ครืดด! เสียงโทรศัพท์ของบัวบูชาดังขึ้นระหว่างที่เธอกำลังจะนั่งรถแท็กซี่กลับบ้านของสามี และรายชื่อที่โทรเข้ามาก็ทำให้ใจของบัวบูชารู้สึกไม่ดีขึ้นมากะทันหัน
“ค่ะป้าเพียง”
(บัวแม่หนูเป็นลม ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลลูก!)
“อะไรนะคะ!...”
“ดะ...เดี๋ยวบัวจะรีบไปเดี๋ยวนี้ค่ะ!”
เส้นทางที่ถูกเปลี่ยนกะทันหันหลังจากบัวบูชาได้รับโทรศัพท์จากผู้เป็นป้า และมันก็เป็นเรื่องสำคัญมาก ทำให้ตอนนี้ร่างบางของบัวบูชามาถึงโรงพยาบาลรัฐฯ แห่งหนึ่งก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปด้านในอย่างรีบร้อน
“ป้าเพียง แม่เป็นยังไงบ้างคะ”
“ตอนนี้หมอยังดูอาการอยู่ลูก”
“เกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมแม่ถึงได้เป็นลมไป”
“เฮ้อ! ก็ผลข้างเคียงจากโรคแม่เรานั่นแหละ แล้วเมื่อวานก็กำหนดฟอกไตแต่แม่เราไม่ยอมมา...”
“ทั้งขู่ไม่ให้ป้าโทรบอกเรา พอมาวันนี้ป้าจะไปกล่อมให้มาหาหมอก็ไปเจอเป็นลมอยู่ที่พื้นก่อน”
“แล้วทำไมแม่ไม่ยอมมาคะ” บัวบูชาเอ่ยถามอย่างร้อนรนเมื่อรู้เรื่องของแม่ตัวเอง
แม่ที่ถูกพ่อตราหน้าว่าคบชู้และหนีตามชู้มานั่นเอง
“บัวก็รู้ใช่ไหมว่าค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งมันไม่น้อย แม่ไม่อยากให้บัวต้องมาลำบากเพราะค่ารักษาพวกนี้ เพราะเขาไม่ได้เลี้ยงบัวมา เขาเกรงใจบัว”
“แต่บัวบอกแม่ไปแล้วนี่” ว่าเธอยอมทำทุกอย่างเพื่อให้แม่หาย แล้วทำไม...
“ป้ารู้ แต่แม่รู้ว่าครอบครัวพ่อเรามีปัญหา แม่เรากลัวว่าถ้าบัวต้องไปขอเงินสามีบัวมาบ่อยๆ มันจะไม่ดี...”
“ป้าเองก็เหนื่อยจะพูดกับแม่เราแล้วล่ะ วันๆ เอาแต่ปลงตก บอกว่าปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ถูกกำหนด ยังไงคนเราก็ต้องตายกันอยู่แล้ว”
“.....”
“ชมพูไม่อยากสร้างความลำบากให้บัวก่อนตาย แค่ที่บัวไม่โกรธไม่เกลียดมัน มันก็ดีใจแล้ว”
“.....” บัวบูชาถึงกับน้ำตาคลอเบ้าออกมาเมื่อได้ฟังสิ่งที่ป้าเล่า
ตั้งแต่จำความได้บัวบูชาก็ไม่เคยเจอหน้าแม่บังเกิดเกล้าของเธอเลย เธอเคยคิดว่ารมิดาเป็นแม่แท้ๆ ของเธอ แต่เธอก็เต็มไปด้วยความสงสัยว่าทำไมชื่อของเธอไม่เหมือนกับรมิดาและรมิตา ไหนจะความรักความใส่ใจที่อีกฝ่ายมีให้
กระทั่งเธอได้รู้ความจริงว่าเธอเป็นลูกเลี้ยง พ่อบอกเธอว่าแม่แท้ๆ ทิ้งเธอหนีตามชู้ไปตั้งแต่คลอดเธอได้ไม่ถึงห้าเดือน และพ่อก็สั่งห้ามไม่ให้ถามหรือพูดถึงแม่แท้ๆ อีก
จนบัวบูชาอายุได้ยี่สิบสอง ตอนนั้นเธอพาเพื่อนที่รถชนแถวนี้พอดีเลยได้เข้ามารักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลรัฐฯ แห่งนี้ และตอนนั้นทำให้เธอได้เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เธอเคยเห็นรูปในห้องทำงานของพ่อเธอ พร้อมกับหญิงวัยกลางคนคนนั้นที่หันมาเห็นเธอก่อนจะน้ำตาไหลออกมา ซึ่งมันทำให้บัวบูชาตกใจมากและสับสนว่านั่นใช่แม่เธอหรือเปล่า
แต่พอแม่เธอรู้ตัวกลับรีบเดินหนีเธอไปจนทำให้บัวบูชายิ่งคาใจ จนกระทั่งเพียงเพ็ญญาติคนเดียวของแม่เป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาเธอเอง ก่อนจะเล่าบางอย่างให้บัวบูชาได้ฟัง พร้อมกับให้เบอร์ติดต่อและที่อยู่กับบัวบูชามา
และหลังจากนั้นบัวบูชาก็ได้ตัดสินใจไปหาแม่ของเธอด้วยตัวเอง และถามเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตทุกอย่างที่เธอได้รับรู้จากพ่อ แม่ของเธอตัดสินใจเล่าบางอย่างให้บัวบูชาฟัง จนเธอได้รู้ว่าแม่ของเธอไม่ได้มีชู้อย่างที่พ่อเข้าใจ ทุกอย่างเป็นเรื่องเข้าใจผิด มีคนทำให้พ่อเธอคิดว่าแม่มีชู้จนพ่อไล่ออกจากบ้าน
และที่บัวชมพูไม่ติดต่อหาลูกสาวอย่างบัวบูชาก็เพราะว่ามีเหตุผลบางอย่างที่บูชมพูไม่ขอพูดถึง แต่เธอยังคอยเฝ้ามองลูกสาวของเธออยู่ตลอดเวลาจากความช่วยเหลือของเพียงเพ็ญ พอบัวบูชารู้ว่าแม่ยังรักและไม่เคยลืมเธอ นั่นก็ทำให้บัวบูชายังคงติดต่อและไปมาหาสู่กับแม่บังเกิดเกล้า โดยผู้เป็นแม่มีข้อแม้ว่าอย่าบอกเรื่องนี้กับพ่อของบัวบูชาเด็ดขาด
ตอนแรกบัวบูชาก็ไม่ยอมเพราะอยากให้พ่อรู้ว่าแม่ไม่ได้ทำผิดต่อพ่อ แต่แม่เธอก็ยืนยันว่าเรื่องของทั้งสองได้จบลงแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องสนใจเรื่องจริงหรือโกหกอีกต่อไป และต่อให้บอกไปยังไงพ่อของเธอก็ไม่มีทางเชื่อ นั่นทำให้บัวบูชายอมตัดใจไม่บอกเรื่องนี้กับพ่อของตัวเอง
เรื่องทุกอย่างมันเหมือนจะดีและมีความสุขที่เธอได้เจอกับแม่แท้ๆ ของตัวเองแล้ว แต่สุดท้ายเธอดันมารู้ทีหลังว่าแม่ของเธอมีโรคประจำตัว และเป็นระยะสุดท้ายแล้ว นั่นทำให้บัวบูชาใจหายและทำอะไรไม่ถูก นอกจากพยายามกล่อมให้แม่เธอรักษาตัวให้ดี
แต่เรื่องมันก็ไม่ได้ง่ายแบบนั้น เพราะการรักษาตัวของแม่เธอนั้นมีค่าใช้จ่ายเยอะมาก บวกกับครอบครัวของเธอประสบปัญหาการเงิน เงินที่เคยได้จากพ่อก็ลดลงกว่าครึ่ง พอเธอลองไปขอเงินพ่อเพื่อไว้รักษาแม่โดยไม่ได้บอกเหตุผลแต่พ่อก็ไม่มีให้ ตอนนั้นบัวบูชารู้สึกจนหนทางมาก เธอแทบไม่รู้เลยว่าจะต้องหาเงินจากไหนมาให้แม่รักษาตัวทุกอาทิตย์
จนกระทั่งเกิดเรื่องกับเธอขึ้นซะก่อน เรื่องของเธอกับชนะภพนั่นเอง แต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีที่เธอได้รับเงินจากชนะภพทุกครั้งที่... เงินพวกนั้นเธอได้ให้แม่เธอทุกครั้งเพื่อรักษาตัว แม้บางครั้งอาจจะได้น้อยจนไม่พอ แต่บัวบูชาก็ยังพยายามหามาจนครบได้ตลอดนั่นเอง
“ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ แต่ญาติควรพาคนไข้มาหาหมอตามนัดทุกครั้งนะครับ ถ้าปล่อยไว้แบบนี้อาจอันตรายถึงชีวิตได้” หมอที่รักษาเดินออกมาบอกกับญาติที่เขาจำได้ดี
“ขอบคุณนะคะคุณหมอ” ทั้งบัวบูชาและเพียงเพ็ญยกมือไหว้ขอบคุณหมอ
“พรุ่งนี้ถ้าอาการคนไข้ดีขึ้น หมอจะทำการฟอกเลือดให้ ญาติว่ายังไงครับ”
“รักษาเลยค่ะ” เป็นบัวบูชาที่ตอบกลับอย่างไม่ต้องคิดอะไรเลย เพราะชีวิตแม่ของเธอมีค่าที่สุดแล้วในตอนนี้
“ครับ” หมอตอบรับก่อนจะเดินออกไปทำหน้าที่ตัวเองต่อ
“บัวมีเงินเหรอลูก” ป้าเพียงหันมาถามบัวบูชาขึ้น เพราะเธอเองก็รับรู้มาตลอดว่าบัวบูชาไม่ได้มีเงินมากมายอะไร
“ป้าไม่ต้องห่วงจ้ะ ยังไงบัวก็จะหาเงินมาจ่ายค่ารักษาให้แม่ได้แน่นอน”
“งั้นไปดูแม่เถอะ”
“จ้ะ”