจที่ครอบครัวเขาเป็นฝ่ายริเริ่มจะต้องตกไปอยู่ในมือคนอื่น เขาก็ต้องรับม่านตะวันไว้!
เพราะหากม่านตะวันต้องแต่งงานเพื่อพยุงธุรกิจนี้ นั่นไม่เท่ากับว่าสิ่งที่ควรเป็นของครอบครัวเขาจะถูกผู้ชายคนอื่นของม่านตะวันเอาไปเหรอ!
การแต่งงานนี้ไม่ใช่เรื่องของความรัก หากแต่เป็นการแลกเปลี่ยน และเป็นการแลกเปลี่ยนด้วยวิธีการที่ทุเรศที่สุดเท่าที่ยศชัยจะคาดคิดว่าม่านตะวันจะกล้าทำกับเขาแบบนั้น!
แล้วไหนจะเรื่องคดีล้มละลายของครอบครัวเธอมาพร้อมหนี้สินที่ท่วมหัว หากเขาไม่ยอมยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ
พ่อของเธอก็คงไม่ได้มีโอกาสนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่คงจะได้นอนอยู่ในคุกแทน!
ยศชัยยอมที่จะช่วยเพราะเห็นแก่มิตรภาพในอดีตระหว่างครอบครัวเธอกับครอบครัวเขา แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมเป็นฝ่ายเสียเปรียบอยู่ฝ่ายเดียวตลอดไป
เงินครอบครัวเขาลงทุนไปตั้งเท่าไหร่ แม้ครอบครัวเธอจะเป็นฝ่ายลงแรง แต่มันก็เจ๊งไม่เป็นท่าไม่ใช่เหรอ
“คุณยศ ม่านเจ็บ…” เสียงเธอสั่นไปด้วยความร้าวระบม
“คุณยศ...เรามาคุยกันก่อนไหมคะ?” ม่านตะวันพยายามจะขอร้อง แต่คำพูดนั้นถูกกลืนหายไปในลมหายใจหนักของเขา
“ฉันไม่เคยเห็นว่าเธออยากจะคุยกับฉันตรงไหน?”
ไม่ว่ากี่ครั้งม่านตะวันก็หนีหน้ายศชัยตลอด
เมื่อคิดถึงตรงนี้เขาก็กอดรัดเธอแน่นขึ้นและบังคับให้เธอยอมรับในการกระทำของเขา
“เอาก่อนค่อยคุย” ดวงตาคมเข้มดุดันช้อนขึ้นมามองเธอ ก่อนจะพยายามจูบปล้ำ
ม่านตะวันเม้มปากและพยายามจับมือหนาที่สอดล้วงเข้ามาสัมผัสความฉ่ำชื้นด้านใน
“อยากให้ฉันย้ายพ่อเธอไปที่อื่นใช่ไหม?” เขาพูดเสียงเรียบแต่เย็นชาอย่างน่ากลัว
“ถ้าไม่อยากให้ฉันใจร้ายก็ทำตัวดี ๆ หน่อย แค่ย้ายพ่อเธอไปอยู่ศูนย์พังพิงแทนห้อง VVIP ในโรงบาลมันง่ายนิดเดียว”
คำพูดนั้นเย็นยะเยือกยิ่งกว่ามีดที่กรีดตรงกลางอกเธอ แรงขัดขืนที่เคยมีก็พลันอ่อนแรงลงทันที
ยศชัยสามารถตัดทุกเส้นทางในชีวิตของม่านตะวันได้เพียงคำพูดประโยคเดียวของเขา
ม่านตะวันหยุดดิ้นและสบตากับดวงตาคมเข้มที่ร้อนแรงราวเปลวไฟ ผิดกับในใจของม่านตะวัน...มีเพียงความเย็นเยือกที่เกาะกุมหัวใจจนจะกลายเป็นน้ำแข็ง
เขาทำได้อย่างที่พูด…เธอรู้ดี
หยดน้ำตาของความเสียใจไหลรินลงมาไม่หยุดราวกับเขื่อนแตก แม้เธอจะพยายามกลั้นมันไว้แล้วก็ตาม
“ยกขาขึ้น! อย่าให้ฉันหมดอารมณ์!”
ม่านตะวันกลั้นเสียงครางเมื่อปลายนิ้วร้ายโจนจ้วงเข้าไปลึก เขาควานล้วงและกระแทกข้อมือเข้าไปในโพรงรักอ่อนนุ่มจนเกิดเสียงน้ำฉ่ำแฉะ
“มีอารมณ์ร่วมหน่อยม่าน ชอบแบบไหนก็บอกฉัน นิ้วหรือลิ้นดี?” เขายิ้มร้ายและกดใบหน้าลงมาถามเสียงเย้า
ม่านตะวันไม่รู้ว่าเธอชอบแบบไหน เพราะไม่ว่าจะลิ้นหรือนิ้วเขาก็ทำให้เธอร้อนวูบไปทั้งร่างได้หมด
สัมผัสจากปลายนิ้วที่จุ่มจ้วงเข้ามา เขาชำแรกมาซ้ำ ๆ และขยับข้อมือกรีดลึกในร่องรักที่อุ่นแน่น ม่านตะวันจิกเกร็งปลายเท้าสะบัดใบหน้าไปมาก่อนที่ความรู้สึกห่างหายจะกลับมาอีกครั้ง
“คะ คุณยศ” เธอเชิดหน้าคำรามครางร้องเรียกชื่อเขา
เพราะปลายลิ้นสากตวัดแตะละเลงขยี้อยู่ตรงจุดอ่อนไหวย้ำ ๆ เขาจับปลายเท้าเธอเหยียบยันกับบ่ากว้าง ก่อนจะกดปากหนาอุ่นวนคลึงกับซอกหลืบและขบเม้มจนส่งเธอสุขสมอีกครั้ง!