ตอนที่ 4 ฉันต้องการหย่า

1023 คำ
เช้าของอีกวัน บรรยากาศยามเช้าในวันนี้ช่างสดใสมากกว่าทุกวัน ลมเย็นพัดเข้ากระทบร่างบางอรชรอย่างเอมกมล ที่กำลังรดน้ำต้นไม้ในบ้านอย่างสดชื่น วันนี้ไม่มีเรียนหญิงสาวได้ตื่นมาใส่บาตรตั้งแต่เช้าตรู่ ทำงานบ้านอะไรต่ออะไรมากมาย รอยยิ้มน้อยๆ ของหญิงสาวเผยออกมา อันที่จริงการอยู่ที่นี่คนเดียวไม่ได้เหงาอย่างที่คิด หลังจากที่ท่านมานพจากไป บริษัทและทรัพย์สินต่างๆ ถูกยกให้เป็นชื่อของท่านเกษมตามพินัยกรรมที่เขียนไว้เพื่อจะชดใช้หนี้สิน แต่ก็ไม่พอกับที่ยังติดอยู่ อีกไม่นานเธอก็เรียนจบแล้ว หญิงสาวรู้เรื่องที่ว่าศรุตเองก็มีคนรัก เธอจึงคิดจะขอเจรจากับเขาเรื่องหย่า บางทีเขาอาจจะยอมก็เป็นได้ หลังจากทำอะไรต่ออะไรเสร็จ เอมกมลก็ขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดในชุดลำลองอย่างเรียบง่ายดูดีไปอีกแบบ ผมยาวสลวยถูกรวบขึ้นไว้สูง ก่อนมือบางจะคว้ากระเป๋าสะพายเดินออกไปขึ้นรถเมล์ที่หน้าปากซอย ถึงที่บ้านจะมีรถเก่าของพ่อของเธอที่ท่านเกษมทิ้งไว้ให้ใช้ แต่หญิงสาวกลับไม่เคยขับเลย เธอไม่เคยขับรถเลยขับไม่เป็น แต่ก็ยังดีที่บ้านไม่ได้อยู่ไกลความเจริญมากนัก จึงทำให้มีรถเมล์วิ่งผ่านไปผ่านมาตลอด การเดินทางจึงไม่เป็นอุปสรรคอะไรเลย แววตากลมโตจ้องมองไปยังหน้าจอเครื่องมือสื่อสาร เธอกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับชายหนุ่มคนนั้น เธอต้องการที่จะพบหน้าเขา อยากจะคุยกับเขาให้รู้เรื่อง เท้าของเจ้าของร่างบางอรชรมายืนหยุดตรงหน้าบริษัทอัครโกมลกรุ๊ปตามที่จีพีเอสบอก ในยามนี้ความประหม่าเข้ามาในใจของคนตัวเล็ก เธอไม่ได้เจอหน้าเขามาหลายปี ไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนยังไงกันแน่ แต่กระนั้นเธอก็สลัดความเกรงกลัวภายในใจทิ้ง ก่อนจะเดินเข้าไปในบริษัทด้วยความกล้า เธออยากเป็นอิสระ ซึ่งเป็นเพียงสิ่งเดียวที่หญิงสาวต้องการ “ดิฉันมาขอพบคุณศรุต อัครโกมล ค่ะ ไม่ทราบว่าสะดวกรึเปล่าคะ” “ไม่ทราบว่าใครมาขอเข้าพบคะ ทางดิฉันจะแจ้งคุณเลขาของท่านรองให้” ฝ่ายประชาสัมพันธ์ถามขึ้น “เอมกมล ศศิโยธิน เขาคงจะจำดิฉันได้” “สักครู่นะคะ” อีกฝ่ายกดสายตรงไปหาเลขาของท่านประธานอย่างคุณอีธาน พร้อมแจ้งว่ามีคนมาขอพบเจ้านายหนุ่ม แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือเขาไม่ว่างรับแขกให้เธอกลับไปก่อน แล้วค่อยมาวันใหม่ สีหน้าของเอมกมลแสดงความผิดหวังเล็กน้อย แต่เขาก็อาจจะไม่ว่างจริงๆ ก็ได้ บริษัทใหญ่ขนาดนี้เขาคงกำลังยุ่งอยู่ “ทำไมนายไม่ไปพบหน้าเธอหน่อยล่ะศรุต” อีธานถามเพื่อนขึ้น เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมชายหนุ่มต้องปฏิเสธคนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของเขาด้วย “ฉันไม่มีเหตุผลอะไรจะพบหน้าหล่อน ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนๆ ก็ตาม” “นายกำลังหนีในสิ่งที่หนีไม่ได้รู้รึเปล่าเพื่อน สักวันผู้หญิงคนนี้ก็ต้องมาอยู่ในชีวิตนายอยู่ดี” “ผู้หญิงคนนั้นลับหลังฉันเธอก็มีผู้ชายอื่น ฉันคงไม่มีอะไรจะพูดกับเธอหรอกอีธาน ฉันมีเรื่องอื่นที่สำคัญกว่า ตอนนี้ยังติดต่อกับเจนนิภายังไม่ได้เลย ฉันเป็นห่วงเขา ไม่รู้ว่าไม่สบายรึเปล่า เจนเขาไม่มีใครนอกจากฉัน” “หึ นายเป็นห่วงคนอื่นมากกว่าคนที่ได้ชื่อว่าภรรยาอย่างนั้นเหรอ เอาเถอะ ฉันก็พูดอะไรได้ไม่มาก เพราะนี่มันเกินขอบเขตที่ฉันจะเข้าไปยุ่งได้ เรื่องที่ให้ไปสืบตอนนี้ฉันสั่งคนของเราตามอยู่ ไม่ต้องห่วง อีกไม่นานก็คงได้เรื่องแล้ว” “ขอบใจนะอีธาน” หลังจากที่ผิดหวังกับการขอพบหน้าเขา สีหน้าอมทุกข์ของเอมกมลเผยออกมาอย่างชัดเจน เธอมองไปรอบๆ สองข้างทางก่อนจะเห็นร้านขนมหวาน สีหน้าสวยจึงมีรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย เธอเข้าไปในร้านก่อนจะสั่งเค้กวานิลลาชิ้นนึงกับโกโก้ปั่นมานั่งกิน สายตายังคงอ่านข่าวคราวของชายหนุ่มคนนั้นต่อ เขาหน้าตาเปลี่ยนไปเล็กน้อยจากตอนที่เจอกันในวันนั้น เธอยอมรับในความเก่งของเขาไม่น้อยที่สามารถบริหารธุรกิจจนได้รับรางวัลมาได้ เสียงถอนหายใจออกมาเล็กน้อยเมื่อไม่ได้คุยกับเขาเรื่องการหย่าเธอยิ่งไม่สบายใจ แต่เธอก็ไม่ล้มเลิกความตั้งใจนี้ เมื่อวันนี้ไม่ได้พบวันต่อไปก็คงได้พบ หลังจากเลิกคลาสหญิงสาวก็ไปที่นั่นอีกสามสี่ครั้ง แต่ก็ไม่ได้พบหน้าชายหนุ่ม ในตอนนี้เอมกมลแน่ใจแล้วว่าเขาไม่ใช่ไม่ว่าง แต่ไม่อยากพบเธอต่างหาก “วันนี้คุณศรุตว่างพบดิฉันไหมคะ” หญิงสาวถามพนักงานคนเดิมที่ปฏิเสธแทนชายหนุ่มทุกครั้งว่าเขาไม่ว่างพบหน้าเธอ “เอ่อ คือว่าท่านรองคงไม่...” “เข้าใจแล้วค่ะ” ไม่ทันที่อีกฝ่ายจะพูดจบเอมกมลก็พูดแทรกขึ้นมา มือบางหยิบสมุดออกมาก่อนจะเขียนอะไรบางอย่างลงไป “ฝากนี่ให้คุณศรุตด้วยนะคะ ฝากบอกเขาอีกว่า ถ้ายังหลบหน้าฉันแบบนี้ต่อไป ฉันก็จะไม่มาหาเขาอีก แต่จะไปหาท่านเกษมแทน” เอมกมลพูดออกมาอย่างโมโหเล็กน้อย เขาเล่นอะไรอยู่กันแน่ถึงไม่ยอมเจอหน้าเธอ สีหน้าถอดสีของพนักงานฝ่ายประชาสัมพันธ์คนนั้นแสดงออกมา หล่อนรู้ดีว่าคนที่หญิงสาวเอ่ยขึ้นมาคือใคร ถ้าไม่ใช่ประธานของบริษัทนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม