ตอนที่ 1 สามีตามกฎหมาย

1728 คำ
ตอนที่ 1 สามีตามกฎหมาย ในที่สุดสิ่งที่เอมกมลไม่อยากให้เกิดขึ้นมันก็เกิด เธอจดทะเบียนสมรสกับเขาอย่างง่ายดาย ชายหนุ่มไม่ได้เอ่ยพูดจาอะไรกับเธอเลยแม้แต่น้อย เขาเพียงทำหน้าเงียบขรึมไม่พูดไม่จา มีเพียงท่านเกษมกับคุณหญิงเนตรนภามองมาที่หล่อนด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรแค่นั้นเอง เอมกมลปลอบใจตัวเองในใจว่า เธอคงได้เป็นอิสระสักวัน นี่คงเป็นการจดทะเบียนสมรสเพียงแค่ในนามเท่านั้น ยังไงเสียเธอกับเขาก็ไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆ เสียหน่อย "การจดทะเบียนสมรสในครั้งนี้ ผมถือว่าลูกสาวคุณเป็นคนของครอบครัวผมแล้ว แต่เพราะว่าหนูเอมกมลยังเด็ก ยังเรียนไม่จบ ผมยังจะให้เธออาศัยอยู่ที่นี่กับคุณจนกว่าจะเรียนจบนะครับ" “เดี๋ยวครับคุณเกษม ถ้าวันหนึ่งผมหาเงินมาคืนคุณได้ทุกบาททุกสตางค์ ผมหวังว่าวันนั้นคุณจะทำตามคำที่เคยตกลงกับผมไว้ คือจะให้อิสระกับลูกสาวผม" "หึ! แน่นอนครับ ถ้าวันนั้นมาถึงผมรับปากแน่นอน" น้ำเสียงนี้ทำให้หญิงสาวรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย ศรุต อัครโกมล นั่งฟังผู้ใหญ่ทั้งสองพูดกัน เขาเองก็รอวันนั้นไม่ต่างกัน "ศรุต ต่อไปลูกถือว่าเป็นสามีของหนูเอมแล้วนะ มาหาน้องหน่อยล่ะ พ่ออยากให้ลูกศึกษาดูใจกับน้องบ้าง หวังว่าหนูเอมเองจะไม่ทำให้ฉันผิดหวังใช่ไหม อย่างน้อยหนูเองก็ควรจะรู้ว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไร" "ครับพ่อ" เขารับคำสั้นๆ แต่ในใจไม่อยากทำอย่างนั้นเลย เฉกเช่นเดียวกับเอมกมลที่ทำหน้าไม่ถูกอยู่ในยามนี้ ก่อนที่เธอจะพยักหน้าให้แก่ชายคราวพ่อตรงหน้าอย่างกล้าๆ กลัวๆ นับตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่ได้เห็นหน้าตาของผู้ชายคนนั้นอีกเลย จะว่าไปครอบครัวของเขาก็เช่นกัน เธอไม่ได้ข่าวพวกเขาอีก นอกจากไม่กี่วันก่อนที่พ่อของเธออย่างท่านมานพบอกแค่ว่า ครอบครัวของเขาไปดูงานที่ต่างประเทศ มีเพียงศรุตสามีในนามของเธอที่ยังอยู่ประเทศไทย เวลาล่วงเลยผ่านไปไม่กี่เดือน เอมกมลก็จบม.ปลาย ก่อนที่หญิงสาวจะสอบเข้ามหาลัยแห่งหนึ่งได้ในสาขาที่ตนเองถนัด โชคดีหน่อยในยุคนี้ที่กฎหมายไม่ได้บังคับว่าคนที่แต่งงานแล้วจะต้องเปลี่ยนคำนำหน้าจากนางสาวเป็นนาง เธอจึงได้ใช้นางสาวอยู่ ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ อีกอย่างเธอเองก็ไม่คิดจะบอกใครอยู่แล้ว เพราะอีกไม่นานพ่อของเธอก็ต้องมีเงินไปคืนครอบครัวนั้นแน่ วันนั้นเธอก็จะได้เป็นอิสระ “วันนี้เปิดเรียนวันแรก ตั้งใจเรียนนะลูก ไม่ต้องคิดถึงอะไรอีก” ชายชราบอกลูกสาว “คนพวกนั้นจะยังไม่มารับเอมตอนนี้ใช่ไหมคะ เขายังไม่กลับมาใช่ไหมคะ” เธอกลัวว่าจะต้องแยกจากบิดาของตนไปอยู่กับครอบครัวนั้น “จากที่พ่อได้ข่าวมา คือตอนนี้ทางคุณเกษมกำลังขยายสาขาในเครือบริษัทอัครโกมลที่ต่างประเทศ คงยังไม่ได้กลับไทยมาตอนนี้” “แล้วถ้าเขากลับมาล่ะคะพ่อ เอมก็ต้องไปอยู่ที่บ้านของเขางั้นเหรอคะ” หญิงสาวหน้าถอดสีออกมา “พ่อกำลังหาเงินไปคืนเขา อาจจะยังได้ไม่มาก แต่พ่อสัญญานะเอม ว่าพ่อจะไม่ทำให้ลูกสาวพ่อไปอยู่กับผู้ชายที่ลูกไม่ได้รัก” ท่านมานพเองก็สงสารลูกสาวไม่น้อย ไม่รู้ทำไมครอบครัวนั้นถึงบีบให้เขายอมยกลูกสาวให้แต่งงานกับลูกชายของเขาก็ไม่รู้ ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ทำไมต้องเน้นย้ำว่าต้องเอมกมลก็ไม่รู้ อีกด้านของศรุต ตอนนี้ชายหนุ่มเรียนจบจนมาช่วยท่านเกษมทำงาน เขาไม่ได้ใส่ใจเด็กผู้หญิงคนนั้นเลยสักนิด ถึงว่าพ่อของเขาจะให้โทรหาเธอทุกวันก็ตาม แต่เขาก็ไม่ทำตามคำสั่งของบิดา ตอนนี้ธุรกิจสำคัญมากที่สุด “สาขาที่นี่เริ่มไปได้ดีแล้ว อีกไม่นานพ่อจะกลับประเทศไทยสักที แล้วนี่เรื่องหนูเอมไปถึงไหนแล้ว ลูกได้พูดคุยกับน้องบ้างรึเปล่า” “ผมไม่มีเวลามากขนาดนั้นนะครับพ่อ อีกอย่างเด็กนั่นก็คงเหมือนกัน ตอนนี้คงกำลังเข้ามหาลัย ผมว่าปล่อยๆ ไปหน่อยก็ดี” “หึ ปล่อยไปหน่อยก็ดีงั้นเหรอ หนูเอมน่ารักน่าชังขนาดนั้น ไม่คิดจะรักบ้างเลยรึไงกัน พ่อหาผู้หญิงที่ดีที่สุดให้ลูกแล้วนะศรุต” ชายหนุ่มยิ้มมุมปากออกมาเมื่อได้ยินคำพูดนั้นของผู้เป็นพ่อ ผู้หญิงที่ดีที่สุดงั้นหรือ “ผมไม่ได้รักเธอ ไม่มีวันรัก พ่อก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจนะครับว่าเพราะอะไร” “หึ! นางแบบคนนั้นสินะ พ่อไม่ว่าที่แกจะยังติดต่อกับหล่อน แต่พ่อก็ไม่อนุญาตให้แกหย่ากับหนูเอมเหมือนกัน เข้าใจไว้ด้วย” ท่านเกษมเดินออกไปจากห้องทำงานของลูกชาย ก่อนที่ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาจะทำหน้าไม่พอใจออกมา ทำไมต้องเป็นแบบนี้ทุกครั้ง เขาต้องยอมทำตามคำสั่งนี้อีกนานไหม สีหน้าของเจ้านายทำให้เลขาพ่วงตำแหน่งเพื่อนสนิทอย่างอีธาน มองใบหน้าศรุตอย่างนึกสงสาร ชายหนุ่มคนนี้ทั้งเก่งทั้งฉลาด ไหนจะหน้าตาดี ฐานะดีพร้อมทุกอย่าง แต่ทว่ากลับไม่มีความสุขเอาเสียเลย “โอเคนะศรุต” “ควรโอเคสินะ กูไม่รู้ว่าทำไมพ่อต้องมาบังคับเรื่องนี้ด้วย เจนไม่ดีตรงไหน ทำไมถึงขัดขวางเรื่องนี้วะ” “เฮ้อ กูก็ไม่รู้จะพูดยังไงนะ แต่ในเมื่อยังขัดคำสั่งท่านประธานไม่ได้ มึงก็ต้องทำแบบนี้ต่อไป อีกอย่างผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้มาวุ่นวายในชีวิตมึงไม่ใช่รึไง ไม่แน่นะ บางทีถ้าขอหย่ากับหล่อนคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร” คำพูดของอีธานทำให้ศรุตมีความคิดดีๆ ขึ้นมา อย่างนี้ก็คงไม่ยากถ้าเขากลับไปขอผู้หญิงคนนั้นหย่า ทุกอย่างก็จบ เขาก็สามารถแต่งงานกับเจนนี่ หรือเจนนิภา แฟนสาวที่คบหากันมาก่อนหน้านี้ได้ ตกเย็น ศรุตมาหาแฟนนางแบบที่คอนโดเหมือนทุกวัน ความสัมพันธ์ของเขาและเธอถ้าจะเรียกว่ามากกว่าแฟนก็ย่อมได้ ใบหน้าหล่อเหลาหอมแก้มหญิงสาวในอ้อมกอด พร้อมคลอเคลียอยู่อย่างนั้นหลังจากเสร็จสิ้นบทรักเมื่อไม่นานมานี้ ร่างกายกำยำในตอนนี้มีเหงื่อผุดออกมาเล็กน้อย “ผมรักเจนนะครับ” เขาเอ่ยออกมาด้วยความสุข หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาสบตาชายหนุ่มที่กอดตัวเองอยู่เรียบนิ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาให้เขา “เจนมีความสุขมากเลยนะคะสำหรับคืนนี้ แล้วนี่คุณได้บอกเรื่องของเรากับคุณพ่อคุณรึยังคะ” “เอ่อ คือว่าผม ผมยังไม่ได้พูดเลย” สีหน้าชายหนุ่มเผยความรู้สึกผิดออกมาไม่น้อยที่ต้องพูดโกหกออกไป ในบางครั้งเขาก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเห็นแก่ตัวไม่น้อย ที่แต่งงานกับผู้หญิงอีกคน แต่รักผู้หญิงอีกคน “มีอะไรรึเปล่าคะ หรือว่าเจนยังไม่ดีพอที่จะคู่ควรกับคุณ” “เจนทำไมคิดแบบนี้ครับ ผมรักคุณมากแค่ไหนคุณก็รู้” ใบหน้าสวยทำหน้าไม่พอใจออกมา ก่อนจะขยับกายออกห่างศรุตอย่างน้อยใจ “เจนไม่รู้สิคะ คำว่ารักของคุณดูไม่ได้จริงจังสักนิด เจนเหมือนผู้หญิงใจง่ายไม่มีผิด เพราะแบบนี้คุณถึงไม่เห็นค่าของเจนใช่ไหมคะ” “ผมเห็นค่าคุณนะเจน ไม่ได้คิดจะเล่นๆ กับเจนเลย” “แล้วเมื่อไหร่คุณถึงจะบอกเรื่องของเรากับครอบครัวคุณคะ” ในเมื่อหญิงสาวยังคงถามคำถามนี้กับเขาอยู่ทุกวัน ทำให้ศรุตเองก็ไม่รู้ว่าจะบอกเธอออกไปยังไง เรื่องที่ว่าเขาจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงอื่นแล้ว “ผมจะรีบหาเวลาบอกท่านนะครับ เจน ผมต้องกลับก่อนนะ แม่ให้กลับไปกินข้าวที่บ้านพรุ่งนี้ เจนมีงานด้วย รีบพักผ่อนนะครับ” “ได้ค่ะ ขับรถกลับดีๆ นะคะ อืมศรุตคะ อีกไม่กี่เดือนเจนต้องกลับประเทศไทยแล้ว คุณจะกลับพร้อมเจนรึเปล่าคะ” หญิงสาวมาที่นี่ก็แค่มาร่วมงานแฟชั่นโชว์เท่านั้น ไม่ได้อยู่ที่นี่นานอะไรมากมาย “ผมยังจัดการงานทางนี้ไม่เสร็จ เจนไม่อยู่เที่ยวที่นี่ต่อหรือครับ” “คงไม่ค่ะ งั้นเจนจะรอที่ไทยนะคะ” “ครับ งั้นก่อนกลับเรานัดเจอกันก่อนนะ ผมมีของจะให้คุณ” “ได้ค่ะ คุณก็รีบกลับไปหาคุณแม่เถอะ ป่านนี้ท่านคงจะรอนานแล้ว” ศรุตแต่งตัวก่อนจะเดินออกจากห้องนี้ไป เหลือเพียงเจนนิภาที่นั่งถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย เธอพยายามที่จะทำให้ครอบครัวชายหนุ่มชอบเธอ แต่ดูเหมือนไม่มีผลอะไรสักนิด ในงานสังคมที่เธอเคยไปเดินแบบ เคยบังเอิญได้เจอกับคุณหญิงเนตรนภา เธอรับรู้ได้ในทันทีว่า หญิงวัยกลางคนคนนั้นรับรู้เรื่องของเธอกับลูกชายของตน แต่ท่าทางของเธอทำให้เจนนิภารู้ว่าครอบครัวชายหนุ่มไม่ต้อนรับเธอ ติ๊ด ติ๊ด เสียงข้อความสั่นขึ้นมาในโทรศัพท์ของเจนนิภา หญิงสาวมองมันอย่างเหนื่อยล้า ‘เรื่องที่ให้จัดการยังไม่คืบหน้าอีกเหรอที่รัก’ เธอเกลียดข้อความจากคนทางนั้นนัก เกลียดจนไม่อยากเปิดอ่านมัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม