“ แล้วเฮียคิดว่าผมหือกับเฮียได้ป่ะล่ะ “ พี่ราชาเองก็ตอบกลับไปนิ่งๆ
ทำให้ตอนนี้ทั้งสองคนกำลังมองหน้ากันนิ่งๆ แต่สายตานี่ฟาดฟันกันมากๆ
“ พี่ราชา “ ฉันจับเข้าที่แขนที่ราชาเพื่อให้เขาใจเย็นขึ้น การที่เขามามีเรื่องกับรุ่นพี่เพราะฉันมันไม่ดีแน่ๆ
“ เด็กมึง?? “ พี่ไฟมองตามมือฉันแล้วเงยหน้าขึ้นถามพี่ราชา
“ ไปกันเถอะค่ะ “ ฉันเห็นพี่ราชาไม่ตอบอะไรจึงรีบดึงแขนพี่เขาให้เดินตามมา เพราะกลัวว่าอยู่นานๆแล้วเขาจะมีเรื่อง
ฉันพาเขาเดินไปที่สนามแล้วปล่อยมือเขาลง
“ จะวิ่ง? “ พี่ราชาหันมาถามฉัน
“ ค่ะ “ ฉันพยักหน้าให้เขาแล้ววางของลง
“ ไม่ต้อง “ พี่ราชารีบเดินมาจับแขนฉันไว้
“ ไม่เอา หนูจะวิ่ง หนูทำผิดนะ “ ฉันบอกเขาอย่างจริงจัง แล้วก็จับมือเขาออก
“ ถ้าพี่ยังไม่กลับ ฝากของหน่อยนะคะ “ ฉันบอกแล้ววิ่งไปที่สนามอย่างร่าเริง
ผ่านไปรอบแรกฉันก็หันมายิ้มให้พี่ราชาที่ยืนดูอยู่อย่างสดใส
ส่วนรอบสองก็ยังพอไหว
“ แฮ่ก แฮก เหนื่อยง่าาาา “ พอฉันวิ่งได้รอบที่สามก็เริ่มไม่ไหวแล้ว วิ่งมาถึงตรงที่พี่ราชายืนอยู่กับเพื่อนของเขาที่มาตอนไหนก็ไม่รู้ ฉันก็ทำหน้างอแง
“ บอกแล้วไม่เชื่อ “ พี่ราชายิ้มเล็กน้อยแล้วเปิดน้ำที่เย็นที่อยู่ในมือเขาใส่หลอดเอามาจ่อปากฉัน
“ พอแล้วน้องอิงฟ้า เฮียมันก็แค่แกล้ง “ พี่พาสเอ่ยบอกฉัน
“ นั่นสิ ไม่ต้องวิ่งหรอก “ พี่ๆคนอื่นก็รีบพยักหน้าตาม
“ ไม่เอาค่ะ ไม่อยากเสียสัจจะ อีกแค่ 27 รอบ จิ๊บๆ “ ฉันบอกเขาไปอย่างจริงจัง แล้วประโยคสุดท้ายน่ะ ฉันหลอกตัวเองอยู่
พอตอบพี่ๆแล้วก็หันมาดูดน้ำต่อ ส่วนพี่ราชาก็เหมือนกันแพทย์สนาม มีทั้งน้ำแล้วทิชชู่ที่ตอนนี้กำลังเอามาซับหน้าฉันอยู่
ตึก ตึก ตึก
“ เหนื่อยมากหรอ หน้าแดงมาก “ พี่ราชาขมวดคิ้วเป็นปม
ส่วนฉันนี่แทบจะอยากมุดดินหนี
ไม่ได้เหนื่อย แต่มันเขินเว้ยยยย
“ บอกแฟนมึงเลิกวิ่งได้แล้วไอ้ราชา “ พี่ไฟที่เดินมากับเพื่อนพูดขึ้น
เห้ออ
ดีที่เขามาตอนนี้ พี่ๆจะได้ไม่รู้ว่าฉันเขินพี่ราชาอยู่
“ ไม่เป็นไรค่ะ ไม่อยากคนอื่นว่าไม่มีความรับผิดชอบ “ ฉันพูดประชดไป
“ เหอะ อวดดี “ เขาเค้นหัวเราะแล้วพูดขึ้น
“ ก็ดีกว่ารุ่นพี่เผด็จการ “ ฉันเองก็ตอบกลับไปเช่นกัน
“ เด็กนี่ “ พี่ไฟหันมามองฉันเคืองๆ ซึ่งฉันก็จ้องพี่แกกลับอย่างไม่ยอมแพ้
“ โอ้ยยย กูปวดหัว มึงก็หยุดต่อปากต่อคำกับน้องได้แล้วไอ้ไฟ ส่วนน้องก็พอแล้ว ไม่ต้องวิ่งแล้วรีบกลับบ้านเถอะ “ พี่ว๊ากอีกคนรีบห้ามทัพทันที
“ ชิ “ ฉันสบัดหน้าหนีไอ้พี่ไฟแล้วหันมามองพี่ราชาที่ตอนนี้ถือกระเป๋าฉันอยู่
“ กูเชื่อมึง หมาเห่าอย่าเห่าตาม แล้วไม่ใช่หมาธรรมดานะ หมากระเป๋าด้วย “
ขวับ
“ ถ้าหนูหมากระเป๋า พี่ก็พิตบูลที่กำลังเป็นว้อดีๆนี่แหละ “ ฉันรีบสวนกลับไป จนพี่ๆบางคนต้องกุมขมับ
“ หนอยยย ยัยเตี้ย “ พี่ไฟหันจิกตาใส่ฉันแค้นๆ
“ เอ๊ะ “ ฉันจิ๊ปากอย่างไม่พอใจที่เขาว่าฉันอย่างงั้น ไม่ได้เตี้ยเว้ยยยยย แต่ไม่ทันจะได้พูดอะไรพี่ราชาก็รีบลากฉันออกมา
หึ้ยยยย
19.23 น.
ตอนนี้พี่ราชากำลังมาส่งฉัน โดยที่ระหว่างทางก็พาฉันแวะทำแผลที่คลีนิคและแวะกินข้าวด้วย
แล้วฉันไลน์ไปบอกพี่หน่อยแล้วล่ะว่าวันนี้ไม่ได้ไปทำงาน เพราะรุ่นพี่เรียกพบ ซึ่งแกก็ไม่ได้ว่าอะไร ร้านไม่ได้ยุ่งมาก แล้วอีกอย่างก็ไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวที่ทำงานอยู่ที่นั่นกะดึกน่ะ
“ ขอบคุณที่มาส่งนะคะ “ เมื่อมาถึงคอนโดฉันแล้ว ฉันก็หันบอกเขาแล้วปลดสายคาดเบลล์ออก
“ เดี๋ยว “ แต่ไม่ทันจะได้เปิดประตูลงรถพี่ราชาก็เรียกไว้ก่อน
“ คะ “ ฉันหันไปมองหน้าเขางงๆ
“ ลืมยา “ เขาบอกพร้อมเอี่ยวตัวไปหยิบถุงยามายื่นให้ฉัน
“ อ๋อ ขอบคุณค่ะ “ ฉันรับมาแล้วยิ้มให้เขาเล็กน้อย
“ อื้ม “ พี่ราชายิ้มให้ฉันแล้วยกมือขึ้นมาขยี้หัวฉันเบาๆ
กริ๊งๆๆ
เสียงออดที่หน้าห้องทำให้ฉันล่ะสายตาจากจอโทรทัศน์ไปมอง
ใคร???
พอเดินไปสองตาแมวดูก็เห็นเป็นเพื่อนสองคนที่โบกไม้โบกมืออยู่หน้าห้อง
“ ว่าไง “ ฉันเปิดประตูออกไปแล้วทักพวกนั้นยิ้มๆ
“ ไปผับกัน!!!! “ แล้วทั้งสองคนก็พูดขึ้นพร้อมกันเสียงดัง
“ ห๊ะ “
“ นะๆ ไปด้วยกันนะ “ ฉันลากทั้งสองคนเข้ามาในห้องแล้วให้อธิบาย พวกนั้นก็บอกว่าววันนี้วันเกิดเพื่อน จึงอยากให้ฉันไปด้วย
แต่.... เพื่อนไม่เช็คสภาพฉันเลย
“ นะๆๆๆ แกนะ ไปด้วยกันนะ “ เฟสทำหน้าอ้อนๆใส่ฉัน ซึ่งถ้าทุกคนมีเพื่อนหน้านิ่งแล้วทำหน้าอ้อน จะรู้ว่าตัวเองมีจุดอ่อนที่ยอมตลอด
“ แต่ว่า.... “ ตอนนี้ฉันกังวลเรื่องเดียวก็เรื่องหน้าฉันนี่แหละ ถึงแม้ว่ามันจะไม่เละ แต่มันก็แย่พอสมควร มุมปากมีแผลช้ำแล้วไหนจะรอยนิ้วมือบนหน้าอีก
“ หรือว่าพี่ราชาไม่ให้ไป “ กอหญ้าพูดขึ้นแล้วหรี่ตามองหน้าฉันอย่างจับผิด
“ เฮ้ย จะบ้ารึไง “ ฉันร้องขึ้นอย่างเสียงหลง
“ งั้นก็ไป ดีลลล “
ผับ R
22.24 น.
และแล้วฉันก็โดนยัยพวกนั้นลากมาจนได้ โดยทำการแต่งหน้าให้ฉันอย่างเนียนกริบ จนฉันไม่สามารถปฏิเสธได้ และหาเหตุผลมาอ้างไม่ได้จริงๆ แต่ก็ถือพวกเธอพาฉันมาเปิดโลกเลยก็ว่าได้ เพราะฉันไม่เคยมาสถานที่แบบนี้เลยจริงๆ แต่ก็แปลกนะ อายุฉัน 19 ปี นี่เข้าผับได้แล้วหรอ แต่พอถามยัยเฟส ยัยนั่นก็บอกว่าเพื่อนคนนี้ที่เป็นเจ้าของวันเกิดน่ะเป็นน้องสาวของพี่วิน ชื่อว่าวาเลน แล้วเพื่อนพี่วินก็เป็นเจ้าของผับ ทำให้มาจัดงานที่นี่ได้สบายๆ พอถามว่าไปรู้จักกันได้ไง พวกนั้นก็บอกว่ารู้จักกันตอนไปออกค่ายอาสาตอน ม.6 ซึ่งฉันไม่ได้ไป
“ หวัดดีทุกคน “ แล้วพอมาถึงโต๊ะกอหญ้าก็ทักทายทุกคนทันที
“ อ้าว มาแล้ววว มานั่งๆ “ ทุกคนในโต๊ะหันมามองเป็นตาเดียวแล้วก็มีผู้หญิงคนนึงรีบทักทาย
“ อิงฟ้า นี่วาเลน เจ้าของวันเกิด “ กอหญ้ารีบแนะนำให้ฉันรู้จักก่อนจะนั่งลง
“ หวัดดี เราอิงฟ้านะ “ ฉันแนะนำพร้อมยิ้มให้พวกเธอ
“ หวัดดีจ๊ะ ดีใจจังพวกแกมา “ วาเลนยิ้มให้ฉันอย่างจริงใจแล้วหันไปพูดกับเพื่อนฉันอย่างดีใจ
“ มาสิย่ะ ใครมันบังคับล่ะ “
แล้วจากนั้นวาเลนก็แนะนำเพื่อนเธอให้ฉันรู้จัก ซึ่งในโต๊ะมีประมาณ 6 คน รวมพวกฉันไปก็ 9 คน
วาเลนสั่งเป็นค็อกเทลมาให้ฉัน เพราะฉันไม่เคยดื่มเหล้า
เห็นลุคแรงๆแบบนี้ฉันไม่ใช่สายเที่ยวนะ ต่างจากเพื่อนสองคนที่เที่ยวบ่อย
00.14 น.
ตอนนี้ทุกคนก็เริ่มเลื้อยแล้ว มีแค่บางคนที่ดูจะคอแข็งพอสมควร เพราะพวกเธอนั่งนิ่งกันเลย
ส่วนเพื่อนฉันน่ะหรอ
“ นี่ๆ วาเลน ชนนนน “ ยัยกอหญ้าน่ะไปแล้ว แต่เฟส รายนั้นค่อนข้างคอแข็ง
พรึบ
“ อ๊ะ “ ฉันร้องขึ้นอย่างตกใจที่จู่ก็มีแรงมาดึงแขนฉันออกจากกลุ่มเพื่อน แล้วเดินไปทางห้องน้ำ
“ นี่ ปล่อยนะ “
เมื่อมาถึงห้องๆหนึ่งเขาก็ทำการเปิดประตูแล้วดึงฉันเข้าไป
ฉันหันไปมองรอบๆก็เห็นเป็นห้องเก็บของจำพวกเหล้า แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องสนใจ
“ พะ พี่ราชา “ ฉันหันไปมองคนที่ลากตัวเองเข้ามาแล้วก็ต้องตกใจ นี่เขามาได้ไงเนี่ย
“ หนีเที่ยวหรอ “ พี่ราชาโอบเอวฉันไปแนบชิดกับเขาแล้วเขาก็ก้มหน้ามากระซิบข้างหูฉัน
ตึก ตึก
“ คะ ใครหนีเที่ยว “ ฉันถามขึ้นตะกุกตะกัก เพราะตอนนี้พี่ราชายังไม่เอาหน้าออกมาเลย แถมยังซุกเข้าไปที่ซอกคอฉันอีก
“ เธอไง เด็กไม่ดี หนีเที่ยว “ พี่ราชาตอบเสียงอู้อี้
“ พะ พี่ราชา เงยหน้าขึ้นมาคุยกันก่อน “ ฉันพยายามดันคนตัวสูงให้ออกจากตัวแต่ออกแรงแค่ไหนก็ไม่ได้ผล
“ รู้มั้ย เด็กไม่ดีต้องโดนลงโทษยังไง “ นานเกือบห้านาที ในที่สุดพี่ราชาก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าฉันตรงๆ ทำให้ฉันเห็นว่าตอนนี้ตาพี่เขานี่เยิ้มเชียว เมาแหละ
“ ยังไงคะ อื้อออออออ “