บ้านเรือนหอขนาดใหญ่ที่มีแม่บ้านเพียงคนเดียว เพราะเจ้าของบ้านอย่างชนะภพได้ส่งแม่บ้านคนอื่นๆ ไปอยู่ที่บ้านแม่ของตน เขาต้องการให้งานบ้านทุกอย่างเป็นหน้าที่รับผิดชอบของบัวบูชา ส่วนแม่บ้านที่ยังเก็บไว้หนึ่งคนก็เพื่อให้ดูความประพฤติของบัวบูชานั่นเอง
และไม่ว่ากลางคืนบัวบูบัวชาจะถูกรังแกอย่างหนักหนาสาหัสแค่ไหน แต่เธอก็ต้องแบกร่างเพื่อลุกมาทำหน้าที่ของเธอตั้งแต่เช้า ทุกอย่างต้องพร้อมก่อนที่ชนะภพจะลงมา เพราะไม่อย่างนั้น...
“ไหวไหมคะ” น้ำหวานแม่บ้านที่เชื่อฟังคำสั่งเจ้านายอย่างชนะภพ คอยทำหน้าที่ทุกอย่างอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่ก็ไม่ได้เกลียดชังบัวบูชาจึงเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นร่างบางของบัวบูชาเหมือนจะยืนไม่ไหว
“ไหวจ้ะ” แม้จะตอบแบบนั้นแต่เธอก็รู้ว่าตัวเองต้องฝืนร่างกายแค่ไหน
ตอนนี้เธอแทบจะล้มทั้งยืนแล้วก็ว่าได้ แต่เธอก็ต้องรีบทำอาหารเช้าให้เสร็จ เพราะนี่ก็ใกล้เวลาที่ชนะภพจะลงมาแล้ว
“งั้นฉันไปรดน้ำต้นไม้ก่อนนะคะ” เพื่อไม่ให้บัวบูชารู้ว่าเธอมีหน้าที่ดูพฤติกรรมของบัวบูชา น้ำหวานจึงไม่สามารถทำตัวให้ติดกับบัวบูชาได้ตลอดเวลา และการยืนอยู่ใกล้ๆ โดยไม่ได้ช่วยอะไรมันอาจจะทำให้บัวบูชารู้ตัวได้
แต่ทั้งชนะภพและน้ำหวานเองกลับไม่รู้เลยว่าบัวบูชารู้ตัวว่าทุกการกระทำของเธออยู่ในสายตาของชนะภพตลอด เธอไม่ได้โง่ที่จะไม่รู้อะไรเลย เพราะเธอเองก็รู้ว่าก่อนหน้านี้บ้านชนะภพมีแม่บ้านหลายคน มันจะบังเอิญไปหรือเปล่าที่พอเธอเข้ามาชนะภพจะให้แม่บ้านไปบ้านแม่เขา โดยเหลือแม่บ้านไว้เพียงคนเดียว
เมื่ออาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย บัวบูชาก็จัดการตักข้าวต้มร้อนๆ เพื่อยกไปให้ชนะภพ แต่ด้วยเรี่ยวแรงของเธอทำให้มือเรียวสั่นเทาและอ่อนแรงจนเผลอทำน้ำข้าวต้มกระฉอกใส่มือบางของเธอ
เคร้ง!
“อ๊ะ!” ความร้อนที่ลวกมือ ความอ่อนแรงของแขนทำให้ถ้วยข้าวต้มตกแตก นั่นยิ่งทำให้ข้าวต้มร้อนๆ กระเด็นโดนขาเธอเป็นวงกว้าง
“จานหนึ่ง ชามหนึ่ง คืนนี้รับผิดชอบสิ่งที่เธอทำเสียหายด้วยล่ะ” เสียงเข้มของชนะภพที่ลงมาได้สักพักและตรงมาเพื่อต่อว่าบัวบูชาที่ยังไม่ตั้งโต๊ะ ทำให้เห็นเธอทำถ้วยจานตกแตกพอดี นั่นเลยทำให้เขาพูดออกไปแบบนั้น
บัวบูชาทำได้เพียงเม้มปากก่อนจะรีบคุกเข้าเพื่อเก็บเศษจานที่แตกให้เรียบร้อย แต่เพราะเธอรีบเกินไปทำให้เศษถ้วยแหลมๆ ทิ่มมือของเธอจนเลือดไหลออกมา
“อ๊ะ” ร่างบางสะดุ้งขึ้นด้วยความตกใจ แต่ก็ทำได้เพียงข่มความเจ็บไว้ก่อนจะเอาเศษจานไปทิ้งเพื่อกลับมาเตรียมอาหารเช้าให้ชนะภพต่อ
แน่นอนว่าทุกการกระทำของบัวบูชาตกอยู่ในสายตาของชนะภพทุกอย่าง เพียงแต่ร่างสูงทำเพียงมองภาพตรงหน้าด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
“ฉันให้เวลาสองนาที” ชนะภพพูดจบก็หมุนตัวเดินออกไปนั่งรอที่โต๊ะกินข้าวโดยไม่สนใจความเจ็บปวดของบัวบูชา
แล้วเธอจะทำอะไรได้ นอกจากรีบเอาข้าวต้มใส่ถาดก่อนจะเทกาแฟใส่แก้วแล้วยกออกไปเสิร์ฟให้กับสามีที่เป็นเจ้านายของเธอไปแล้วนั่นเอง
แต่หน้าที่ของบัวบูชาไม่ได้จบแค่นี้ หลังจากเธอยกอาหารมาเสิร์ฟแล้วไม่ได้หมายความว่าภรรยาอย่างเธอจะมีสิทธิ์นั่งร่วมโต๊ะกับสามีอย่างชนะภพ และไม่ใช่ว่าเธอจะออกไปไหนได้ เพราะเธอต้องยืนรอให้ชนะภพทานอาหารให้เสร็จเรียบร้อย มันถึงจะหมดหน้าที่ของเธอ
“เที่ยงนี้จัดอาหารแล้วเอาไปส่งฉันที่บริษัทด้วย” เมื่อจัดการมื้อเช้าเสร็จ ชนะภพก็เอ่ยขึ้นก่อนจะหยิบสูทเดินออกไปเพื่อไปทำงาน
แต่ได้ยินแบบนี้อย่าได้ดีใจคิดว่าเขาเห็นเธอสำคัญจนอยากให้เธอทำอาหารไปส่งให้เขาเหมือนหน้าที่ของภรรยาทั่วไป แต่การที่ชนะภพทำแบบนี้นั่นก็เพื่อประจานให้บัวบูชาอาย เพราะเรื่องของบัวบูชากับชนะภพนั้นคนรับรู้กันไปทั่ว รวมถึงพนักงานบริษัทของชนะภพเองก็เช่นกัน
แน่นอนว่าการไปหาชนะภพที่บริษัทนั้นเป็นสิ่งที่บัวบูชาไม่อยากไปเลยสักนิด แต่คิดว่าเธอจะเลี่ยงได้อย่างนั้นเหรอ...