เรื่องจริงที่ไม่มีวันบอก
“พี่เมฆ…” ผมดันพี่เมฆออกพยายามปรามให้เขาใจเย็น
“ไม่ไหวแล้วคิน…” เสียงหนากระซิบข้างหูก่อนจะดันผมไปที่เตียงนุ่ม
มือหนาปลดถอดทุกสิ่งบนร่างกายที่ทั้งผมและพี่เมฆสวมใส่ออกอย่างรวดเร็วก่อนจะหยิบเจลหล่อลื่นบีบใส่มือและสอดเข้ามาทางด้ารหลังของผม
“อืม…” มันเกร็งไปทั้งตัวแถมยังเสียวมากๆ อีกด้วย
มือหนาของพี่เมฆยังแทงเข้าแทงออกในช่องทางรักของผม ผมยันตัวขึ้นมานั่งอ้าขาออกขว้างเพื่อรับนิ้วมือของพี่เขาส่วนมือผมเองก็เริ่มจับไปที่แก่นกายคนตรงหน้าที่ขยายตื่นเต็มตัว
“ซืดดด…” เขาหลุดคราง โอบคอผมไว้ก่อนจะโน้มลงมาบดไซร้ตรงจุดอ่อนไหวแถวๆ ซอกคอของผมอีกครั้ง
ผมเอนตัวหนีปลายลิ้นร้อนที่โลมไล้อย่างไม่หยุดหย่อนก่อนจะทิ้งตัวลงนอนในที่สุด
พี่เมฆหยิบถุงยางมาสวมก่อนที่จะดันความเป็นชายเข้ามาในช่องทางรักที่เปิดขยายของผม
“อืมมม…” ผมจับแขนพี่เมฆแน่น
มันค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้ามาจนหมดท่ามกลางเสียงครางของผมที่ดังไม่ขาด พี่เมฆเริ่มขยับออกแรงทั้งหมดที่มีกระแทกเข้าใส่ผมอย่างรุนแรง
“อื้มมม…เจ็บ! ...เจ็บครับ!” ผมร้องยอกพยายามดันหน้าท้องเขาไว้
แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่สนยังคงปลดปล่อยทุกอารมณ์เข้าใส่ผมแบบโหมกระหน่ำ
“ซืดดด…อ่าาา…คิน…” พี่เมฆครางชื่อผมดังลั่นโถมทุกอย่างใส่อย่างคนดื้อรั้นเอาแต่ใจ
“อื้มมม…พี่เมฆ!” ผมปรือตาสบร่างหน้าที่อยู่บนตัว
เขาทิ้งจังหวะขยับสะโพกให้ช้าลงแต่สวนเข้ามาด้วยความหนักแน่น
“อ่าาา…อื้มมม”
“ซืดดดด…คิน…”
เราครางรับกันในทุกจังหวะของความกระสันพี่เมฆกลับมาขยับในจังหวะถี่กระชั้นดังเก่า
“จะแตก…อื้มมม…จะแตกครับอ่าาา…” ผมชักรูดลำของตัวเองอย่างชำนาญก่อนจะแตกใส่มือตัวเอง
“ซืดดด…คิน…อ่าาา…” ไม่นานผมก็แตก เขาถอดถุงยางออกเปลี่ยนอันใหม่และสวนเข้ามาในร่างกายผมอีกครั้งเหมือนคนอดอยากปรารถนาอย่างรุนแรง
ผมก็ไม่ได้นับแล้วล่ะครับว่าจากนั้นเราจะทำกันไปกี่รอบ ตอนนี้ผมอาบน้ำเสด็จแล้วนั่งเช็ดผมอยู่บนเตียงในขณะที่พี่เมฆเข้าไปอาบน้ำ
เสียงมือถือพี่เมฆสั่น ผมไม่ได้สนใจอะไรแต่พอเห็นมันสั่นซ้ำๆ ในจังหวะสั้นๆ ก็เลยหยิบมาดู
ข้อความครับ
‘เอาไงวันนี้’
‘ซ้อมเสร็จกี่โมง’
‘วันนี้คินไม่อยู่กลับดึกมาที่บ้านมั้ย’
‘กูคิดถึงมึงนะไม่ค่อยได้เจอกันเลย’
“???”
ผมมองข้อความที่พี่ชายผมส่งหาพี่เมฆไม่หยุดอย่างไม่เข้าใจ
‘กูคิดถึงมึงนะไม่ค่อยได้เจอกันเลย’ ประโยคสุดท้ายมันติดอยู่ในใจผมอย่างแรง
พี่เคคิดถึงพี่เมฆ…
ข้อความที่ส่งหามันก็ดูเหมือนจะซ่อนความรู้สึกที่พิเศษเอาไว้
ภาพที่พี่เคกับพี่เมฆอยู่ด้วยกันอย่าสนิทสนมกลับเข้ามาในหัวผม ผมกำลังปล่อยให้ความรักยังตาจนมองไม่เห็นอะไรไปหรือเปล่า?
“ขอให้ไม่จริง” ผมกวาดตามองไปรอบห้องในหัวรู้สึกมึนๆ งงๆ สับสนจับต้นชนปลานอะไรไม่ได้สักอย่าง
ผมต้องการคำอธิบาย…
ผมต้องหาคำตอบ…
ผมเปิดลิ้นชักหัวเตียงพยายามค้นหาของที่พอจะเป็นพยานว่าพี่ผมมาที่นี่หรือไม่
แต่ในลิ้นชักไม่มีอะไรผมชั่งใจระหว่างโต๊ะเขียนหนังสือกับตู้เสื้อผ้า สุดท้ายผมก็เดินมาเปิดตู้แทน ผมไล่ดูชุดนักเรียนไปเรื่อยจนมาสะดุดกับตัวกลางที่เป็นเสื้อนักเรียนของพี่ชายผมเอง
พี่เคเคยมาค้างที่นี่…
ผมเดาอย่างอื่นไม่ได้จริงๆ
นี่มันเรื่องบ้าอะไร
หมายความว่ายังไง
ผมรู้สึกจุกเหมือนมีก้อนแข็งๆ มาทับกลางอกจนมันรู้สึกอึดอัดทรมานมือที่สั่นและเย็นของผมเปิดลิ้นชักข้างลง
ภาพตรงหน้าทำให้ม่านน้ำตาผมไหลบ่าออกมาอย่างไม่รู้ตัว
รูปพี่เคกับพี่เมฆครับ…
“คิน!!!” เสียงพี่เมฆดังขึ้นพร้อมกับปิดตู้เสื้อผ้าและดันลิ้นชักปิดไปดังเก่า “ทำอะไร!!!” พี่เมฆขึ้นเสียงใส่ผม
“นั่นมันอะไรครับ?” ผมมองพี่เมฆทั้งน้ำตา
“ไม่มีอะไร” พี่เมฆเสียงอ่อนจับแขนผมเหมือนจะปลอบโยนแต่ผมไม่เชื่อ
ถ้าไม่มีอะไรทำไมต้องเรารูปที่กอดคอกันมาซ่อนไหนจะข้อความที่เขียนไว้อีก
นั่นลายมือพี่เคผมจำได้
love you
หนึ่งในหลายๆ ตัวอักษรที่เป็นลายมือของพี่ชายผม
“อย่าโกหกกันสิครับพี่เมฆ”
“มันไม่มีอะไรจริงๆ” พี่เมฆยืนยัน
“พี่เมฆ!” ผมปัดมือพี่เขาออกขึ้นเสียงใส่เพื่อบอกว่าผมไม่พอใจเอามากๆ
“มันเป็นอดีตไปแล้วคิน…พี่กับเค…เอ่อ…เราเลิกกันไปนานแล้วก่อนที่พี่จะคบกับคินนะ” พี่เมฆพยายามเข้ามาใกล้แต่ผมก็ถอยหนี
“เสื้อในตู้ล่ะครับ? ...ข้อความที่พี่เคพึ่งส่งมาเมื่อกี้อีก…ซ้อมเสร็จรึยัง? ...วันนี้คินไม่อยู่บ้าน? ... คิดถึง?”
“นี่คินเปิดมือถือพี่เหรอ”
“เปล่าเลยครับ! ...แต่ก็ขอบคุณที่พี่เคส่งมาไม่งั้นผมคงกลายเป็นคนโง่!”
“คิน…ใจเย็นนะฟังพี่ก่อน!”
“พี่แม่งเหี้ยอ่ะ! ...ทำได้ไงวะคบทั้งพี่ทั้งน้องเลยงั้นเหรอแม่งโคตรเห็นแก่ตัว!”
“คิน…พี่ขอโทษใจเย็นก่อนนะพี่อธิบายได้” พี่เมฆพยายามจะเข้ามากอดแต่ผมก็ผลักเขาออก
ร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่อายอะไรทั้งนั้นแหล่ะครับตอนนี้
“ไม่ต้องเข้ามา!” ผมตวาดพลางปาดน้ำตาที่ยังไหลมาไม่หยุด
“คิน…” พี่เมฆถอนหายใจสีหน้าก็ดูจะเจ็บปวดลำบากใจอยู่บ้าง
ก็อย่างดีอย่างน้อยก็มีหัวใจมีความรู้สึกเหมือนคนอื่นเขาบ้าง
“พี่อยากให้ผมเป็นคนเลวเหรอ? ...อยากให้ผมทรยศพี่เคเหรอ? ...หรือว่าจะเก็บเรื้องนี้ไว้ไม่บอกใคร?”
“พี่ผิดคิน…พี่ผิดเอง…พี่ขอโทษนะคินอย่าร้องเลยนะพี่ขอโทษ” พี่เมฆกระชากตัวผมเข้าไปกอด
ผมดิ้นและทุบตีเขาระบายความอัดอั้นที่มีอยู่ในใจพี่เมฆก็ยอมให้ผมทุบเขายังกอดผมไว้ไม่ยอมปล่อย
“งั้นพี่ก็เลือกมา…พี่จะเลือกใคร” ผมผละออกจ้องพี่เมฆทั้งน้ำตา
“พี่…” พี่เมฆลำบากใจ
“ทำไม?” ผมถามเสียงสั่น
“พี่รักคินนะ…รักมาก…แต่พี่ก็รักเคเหมือนกันเคเขาไม่ผิด…”
“งั้นผมผิดสินะ!”
“คิน! ...มีเหตุผลหน่อยสิ”
“ต้องเป็นผมป่าววะที่ต้องพูดคำนั้น! ..? พี่แม่งชั่ว! ...โคตรชั่ว!” ผมปาดน้ำตาเดินมาหยิบกระเป๋า
“คิน! ...เดี๋ยวก่อน”
“อย่ามาจับ!!!” ผมสะบัดมือออกจ้องพี่เมฆอย่างแข็งกร้าว
ปวดร้าวไปทั้งใจเมื่อรับรู้ว่าคนที่ผมแอบชอบแอบรักแม่งเลวได้ใจ
ผมผิดเองที่พยายามปลอบใจ หลอกตัวเองและเลือกจะไม่สงสัยในความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองคนทั้งๆ ที่ถ้ามองดีๆ มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว
แม่ง…เจ็บชิบหาย! ...
“พี่รักคินนะ…”
“ไม่ต้องมาพูด! ...ถ้าพี่เลือกไม่ได้ผมจะเลือกให้เอง”
“เราอยู่แบบนี้ก็ได้นี่นา…เคไม่รู้หรอก”
“แต่ผมรู้ว่ะพี่! ...ผมแม่งโคตรจะรับไม่ได้พี่เข้าใจบ้างมั้ยวะ!”
“คิน…” พี่เมฆจับมือผมพลางก้มหน้าสำนึกผิด
ผมสะบัดมือออกจ้องหน้าเขาผ่านม่านน้ำตาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ในเมื่อไอ้พี่เมฆแม่งเลือกอะไรไม่ได้ผมก็จะเป็นคนเลือกให้เอง
ผมจบเอง…
ผมไปจากเขาเอง…
ที่เจ็บกว่าในตอนนี้คือพี่เมฆไม่ตามผมมา…
แปลว่าเขาเลือกพี่เคสินะ
ยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้า…ยิ่งรู้สึกก็ยิ่งเจ็บ…
ผมผิดเอง… โทษใครไม่ได้เลยผิดตั้งแต่คืนนั้นจนมาถึงวันนี้เลยทีเดียว
ผมจะตัดใจ…
ผมจะไม่รักเขาอีกต่อไปแล้วผมจะเป็นคนใหม่ที่ลบลืมเขาออกไปจากความทรงจำ
เหมือนกับว่าไม่รู้จักคนที่ชื่อ
เมฆ
ในชีวิต