เด็กน้อยไร้เดียงสา

1351 คำ
เสียงหัวเราะสดใสของ ลิน เด็กน้อยวัยหกขวบดังก้องทั่วบ้านไม้เก่าๆ ที่เต็มไปด้วยความทรงจำ เสียงฝีเท้าเล็กๆ วิ่งไปมาจนพิมต้องตะโกนออกมา “ลิน! ระวังหน่อยลูก เดี๋ยวก็ล้มหรอก” แต่เด็กหญิงกลับหันมายิ้มหวานใส่ เผยให้เห็นฟันน้ำนมที่ยังไม่ครบทุกซี่ “คุณน้าขา! ลินแค่เล่นนะคะ ไม่ล้มง่ายๆ หรอก” เธอพูดพลางวิ่งวนรอบห้องอีกครั้ง พิมยืนพิงขอบประตู จ้องมองหลานสาวตัวน้อยด้วยสายตาอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความรัก ลินที่มีใบหน้ากลมแก้มป่อง ดวงตากลมโตสดใสราวกับดวงดาว เหมือนกับใครบางคนที่พิมไม่มีวันลืม ความคิดนั้นทำให้พิมรู้สึกจุกในอกเล็กน้อย น้ำตาเอ่อขึ้นมาแต่เธอกลั้นไว้ “พี่พิไล…” เธอพึมพำในใจ ขณะจ้องมองลินที่วิ่งเล่น ดวงตาสดใสคู่นั้นช่างเหมือนกับดวงตาของพี่สาวเหลือเกิน ผ่านไปหกปีแล้วสินะ ตั้งแต่วันที่พิไลจากไป ทุกครั้งที่เธอมองหลานสาวคนนี้ มันเหมือนกับได้มองพี่สาวอีกครั้ง ทั้งรอยยิ้ม ความซุกซน และความบริสุทธิ์ในวัยเด็ก “ลิน มานี่เร็ว วันนี้เราจะไปวัดกัน” พิมเรียกหลานสาวที่กำลังเล่นตุ๊กตา ลินหยุดเล่นทันทีและวิ่งมาหาเธอ “ไปวัดเหรอคะ ไปทำไมเหรอคะคุณน้า?” เด็กน้อยถามพร้อมกับเอียงคออย่างสงสัย พิมย่อตัวลงข้างหลานสาว มือหนึ่งจับไหล่เล็กๆ อย่างอ่อนโยน “วันนี้เป็นวันสำคัญของแม่ลินไงคะ เป็นวันครบรอบที่แม่ของลินไปอยู่บนสวรรค์ เราจะไปทำบุญให้แม่กัน” เสียงของพิมนุ่มนวล แต่ในใจกลับเจ็บปวดเหมือนมีมีดทิ่มแทง เธอพยายามยิ้มให้หลานสาวแม้ความเศร้าจะกัดกินหัวใจ ลินนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มกว้าง “งั้นเราต้องเตรียมของเยอะๆ ให้แม่ใช่ไหมคะ แม่จะได้มีของเล่นเยอะๆ บนสวรรค์” เด็กหญิงพูดด้วยน้ำเสียงใสซื่อ ขณะที่พิมยิ้มบางๆ แล้วพยักหน้า “ใช่ค่ะลูก แม่จะได้มีของเยอะๆ เหมือนที่ลินชอบไง” ที่วัด ดอกไม้หลากสีวางอยู่ตรงหน้ารูปถ่ายของพิไล ภาพหญิงสาวใบหน้ายิ้มแย้มที่ดูอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความเศร้านั้นยังคงชัดเจนในความทรงจำของพิม เธอจุดธูปและยกมือไหว้ต่อหน้ารูปถ่าย ขณะที่ลินนั่งข้างๆ มือเล็กๆ พนมไหว้อย่างตั้งใจ “แม่คะ… ลินเอาของเล่นชิ้นโปรดมาให้ด้วยนะคะ แม่จะได้ไม่เหงา” เสียงใสๆ ของเด็กน้อยดังขึ้น ขณะที่เธอหยิบตุ๊กตาหมีตัวเล็กๆ วางไว้หน้ารูปถ่าย พิมมองภาพนั้นด้วยน้ำตาที่เริ่มเอ่อขึ้นมา เธอไม่พูดอะไร นอกจากจุดเทียนเพิ่มและนั่งนิ่งอยู่ข้างๆ หลานสาว “พี่ไล… ผ่านมาหกปีแล้วนะ พิมดูแลลินอย่างที่พี่ฝากไว้ พิมหวังว่าพี่จะมองลงมาแล้วภูมิใจในตัวหลานนะ ลินโตมาเป็นเด็กดีมากเลยค่ะ” พิมพึมพำในใจ ขณะที่มองลินที่กำลังพูดคุยกับรูปถ่ายของแม่อย่างไร้เดียงสา สายลมอ่อนๆ พัดผ่านเหมือนจะปลอบโยนเธอ และในวินาทีนั้น พิมรู้สึกเหมือนมีเงาของพี่สาวที่ยังคงอยู่รอบตัวเธอและหลาน เธอก้มลงกอดลินเบาๆ ขณะที่น้ำตาหยดลงบนแก้มโดยไม่รู้ตัว “แม่ลินรักลินมากนะคะลูก และน้าพิมก็รักลินที่สุดในโลกเลยเหมือนกัน” ลินเงยหน้าขึ้นมอง “คุณน้าร้องไห้เหรอคะ” เธอถามอย่างไร้เดียงสา พิมยิ้มและปาดน้ำตาออก “เปล่าค่ะน้าไม่ได้ร้อง น้าแค่มีความสุขที่ได้มาอยู่กับลิน” เด็กหญิงยิ้มกว้าง ก่อนจะหันไปพูดกับรูปแม่อีกครั้ง ท่ามกลางเสียงสวดมนต์ที่ดังแผ่วๆ ในวัด พิมรู้ว่าวันนี้เธอทำดีที่สุดเพื่อทั้งพี่สาวและหลานสาวคนสำคัญของเธอแล้ว ………………………………. “ลิน! ลิน!” เสียงเรียกของน้าพิมดังลั่นก้องมาจากหน้าบ้าน เด็กสาววัยสิบแปดปีที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ๆ หันมองตามเสียงนั้น ใบหน้าที่เปียกชื้นและเรือนผมยาวตรงที่ยังไม่แห้งสนิทเผยให้เห็นความงามที่ยากจะละสายตา ลินในวัยนี้สวยสะพรั่งจนใครเห็นต้องหยุดมอง ดวงตากลมโตที่เปล่งประกาย ผิวเนียนขาวผ่องที่สะท้อนแสงแดดยามสายทำให้พิมต้องรีบเดินเข้ามาหาหลานสาว “รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ! แล้วไปแต่งหน้า!” พิมดุเสียงเข้ม ขณะมองสำรวจหลานสาวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความกังวล “ลิน! น้าบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าอาบน้ำแบบนี้บ่อยๆ! แล้วนี่ทำไมไม่แต่งหน้า!” “น้าพิมคะ ลินแค่อยากสะอาด” ลินตอบเสียงเบา ขณะยืนนิ่งเหมือนเด็กที่ถูกจับได้ว่าทำผิด ดวงตาเธอหลุบต่ำ แต่น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด พิมถอนหายใจยาว ก่อนจะคว้าผ้าขึ้นมาคลุมไหล่หลานสาว “ฟังน้านะลูก ความสวยของลินมันมากเกินไป มากจนมันเป็นอันตราย น้าบอกกี่ครั้งแล้วว่าเราไม่ควรให้ใครสังเกตเราได้” พิมยังจำได้ดีถึงวันที่เธอต้องอุ้มลินตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน ตอนนั้นเธอแทบไม่มีอะไรเลย บ้านที่อยู่ก็เล็กเก่าและผุพัง เงินที่พอหาได้ก็แทบไม่พอกิน การเลี้ยงดูเด็กทารกเป็นภาระที่หนักเกินไปสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างเธอ เธอจึงต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาหาเลี้ยงหลานสาว ช่วงแรกมันดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ดี จนกระทั่งดอกเบี้ยเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเจ้าหนี้เริ่มทวงถามเงินคืนด้วยวิธีการที่รุนแรงขึ้น “พิม ถ้าไม่มีเงินจ่าย เธอกับเด็กก็ไม่ต้องอยู่ที่นี่อีก!” เสียงขู่ของเจ้าหนี้ยังคงดังก้องอยู่ในความทรงจำ นั่นคือวันที่พิมตัดสินใจว่า เธอจะไม่ยอมให้ลินต้องเป็นที่จับตามอง ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม เธอเริ่มสอนหลานสาวตั้งแต่เล็กๆ ให้ “ซ่อนตัวตน” ที่แท้จริงของเธอไว้ ลินไม่ได้รับอนุญาตให้แต่งตัวสวย ไม่ให้อาบน้ำบ่อยๆ หรือสระผมจนเงางาม พิมลงทุนซื้อเมคอัพราคาถูกสีเข้มเพื่อมาทาผิวของลิน ให้ดูคล้ำเหมือนคนทำงานกลางแดดจนผิวเสีย เธอจับลินใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ที่หลวมจนดูมอมแมม “ลินต้องเข้าใจนะลูก ยิ่งเราไม่โดดเด่น ยิ่งไม่ปลอดภัย” พิมพูดกับหลานสาวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นทุกครั้ง ลินไม่เคยเข้าใจเหตุผลทั้งหมดที่น้าพิมพยายามปิดบังความสวยของเธอ แต่เธอก็ทำตามโดยไม่เคยปริปากบ่น เพราะเธอรักน้าพิมและรู้ว่าพิมเสียสละทุกอย่างเพื่อเธอ พิมจ้องมองหลานสาวที่ยังคงยืนนิ่งตรงหน้า เด็กหญิงในวันนี้ไม่ใช่เด็กน้อยที่เธอเคยอุ้มไว้เมื่อสิบปีก่อนอีกต่อไป ลินเติบโตขึ้นจนความงามของเธอเริ่มยากจะซ่อนเร้น “ลิน น้าไม่ได้อยากดุนะ แต่น้ากลัว… กลัวว่าเจ้าหนี้พวกนั้นจะตามหาเราเจออีก ถ้าใครสักคนเห็นว่าลินสวยแค่ไหน เราอาจจะหนีไม่พ้น” พิมพูดเสียงเบา น้ำเสียงอ่อนลงจนแทบกลายเป็นคำวิงวอน “ลินเข้าใจค่ะ” เด็กสาวตอบพร้อมก้มหน้าลง “ลินจะไปแต่งหน้าแล้วค่ะ” พิมพยักหน้า ถอนหายใจอีกครั้งพลางมองตามหลานสาวที่เดินเข้าห้องไป ความรู้สึกเจ็บปวดในใจพิมยังคงก่อตัวขึ้นทุกครั้งที่เห็นความงามของลิน ความสวยที่เธอทั้งรักและกลัวในเวลาเดียวกัน เพราะมันไม่ใช่เพียงสิ่งที่ทำให้ลินโดดเด่น แต่มันอาจกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตของลินต้องตกอยู่ในอันตรายเช่นเดียวกัน…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม