บทที่ 6

1008 คำ
ใต้อาณัติอัศวิน บทที่ 6 "คุณหมายความว่ายังไง?" "เห็นไหมล่ะ ฉันก็แค่บอกว่าถ้าอยากมีตำแหน่งสูงกว่าหัวหน้าก็คงต้องเป็นผู้หญิงของฉัน" ขณะที่พูดอัศวินก็ใช้นิ้วชี้ส่ายไปมาประหนึ่งเหมือนบอกกับเธอว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ "คุณก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้แล้วจะพูดออกมาทำไมล่ะ" "ถ้างั้นเธอก็คงต้องเป็นผู้ช่วยของหัวหน้าต่อไป" ว่าแล้วอัศวินก็เอามือล้วงกระเป๋าตัวเองก่อนจะเดินออกมา ส่วนญาดาได้แต่ก้มหน้าก้มตากลับไปทำงานต่อ "โอ๊ย" ขณะที่เธอเดินผ่านรัชนก อีกฝ่ายก็ยื่นขาออกมาจนเธอสะดุด "จะหาเรื่องกันหรือไง!" "เธอเดินมาสะดุดขาฉันเองนะ แบบนี้เขาเรียกเดินไม่ดูตาม้าตาเรือ" "เมื่อกี้เธอยื่นขาออกมา" "มีพยานไหมล่ะ" ญาดามองซ้ายมองขวา ทุกคนก็ทำงานของตัวเองไป ..ทำไมแม่นี่ถึงเหมือนอยากจะมาหาเรื่องเราอีกแล้วล่ะ พอมองไปเห็นว่ามะนาวเดินผ่านมาทางนี้ญาดาเลยเรียกไว้ "มีอะไรเหรอ" "เมื่อกี้ผู้หญิงคนนี้ยื่นขามาจนทำให้ฉันสะดุดเกือบล้ม" "ไม่ใช่แบบนั้นนะคะหัวหน้า ผู้ช่วยของหัวหน้าไม่ชอบหน้านกอยู่แล้ว เราเคยมีเรื่องกันค่ะตอนนั้นนกก็ถูกคุณอัศวินเรียกไปอบรม แล้วนกจะกล้าทำหรือคะ" "มันคงเป็นอุบัติเหตุ ไปทำงานเถอะ" รัชนกหันมามองตาญาดาแบบเยาะเย้ยว่าทำอะไรตัวเองไม่ได้ แล้วก็เดินหนีไปทางอื่น "ดูมันทำหน้านะ" ญาดาพูดตามหลังรัชนกไป "เมื่อกี้เธอเรียกใครว่ามัน" "?" ได้ยินคำพูดของมะนาว ญาดาเลยหันไปมองหน้า ทำไมรู้สึกว่าตัวเองเหมือนหมาหัวเน่ายังไงไม่รู้ และคืนนั้นญาดาก็ทำงานแบบไม่มีความสุขเลย และชั่วขณะหนึ่งเธอก็คิดว่าอาจจะไม่กลับมาทำงานที่นี่อีก แต่ถ้าทำแบบนั้นแสดงว่าเธอเป็นคนขี้แพ้น่ะสิ หลังเลิกงานญาดาก็เรียกแท็กซี่กลับบ้าน เธอพักอยู่กับยาย แม่เสียไปนานแล้วส่วนพ่อมีครอบครัวใหม่และก็ไม่เคยมาดูดำดูดีเธออีกเลย แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกเธอหาเลี้ยงตัวเองและก็ยายได้ ครั้งหนึ่งยายเคยเป็นเส้นเลือดในสมองแตก ได้จันทร์เจ้าขาช่วยพูดเรื่องค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลเพทายเจ้าพระยาให้ โชคดีที่ตอนนั้นจันทร์เจ้าขากับหมอพังคีมีใจให้กันแล้วคุณหมอเลยช่วยเรื่องนี้ "กลับมาแล้วหรือลูก" "ทำไมยายยังไม่นอนคะ" "ยายนอนไปแล้วล่ะ ได้ยินเสียงเลยลุกมาดู" "ยายนอนต่อเถอะค่ะ" และเธอก็ต้องรีบไปนอนเช่นกัน เพราะเหลือเวลาไม่ถึงสี่ชั่วโมงด้วยซ้ำเธอต้องไปถึงงานมอเตอร์โชว์ หัวถึงหมอนไม่นานก็ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นแล้ว ญาดาต้องรีบลุกขึ้นมาหาอาหารไว้ให้ยายแล้วก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า "หนูไม่ต้องทำงานเยอะขนาดนี้ก็ได้ ช่วงนี้เราไม่จำเป็นต้องใช้เงิน" "จะหาตอนจำเป็นต้องใช้เงินก็คงไม่ทันหรอกยาย ยายไม่ต้องเป็นห่วงนะฉันแข็งแรงดี" ยายมองตามหลานสาวที่เดินแกมวิ่งออกจากบ้าน ถ้าไม่มีญาดาป่านนี้ตัวเองคงไปเกิดใหม่แล้วล่ะ แต่คิดว่าถ้าไม่มียายสักคนหลานก็คงจะไม่ลำบากขนาดนี้ ญาดามาถึงงานมอเตอร์โชว์ก็ต้องรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและก็แต่งตัวทำผม คนที่จะทำงานนี้ได้แน่นอนว่าต้องสวยและหุ่นดี และเธอก็หาเงินด้วยความสวยของตัวเองมาโดยตลอด ถึงแม้จะมีผู้ชายยื่นข้อเสนอให้ว่าจะเลี้ยงดูแต่เธอก็ไม่สนใจ เพราะคนพวกนี้ส่วนมากจะมีครอบครัวอยู่แล้ว "คุณกันต์ธีร์" เห็นว่าญาดาทักกันต์ธีร์เลยเดินเข้ามาหา และสายตาเขาก็แอบมองชุดที่เธอใส่ เพราะวันนี้ชุดดูรัดรูปมากแถมยังสั้นมากด้วยจนมองเห็นทุกสัดส่วน เห็นสายตาเขามองรูปร่างของตัวเองก็แอบยิ้ม ทีแรกก็คิดอยู่หรอกว่าวันนี้ทำไมชุดมันดูล่อแหลมจัง "นึกว่าจะมาไม่ได้" "รับงานแล้วก็ต้องมาสิคะ" "ถ้างั้นฉันเข้าไปข้างในก่อนนะ" "......." คุยกับเราแค่นี้เองเหรอ กันต์ธีร์เข้ามาข้างในไม่นานก็เห็นเดินกลับออกมาพร้อมคุยโทรศัพท์ ตอนนั้นญาดาก็กำลังทำงานอยู่และมีผู้ชายหลายคนมายืนห้อมล้อมเพื่อขอถ่ายรูปด้วย และญาดามองไปก็เห็นกันต์ธีร์โบกไม้โบกมือเหมือนส่งสัญญาณบอกใครไม่รู้ว่าตัวเองยืนอยู่ตรงนี้ "อะไรเข้าสิงมึงให้มางานนี้วะ" "มึงก็รู้ว่ากูมาทำไม" อัศวินทำให้กันต์ธีร์เห็นว่าเขาสนใจญาดาจริงๆ เพราะขนาดคุยกับเพื่อนสายตาเขายังมองไปดูเธอ และกันต์ธีร์ก็มองตามสายตาเพื่อนเข้าไป "ถ้างั้นเข้ามาข้างในก่อน" งานมอเตอร์โชว์นี้ไม่ใช่งานของกันต์ธีร์หรอกงานของเขาจัดไปแล้ว แต่เขาอยู่ในแวดวงนี้ก็เลยมีเพื่อนที่รู้จักกันเยอะ "คุณอัศวิน?" คุณอัศวินก็มาร่วมงานนี้ด้วยเหรอ? เห็นสายตาเขามองมาดูญาดาเลยขยับหันข้างเพราะสายตาเขาเล็งมาจุดนั้นจนเธอไม่มั่นใจในตัวเอง จะไม่ให้มองได้ยังไงทั้งอวบทั้งนูนดันเป้ากางเกงออกมาจนดูออกเลยว่ารูปทรงมันเป็นยังไง "เก็บอาการหน่อยสิวะ" กันต์ธีร์เห็นเพื่อนกลืนน้ำลายเลยเรียกสติไว้ก่อน ใครจะไปเก็บอาการอยู่ล่ะผู้หญิงอะไรจะน่ากินขนาดนี้ ถ้ามีโอกาสจะเลียให้ล้มเลยคอยดูสิ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม