บทที่ 02 ใส่ใจได้แต่มอง [1]

1479 คำ
บทที่ 02 ใส่ใจได้แต่มอง [1]  บ้านพัฒนเปี่ยม “สวัสดีค่ะคุณตา” “ไหว้พระเถอะลูก มารอนรินใช่ไหมหนูพิมพ์” “ค่ะ ยัยนรินยังไม่ถึงอีกเหรอคะ ไหนว่าออกจากคอนโดคุณภพก่อนพิมพ์ตั้งเกือบครึ่งชั่วโมง” พิมพ์พัชรแอบบ่นกับคุณตาของนรินดาเบาๆ วันนี้เธอตั้งใจชวนนรินดาออกไปหาอะไรกินด้วยกัน จุดประสงค์ที่แท้จริงก็เพื่อปรึกษาปัญหาชีวิตสักหน่อย แต่นรินดาดันนัดกับคุณตาเอาไว้ว่าจะแวะกลับมากินข้าวที่บ้าน จึงชวนเธอมากินข้าวที่บ้านคุณตาด้วยกันเสียเลย เธอตอบตกลงเพราะก่อนหน้านี้ที่นรินดายังไม่ได้แต่งงานกับข้ามภพ เธอเองก็แวะมากินข้าวที่นี่บ่อยๆ แต่จะเป็นการมาพร้อมกันกับนรินดาเสียส่วนใหญ่ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอมาคนเดียว เพราะนรินดากลายเป็นคนติดสามีไปแล้ว “อีกสักพักคงถึงน่ะ หนูพิมพ์ไปนั่งเล่นในสวนก่อนก็ได้นะลูก เดี๋ยวตาให้เด็กยกของว่างไปให้” “คุณตาจะตัดกำลังพิมพ์เหรอคะ” พิมพ์พัชรแสร้งถาม คุณตาหัวเราะเสียงดังชอบอกชอบใจ “ได้ยินนรินบอกว่าหนูพิมพ์จะแวะมา วันนี้ยัยทิพย์ทำของกินเต็มไปหมดทั้งกับข้าวทั้งขนม กินไม่หมดแล้วจะยุ่งเอา” “เอ มีของโปรดพิมพ์สักอย่างไหมคะคุณตา หรือว่าคุณแม่เอาใจแต่ลูกเขย” พิมพ์พัชรแสร้งยกมือป้องปากถามเสียงกระซิบ “แกงส้มกุ้งสดของโปรดของหนูพิมพ์มีแน่นอน ตาได้ยินเขาสั่งให้คนออกไปซื้อกุ้งเมื่อช่วงบ่ายแน่ะ” “เกรงใจแย่เลยค่ะคุณตา แบบนี้พิมพ์ต้องกินให้หมดแล้ว” คุยกันไปหัวเราะกันไปอย่างทุกที บ่อยครั้งที่พิมพ์พัชรรู้สึกอิจฉาที่นรินดามีครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่นมากขนาดนี้ บรื้นนน~ เสียงรถยนต์ที่ดังมาจากด้านนอกดึงความสนใจจากพิมพ์พัชรและคุณตาให้พากันหันไปมอง ทีแรกพิมพ์พัชรคิดว่าจะเป็นรถของข้ามภพ แต่กลับเป็นรถของเพียงคุณ “ทำไมวันนี้ตาคุณของตาถึงได้กลับบ้านไวกันนะ ปกติเลิกงานแล้วก็เถลไถลตลอด” คุณตาเปรยยิ้มๆ พิมพ์พัชรกลั้นยิ้มตาม ทว่ารอยยิ้มของเธอกลับค่อยๆ หายไปเมื่อเพียงคุณไม่ได้กลับมาเพียงคนเดียวแต่กลับมาพร้อมกับผู้หญิงที่ช่วงนี้น่าจะเป็นคนที่เขาสนิทด้วยที่สุด แม้ปากจะบอกว่าไม่ได้เป็นแฟนกันก็ตาม “สวัสดีค่ะคุณตา” “สวัสดีหนูเฌอ ทำไมวันนี้มากับตาคุณได้ล่ะ” คุณตารีบถาม สายตาและรอยยิ้มที่คุณตามองอีกฝ่ายทำให้พิมพ์พัชรรู้สึกตัวได้ทันทีว่ากำลังเป็นคนนอก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังต้องยิ้มเมื่อบังเอิญสบตากับเพียงคุณ บรื้นนน~ “นรินมาพอดี” คุณตายิ้มกว้างเมื่อเห็นรถของข้ามภพขับตามเข้ามาอีกคัน “พิมพ์ขอตัวไปหายัยนรินนะคะคุณตา” “ตามสบายเลยนะหนูพิมพ์” พิมพ์พัชรยิ้มแห้งให้กับทุกคนก่อนจะรีบผละตัวออกมา เดินมาทัน นรินดากำลังก้าวลงจากรถพอดี “ไหนแกบอกออกมาตั้งนานแล้ว” ยกมือไหว้ข้ามภพแล้วยิ้มให้เขานิดหน่อย ก่อนจะหันไปบ่นนรินดาตามลำดับ “แวะซื้อของฝากให้คุณตาน่ะ ว่าแต่นี่แกไปประจบคุณตามาแล้วหรือยัง” “แน่นอนสิ แต่ฉันอยู่กินข้าวด้วยไม่ได้แล้วนะ เพิ่งนึกได้ว่ายังมีเอกสารที่ต้องส่งป้ามะยมพรุ่งนี้อีกสองชุด” “อ้าว” นรินดาทำเสียงเสียดาย เพราะนอกจากเธอจะตั้งใจซื้อของมาฝากคุณตากับคุณแม่แล้ว ก็ยังมีของกินอีกตั้งเยอะแยะ “คุณตายังไม่แก่หรอกค่ะ ยังแข็งแรงมากอยู่เลย” เสียงที่ดังมาจากในบ้านทำให้นรินดาชะโงกหน้ามองหาเจ้าของเสียง ไม่ต่างจากข้ามภพที่กำลังหอบหิ้วของจากท้ายรถเตรียมถือเข้าบ้านถึงกับหยุดมือไปครู่หนึ่ง “ใครวะ” พิมพ์พัชรควรจะพูดอย่างไรดีนะ “แฟนเฮียคุณน่ะ” “แฟน?” ข้ามภพถามเสียงเข้ม พิมพ์พัชรได้แต่ยิ้มแห้งพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ “คุณภพเข้าไปในบ้านก่อนเลยนะคะ นรินคุยกับยัยพิมพ์แป๊บหนึ่งแล้วจะรีบตามเข้าไปค่ะ” “อย่าช้าล่ะ” เสียงและสายตาของข้ามภพทำให้พิมพ์พัชรรู้สึกเกรงใจเขาขึ้นมาเหมือนกัน แต่ไม่ทันจะได้พูดอะไร นรินดาก็จูงมือเธอมานั่งคุยกันในสวนเหมือนอย่างที่คุณตาแนะนำในตอนแรก “เอกสารสองชุดไม่มีจริงใช่ไหมยัยพิมพ์” นั่งลงได้นรินดาก็เริ่มสอบสวนทันที พิมพ์พัชรถอนหายใจพลางไหวไหล่ แต่ไม่ได้คิดจะพูดอะไร เพราะอย่างไรเสียนรินดาเองก็ดูออก “ไม่เอาน่า ไหนๆ แกก็มาแล้ว อยู่ต่ออีกสัก...” “ฉันแค่มีเรื่องจะมาปรึกษาแกเฉยๆ น่ะ” พิมพ์พัชรตัดบทเพราะไม่ต้องการฟังนรินดาหว่านล้อมให้อยู่ต่อ “เรื่องอะไรวะ แกซีเรียสขนาดนั้นเลยหรือไง” นรินดาถามเพราะไม่เคยเห็นพิมพ์พัชรจริงจังหรือดูเครียดกับเรื่องอะไรมากอย่างนี้มาก่อน “อะ ช่วยเลือกหน่อย” พิมพ์พัชรยื่นโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกไป “หา แกจะให้ฉันช่วยแกเลือกผู้ชายเนี่ยนะ!” นรินดาเบิกตาโพลง ถามเสียงดังจนพิมพ์พัชรต้องถลึงตาใส่เพราะเธอไม่อยากให้ใครได้ยิน “เออสิ ตั้งใจว่าวันหยุดหน้าจะพาไปที่บ้านน่ะ” “เอาจริงเหรอแก” “จริงสิ ฉันคุยๆ กับแต่ละคนไว้บ้างแล้ว บอกแล้วว่าอยากจะพาไปพบครอบครัวเพราะไม่อยากถูกจับแต่งงาน อย่างน้อยมีคนคุย ลองเริ่มต้นศึกษากัน แต่ถ้าสุดท้ายแล้วไปกันไม่รอดก็ไม่เป็นไร” พิมพ์พัชรอธิบายพลางถอนหายใจ พลอยทำให้นรินดาถอนหายใจตามไปด้วย ก้มมองโปรไฟล์ของผู้ชายที่เบื้องต้นพิมพ์พัชรคงเลือกมาแล้วระดับหนึ่ง “แล้วแกถูกใจคนไหนเป็นพิเศษล่ะ” “ถ้ามี ฉันจะโผล่หัวมาให้แกช่วยเลือกทำไม” ยิ่งคิดพิมพ์พัชรยิ่งรู้สึกเบื่อ “คนนี้ชื่ออะไร” “ทินกร ลูกครึ่งไทยเยอรมัน ทำธุรกิจเครื่องประดับ จริงๆ ก็น่าสนใจ ติดตรงที่เขาไปๆ มาๆ ระหว่างไทยเยอรมัน ฉันไม่อยากมีรักทางไกล กลัวว่ามันน่าจะเป็นปัญหาในอนาคต” “ก็จริง แกไม่ค่อยชอบเดินทางอยู่แล้วด้วย แล้วคนนี้อะ” “คุณเปรมดิ์ คนไทยเชื้อสายจีน เป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร จริงๆ ฉันสนใจคนนี้นะ” “แกสนใจร้านอาหารของเขามากกว่า” “อย่างนั้นทำไมแกไม่คิดว่าฉันจะสนใจเครื่องประดับล่ะ” “นาฬิกาข้อมือแกยังถอดวางทิ้งไปทั่ว เอาอะไรมาชอบเครื่องประดับ” นรินดาประชดใส่ก่อนจะปัดหน้าจอเลื่อนไปที่รูปโปรไฟล์ของผู้ชายอีกคน “คนนี้ทำอะไร” “อสังหา” “โอ้โห ก็เริดอยู่นะแก” “ฉันไม่ชอบพวกนายหน้า” “งั้นก็ตัดไปสอง เหลือหนึ่ง คุณเปรมดิ์ เจ้าของร้านอาหาร” “ติดนิดหน่อย” พิมพ์พัชรเปรยเบาๆ พร้อมกับทำสีหน้าหนักใจ “ติดอะไร” “ธุรกิจร้านอาหารที่ว่าเป็นธุรกิจกงสีของครอบครัว ฉันก็เลย...” “กลัวว่ามันจะเป็นปัญหาในอนาคต” “อืม” “เฮ้อ นี่ยัยพิมพ์...” “คุยอะไรกันอยู่เหรอ” เพียงคุณเดินออกมาทางหลังบ้าน ตั้งใจจะเดินมาร่วมวงสนทนา แต่การมาของเขากลับทำให้พิมพ์พัชรกับนรินดาเลิ่กลั่ก พิมพ์พัชรรีบคว้าโทรศัพท์มือถือคืนมาจากนรินดาทันที แต่ท่าทีรีบร้อนของเธอกลับยิ่งทำให้เพียงคุณสังเกตได้ถึงความผิดปกติ “รวมหัวกันทำอะไรอีกล่ะ” “ยัยพิมพ์มัน.../ไม่มีอะไรค่ะเฮีย” ยิ่งแก้เหมือนสถานการณ์จะยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ นรินดาหันไปมองพิมพ์พัชรนิดหน่อย พอเห็นพิมพ์พัชรรีบเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า เธอจึงเข้าใจได้ว่าพิมพ์พัชรต้องการเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ “ฉันกลับเลยก็แล้วกัน” “อ้าว ไหนคุณตาบอกว่าเราจะแวะมากินข้าวด้วยกันไม่ใช่เหรอ” เพียงคุณถามด้วยความแปลกใจ “พิมพ์เพิ่งนึกได้ว่ามีเอกสารต้องรีบเคลียร์เพราะต้องใช้พรุ่งนี้น่ะค่ะ ขอตัวก่อนนะคะเฮีย กลับนะยัยนริน ฝากลาคุณตากับคุณแม่ด้วย” “แล้วเราจะกลับยังไง รถซ่อมเสร็จแล้วเหรอ” จำได้ว่าตอนขับรถเข้ามาเขาไม่เห็นรถของพิมพ์พัชร ด้านเจ้าตัวก็ดันลืมว่าตัวเองไม่ได้ขับรถมา แต่เรียกแท็กซี่มาจากบริษัท “เดี๋ยวคนขับรถนรินไปส่งค่ะ” นรินดาเอ่ยปากพร้อมจูงมือพิมพ์พัชรออกมาทันที ถึงอีกฝ่ายจะเป็นพี่ชายแต่หากซื่อบื้อนัก เธอเองก็คงช่วยอะไรไม่ได้เหมือนกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม