เรื่องนั้นวันฝนตก
‘รักแรกของคุณเกิดขึ้นเมื่อไหร่’
สำหรับผมมันเกิดขึ้นตอนม.4 ต้องบอกก่อนว่าผมเรียนชายล้วนมาตลอดแต่ก็ไม่เคยแอบชอบแอบปลื้มใครเพราะก็เห็นๆ กันอยู่ว่าเป็นผู้ชายแถมเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ประถมเห็นหน้าคุ้นตากันมาทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องเป็นเพื่อนเป็นพวกกันทั้งนั้น
ผมมั่นใจว่าผมชอบผู้หญิง
จนกระทั่ง
เขา…
เข้ามาเรียนที่นี่
รุ่นพี่ม.5 นักเรียนทุนกีฬาที่โดดเด่นทั้งหน้าตา ความสามารถและนิสัย เขากลายเป็นที่ชื่นชอบของสาวเรนโบว์ในเวลาอันรวดเร็วด้วยคุณสมบัติทที่ผมกล่าวไปข้างต้น ใครๆ ก็ชมว่าพี่เขาน่ารักอัธยาศัยดีเป็นกันเองเข้าถึงง่ายไม่หยิ่ง ซึ่งมันจริงเพราะผมเห็นพี่เขายิ้มทักทายทุกคนจากความชื่นชมความรู้สึกในใจผมมันก็เปลี่ยนไป
รู้ตัวอีกที
ผมก็ชอบพี่เมฆเข้าแล้ว…
ผมโฉบมาแถวสนานกีฬาบ่อยขึ้นเพียงเพราะต้องการจะเห็นหน้าพี่เขาสักนิดก็ยังดีทำแบบนี้ประจำจนมันกลายเป็นกิจวัตรที่เคยชิน
พี่เขาจะรู้มั้ยนะ…
ว่ามีผมอีกคนนึงที่ชอบเขาเอามากๆ เลยล่ะ…
ผมดองงานพอร์ทไว้หลายวันแล้วครับ
วันนี้เลยหาเรื่องมานั่งแถวสนานกีฬาเช่นเดิม ผมพยายามมองหาพี่เมฆเหมือนเคยขอเห็นหน้าสักนิดก่อนที่ผมจะตั้งใจทำงานส่งอาจารย์แต่ก็ไม่เห็นที่สนานกีฬานั้นไม่มีพี่เมฆอยู่ แม้จะผิดหวังแต่ผมก็ยังนั่งอยู่ที่เดิมหันมาสนใจทำงานส่งดีกว่า ผมเปิดมือถือเสียบหูฟังเชื่อมต่อสัญญาณเพื่อฟังเพลงออนไลน์
“*&%&+*#@”
เสียงหนึ่งดังแว่วแทรกเข้ามาในเสียงเพลงผมไม่รู้ว่ามันคือเสียงอะไรคิดเอาเองว่าสัญญาณเน็ตผมมันคงกระตุก
“นี่…”
“เฮ้ย!” ผมตกใจที่มีคนอยู่ข้างหลังผมแถมเขายังดึงหูฟังผมออก
“ตกใจเหรอ? ...โทษทีคุยด้วยแล้วนายไม่ตอบก็คิดอยู่ว่าไม่น่าจะได้ยิน” เขายิ้มให้ผมเป็นรอยยิ้มที่คุ้นเคยและไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสได้รับ
“พะ…พี่เมฆ…” ผมเรียกชื่อพี่เขา
ใช่ครับ…
พี่เมฆคนที่ผมกำลังแอบชอบเขาอยู่นั่นแหล่ะ
ว่าแต่…
เขามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงกันล่ะเนี่ย…
ใจผมเต้นแรงขึ้นมาในทันที
“รู้จักชื่อฉันด้วยเหรอ? ...เรียกพี่…นายอยู่ม.4สินะ” พี่เขาก้มมองดาวใต้เข็มกลัดเสื้อของผม
“ครับ” ผมพยักหน้าหลบสายตาไม่กล้ามองเขาตรงๆ
เขินครับ…
ตอนนั้นใจผมเต้นแรงมากไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้คุยกับพี่เขาใกล้ขนาดนี้
“ว่าไงนายยังไม่ตอบเลยว่ารู้จักฉัน”
“พี่ออกจะดัง” ผมขยับออกห่างหยิบสายหูฟังที่ร่วงอยู่ขึ้นมาใส่หูอีกครั้ง
” เดี๋ยวสิ!” พี่เมฆจับมือผม
“มะ…มีอะไรครับ” ผมตกใจสายตาเอาแต่จ้องมือเขาที่จับมือผมอยู่
ดูเหมือนเขาจะไม่ได้คิดอะไรแต่ตอนนั้นผมคิดไปไกลแล้วนะครับ
“นาย…รู้จักกับเคใช่มั้ยฉันเห็นนายอยู่กับเคบ่อยๆ”
“นั่นพี่ชายผม” ผมตอบพี่เขาพร้อมกับดึงมือออก
“เหรอ…ฉันเป็นเพื่อนเคนะ” เหมือนกับพี่เขาจะแนะนำตัว
“ครับ” ผมพยักหน้าไม่รู้จะพูดอะไรต่อ
พี่ผมเป็นคนเก่ง เรียนเก่ง เป็นประธานนักเรียน ประธานชมรมก็ไม่แปลกที่เขาจะมีเพื่อนเยอะ
ผมได้แต่ภาวนาในใจขอให้เขาเลิกวุ่นวายกับผมแม้จะเคยเพ้อว่าตัวเองมีโอกาสอยู่กับพี่เมฆตามลำพังแต่พออยู่ด้วยกันจริงๆ แล้วผมอึดอัด ทั้งเขิน ทั้งตื่นเต้นไม่เป็นตัวของตัวเองเลยสักนิด
“งั้น…ไว้ค่อยคุยกันนะฉันคงมารบกวนเวลานาย” พี่เมฆยิ้มให้แล้วก็โดดข้ามพุ่มไม้หายไป
จะไปยังเท่ห์…
ผมเผลอยิ้มรู้สึกดีใจที่ได้คุยกับพี่เขาแถมเป็นฝ่ายถูกทักก่อนด้วย
ทำไงดีผมหุบยิ้มไม่ได้…
โอ๊ยยยย…
ปลื้มมมม…
หลังจากวันนั้นก็มีโอกาศใกล้ชิดพี่เขามากขึ้นผลอานิจสงฆ์จากการที่เมฆเริ่มสนิทกับพี่เคพี่ชายผมมากขึ้น
ผมเจอพี่เคที่ไหนก็ต้องเจอพี่เมฆอยู่ข้างๆ ด้วยตลอด ตอนแรกก็โลกสวยหลงอยู่ในดงมโนมีความสุขมากที่พี่เขายิ้มให้และคุยด้วย แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป
สติ…
ก็บอกให้ผมวิเคราะห์ไตร่ตรอง ดูเหมือนพวกเขาจะสนิทกันมากเลยนะเพื่อนที่ไหนจะตัวติดกันขนาดนี้เรียนห้องเดียวก็ไม่ได้เรียน เป็นคณะกรรมการนักเรียนก็ไม่ได้เป็น อยู่ชมรมเดียวกันก็ไม่ใช่
สนิทกันมากแค่ไหน
สนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่
สนิทกันแบบนี้มันมีอะไรพิเศษมั้ย
หลายคำถามผุดขึ้นในหัวแต่ผมก็ไม่กล้าถามออกไปตรงๆ เลยต้องเก็บความสงสัยไว้กับตัวต่อไปและพยายามคิดบวกมองแต่ข้อดีว่านี่มันคือผลพลอยได้ที่พี่ทั้งสองคนเขาสนิทกัน
เลิกเรียนวันนี้ผมกลับบ้านเลยไม่ได้แวะที่ไหน ช่วงนี้ฝนตกบ่อยจนผมรู้สึกขี้เกียจอยากนอนโง่ๆ ฟังเสียงฝนสักสามสี่วัน
ผมเปิดประตูเข้ามาในบ้านไม่ได้คิดอะไรไม่ได้มองอะไรเลยด้วย
“ไง…”
เสียงคุ้นๆ นะ…
ผมหันไปมองตามเสียงก็พบว่าเสียงที่คุ้นๆ นั้นมันคือเสียงพี่เมฆ
“พะ…พี่เมฆ”
นี่เขาเข้ามานั่งอยู่ในบ้านผมได้ยังไง ผมมองซ้ายมองขวาหาพี่ชาย
” เป็นไรทำไมนายทำหน้าแบบนั้นล่ะ?” พี่เมฆกึ่งยิ้มกึ่งหัวเราะมองผม
ผมไม่รู้นะว่าตัวเองเผลอทำหน้าแบบไหนออกไปแต่ตอนนี้อยู่ตรงนี้ไม่ได้แล้วล่ะครับ
“เปล่าครับ!” ด้วยความเขินปนตกใจปนสับสนผมเลยแค่ยิ้มแล้วก็เดินขึ้นห้องไปทันที
ทำไมวันนี้ถึงมาบ้านผมได้ล่ะร้อยวันพันปีไม่ยักกะมา
ผมเอาแต่เดินวนไปวนมาในห้อง
นี่ผมจะตื่นเต้นอะไรนักหนาพี่เขามากับพี่เคไม่ได้ตั้งใจมาหาผมสักหน่อย…
เมื่อกี้ผมจะเสียมารยาทเกินไปรึเปล่านะ? ...
ผมควรลงไปใหม่ชวนพี่เขาคุยอีกครั้งดีมั้ย? ...
เขาจะมองว่าผมหยิ่งรึเปล่านะ? ...
คิดหาเรื่องที่จะได้ลงไปเจอหน้าพี่เขาอีกครั้ง
นี่ผมเป็นบ้าอะไร
การที่ผมชอบใครสักคนมันทำให้ผมสูญเสียตัวตนได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ?
คำตอบคือ…
ใช่…
เพราะผมตัดสินใจเดินลงไปข้างล่างอีกครั้งกินน้ำก็ได้อ่ะ
เสียงหัวเราะพูดคุยดังมาแต่ไกล ผมเดินลงมากินน้ำเงียบๆ สายตาก็มองจ้องไปที่พี่ทั้งสองคนตลอด เขากำลังนั่งเล่นเกมส์กันไม่มีใครสนใจผมเลยสักนิดนอกจาก…
เขาแกล้งกัน
หัวเราะให้กัน
ด่ากัน
และ…
หยอกกัน
ความรู้สึกของคำว่าหยอกมันกระทบใจผม
เป็นเพื่อนกันแม่งต้องจี๋เอวใส่กันด้วยเหรอวะ?
ผมยังไม่เคยจี๋เพื่อนแบบนี้เลยนะสาบาน
เริ่มหงุดหงิดแล้วครับ
เริ่มไม่เข้าใจว่าเขาสองคนมีอะไรพิเศษระหว่างกันหรือเปล่า
ผมกลับขึ้นห้องไปด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยว มันสับสนว้าวุ่นกังวลใจพยายามจับต้นชนปลายทุกอย่างขมวดปมเข้าหากัน
พี่ผมมีแฟนแล้ว
ผมเคยเห็นผ่านๆ และที่สำคัญเธอคนนั้นเป็นผู้หญิง
เพื่อน…
ผมพูดปลอบใจตัวเองว่าเป็นผมที่คิดมากไปเองเท่านั้น
เปรี้ยง!!!
เสียงฟ้าผ่าที่ดังก้องดึงผมให้ลืมตาตื่น ผมหลับไปตั้งแต่ตอนไหนเสียงฝนเสียงฟ้าทำให้ผมต้องรีบปิดหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้
เปรี้ยง!!!
พรึบ!!!
ทุกสิ่งรอบตัวตกอยู่ในความมืด ลมฝนแรงคงทำให้ไฟดับ หยิบมือถือมาดูก็พบว่ามันพึ่งจะสองทุ่ม
‘ป่านนี้แขกคนสำคัญจะกลับไปหรือยังนะ’
ผมไม่ได้แค่คิดในใจเพราะความสงสัยเลยถือไฟฉายเดินลงไปข้างล่าง
แสงสว่างวูบวาบจากบนฟ้าที่กระพริบเข้ามาในจังหวะที่ไม่เท่ากันแต่ก็ทำให้ผมเห็นว่าพี่เมฆยังนั่งอยู่ที่โซฟาตัวเดิม
“พี่เมฆ…” ผมเดินฉายไฟเข้าไปใกล้ พี่เมฆหันมามองผมและยิ้มให้อีกครั้งด้วยรอยยิ้มแบบเดิม
ไฟดับขนาดนี้ยังมีหน้ามายิ้มใส่กันอีกนะ
ผมเห็นแค่พี่เมฆคนเดียวแล้วนี่พี่เคไปไหนล่ะ?
“ทำไมยังนั่งอยู่ตรงนี้ล่ะครับพี่เคล่ะ”
“เคออกไปซื้อข้าวข้างนอกน่ะแต่สงสัยคงจะติดฝน” พี่เมฆอธิบาย
“งั้นเดี๋ยวผมไปหยิบไฟฉายให้นะครับหิวรึเปล่าให้ทำอะไรให้กินมั้ย?”
“เดี๋ยว! ...คิน” พี่เมฆดึงแขนผมไว้
“มีอะไรครับ”
“นั่งตรงนี้แหล่ะอยู่เป็นเพื่อนกันก่อน” พูดจบพี่เมฆก็ดึงผมให้นั่งลงข้างตัว
ผมวางไฟฉานบนโต๊ะนั่งนิ่งๆ ไม่กล้าขยับและไม่รู้ด้วยว่าควรจะพูดอะไรกับพี่เขาดีมั้ย
ความอึดอัดปนประหม่าตื่นเต้นทำให้ผมได้แต่เบือนหน้าออกไปมองฝนเม็ดหนาที่นอกหน้าต่าง
“เมื่อไหร่จะหยุดวะ!” ผมพูดกับตัวเองเพราะรู้สึกว่าอีกนานกว่าฝนจะซาและไฟจะมาได้
“ไม่ได้คุยกันเลยนะ” พี่เมฆชวนคุย
“อะไรนะครับ” ผมยื่นหูเข้าไปใกล้อย่างลืมตัวเพราะได้ยินประโยคเมื่อกี้ของพี่เมฆไม่ชัดเจนเท่าไหร่
“คิน…” เสียงพี่เมฆอยู่ใกล้ผมมาก
“ครับ” ผมหันหน้าไปมองพี่เมฆรู้สึกได้ว่าเสียงเขามันใกล้ผมเอามากๆ
นั่นเพราะตัวผมนั้นมันเผลอขยับเข้ามาใกล้พี่เขามากจนเกินไปนั่นเอง
เขาคงอึดอัด
เมื่อคิดได้แบบนั้นผมก็รีบขยับออก
แต่…
พี่เมฆดันดึงผมไว้ด้วยการโอบไหล่ให้ตัวผมโน้มเข้าไปใกล้เขาดังเก่า
ผมไม่เข้าใจว่าเขาโอบผมทำไม
กำลังจะทำอะไร
ต้องการอะไรจากผมกันแน่
อย่าบอกนะที่ทำตัวแปลกๆ เพราะว่ากลัวฟ้า
“หอมดีนะ”
“อะไรค…ครับ?” ผมไม่เข้าใจที่พี่เมฆพูด
“ตัวนาย…” พี่เมฆยิ้ม
“พี่พูดไรเนี่ย!” ผมทำเป็นหัวเสียรีบดันตัวออกแต่ในใจคืออยากจะร้องออกมาให้ดังๆ
เชี่ย! ...
นี่มันอะไรกันวะอยู่ๆ ก็มาชมว่าผมตัวหอม…
“คิดว่าเราจะสนิทกันมากกว่านี้ซะอีก…แต่ดูเหมือนนายจะชอบหลบหน้าฉันนะ”
“เปล่า!” ผมเถียงทันที
“งั้นก็นั่งอยู่แบบนี้ห้ามไปไหน” พี่เมฆโอบไหล่ผมอีกครั้ง
“พี่จะมาโอบผมทำไมเนี่ย…มันอึดอัด” ผมปัดมือพี่เมฆออกหันไปมองอย่างไม่เข้าใจ
“ฉันก็อึดอัด! ...”
“งั้นก็ปล่อยผมดิจะมาโอบทำไม”
“ไม่ใช่แบบนั้นนายไม่เข้าใจ” พี่เมฆถอนหายใจใส่ผม
“พี่เมฆจะพูดอะไร? ...พี่แม่งพูดมาเลยดีกว่าผมเริ่มไม่โอเคละ”
“ทำมากกว่านี้ได้มั้ยล่ะฉันอยากทำมากกว่านี้”
“ทำอะไรพี่?”
งงครับ??? ...
“ฉันอยากกอดนาย” พูดจบเขาก็คว้าตัวผมเข้าไปกอดอย่างที่พูดไว้จริงๆ
เฮ้ย!!! ...เชี่ยยยย!!!!!
“ไอ้พี่เมฆ!” ผมพยายามดันตัวเองออกรู้สึกสับสนไม่เข้าใจสิ่งที่พี่เขาแสดงออกสักนิด
ไม่เข้าใจ!
ตื่นเต้นตกใจ!
ความรู้สึกมากมายตีกันไปหมดไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าอ้อมกอดนี้มีอะไรพิเศษสำหรับผม
“ฉันอยากรู้จักนาย…ยิ่งเห็นหน้ากันบ่อยๆ ฉันก็ยิ่งอยากทำแบบนี้กับนาย”
“ด…เดี๋ยวพี่เมฆ!”
“มันเรียกว่าอะไรนายตอบฉันที”
“ไม่รู้…ปล่อยผมก่อน!”
พี่เมฆไม่ปล่อยแถมยังซุกหน้าซบลงมาตรงไหล่ผมอีก
นี่มันอะไรกันวะ?
“ปล่อย! ...เดี๋ยวพี่เคกลับมาเห็น!” ผมขยับตัวหนี
“เคยังไม่กลับ…เราอยู่กันแค่สองคน” พี่เมฆก็ยังดึงผมไว้เหมือนเก่า
“แล้วไงมันก็ไม่ใช่เหตุผลที่พี่ต้องมากอดผมป่ะวะ” ผมดันตัวพี่เขาออกจ้องหน้าอย่างไม่เข้าใจ
พี่เขาเป็นอะไร?
อยู่ๆ ก็มากอดแถมพูดอะไรแปลกๆ ทั้งที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาก็แค่ยิ้มให้พูดคุยเรื่องทั่วไปไม่เห็นจะสนใจอะไรผมสักนิด
“พูดไปตั้งเยอะนายไม่เข้าใจเหรอ?”
“ไม่เข้าใจ…โคตรไม่เข้าใจเลยมีอะไรก็พูดมาตรงๆ ผมไม่ใช่คนเข้าใจอะไรง่ายๆ หรอกนะถ้าพี่ไม่พูดอ่ะ”
“ฉันอยากสนิทกับนายมากกว่านี้มากกว่าคนรู้จัก มากกว่าพี่น้อง อยากจับมือ อยากโอบ อยากกอด อยากหอม แล้วก็อยากกกก…”
“เชี่ย! ไอ้พี่เมฆ” ผมผลักพี่เขาออกเพราะเขาแสดงออกทุกอย่างตามที่พูดเลยครับ
อยากจับมือเขาก็จับมือผม
อยากโอบเขาก็โอบผม
อยากกอดเขาก็กอดผม
อยากหอมเขาก็…หอมผม
แม้สิ่งที่ผมแสดงออกคือความไม่พอใจแต่ข้างในใจคือมันดีใจสุดๆ ตื่นเต้นแล้วก็ร้อนวูบไปทั้งตัวกับสัมผัสของพี่เขา
“ฉันต้องการนายมากๆ ในตอนนี้” พี่เมฆดันผมลงไปนอนก่อนจะโถมตัวเข้ามาหา
“อย่า!” ผมดันหน้าอกพี่เขาไว้ในใจก็ยังคงสับสนปนระแวงสงสัย
สรุปคือพี่เขาก็ชอบผมเหมือนกับที่ผมก็ชอบเขาอย่างนั้นเหรอ
แม่ง…
ใช่เหรอ? ...
ผมจ้องพี่เมฆตรงๆ พยายามมองฝ่าความมืดเข้าไปในดวงตาเขาเพื่อหาคำตอบ
ทำไมถึงพึ่งมาบอกเอาตอนนี้วะ!
ผมอยากจะถามเขาดังๆ
“โมโหอะไร?”
“เปล่า!” ผมหลบตาเบือนหน้าหนี
“นายย่นคิ้วใส่ฉัน” พี่เมฆจิ้มหว่างคิ้วผม
“รู้ดีจังนะ” ผมแขวะ
“ฉันยังรู้เรื่องนายอีกหลายอย่างนะแต่ตอนนี้ขอจูบได้รึเปล่า
“ไอ้พี่เมฆ!”
“จูบ…แค่จูบจริงๆ …”
“ไม่ให้!”
“งั้นต่อไปจะไม่ขอแล้วนะ”