สถานะ

1708 คำ
สถานะ ผมขึ้นม.5แล้วนะครับชีวิตก็ดีมีความสุขมากครับ ส่วนเรื่องผมกับพี่เมฆก็… คบกันห้าเดือนกว่าๆ ได้… แม้จะเป็นเรื่องที่ผมกับพี่เมฆรู้กันอยู่แค่สองคนก็เถอะ เราไม่ได้ตกลงกันว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับแต่อย่างใดแต่เพราะไม่มีใครถามและผมก็ไม่ใช่พวกที่ชอบป่าวประกาศว่าตัวเองมีแฟน มันก็เลยเป็นการคบกันแบบเงียบๆ ไปโดยปริยาย แม้แต่พี่เคก็ยังไม่รู้เลยอ่ะ ผมไม่ได้เจอหน้าพี่เมฆบ่อยเหมือนก่อนเพราะไหนพี่เขาจะซ้อมไหนจะเรียน พี่เขาสารภาพว่าความจริงพี่เขาไม่ค่อยมีเวลาแต่ที่ผมเจอหน้าพี่เขาบ่อยๆ เพราะเขาโดดซ้อมเพื่อจะได้เจอหน้าผม ฟังครั้งแรกก็อยากจะอ้วกนะรู้สึกเหมือนเขาพูดเพื่อเอาใจผมไปอย่างนั้นเอง แต่คบกันไปนานๆ ก็รู้ว่าพี่เขาไม่ว่างจริงๆ เหมือนเมื่อก่อนที่ผมจะเจอเขาได้ที่สนามกีฬาเท่านั้น “เบื่อรึเปล่า” พี่เมฆถามเมื่อผมมานั่งรอเขาซ้อม ผมส่ายหน้า “กินน้ำมั้ยหิวรึเปล่า” พี่เขาจิบน้ำเกลือแร่แต่ปากก็เอาแต่ถามผมด้วยความเป็นห่วง เห็นผมทำหน้านิ่งๆ พี่เขาคงคิดว่าผมเบื่อสินะ “ผมโอเค” “งั้นซ้อมเสร็จไปกินข้าวกันนะวันนี้คินอยากกินไรล่ะ” “อะไรก็ได้” “โอเคงั้น…รอแป๊ปนะ” พี่เมฆยิ้มลูบหัวผมก่อนจะวิ่งกลับลงสนามไป ร้านบะหมี่ข้างทาง ผมสั่งบะหมี่น้ำมาทานพอพนักงานยกมาเสิร์ฟพี่เมฆก็จัดแจงใส่น้ำปลาน้ำส้มและพริกให้เรียบร้อย เดี๋ยวนี้ผมไม่ต้องปรุงเองครับพี่เมฆจะเป็นคนปรุงให้ไม่ว่าจะกินอะไรก็ตาม ปรุงในสูตรของผมที่ไม่ใส่น้ำตาลเพราะผมไม่กินหวาน วางช้อนกับตะเกียบยกชามบะหมี่มาวางตรงหน้าผมพร้อมกับยิ้มบางๆ เท่านั้นยังไม่พอเปิดน้ำเปล่าที่ซื้อมาเสียบหลอดเรียบร้อยวางข้างชามบะหมี่ให้ผมก่อนจะก้มหน้ากินแบบหิวโหย ผมยิ้มแล้วก็กินบะหมี่ของตัวเอง เขาเอาใจผมทุกอย่างรู้ว่าผมชอบอะไรกินแบบไหนพี่เขาก็ทำให้โดยที่ผมไม่ได้ร้องขอ รู้ว่าผมไม่กินน้ำร่วมกับคนอื่นจะกินอาหารร้านไหนก็ตามที่มีน้ำฟรีผมไม่เคยกินต้องไปซื้อน้ำมาเองทุกครั้งพอสังเกตบ่อยเข้าพี่เขาก็เป็นคนซื้อให้ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงตัวเล็กที่บอบบางน่าทะนุถนอมเลยทีเดียว แค่นี้ผมก็ละลายไปไหนจากพี่เขาไม่ได้แล้วครับ ผมรู้สึกว่าตัวผมเองหลงรักเขามากขึ้นทุกวันจากการกระทำที่ดูแลใส่ใจของเขา “วันอาทิตย์นี้มาที่หอพี่นะ” พี่เมฆพูดขึ้นขณะเดินไปส่งผมที่บ้าน “ห๊ะ!” ผมหน้าแดงมองหน้าพี่เมฆแบบอายๆ “อยากอยู่กันสองคนบ้าง…คิดถึง” พี่เมฆกระซิบคำท้าย ด้วยความเขินอายรู้ว่าพี่เขาหมายถึงอะไรก็เลยทุบแขนไปหนึ่งที ทะลึ่งดีนัก เราไม่ได้ทำกันนานมากแล้วครับ… ตั้งแต่วันที่ฝนตกไฟดับครั้งนั้นเราก็ไม่ได้มีอะไรกันอีกเลย อย่างมากก็แค่จูบไม่ใช่ไม่อยากนะครับแต่เพราะพี่เขาไม่ว่างและอะไรหลายๆ อย่างไม่ลงตัว ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาพี่เขาก็เข้าค่ายแคมปัสไม่ได้เจอกันเลย ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าผมจะคบกับพี่เขามาได้นานขนาดนี้… แค่คิดผมก็เขินขึ้นมาแล้วสิแต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกันพี่เขาจะได้ไม่มองว่าผมเป็นพวกใจง่ายเพราะผมมีอะไรกันตั้งแต่วันแรกก่อนที่จะตกลงคบกันเสียอีก “คิน…” “ครับ” ผมหันไปมองพี่เมฆ “จะถึงบ้านแล้ว…จูบได้มั้ย” “พี่เมฆ…ใครเขาถามกันห๊ะบอกแล้วว่ามันเขิน” ผมทุบแขนพี่เขาเบาๆ พี่เมฆยิ้มจับมือข้างที่ผมทุบแล้วดึงตัวผมเข้าไปกอด “พี่นัดเคไว้…ขอชื่นใจก่อนนะ” มือหนาสอดเข้ามาจับตรงท้ายทอยล็อคให้หน้าผมเงยขึ้นไปรับสัมผัสจากลิ้นร้อนอันหวานฉ่ำหื่นกระหายที่แทรกเข้ามาในปากผม เร่าร้อน อ่อนหวาน รุนแรง หนักสลับเบาพี่เมฆกำลังต้อนผมให้จนมุมจูบประหนึ่งจะสูบวิญญาณผมออกไปจากร่าง ปลายลิ้นหวานเลียไล้ริมฝีปากผมรอยยิ้มบางปรากฎขึ้นเล็กๆ ตรงมุมปากหนาก่อนจะบดขยี้ลงมาหาผมอย่างรุนแรง ลิ้นร้อนแทรกกลับเข้ามาในปากผมอีกครั้งเกี่ยวตวัดดันดุนต้อนผมจนสิ้นท่า ผมโหยหาสัมผัสรักจากเขา… ปากหนาผละออกช้าๆ ก่อนจะโฉบเข้าหาดังเก่าพี่เมฆขบดูดบดขยี้ริมฝีปากหนาลงมาบนปากบางของผมอีกครั้งเขาดูดตอดปากล่างของผมอย่างแรงจนรู้สึกได้ว่ามันบวมขึ้น ละเลียดเลียไล้ไปทั่วปากล่างก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปตามร่องปากและบดดูดอย่างแรง มันหนักหน่วงเนินนานจนผมทรมานปานจะสิ้นใจ “อื้อออ…” ผมส่งเสียงประท้วงทุบไหล่พี่เขาไปหลายทีกว่าที่พี่เมฆจะยอมปล่อย ผมหายใจเหนื่อยหอบด้วยสูบเสียอากาศในปอดเป็นเวลานาน มือหนาของนักกีฬาเกลี่ยไล้ปากบางที่บวมเจ่อของผมพลางยิ้มชอบใจ “แกล้งเหรอครับ” ผมทำตาดุใส่ “ทำให้หลงต่างหาก…คินจะได้ไม่ทิ้งพี่ไปไหน” “บ้า!” ผมฟาดกระเป๋าใส่พี่เมฆเต็มแรงก่อนจะเดินหนีไป “คิน…” พี่เมฆเดินตามผมมา จะไล่ให้กลับไปก็ไม่ได้เพราะเขานัดกับพี่ชายผมไว้ ผมเลยตัดสินใจก้าวยาวๆ เดินหนีเขาเข้าบ้านมาก่อน “อ้าว…นึกว่านายกลับมาแล้วซะอีก” พี่เคมองผมที่เปิดประตูเข้ามา “ทำงานกลุ่มน่ะ” ผมโกหก “เป็นอะไรทำไมทำหน้าแบบนั้น” “เปล่าผมขึ้นห้องนะ” ผมรีบเดินขึ้นบันไดไม่นานก็ได้ยินเสียงพี่เมฆในบ้านแต่ผมไม่สนใจเขาแล้วล่ะ ‘นอนรึยัง…พี่กลับแล้วนะ’ ‘ฝันดีนะครับ’ ผมอ่านข้อความที่ส่งมาเกือบเที่ยงคืน “ทำอะไรกันอยู่ถึงได้กลับเอาป่านนี้” ผมบ่นก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดม่านเห็นพี่เมฆเดินอยู่กลางซอย ผมเองก็นอนหลับๆ ตื่นๆ ครับเพราะกำลังรอแชทจากพี่เขาอยู่ มันเคยชิน… เพราะพี่เขาส่งหาผมทุกคืนนี่นา ผมกลับมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงดังเก่า               ‘กลับบ้านดีๆ นะครับ’ ‘ดีใจจังมีคนเป็นห่วง’                        ‘จะอ้วก’ ‘แล้วชอบมั้ยล่ะ’ ผมไม่ตอบได้แต่นอนใจเต้นโครมครามอยู่คนเดียว วันอาทิตย์ หอนักกีฬาทุน “รกหน่อยนะ” พี่เมฆหันมาบอกผมก่อนจะวางของกินที่ซื้อติดมือมาบนโต๊ะ ห้องพี่เขาก็ไม่ได้รกอะไรเลยครับของในห้องก็ไม่เยอะห้องเรียบๆ โล่งๆ มีแต่รูปนักกีฬาที่ติดเต็มหัวเตียงเท่านั้น ผมไม่เคยได้ถามถึงความชอบความสนใจของพี่เขาเท่าไหร่แต่พอได้มาที่ห้องก็รู้ว่าเขาจริงจังและสนใจเรื่องกีฬามากจริงๆ “พี่เมฆจะเรียนต่อมั้ยครับ” ผมละสายตาจากรูปนักกีฬาหันไปมองพี่เขา “ทำไมเหรอ?” “ก็บางคนจบม.6ก็ถูกจับเซ็นสัญญากลายเป็นนักกีฬาอาชีพ” “พี่ไม่ได้อยากเป็นนักกีฬาอาชีพหรอกแค่อาศัยเป็นต้นทุนผลักดันชีวิตให้ดีขึ้น…นี่ก็พึ่งยื่นทุนกีฬาที่ม.xxxไป” “เหรอครับ…คิดว่าพี่เมฆอยากเป็นนักกีฬาอาชีพซะอีก” “เงินมันดีก็จริงนะแต่พี่รู้สึกว่ามันไม่มั่นคงช่วงอาขีพสั้นถ้าเจ็บเรื้อรังก็จบแล้วถึงตอนนั้นจะทำอะไรกินล่ะเรียนก็จบแค่ม.6เงินเก็บก็มีไม่มากบ้านกับรถก็ยังผ่อนไม่หมดพ่อแม่ก็ไม่มีแบบคนอื่นเขา” “โห…คิดไกลขนาดนั้นเลยเหรอครับ” “พี่เป็นเด็กกำพร้านะคิน…เพราะงั้นเรื่องอนาคตปากท้องก็ต้องคิดไกลๆ” อีกเรื่องดราม่าในชีวิตของพี่เมฆครับ พี่เขาโตมากับหลวงลุงเป็นเด็กวัดปากกัดตีนถีบแต่เด็กเพราะกีฬาถึงทำให้ชีวิตพี่เขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ผมสงสารพี่เขาจังครับ…แม้ผมเองจะไม่เคยอินกับเรื่องนี้ของคนอื่นเลยก็ตาม แต่อาจเป็นเพราะผมก็โดดเดี่ยวเหมือนกัน มันไม่ได้เศร้าขนาดชีวิตที่เมฆหรอกนะครับ ที่ผมต้องอยู่บ้านหลังใหญ่กันสองคนพี่น้องเพราะพ่อแม่ทำงานอยู่เมืองนอกผมคิดถึงพวกเขาอยากเจอพวกเขาแต่ก็ไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายปีแล้ว มีแต่อาหมูน้องชายพ่อที่แวะมาดูพวกผมบ้างเป็นครั้งคราว มีป้าติ๋วแม่บ้านประจำที่แม่จ้างไว้คอยดูแลความสะอาดหุงหาอาหารให้กิน “ขอโทษนะครับถ้าทำให้พี่เมฆรู้สึกไม่ดี” ผมกอดพี่เมฆเอาไว้ต้องการจะบอกเขาว่าถึงแม้จะไม่มีใครแต่พี่เขายังมีผมอยู่ “พี่ไม่เป็นไร” พี่เมฆกอดผมตอบ “ทำได้รึเปล่า” “พี่เมฆ!” ผมเงยหน้าขึ้นไปทำตาดุใส่ในขณะที่พี่เขาหัวเราะชอบใจ จากเรื่องดราม่าเปลี่ยนมาเป็นอีโรติค18+อย่างรวดเร็ว “มันติดเป็นนิสัยน่ะอยากได้อะไรต้องขอก่อน” “แต่ผมก็เคยบอกไปแล้วว่าเขินนี่!” “งั้นทำนะ…” “ยังอีก!” ผมทำเสียงจิ๊จ๊ะ พี่เมฆหัวเราะแต่ก็ก้มลงมาหอมแก้มผมเบาๆ “ไม่พูดแล้วสัญญา” เสียงพี่เมฆกระซิบอยู่ข้างหู จมูกโด่งไซร้จากข้างแก้มต่ำลงไปตรงซอกคอ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม