กรุงเทพฯ
เช้าวันอาทิตย์
ใครจะคิดว่า... การกลับมาอยู่กรุงเทพฯแค่ครั้งนี้จะทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปตลอดกาล
ไม่ได้คิดเลย... ว่าจะได้ เจอเขา อีก...
“ดูแลค็อกเทลให้ดีละ”
เสียงป้าอรยังดังก้องอยู่ในหัว ทั้งที่รถแล่นออกจากประตูบ้านไปแล้ว... เกือบห้านาที ฉันยืนนิ่งกับที่ ราวกับเวลารอบตัวหยุดหมุน มีเพียงเสียงลากล้อกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่สะท้อนก้องในหู... กับภาพของ เขา ที่เดินผ่านหน้าเข้าบ้านไปอย่างหน้าตาเฉย
เรย์ เพื่อนสมัยมัธยมปลาย... เราเรียนด้วยกันตั้งแต่อนุบาล ก่อนที่ครอบครัวฉันจะมีปัญหา ต้องย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดแบบกะทันหัน
สองปีกว่า... ที่เราไม่ได้เจอกัน เขาเปลี่ยนไปมาก ตัวสูงขึ้น ไหล่กว้างขึ้น สุขุมขึ้น... และแน่นอนว่า หล่อขึ้น จนฉันต้องพยายามเป็นอย่างมาก... ไม่ให้เผลอหวั่นไหวไปมากกว่านี้
เขาไม่ใช่เด็กหนุ่มอ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อน
เรย์ในวันนี้ดูนิ่งสุขุม เย็นชา แต่นัยน์ตาคู่นั้น แม้จะดูเงียบขรึม กลับแฝงบางอย่างที่ทำให้... ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“เดี๋ยวนะ ป้าอร... ทำไมไม่บอกก่อนคะว่าเรย์จะมาอยู่ด้วย...” ถามออกไปทั้ง ๆ ที่รู้ว่าไม่ได้คำตอบ
“ดูแลกันดี ๆ นะลูก...”
เสียงป้าย้ำวนอยู่ในหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันยืนมึนอยู่หน้าบ้านเหมือนโดนสะกด รู้ตัวอีกทีเดินตามเรย์ขึ้นไปบนห้อง...
ห้องนอน...
“เรย์จะนอนห้องนี้เหรอ?”
ถามทันทีที่ก้าวขาเข้าไปในห้อง ร่างสูงในเสื้อยืดสีดำกับกางเกงผ้าลำลองสีเทาเข้ม ทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างสบาย เท้าข้างหนึ่งยกไขว้ เขาจ้องหน้าอยู่แบบนั้นนานเกือบนาทีก่อนจะพูด
“บ้านนี้มีแค่สองห้อง ห้องแม่กับห้องนี้”
“ก็จริง...” ฉันพูดพลางเบือนหน้าหลบสายตา พร้อมคำถามที่ดังขึ้นในหัว
คืนนี้... จะนอนที่ไหน?
“งั้นเทลไปนอนห้องรับแขกก็ได้” ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ภาพโซฟาแคบ ๆ ด้านล่างก็ลอยขึ้นมาในหัวทันที ไม่มีม่าน ไม่มีเตียง ไม่มีอะไรเลย... นอกจากยุง
“แม่บอกให้ดูแลเทลดี ๆ” เขาพูดแค่นั้น... แล้วเงียบ
ฉันนิ่งไป มองเขาอย่างไม่เข้าใจ
เขายังเหมือนเดิม พูดน้อย แต่ทุกคำที่พูด แต่ทุกคำที่พูด... กลับมีอนุภาคกับหัวใจดวงนี้อย่างแรง
“ทำไมนอนห้องเดียวกันไม่ได้เหรอ หรือกลัวแฟนหวง?”
“เปล่า...” ฉันรีบตอบกลับทันทีอย่างร้อนรน มือกำชายเสื้อแน่น ก่อนเม้มปากแล้วพูดเสียงเบาหวิว “...ไม่ได้มีแฟนสักหน่อย”
หัวใจเต้นผิดจังหวะตั้งแต่เขาพูดคำว่า แฟน... แล้วมันก็ยิ่งแรงขึ้นอีก เมื่อคำต่อมาหลุดจากปาก “หรือเทลคิดอะไรกับเรย์?”
ฉันเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาเบิกกว้าง... นัยน์ตาเย็นชาคู่นั้นกำลังจ้องจับพิรุธอะไรบางอย่าง แค่สบตากัน ลมหายใจติดขัดไปเสี้ยววินาที
“ไม่ได้คิด!”
ฉันโพล่งออกไปเสียงดังอย่างลืมตัว หน้าเริ่มร้อนวาบ แม้จะพยายามเบือนหน้าหนี แต่ก็รับรู้ได้ว่าเขายังมองอยู่…
“ไม่คิดจริงเหรอ…” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยเบา ๆ แฝงเลศนัย
“ถ้าไม่คิด ก็นอนห้องเดียวกันสิ จะเป็นอะไรไป... ยังไงเราก็เพื่อนกัน”
เขาย้ำอีกครั้ง ก่อนทิ้งท้ายอย่างไม่เร่งรีบ “เมื่อก่อนก็นอนด้วยกัน”
ใช่…
ตอนเด็กเคยนอนด้วยกัน มีหมอนข้างคั่นกลาง ผ้าห่มคนละผืน ไม่มีการแอบมอง ไม่มีหัวใจที่เต้นแรงเหมือนตอนนี้
ตอนนี้... ยี่สิบเอ็ดไม่ใช่เด็ก โตพอจะรู้... ว่าไม่ได้คิดกับเรย์แค่เพื่อน
เรย์ไม่พูดอะไรต่อ เขาลุกไปที่เตียง หยิบหมอนข้างขึ้นมาวางลงกลางเตียงแบ่งเขตแดนระหว่างเราชัดเจน
ฉันยืนนิ่ง ไม่พูด ไม่ขยับ ทำได้แค่มองหมอนใบนั้น... พยายามทำตัวให้ปกติไม่อยากให้เขาได้ยินเสียงหัวใจ... ที่มันเผลอเรียกชื่อเขาอยู่ในนั้น...