กิ่งแก้ว (2)

2444 คำ
บทที่ 2 ความสัมพันธ์ รุ่งเช้ากิ่งแก้วเดินออกจากห้องพักชั้นสามลงไปหาซื้อขนมปังแผ่น ไส้กรอก แฮม และแยมจากร้านสะดวกซื้อ เธอแวะซื้อผลไม้จากแผงแล้วขึ้นมาทำแซนด์วิชเป็นอาหารเช้ากินกับกาแฟดำและทำใส่กล่องพลาสติกเตรียมไว้ให้บรรจบ เธอให้เหตุผลกับตนเองว่าที่เธอเอื้อเฟื้อเขามากมายทั้งการให้ทิปหนัก การซื้อบะหมี่ให้เมื่อวานเย็น และการลงไปซื้อวัตถุดิบมาทำแซนด์วิชให้เขาเป็นเพราะบรรจบเป็นคนที่มีน้ำใจ นอกจากนั้นเขายังพูดคุยให้ความรู้กับเธอมากมายเรื่องรถรา เขาบอกเธอด้วยว่าหากรถของเธอมีปัญหาอีก เขาจะบอกช่างจากอู่ซึ่งเขารู้จักให้มาช่วยซ่อมในราคาถูกกว่าที่ศูนย์ เธอรู้สึกดีที่เธอได้เพื่อนใหม่ซึ่งเป็นคนติดดิน เป็นคนทำงานสุจริต เธอไม่เห็นเป็นเรื่องแปลกที่เธอจะเป็นเพื่อนกับคนขับรถแท็กซี่ที่เพิ่งรู้จักกันได้เพียงวันเดียว “คนแบบนี้ดีกว่าพวกไฮโซที่ใช้ชีวิตไปวันๆ เอาเงินจากไหนไม่รู้มาใช้ เงินโกงเขามาทั้งนั้น” กิ่งแก้วคิดในใจขณะอาบน้ำพร้อมกับฮัมเพลง วันนี้เธอเลือกสวมเสื้อตัวเท่ที่เธอซื้อไว้ตั้งแต่เดือนที่แล้ว ในเวลานั้นเธอตั้งใจว่าจะเก็บไว้ใส่ในโอกาสเหมาะๆ “ใส่วันนี้ก็ได้ วันนี้ตอนบ่ายจะต้องไปรับรถที่ศูนย์ ถือว่ารับขวัญรถก็แล้วกัน ใส่เสื้อใหม่เป็นเคล็ด” กิ่งแก้วพึมพำให้เหตุผลกับตนเองขณะหมุนตัวหน้ากระจก เธอมองรูปร่างสมส่วนที่อยู่เบื้องหลังเสื้อเชิ้ตแนวสปอร์ตและกางเกงยีนส์ขาตรง เธอมักทำหลังค่อมเพื่อปิดบังหน้าอกไม่ให้พุ่งแหลมเด่นชัด เมื่อรู้ตัวเธอจะยืดตัวขึ้นนิดหนึ่ง แต่ไหล่สองข้างยังคงห่อ กิ่งแก้วหวนนึกถึงวัยเด็กที่เติบโตมากับพี่น้องผู้ชายล้วน เธอมักถูกพวกเขาล้อเลียนและแกล้งตะครุบ ซึ่งเธอหาทางแก้ปัญหาด้วยการทำตนให้กลมกลืนไปกับพวกเขา เมื่ออยู่บ้านเธอสวมกางเกงขาสั้นและเสื้อตัวหลวมเพื่อปิดบังรูปร่างของเพศหญิง รวมทั้งพูดจามึงมาพาโวยแบบเดียวกับเด็กผู้ชาย แม่ของเธอเองไม่ได้ห้ามปรามสักเท่าไหร่เพราะนางเห็นพวกเพื่อนๆ ของลูกชายที่มักเข้ามาหยอกล้อถึงเนื้อถึงตัวกิ่งแก้วอยู่บ่อยครั้ง นางให้ท้ายลูกสาวด้วยซ้ำให้ด่าตะเพิดพวกเด็กผู้ชายให้ไปห่างๆ กิ่งแก้วทำตัวครึ่งหญิงครึ่งชายก็แต่เพียงรูปแบบภายนอกทั้งการพูด การแต่งตัว รวมถึงท่าเดินอาดๆ เหมือนไม่กลัวใคร แต่ในส่วนลึกของจิตใจและธรรมชาติแท้จริงของเธอนั้นเป็นหญิงแท้จริงตามเพศสภาพ เช้าวันนี้บรรจบนำรถมาจอดรอที่ใต้อาคารก่อนเวลานัด 15 นาที เขายืนสูบบุหรี่พิงหน้ารถขณะมองไปทางบันไดอพาร์ตเมนต์ที่กิ่งแก้วเดินขึ้นไปเมื่อเย็นวานนี้ คนยามผู้ดูแลลานจอดรถมองบรรจบนิดหนึ่งและหันกลับไปสนใจกับข่าวกีฬาในหน้าหนังสือพิมพ์ 07.30 กิ่งแก้วเดินลงมาจากบันได เธอสะพายกระเป๋าหนังไพล่เฉียง ชายหนุ่มสังเกตเห็นว่าเธอสวมเสื้อใหม่ ผมหวีปัดเรียบ ใบหน้าทาแป้งขาวกว่าสีผิว “มาตรงเวลาจริงๆ” กิ่งแก้วทักชายหนุ่ม “ผมมารอแต่เช้าแล้วละ” บรรจบยิ้มและเดินไปเปิดประตูรถด้านหน้าข้างซ้ายรอ “อ่ะ นี่นะ แซนด์วิชห้าคู่ แอปเปิ้ลฝานเรียบร้อยแล้ว กลางวันจะได้ไม่ต้องหิวอีก เผื่อไว้กินได้สองมื้อ” กิ่งแก้วส่งถุงที่บรรจุกล่องอาหารให้เขา โชเฟอร์หนุ่มยื่นมือรับและยิ้ม จากนั้นรถแท็กซี่สีสดก็ขยับออกจากที่จอดและออกประตูอพาร์ตเมนต์มุ่งหน้าไปสะพานกรุงธน “ทำไมพี่ไม่ไปเช่าหออยู่ใกล้ๆ ที่ทำงานล่ะ จะได้ไม่ต้องขับรถไกล ถนนเส้นนี้รถติดทุกวัน แถมบางทีก็ต้องเปลี่ยนเส้นทางเพราะเขากั้นรถบ่อย” “นั่นน่ะสิ ตอนเข้ากรุงเทพฯ ครั้งแรก พี่มาอยู่กับเพื่อนที่อพาร์ตเมนต์นี้พักหนึ่ง ตอนหลังเพื่อนพี่มีแฟนเขาก็ย้ายไปอยู่ด้วยกัน พอดีพี่ได้งานก็เลยรับช่วงเช่าต่อ แถมพ่อพี่ให้รถมาใช้ มันก็ลงตัว ไม่ได้คิดจริงจังเท่าไรว่าต้องหาที่อยู่ใกล้ที่ทำงาน อยู่ที่นี่ก็สบายดี ของกินเยอะ” กิ่งแก้วพูดเล่าเรื่องของตัวเองอีกหลายอย่างให้ชายหนุ่มฟังราวกับเขาเป็นคนที่คุ้นเคยกับเธอมานาน ซึ่งคนที่มีอาชีพขับรถแท็กซี่อย่างบรรจบนั้นมีความชำนาญในการพูดคุยกับผู้โดยสารอยู่ทุกวัน จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะรับฟังและจับเรื่องราวที่หญิงสาวผู้นี้แบ่งปัน จนเกือบถึงที่ทำงานของกิ่งแก้วเขาจึงถามเธอว่า “แล้วพี่จะมารับรถตอนกี่โมงล่ะ” “ถ้าทางศูนย์โทรมาเมื่อไรก็เมื่อนั้น อาจจะสักเย็นๆ มั้ง” กิ่งแก้วตอบ “ให้ผมมารับนะ” บรรจบถาม “อย่าลำบากตีรถมาเลย เพราะหากติดส่งผู้โดยสารก็จะกังวล ขับรถเร็วๆ เดี๋ยวจะมีอุบัติเหตุ” กิ่งแก้วตอบด้วยสุ้มเสียงเหมือนพี่สาวที่เป็นห่วงน้องชาย “เอาอย่างนี้ ตอนเย็นถ้าพี่จะให้ผมมารับ พี่โทรหาผม ถ้าผมติดผู้โดยสารผมจะบอกพี่ว่าไม่ว่าง ถ้าผมขับรถเปล่าผมจะมารับพี่” บรรจบเสนอทางออกให้เธอ “ตามนั้น” เธอตอบและควักเงินค่าโดยสารมาถือเตรียมไว้ เธอบอกเขาว่าไม่ต้องทอนเมื่อเขาส่งเธอถึงหน้าประตูอาคาร แล้วกิ่งแก้วก็เดินเข้าห้องทำงานอย่างสบายใจ เธอรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกใหม่คืบคลานเข้ามาในใจ โลกเงียบในห้องเก็บเอกสารข้อมูลเริ่มมีสีสันขึ้นมา เย็นวันนั้นบรรจบขับรถแท็กซี่มารับกิ่งแก้วไปส่งที่ศูนย์รถ วันรุ่งขึ้นเขาไปหาเธอที่อพาร์ตเมนต์ด้วยเหตุผลว่าต้องการคืนกล่องพลาสติกให้เธอ เขาซื้อขนมเค้กใส่กล่องมาด้วยเพื่อตอบแทน สองวันต่อมากิ่งแก้วพบเขาโดยบังเอิญที่หน้าสำนักงานในช่วงเย็น เขาบอกว่ามาส่งผู้โดยสารแถวนั้น เธอแสดงอาการดีใจและซื้อกาแฟมียี่ห้อให้เขาดื่มแก้ง่วงเวลาขับรถยามดึก ทั้งสองยืนคุยกันประมาณครึ่งชั่วโมง สัปดาห์ต่อมาบรรจบชวนกิ่งแก้วไปเที่ยวอำเภอรอบนอกของจังหวัดราชบุรี เขารู้ว่าเธอชอบชีวิตชาวบ้าน เธอตกลงแต่มีข้อแม้ว่าเขาต้องยอมให้เธอจ่ายค่าน้ำมันรถและเลี้ยงอาหารกลางวันอย่างดี เขาตกลงและขับรถแท็กซี่สีสดของเขาแวะตามสถานที่ต่างๆ จนมืดค่ำ แล้วเขาก็ชวนกิ่งแก้วไปเช่ากระท่อมริมสระน้ำเพื่อนอนพักค้าง กิ่งแก้วตกลงโดยวางเงื่อนไขว่าเธอต้องเป็นคนจ่ายค่าที่พักเอง เขาอิดออดและบอกว่าขอเลี้ยงอาหารเย็นเธอก็แล้วกันเพื่อไม่เป็นการเอาเปรียบ ค่ำวันนั้นที่ร้านอาหารแบบลมโชยซึ่งอยู่ไม่ห่างจากกระท่อมที่พัก กิ่งแก้วสนุกสนานกับบรรยากาศที่เธอไม่เคยพบเจอมาก่อน ในร้านนั้นมีเครื่องเล่นคาราโอเกะและลำโพงตัวใหญ่ ผู้ที่เข้ามานั่งในร้านดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นคนขับรถรับจ้าง ผู้ใช้แรงงาน และชาวไร่ชาวนา พวกเขาพูดคุยกันด้วยเสียงอันดัง ทุกโต๊ะมีเหล้า เบียร์ และกับแกล้มประเภทอาหารป่า ลาบดิบ ยำสัตว์น้ำตัวเล็กๆ ที่ยังเต้นไปมาอยู่ในจานเครื่องเทศเผ็ดร้อน “พี่ ลองดื่มยาดองสมุนไพรสักแก้วนะ” บรรจบส่งแก้วใบเล็กบรรจุของเหลวสีน้ำตาลเข้มมีกลิ่นหอมฉุนมาตรงหน้าเธอ “กินแล้วจะเมาไหม เดี๋ยวหัวทิ่มตกเก้าอี้จะว่าไง” กิ่งแก้วรับแก้วใสที่ขุ่นด้วยคราบต่างๆ แล้วนำมาจ่อที่จมูก เธอทำท่ากระแอมกระไอ “ฉุนนิดหน่อย เขาดองด้วยกระดูกเสือผสมหัวว่านหลายชนิด กินแล้วเลือดลมดี พี่จะเป็นหนุ่มขึ้นเลยละ” “เฮ่ย พี่เป็นผู้หญิงนะ ตาคนนี้” กิ่งแก้วทำท่าปิดปากหัวเราะอย่างใส่จริต บรรจบมองหญิงสาวผมสั้นที่แหงนหน้าเทสุราร้อนแรงถ้วยนั้นลงคอไป เธอไอแค็กๆ น้ำหูน้ำตาไหลจากความรู้สึกร้อนวาบขณะที่ของเหลวนั้นล่วงผ่านลำคอลงท่อไปถึงกระเพาะอาหาร “อีกถ้วยพี่ จะได้ถอน ไม่งั้นเมาแย่” บรรจบรินเหล้าจากขวดสีทึบลงในถ้วยใบน้อยอีกครั้ง” “ทำไมเหรอ กินถ้วยเดียวเมา แล้วสองถ้วยไม่เมารึไง” กิ่งแก้วถาม เธอเขย่าถ้วยเปล่าเล่นเป็นเชิงบอกเขาว่าขอเติมเป็นถ้วยที่สาม “พี่นี่คอแข็งเหมือนกันนะ คือเขาให้กินแก้วคู่ ไม่ใช่แก้วคี่ เป็นเคล็ดหรืออะไรผมก็ไม่รู้หรอก ถ้าพี่จะกินไม่ให้เมาก็ต้องกินแบบสอง สี่ หรือ หกแก้วน่ะ เมื่อกี้สามแล้วใช่ไหม งั้นอีกแก้วละกัน” ใกล้เที่ยงคืน บรรจบหิ้วแขนกิ่งแก้วขึ้นรถ เขาขับพากิ่งแก้วไปยังที่พักซึ่งปลูกสร้างลักษณะกระท่อมริมสระเลี้ยงปลาขนาดใหญ่ เขาจอดรถและประคองร่างหญิงสาวออกมาจากที่นั่งด้านผู้โดยสาร “เดี๋ยวผมนอนในรถนี่แหละ พี่เข้าไปนอนในห้องเถอะ” กิ่งแก้วส่ายหัวและโอบบ่าบรรจบไว้ “นอนในรถเดี๋ยวก็หนาวตาย เข้ามานอนข้างในนี่ พี่ไม่กัดหรอก” กิ่งแก้วพูดเสียงอ้อแอ้ แล้วเธอก็ร้องเพลงที่ได้ยินจากร้านอาหารด้วยอารมณ์ครึกครื้น “งึก งึก งัก งัก ดัม ดั๊ม ดั่ม ดำ...จั่งซี่มันต้องถอน จั่งซี่มันต้องถอน...จั่งซี่มันต้องถอน...น...น...น” “อย่าเอะอะไปพี่ เดี๋ยวคนอื่นเขาก็ตื่นมาดูเรา อายเขาน่ะ” กิ่งแก้วมองไปยังกระท่อมหลังอื่นที่ปลูกสร้างเรียงเป็นแถวริมสระมีกลิ่นคาวของอาหารเม็ดที่ใช้เลี้ยงปลา กระท่อมเหล่านั้นมีรถจอดด้านหน้าทุกหลัง พวกเขาปิดไฟเงียบ “งั้นก็เข้ามานอนด้วยกัน” หญิงสาวส่งเสียง “เอาจริงหรือ” บรรจบถามและมองเธอเพื่อความแน่ใจ “จริงสิ” กิ่งแก้วตอบ เธอพยายามยืนทรงตัวขณะเกาะแขนโชเฟอร์หนุ่มไว้ “ได้เลย รอแป๊บพี่” บรรจบจับมือเธอให้เกาะประตูรถไว้ขณะที่เขามุดเขาไปเปิดช่องเก็บของหน้ารถ เขาควานมือไปมาก่อนจะดึงซองถุงยางอนามัยออกมาถือไว้แล้วถอยตัวมากอดเอวหญิงสาว กิ่งแก้วช่วยเขาปิดประตูรถโดยใช้สะโพกกระแทก เสียงหัวเราะของเธอเริงร่าเหมือนเสียงระฆังเลิกเรียน หลังจากนั้นทั้งสองก็ไขกุญแจเข้าไปในกระท่อมอันมืดมิดและปิดประตู สายวันรุ่งขึ้นกิ่งแก้วและบรรจบเดินตามหลังกันออกมาจากกระท่อมและขึ้นรถแท็กซี่สีสดขับออกไป ทั้งสองแวะหาของกินในตลาด บรรจบดื่มกาแฟ กินไข่ลวกสองแก้ว กินปาท่องโก๋อีกหลายคู่ ตบท้ายด้วยเครื่องดื่มชูกำลังที่เขาเดินไปหยิบจากตู้แช่ ส่วนกิ่งแก้วกินโจ๊กร้อนๆ ใส่ไข่สองฟองด้วยท่าทางหิวโหย คนขายอาหารมองดูหนุ่มสาวทั้งสองและป้องปากซุบซิบกัน ตามด้วยเสียงหัวเราะคิกคักอย่างรู้กันว่าทั้งสองคงผ่านศึกใหญ่มาเมื่อคืนนี้ กิ่งแก้วและบรรจบแวะเที่ยวรายทางตลอดช่วงเช้า ก่อนถึงกรุงเทพฯ บรรจบแวะปั๊มและเติมน้ำมันรถจนเต็มถังโดยกิ่งแก้วเป็นผู้รูดบัตรจ่ายเงิน นอกจากนั้นเธอยังให้เงินเขาอีกสองพันบาทเพื่อชดเชยกับการเสียรายได้ที่พาเธอไปเที่ยว “เอาไปเหอะ พี่ให้” กิ่งแก้วพูดพลางจับมือบรรจบไว้และดึงนิ้วของเขาให้แบออกรับธนบัตรสองใบ “เดี๋ยวผมขึ้นไปส่งพี่บนห้องนะ” ชายหนุ่มพูดพลางลูบแขนกิ่งแก้วขึ้นลงอย่างมีความหมาย หญิงสาวพยักหน้าและหายใจแรงขึ้น เธอพึงพอใจยิ่งนักกับสิ่งเกิดขึ้นระหว่างเธอและเขาเมื่อคืนนี้ในกระท่อมริมสระน้ำที่มีกลิ่นคาวคลุ้ง เธอได้พบความหฤหรรษ์อย่างที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน กิ่งแก้วถนอมตัวไว้ตลอดมาตั้งแต่จำความได้โดยไม่ให้ใครได้สัมผัสหรือแม้แต่จะแทะโลมด้วยสายตา เธอผ่านวัยเด็กสาวแรกรุ่นมาอย่างปลอดภัยจนขึ้นวัยสาวเต็มตัวในช่วงที่ศึกษาระดับมหาวิทยาลัย ตลอดสามปีของการทำงานในกรุงเทพฯ เธอใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวโดยไม่ยุ่งเกี่ยวข้องแวะกับใคร แต่เมื่อคืนนี้เธอยอมปล่อยตัวให้บรรจบโลมไล้และรุกเร้า เธอมอบร่างกายให้เขาเชยชมอย่างเต็มใจ มันไม่ใช่เรื่องลำบากยากเย็นอย่างที่เธอเคยอ่านในหนังสือหลายเล่มที่บอกกล่าวถึงความทุกข์ทรมานของหญิงสาวในการมีเซ็กซ์ครั้งแรก สำหรับเธอแล้วมันช่างง่ายดายเหมือนปอกกล้วย บรรจบถึงกับออกปากถามเธอด้วยความแปลกใจว่าเธอเคยมีประสบการณ์มาก่อนหรือเปล่า กิ่งแก้วตอบไปด้วยถ้อยคำทีเล่นทีจริงว่าก็แล้วแต่เขาจะคิด เธอไม่ได้บอกให้เขารู้ความจริงว่านี่คือครั้งแรกในชีวิตของเธอกับกิจกรรมดังกล่าว เธอไม่ต้องการให้เขารู้สึกกังวลใจว่าเขาต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาได้กระทำไป จะเป็นไรไปเล่าเมื่อเธอเป็นฝ่ายเสนอให้เขาด้วยความเต็มใจ หลังจากวันนั้นบรรจบมักแวะมาหากิ่งแก้วยามค่ำ ยามดึก บางครั้งเขาโผล่มาหลังเที่ยงคืน ซึ่งกิ่งแก้วก็ปูเสื่อต้อนรับขับสู้เขาด้วยความเต็มใจทุกครั้ง เธอมีเครื่องดื่มเย็นๆ เตรียมให้เขาเสมอ นอกจากนั้นหากเธอรู้ว่าวันไหนเขาขับรถไม่ได้ผู้โดยสารคุ้มค่าน้ำมัน เธอจะควักเงินของเธอใส่กระเป๋าเสื้อให้เขาและปลุกปลอบใจว่าวันพรุ่งนี้เขาจะโชคดี ผ่านไปสองเดือนกิ่งแก้วมองเห็นตัวเลขในบัญชีเงินออมของเธอพร่องลงไปมากจากการที่เธอใช้จ่ายไปเพื่อบำรุงบำเรอบรรจบ ทั้งเลี้ยงอาหาร จ่ายค่าน้ำมันรถและค่าชดเชยการเสียลูกค้าให้เขายามที่ไปเที่ยวด้วยกัน เธอซื้อของใช้ส่วนตัวหลายอย่างให้เขา รวมทั้งซื้อถุงยางอนามัยหลายกล่องเก็บตุนไว้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม