สถานะ
ผมขึ้นม.5แล้วนะครับชีวิตก็ดีมีความสุขมากครับ
ส่วนเรื่องผมกับพี่เมฆก็…
คบกันห้าเดือนกว่าๆ ได้…
แม้จะเป็นเรื่องที่ผมกับพี่เมฆรู้กันอยู่แค่สองคนก็เถอะ เราไม่ได้ตกลงกันว่าจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับแต่อย่างใดแต่เพราะไม่มีใครถามและผมก็ไม่ใช่พวกที่ชอบป่าวประกาศว่าตัวเองมีแฟน มันก็เลยเป็นการคบกันแบบเงียบๆ ไปโดยปริยาย
แม้แต่พี่เคก็ยังไม่รู้เลยอ่ะ ผมไม่ได้เจอหน้าพี่เมฆบ่อยเหมือนก่อนเพราะไหนพี่เขาจะซ้อมไหนจะเรียน
พี่เขาสารภาพว่าความจริงพี่เขาไม่ค่อยมีเวลาแต่ที่ผมเจอหน้าพี่เขาบ่อยๆ เพราะเขาโดดซ้อมเพื่อจะได้เจอหน้าผม
ฟังครั้งแรกก็อยากจะอ้วกนะรู้สึกเหมือนเขาพูดเพื่อเอาใจผมไปอย่างนั้นเอง แต่คบกันไปนานๆ ก็รู้ว่าพี่เขาไม่ว่างจริงๆ เหมือนเมื่อก่อนที่ผมจะเจอเขาได้ที่สนามกีฬาเท่านั้น
“เบื่อรึเปล่า” พี่เมฆถามเมื่อผมมานั่งรอเขาซ้อม ผมส่ายหน้า “กินน้ำมั้ยหิวรึเปล่า” พี่เขาจิบน้ำเกลือแร่แต่ปากก็เอาแต่ถามผมด้วยความเป็นห่วง
เห็นผมทำหน้านิ่งๆ พี่เขาคงคิดว่าผมเบื่อสินะ
“ผมโอเค”
“งั้นซ้อมเสร็จไปกินข้าวกันนะวันนี้คินอยากกินไรล่ะ”
“อะไรก็ได้”
“โอเคงั้น…รอแป๊ปนะ” พี่เมฆยิ้มลูบหัวผมก่อนจะวิ่งกลับลงสนามไป
ร้านบะหมี่ข้างทาง
ผมสั่งบะหมี่น้ำมาทานพอพนักงานยกมาเสิร์ฟพี่เมฆก็จัดแจงใส่น้ำปลาน้ำส้มและพริกให้เรียบร้อย
เดี๋ยวนี้ผมไม่ต้องปรุงเองครับพี่เมฆจะเป็นคนปรุงให้ไม่ว่าจะกินอะไรก็ตาม ปรุงในสูตรของผมที่ไม่ใส่น้ำตาลเพราะผมไม่กินหวาน วางช้อนกับตะเกียบยกชามบะหมี่มาวางตรงหน้าผมพร้อมกับยิ้มบางๆ เท่านั้นยังไม่พอเปิดน้ำเปล่าที่ซื้อมาเสียบหลอดเรียบร้อยวางข้างชามบะหมี่ให้ผมก่อนจะก้มหน้ากินแบบหิวโหย
ผมยิ้มแล้วก็กินบะหมี่ของตัวเอง
เขาเอาใจผมทุกอย่างรู้ว่าผมชอบอะไรกินแบบไหนพี่เขาก็ทำให้โดยที่ผมไม่ได้ร้องขอ
รู้ว่าผมไม่กินน้ำร่วมกับคนอื่นจะกินอาหารร้านไหนก็ตามที่มีน้ำฟรีผมไม่เคยกินต้องไปซื้อน้ำมาเองทุกครั้งพอสังเกตบ่อยเข้าพี่เขาก็เป็นคนซื้อให้
รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้หญิงตัวเล็กที่บอบบางน่าทะนุถนอมเลยทีเดียว
แค่นี้ผมก็ละลายไปไหนจากพี่เขาไม่ได้แล้วครับ ผมรู้สึกว่าตัวผมเองหลงรักเขามากขึ้นทุกวันจากการกระทำที่ดูแลใส่ใจของเขา
“วันอาทิตย์นี้มาที่หอพี่นะ” พี่เมฆพูดขึ้นขณะเดินไปส่งผมที่บ้าน
“ห๊ะ!” ผมหน้าแดงมองหน้าพี่เมฆแบบอายๆ
“อยากอยู่กันสองคนบ้าง…คิดถึง” พี่เมฆกระซิบคำท้าย
ด้วยความเขินอายรู้ว่าพี่เขาหมายถึงอะไรก็เลยทุบแขนไปหนึ่งที
ทะลึ่งดีนัก
เราไม่ได้ทำกันนานมากแล้วครับ… ตั้งแต่วันที่ฝนตกไฟดับครั้งนั้นเราก็ไม่ได้มีอะไรกันอีกเลย อย่างมากก็แค่จูบไม่ใช่ไม่อยากนะครับแต่เพราะพี่เขาไม่ว่างและอะไรหลายๆ อย่างไม่ลงตัว
ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมาพี่เขาก็เข้าค่ายแคมปัสไม่ได้เจอกันเลย
ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าผมจะคบกับพี่เขามาได้นานขนาดนี้…
แค่คิดผมก็เขินขึ้นมาแล้วสิแต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกันพี่เขาจะได้ไม่มองว่าผมเป็นพวกใจง่ายเพราะผมมีอะไรกันตั้งแต่วันแรกก่อนที่จะตกลงคบกันเสียอีก
“คิน…”
“ครับ” ผมหันไปมองพี่เมฆ
“จะถึงบ้านแล้ว…จูบได้มั้ย”
“พี่เมฆ…ใครเขาถามกันห๊ะบอกแล้วว่ามันเขิน” ผมทุบแขนพี่เขาเบาๆ
พี่เมฆยิ้มจับมือข้างที่ผมทุบแล้วดึงตัวผมเข้าไปกอด
“พี่นัดเคไว้…ขอชื่นใจก่อนนะ”
มือหนาสอดเข้ามาจับตรงท้ายทอยล็อคให้หน้าผมเงยขึ้นไปรับสัมผัสจากลิ้นร้อนอันหวานฉ่ำหื่นกระหายที่แทรกเข้ามาในปากผม
เร่าร้อน อ่อนหวาน รุนแรง หนักสลับเบาพี่เมฆกำลังต้อนผมให้จนมุมจูบประหนึ่งจะสูบวิญญาณผมออกไปจากร่าง ปลายลิ้นหวานเลียไล้ริมฝีปากผมรอยยิ้มบางปรากฎขึ้นเล็กๆ ตรงมุมปากหนาก่อนจะบดขยี้ลงมาหาผมอย่างรุนแรง ลิ้นร้อนแทรกกลับเข้ามาในปากผมอีกครั้งเกี่ยวตวัดดันดุนต้อนผมจนสิ้นท่า
ผมโหยหาสัมผัสรักจากเขา…
ปากหนาผละออกช้าๆ ก่อนจะโฉบเข้าหาดังเก่าพี่เมฆขบดูดบดขยี้ริมฝีปากหนาลงมาบนปากบางของผมอีกครั้งเขาดูดตอดปากล่างของผมอย่างแรงจนรู้สึกได้ว่ามันบวมขึ้น ละเลียดเลียไล้ไปทั่วปากล่างก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปตามร่องปากและบดดูดอย่างแรง มันหนักหน่วงเนินนานจนผมทรมานปานจะสิ้นใจ
“อื้อออ…” ผมส่งเสียงประท้วงทุบไหล่พี่เขาไปหลายทีกว่าที่พี่เมฆจะยอมปล่อย
ผมหายใจเหนื่อยหอบด้วยสูบเสียอากาศในปอดเป็นเวลานาน มือหนาของนักกีฬาเกลี่ยไล้ปากบางที่บวมเจ่อของผมพลางยิ้มชอบใจ
“แกล้งเหรอครับ” ผมทำตาดุใส่
“ทำให้หลงต่างหาก…คินจะได้ไม่ทิ้งพี่ไปไหน”
“บ้า!” ผมฟาดกระเป๋าใส่พี่เมฆเต็มแรงก่อนจะเดินหนีไป
“คิน…” พี่เมฆเดินตามผมมา จะไล่ให้กลับไปก็ไม่ได้เพราะเขานัดกับพี่ชายผมไว้
ผมเลยตัดสินใจก้าวยาวๆ เดินหนีเขาเข้าบ้านมาก่อน
“อ้าว…นึกว่านายกลับมาแล้วซะอีก” พี่เคมองผมที่เปิดประตูเข้ามา
“ทำงานกลุ่มน่ะ” ผมโกหก
“เป็นอะไรทำไมทำหน้าแบบนั้น”
“เปล่าผมขึ้นห้องนะ” ผมรีบเดินขึ้นบันไดไม่นานก็ได้ยินเสียงพี่เมฆในบ้านแต่ผมไม่สนใจเขาแล้วล่ะ
‘นอนรึยัง…พี่กลับแล้วนะ’
‘ฝันดีนะครับ’
ผมอ่านข้อความที่ส่งมาเกือบเที่ยงคืน
“ทำอะไรกันอยู่ถึงได้กลับเอาป่านนี้” ผมบ่นก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดม่านเห็นพี่เมฆเดินอยู่กลางซอย
ผมเองก็นอนหลับๆ ตื่นๆ ครับเพราะกำลังรอแชทจากพี่เขาอยู่
มันเคยชิน… เพราะพี่เขาส่งหาผมทุกคืนนี่นา
ผมกลับมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงดังเก่า
‘กลับบ้านดีๆ นะครับ’
‘ดีใจจังมีคนเป็นห่วง’
‘จะอ้วก’
‘แล้วชอบมั้ยล่ะ’
ผมไม่ตอบได้แต่นอนใจเต้นโครมครามอยู่คนเดียว
วันอาทิตย์
หอนักกีฬาทุน
“รกหน่อยนะ” พี่เมฆหันมาบอกผมก่อนจะวางของกินที่ซื้อติดมือมาบนโต๊ะ
ห้องพี่เขาก็ไม่ได้รกอะไรเลยครับของในห้องก็ไม่เยอะห้องเรียบๆ โล่งๆ มีแต่รูปนักกีฬาที่ติดเต็มหัวเตียงเท่านั้น
ผมไม่เคยได้ถามถึงความชอบความสนใจของพี่เขาเท่าไหร่แต่พอได้มาที่ห้องก็รู้ว่าเขาจริงจังและสนใจเรื่องกีฬามากจริงๆ
“พี่เมฆจะเรียนต่อมั้ยครับ” ผมละสายตาจากรูปนักกีฬาหันไปมองพี่เขา
“ทำไมเหรอ?”
“ก็บางคนจบม.6ก็ถูกจับเซ็นสัญญากลายเป็นนักกีฬาอาชีพ”
“พี่ไม่ได้อยากเป็นนักกีฬาอาชีพหรอกแค่อาศัยเป็นต้นทุนผลักดันชีวิตให้ดีขึ้น…นี่ก็พึ่งยื่นทุนกีฬาที่ม.xxxไป”
“เหรอครับ…คิดว่าพี่เมฆอยากเป็นนักกีฬาอาชีพซะอีก”
“เงินมันดีก็จริงนะแต่พี่รู้สึกว่ามันไม่มั่นคงช่วงอาขีพสั้นถ้าเจ็บเรื้อรังก็จบแล้วถึงตอนนั้นจะทำอะไรกินล่ะเรียนก็จบแค่ม.6เงินเก็บก็มีไม่มากบ้านกับรถก็ยังผ่อนไม่หมดพ่อแม่ก็ไม่มีแบบคนอื่นเขา”
“โห…คิดไกลขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
“พี่เป็นเด็กกำพร้านะคิน…เพราะงั้นเรื่องอนาคตปากท้องก็ต้องคิดไกลๆ”
อีกเรื่องดราม่าในชีวิตของพี่เมฆครับ พี่เขาโตมากับหลวงลุงเป็นเด็กวัดปากกัดตีนถีบแต่เด็กเพราะกีฬาถึงทำให้ชีวิตพี่เขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
ผมสงสารพี่เขาจังครับ…แม้ผมเองจะไม่เคยอินกับเรื่องนี้ของคนอื่นเลยก็ตาม
แต่อาจเป็นเพราะผมก็โดดเดี่ยวเหมือนกัน
มันไม่ได้เศร้าขนาดชีวิตที่เมฆหรอกนะครับ
ที่ผมต้องอยู่บ้านหลังใหญ่กันสองคนพี่น้องเพราะพ่อแม่ทำงานอยู่เมืองนอกผมคิดถึงพวกเขาอยากเจอพวกเขาแต่ก็ไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายปีแล้ว
มีแต่อาหมูน้องชายพ่อที่แวะมาดูพวกผมบ้างเป็นครั้งคราว มีป้าติ๋วแม่บ้านประจำที่แม่จ้างไว้คอยดูแลความสะอาดหุงหาอาหารให้กิน
“ขอโทษนะครับถ้าทำให้พี่เมฆรู้สึกไม่ดี” ผมกอดพี่เมฆเอาไว้ต้องการจะบอกเขาว่าถึงแม้จะไม่มีใครแต่พี่เขายังมีผมอยู่
“พี่ไม่เป็นไร” พี่เมฆกอดผมตอบ “ทำได้รึเปล่า”
“พี่เมฆ!” ผมเงยหน้าขึ้นไปทำตาดุใส่ในขณะที่พี่เขาหัวเราะชอบใจ จากเรื่องดราม่าเปลี่ยนมาเป็นอีโรติค18+อย่างรวดเร็ว
“มันติดเป็นนิสัยน่ะอยากได้อะไรต้องขอก่อน”
“แต่ผมก็เคยบอกไปแล้วว่าเขินนี่!”
“งั้นทำนะ…”
“ยังอีก!” ผมทำเสียงจิ๊จ๊ะ
พี่เมฆหัวเราะแต่ก็ก้มลงมาหอมแก้มผมเบาๆ “ไม่พูดแล้วสัญญา” เสียงพี่เมฆกระซิบอยู่ข้างหู
จมูกโด่งไซร้จากข้างแก้มต่ำลงไปตรงซอกคอ