“เป็นฉัน ฉันไม่กล้าออกไหนมาไหนหรอกนะ”
“แกก็พูดไม่คิด ถ้าคนรู้จักอายแกคิดว่าจะวางยาผู้ชายแบบนี้หรือไง”
“แต่นางน่าสงสารนะ คิดว่าแต่งงานจะได้เป็นเมียออกหน้าออกตาของท่านประธาน แต่ดูสภาพตอนนี้สิ ไม่ต่างจากแม่บ้านเลยสักนิด”
“ฮ่าๆๆ นั่นสิ ไม่มีราศีของคุณหญิงคุณนายเลยสักนิด”
“ดีแค่ไหนที่ท่านประธานเป็นสุภาพบุรุษยอมแต่งงานให้ทั้งที่ไม่จำเป็นเลยสักนิด ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นคงไม่ได้แม้แต่เงินสักแดง”
“แต่คนที่น่าสงสารที่สุดก็คงจะเป็นท่านประธาน ไม่น่าต้องมารับผิดชอบผู้หญิงหน้าเงินแบบนี้เลย”
ทั้งเสียงนินทาสายตาดูถูกเหยียดหยามที่จ้องมองมาอย่างไม่ปิดบังเลยสักนิด นั่นทำให้ร่างของบัวบูชาเหมือนถูกสาป ร่างบางหลีบเล็กอย่างน่าสงสารแต่เธอไม่สามารถหายตัวไปไหนได้ เธอไม่สามารถทำให้คนอื่นมองไม่เห็นเธอได้
เธอได้แต่เย้ยหยันตัวเองในใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ว่าเวลาดีๆ ทุกคนกลับไม่เคยเห็นหัวเธอ แต่ทำไมกันนะ ทำไมเวลาที่เธอไม่อยากให้ใครสนใจทุกคนกลับจ้องมองมาที่เธออย่างพร้อมเพรียงกัน
กว่าร่างบางจะได้หายใจได้เต็มปอดก็ตอนที่ประตูลิฟท์ได้ปิดลงแล้ว และมีเพียงเธอที่ยืนอยู่ข้างในคนเดียว หน้าเล็กเงยขึ้นเล็กน้อยเพื่อขับไล่น้ำตาให้ย้อนกลับเข้าไปคืน เธอจะอ่อนแอไปเพื่ออะไร ยิ่งเธออ่อนแอคนอื่นๆ ก็จะยิ่งมองว่าเธอเรียกร้องความสงสาร พวกเขายิ่งสมเพชเธอ ฉะนั้นเธอควรเข้มแข็งให้มากที่สุด เข้มแข็งจนกว่าเธอจะ...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
มือเล็กยกมือเคาะประตูห้องทำงานใหญ่ของชนะภพก่อนจะเปิดมันเข้าไปเหมือนทุกครั้ง
แต่...
“อื้อ คุณภพ” เสียงครางที่ดังขึ้นทำให้เท้าเรียวของบัวบูชาชะงักนิ่งก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อไม่ต้องการเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในห้อง
“เข้ามาแล้วเอาของมาวางไว้” เมื่อเห็นบัวบูชายืนนิ่งอยู่กับที่ชนะภพก็พูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ นั่นทำให้บัวบูชาที่ไม่อยากเข้าไปต้องเดินเข้าไปข้างใน
“อื้อ คุณภพก็...อย่าพึ่งสิคะ” เสียงหญิงสาวที่นั่งอยู่บนตักของชนะภพเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเคล้าหัวเราะอย่างมีความสุข
“จะไปไหน” เมื่อหางตาคมที่จ้องมองการเคลื่อนไหวของบัวบูชาเห็นว่าเธอวางอาหารลงโต๊ะแล้วกำลังจะหมุนตัวเดินไปทางประตู ชนะภพก็เอ่ยดักขึ้นทันที
“บัวจะกลับค่ะ”
“ฉันสั่งหรือยัง”
“.....” ร่างบางเม้มปากแน่นก้มหน้ามองพื้นเพื่อไม่ให้เห็นภาพกิจกรรมของชนะภพกับหญิงสาวอีกคน
เธอควรจะชินได้แล้วไม่ใช่เหรอ เพราะเหตุการณ์แบบนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก มันเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว ทั้งภาพที่เธอเห็นชนะภพใกล้ชิดและนัวเนียกับผู้หญิง เสียงที่เธอได้ยินชนะภพเอ่ยบอกคิดถึงและฝันดีกับผู้หญิง
แต่จะให้เธอพูดยังไง เรื่องแบบนี้มันชินได้จริงๆ เหรอ เรื่องแบบนี้มันยอมรับกันได้ด้วยเหรอ การเห็นและได้ยินอะไรแบบนี้มันจะนิ่งและไม่รู้สึกอะไรได้จริงๆ หรือไง
เธอกล้าตอบตรงนี้เลยว่ามันไม่จริงเลย เพราะทุกอย่างมันทำให้รู้สึกได้ และไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีด้วย
“นั่งรอจนกว่าฉันจะกินข้าวเสร็จ เธอถึงจะไปได้” คำสั่งของชนะภพดังขึ้นอย่างเด็ดขาด และเป็นคำสั่งที่บัวบูชาไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธมันได้เลยสักครั้ง
ร่างบางจำใจต้องเดินไปนั่งที่โซฟารับรองมุมห้องอย่างเลี่ยงไม่ได้ ก่อนเธอจะนั่งก้มหน้านิ่งเพื่อไม่ให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เพียงแต่สายตาที่สามารถไม่รับรู้ได้ แต่หูของเธอมันไม่สามารถปิดกั้นการได้ยินได้ดั่งใจต้องการ
“อื้อ อ๊า คุณภพ...”
“อ๊ะๆ ๆ อื้อ สะ...เสียวค่ะ”
เสียงครวญครางของหญิงสาวพร้อมกับความเฉอะแฉะที่ดังขึ้นเหมือนกับเสียงแหลมคมที่เข้ามาบาดหูของบัวบูชาจนมันเจ็บแสบลงไปถึงอกซ้ายของเธอ
และนานร่วมสิบกว่านาทีกว่าเสียงพวกนั้นจะสิ้นสุดลง และตามมาด้วยเสียงรองเท้าคัตชูหนังคู่แพง และเสียงรองเท้าส้นสูงที่เดินเคียงคู่กันเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นเรื่อยๆ และหยุดตรงหน้าเธอ
“เอาของๆ เธอกลับไปซะ ฉันจะพาเบลล่าออกไปหาอะไรกินข้างนอก” เมื่อพูดจบชนะภพก็พานางแบบสาวร่างอรชรเดินออกจากห้องทำงานไปทันทีโดยไม่สนใจหันกลับมามองบัวบูชาแม้แต่น้อย
กลับเป็นบัวบูชาที่นั่งมองแผ่นหลังกว้างที่มีหญิงสาวควงแขนเดินออกจากห้องไปจนลับสายตาอย่างทำอะไรไม่ได้
“ถ้าเธอไม่ชินกับสิ่งที่เป็น คนที่จะเจ็บปวดก็มีแต่เธอนะบัว”