ลวงรักพันธะมาเฟีย -2- แลกด้วยร่างกายก็ยอมหรอ?

2050 คำ
"นี่จะฆ่ากันเหรอ" คนร่างสูงจับมือเรียวสวยของใบข้าวออกเพราะมือของใบข้าวไม่ได้ปิดแค่ปากแต่ปิดจมูกของเขาด้วยจนเริ่มหายใจไม่ออก "เดี๋ยวพวกเขาก็ได้ยินหรอกค่ะ" ใบข้าวที่ตกใจกับเสียงทุ้มของคนตรงหน้าพยายามที่จะเอื้อมมือมาปิดปากเขาอีกครั้ง จน 'เจสัน' ต้องรวบมือเล็กเข้าด้วยกันก่อนจะจ้องหน้าเรียวสวยนิ่ง ๆ เพื่อให้ใบข้าวใจเย็นลง แต่นั่นเหมือนจะทำให้หญิงสาวยิ่งตกใจขึ้นมากกว่าเดิม "คุณ พวกเขาไปกันแล้ว แล้วห้องนี้มันเก็บเสียงคุณจะปิดปากผมให้มันได้อะไร" เจสันพูดพร้อมกับเพ่งมองไปยังคนตรงหน้า ยิ่งมองก็ยิ่งคล้าย ยิ่งมองก็ยิ่งเหมือน ใบข้าวที่ได้ยินแบบนั้นก็สะบัดข้อมือออกเล็กน้อย หลังจากที่เจสันปล่อยมือ เธอก็หันหลังตรงดิ่งไปส่องตาแมวทันที สายตาหวานสอดส่ายมองไปซ้ายทีขวาทีเพื่อที่จะตรวจเช็คภายนอกว่ายังมีคนชุดดำเหลืออยู่ไหม เมื่อดูแล้วว่าไม่มีใครอยู่ เธอก็หันหลังกลับมาทางเจสันพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ "เฮ้อ~" เสียงถอนหายใจยาวอย่างโล่งอกของใบข้าว ยิ่งทำให้เจสันเลิกคิ้วขึ้นอย่างงุนงง เขายกแขนแกร่งขึ้นเกาะอกพร้อมกับเคาะนิ้วบนท่อนแขนของตัวเองเบา ๆ สายตายังคงจับจ้องไปที่ใบข้าวไม่ห่าง "อะ! ขอโทษที่เข้ามาในห้องของคุณโดยพลการนะคะ ฉัน..เสียมารยาทกับคุณมากเลย" เมื่อรู้สึกถึงสายตาที่มองอยู่ทำให้ใบข้าวรีบกระวนกระวายพูดออกมาว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ เธอมองไปที่ใบหน้าคมคายนั้น แต่สายตาของเธอกลับจับจ้องไปบนแผ่นอกหนาและหน้าท้องแกร่งที่กำลังเปลือยอยู่ บนตัวของเจสันมีเพียงผ้าขนหนูสีขาวผืนหนาพันอยู่รอบเอวอย่างหมิ่นเหม่เท่านั้น เสียงที่ถูกส่งออกมาของใบข้าวเริ่มเบาลงจนในที่สุดเจสันก็ไม่ได้ยินมัน ใบหน้าบางก้มงุดลงอย่างเขินอาย ใบหูเริ่มมีสีแดงระเรื่อปรากฏให้เห็น "ถ้างั้นเดี๋ยวฉันขอตัวออกไปก่อนนะคะ" ใบข้าวพูดพร้อมกับหันหลังจะก้าวเดินออกไป แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อเจสันส่งเสียงเรียกเอาไว้ "เดี๋ยว..." ขายาว ๆ ของเจสันก้าวสองทีก็มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของใบข้าวห่างกันเพียงแค่คืบเดียวเท่านั้น ชายร่างสูงโน้มตัวลงไปเท้าแขนกับประตูบานหรูพลางพินิจพิจารณาใบหน้าของหญิงสาวที่ดูคุ้นตา เป็นใบหน้าที่ละม้ายคล้ายคนที่เขาคิดถึงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันและฝันถึงทุกค่ำคืน หากเธอคนนั้นไม่จากไปก่อนงานแต่งงานแค่เพียงวันเดียว ป่านนี้เธอคงจะมาอยู่ข้างเขาที่นี่ตอนนี้แล้ว ย้อนกลับไปเมื่ออดีต เจสันเคยมีคนรักคนหนึ่งเป็นหญิงชาวไทย คนหนึ่งหล่ออีกคนหนึ่งสวย ใครพบเห็นต่างก็ว่าเหมาะสมกันดี ไม่มีคู่ไหนเหมาะสมไปมากกว่านี้อีกแล้ว ชีวิตของเขาตอนนั้นเหมือนกับได้ขึ้นสวรรค์ ทุกอย่างเป็นไปตามที่เขาตั้งใจสมกับการตั้งตารอคอยเสมอมา วันหนึ่งในขณะที่เจสันกำลังรอแฟนสาวคนนั้นกลับมาบ้านหลังจากออกไปทานข้าวกับเพื่อนคนอื่น ๆ ก่อนวันงานแต่งงาน ตอนนั้นเป็นเวลาค่ำแล้ว ประมาณ 22:00 น.ได้ เขาเลยออกมายืนรอรับแฟนสาวคนสวยอยู่หน้าบ้านด้วยความคิดถึงสุดใจ ใจหนึ่งก็คิดถึง อีกใจหนึ่งก็ตื่นเต้นเพราะพรุ่งนี้เขาจะได้เห็นเธอเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับชุดเจ้าสาวสีขาวแสนสวยที่ไปเลือกด้วยกัน มือหนาของเขาล้วงไปในกระเป๋ากางเกงพร้อมกับลูบกล่องแหวนไปมาด้วยความรักใคร่ วันเวลาที่เขาเฝ้ารอจะใช้ชีวิตกับคนที่เขารักสุดหัวใจใกล้จะมาถึงในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้แล้ว ริมฝีปากของเขาแย้มยิ้มอย่างมีความสุขตอบกลับเสียงในโทรศัพท์ในมือถือที่กำลังคุยอยู่กับคนที่เขานึกถึง เขาเพียงแค่อยากเซอร์ไพรส์เธอเลยเดินออกมารอที่ปากซอยข้างถนนใหญ่ ดวงตาคมหยีเมื่อเจสันแย้มยิ้มอย่างสุดริมฝีปาก ก่อนหน้าที่จะได้เจอเธอคนนี้เขาไม่เคยมีความสุขขนาดนี้มาก่อน เหมือนฟ้าเล่นตลกนรกกลั่นแกล้ง เจสันที่ยืนถือโทรศัพท์คุยกับแฟนสาวที่กำลังขับรถผ่านแยกมา มองไปข้างหน้า ชะเง้อชะแง้รออยู่ โดยที่เขากำลังขยับตัวอย่างดีใจเมื่อเห็นรถเก๋งคันงามในระยะสายตา มือหนาของเขายกขึ้นโบกเพราะมั่นใจว่าแฟนสาวจะเห็นเขาได้ในทันที แต่ทันทีที่รถยนต์ของแฟนสาวของเขากำลังจะข้ามผ่านไฟจราจรซึ่งกำลังขึ้นสีเขียวตรงดิ่งมาที่บ้าน ก็มีรถบรรทุกขนาดใหญ่คันหนึ่งวิ่งฝ่าไฟแดงออกมาชนกลางรถเก๋งคันสวยจนรถยนต์ยับยู่ยี่เป็นกระดาษ เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาของเขา ดวงตาของเขาเบิกกว้างพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน เขาทำได้เพียงตะโกนเรียกชื่อแฟนสาวที่กำลังจะแต่งงานด้วยพรุ่งนี้ออกมาอย่างเจ็บปวด แฟนสาวของเขาเสียชีวิตทันทีโดยที่ไม่มีแม้แต่โอกาสจะร่ำลาสั่งเสียหรือหายใจต่ออีกเพียงสักนิด แต่นั่นก็ถือเป็นสิ่งที่ดีที่เหมือนเธอจะไม่ได้จากไปอย่างทรมาน แต่... คนที่ทรมานกลับกลายเป็นเจสันเสียเอง เขาไม่อาจที่จะไปเริ่มต้นใหม่กับใครได้อีก แล้วยังคิดถึงแฟนสาวคนนั้นอยู่ทุกคืนวัน ไม่เคยมีวันไหนที่ไม่นึกถึงและไม่เคยมีวันไหนที่ไม่ฝันถึง เจสันนั้นจมติดอยู่กับอดีต แต่ตัวของเขาเองก็ไม่ได้พยายามขวนขวายที่จะลืมเธอ เขาปล่อยให้ความรู้สึกของตัวเองจมลงห้วงน้ำแห่งความทรงจำลึกลงไปแบบนั้น ฝันวนซ้ำ ๆ ว่ารถของเธอถูกรถบรรทุกขนาดใหญ่นั่นบดบี้จนไม่เหลือชิ้นดีภาพเหตุการณ์ในวันนั้นยังติดตาและตรึงอยู่ในหัวใจของเจสันเสมอ แต่ฝันนั้นไม่ได้ทำให้เขาอารมณ์เสียแต่อย่างใด เขาเพียงแต่ตื่นขึ้นมาอย่างหมดอาลัยตายยากเหมือนทุกที ผูกตัวเองไว้กับสิ่งที่เกิดขึ้นแบบนั้นตลอดมา เมื่อใบข้าวมองเห็นสีหน้าของเจสัน เธอเองก็ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้ ได้แต่ปล่อยให้เขาจ้องมองเธอแบบนั้น ไม่รู้ทำไมสายตาและสีหน้าของเจสันบ่งบอกกับเธอว่าเขากำลังเศร้าเสียใจอย่างหนัก "มันเกิดอะไรขึ้น เล่าให้ฟังได้ไหม" เจสันหลับตากดภาพอดีตลงไปไว้ในหัวใจ ก่อนที่จะลืมตาขึ้นมามองหน้าสวยของใบข้าว แล้วถามออกไปอย่างระมัดระวังเมื่อนึกถึงสภาพจิตใจของหญิงสาวตัวเล็กที่สั่นระริกตอนก้าวเท้าเข้ามาในห้องนี้ เหมือนกำลังหนีจากอะไรบางอย่างที่น่ากลัวมาก ๆ อยู่ "ฉันมาเที่ยวกับแฟนค่ะ แฟนพามาที่นี่ แต่สุดท้ายคนที่พาฉันมาก็ให้นั่งอยู่กับลุงคนนึง เหมือนว่าเขาจะเอาฉันมาขายน่ะค่ะ ฉันได้ยินทางโทรศัพท์ พวกเขาพูดออกมาเพราะคิดว่าฉันฟังภาษาอังกฤษไม่ออกค่ะ" ใบข้าวเล่าออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นระรัว ดวงตาหวานมีน้ำตารื้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอเล่ารายละเอียดของสถานการณ์เพิ่มเติมจากที่เธอพูดเอาไว้ แต่เล่าไปได้ไม่นานน้ำตาที่คลออยู่ก็รินไหลออกมา เจสันที่อยู่ใกล้ ๆ ได้แต่วางมือไปบนศีรษะของคนตัวเล็กพร้อมกับลูบเบา ๆ เป็นเชิงปลอบใจ "ฮึก! ตอนนี้ ฮึก! ฉันไม่รู้จะกลับไทยได้ยังไงเพราะพาสปอร์ตก็หายไปแล้ว ฉันไม่สามารถกลับไปที่ที่พักได้เดี๋ยวเจอพวกเขารออยู่ แล้วยังไม่มีเงินติดตัวเลยไม่รู้จะทำยังไงต่อไปค่ะ ทำไมเขาถึงทำกับฉันแบบนี้เหรอคะ ฮึก!" ใบข้าวเล่าออกมาทั้งน้ำตา เสียงสะอื้นไห้ทำให้น้ำเสียงของเธอขาดห้วง เจสันได้แต่ลูบปลอบอยู่แบบนั้นจนเธอค่อย ๆ สงบลง "แย่จังเลยค่ะ ฉันควรจะทำยังไงต่อไปดีคะ" ใบข้าวเสียแม่ไปตั้งแต่ตอนอายุได้ 10 ขวบด้วยอุบัติเหตุทางถนน ตั้งแต่นั้นมาเธอก็อยู่กับคุณพ่อมาตลอด ไม่นานนักพ่อของใบข้าวก็แต่งงานใหม่กับแม่หม้ายลูกติดคนหนึ่ง พวกเขาอยู่ด้วยกันมาจนเธออายุได้ 19 ปี ก่อนที่เธอจะขึ้นเรียนต่อชั้นมหาลัย พ่อของเธอก็มาเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้ายไปอีกคน ตอนนี้เธอเลยเหลือตัวคนเดียวไม่มีครอบครัวหรือใครเหลืออยู่อีก เธอเลยไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี ในหัวของใบข้าวสับสนปนเสียใจและมองไม่เห็นทางออกของปัญหานี้เลย เธอเองก็เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ธรรมดา ไม่ได้มีอำนาจหรือเงินทองอะไร เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงถ้ามีคนหมายหัวเธออยู่แบบนี้ ใบข้าวคิดวนเวียนอยู่ซ้ำ ๆ มาตั้งแต่เมื่อครู่ จนสายตาก็เลื่อนเข้าสบกับคนที่กำลังลูบหัวของเธออยู่ "คุณชื่ออะไรคะ คุณดูเป็นคนมีอำนาจ คุณช่วยฉันได้ไหมคะ ถ้าคุณช่วยฉันฉันยอมคุณทุกอย่างเลยค่ะ" ใบข้าวมองคนตรงหน้าด้วยสายตามีความหวังถึงแม้ว่าเขาจะสวมเพียงผ้าขนหนูสีขาวผืนเดียวอยู่ แต่ห้องที่เขาพักเป็นห้องแบบเดียวกันกับกลุ่มคนเมื่อกี้ที่เธอเพิ่งออกมาอาจจะหรูกว่าด้วยซ้ำ "ทำได้ทุกอย่างจริงเหรอ" ริมฝีปากของเจสันอ้าพูดออกมาอย่างอยากรู้อยากเห็น เขาดึงมือที่ค้ำประตูอยู่กลับก่อนจะยืนตรงจ้องมองใบหน้าของใบข้าวอีกครั้ง "ใช่ค่ะ ไม่ว่าคุณจะขอให้ฉันทำอะไรก็ตามฉันทำงานบ้านเป็นนะคะทำอาหารเก่งด้วย ขับรถได้ แล้วก็พูดภาษาญี่ปุ่นได้เก่งด้วย ทำงานเอกสารก็ได้ ให้เป็นคนรับใช้หรือคนขับรถก็ได้ค่ะ แค่เพียงคุณช่วยฉันก็พอค่ะ ฉันจะชดใช้หนี้บุญคุณนี้ให้คุณแน่นอน" ใบข้าวพูดออกมายาวเหยียดแทบจะไม่เว้นวรรคลมหายใจ ดวงตาหวานของเธอจ้องมองไปทางเจสันที่กำลังจ้องเธออยู่ก่อนแล้ว มือบางทั้งสองข้างกำแน่นยกขึ้นในหน้าอกแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นเต็มเปี่ยม เธอเพียงแค่อยากกลับบ้านหรือไม่ก็ถ้ามันยากเกินไป แค่ให้เขาคุ้มครองเธอไม่ให้เธอถูกเอาตัวไปขายก็พอแล้ว ดวงตาคมสวยจับจ้องไปที่ใบหน้าเรียว พร้อมกับครุ่นคิดครู่หนึ่ง เขาพินิจพิจารณาคนตรงหน้าที่ตัวเล็กเกินกว่าจะให้ไปใช้แรงงานอะไร ก่อนที่เขาจะฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้แล้วพูดออกไปอย่างยียวน "ถึงสิ่งที่ฉันเรียกเป็นค่าตอบแทนจะเป็นร่างกายของเธอน่ะเหรอ" เจสันพูดพร้อมกับยกมือหนาขึ้นไปจับเส้นผมยาวสวยช่อหนึ่งของใบข้าวขึ้นมา เขาจุมพิตลงไปที่เส้นผมนั้นเบา ๆ ก่อนจะปรายตามองคนตัวเล็กด้วยหางตา ปรากฏเป็นภาพหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังครุ่นคิด แต่เจสันก็ไม่ปล่อยให้คิดนานเขาขยับมือเชยคางของใบข้าวขึ้น ก่อนจะค่อย ๆ โน้มลงไป...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม