ตอนที่ 6 เริ่มหลงรักสามีตัวเอง ผิดไหม 1

1002 คำ
รถม้าห่างจากร้านอาภรณ์ราวสามจั้ง[1] ฉางเฟิงค่อยๆ ยื่นถุงเงินส่งให้อู๋หมิงอย่างนอบน้อม พร้อมเอ่ยด้วยสุ้มเสียงกริ่งเกรงว่าอาจจะทำให้คนฟังรำคาญใจ “ลำบากสหายอู๋แล้ว ขอบคุณที่รับงานนี้ของข้า นี่คือเงินตามที่ตกลงไว้” อู๋หมิงรับถุงเงินมาด้วยท่าทีเย็นชาโดยไม่เอ่ยวาจา แค่งานรับจ้างคุ้มกันหญิงชู้ที่กำลังตั้งครรภ์ของฉางเฟิงเดินทางไปคลอดยังเรือนชนบทที่ปลอดภัยไม่นับเป็นอันใด ปกติเขารับจ้างงานคุ้มกันทองคำแพรพรรณล้ำค่าที่โจรป่าคอยจ้องตามปล้นชิงตลอดทาง ลำบากกว่านี้มากมายนัก อู๋หมิงเก็บถุงเงินใส่แขนเสื้อทำท่าหันตัวเดินจากไป ฉางเฟิงเห็นเช่นนั้นก็รีบรั้งไว้ “สหายอู๋ ช้าก่อน” ชายหนุ่มปรายตามองช้าๆ เลิกคิ้วเป็นเชิงคำถาม “ว่า?” ฉางเฟิงถูมือพูดอย่างเกรงใจว่า “เรื่องงานจ้างนี้ ท่านไม่แพร่งพรายใช่หรือไม่? ชื่อเสียงบัณฑิตดีงามของข้าจะด่างพร้อยไม่ได้เด็ดขาด” เพิ่งแต่งงานได้แค่สี่เดือนแท้ๆ กลับมีอนุนอกเรือนที่ใกล้คลอดแล้ว หากผู้คนรู้เข้า แย่แน่! “เจ้าคิดว่า ข้าดูเป็นคนปากมาก?” อู๋หมิงถามสีหน้าเรียบเฉย แม้แต่น้ำเสียงก็เฉยชา แววตาไม่บ่งบอกอารมณ์ใด ทำให้ไม่รู้ว่าเริ่มหงุดหงิดระดับไหน ทำเอาคนถูกถามรีบส่ายหน้า ปฏิเสธพัลวัน “ไม่ๆ แน่นอนว่าไม่ใช่” “มีสิ่งใดจะสำทับอีกหรือไม่?” “ไม่มีแล้ว” “ข้าไปได้แล้วกระมัง” “อ้อ เชิญๆ เชิญสหายอู๋ตามสบาย” อู๋หมิงทำท่าหันหลังเดินไปอีกคราแต่พลันนึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงเป็นฝ่ายหันมาสำทับฉางเฟิงแทน “ท่านควรดูแลภรรยาของตนให้ดี นางไม่ค่อยรู้ความเท่าใด คำพูดจาที่ไม่ระวัง อาจทำท่านเสื่อมเสียชื่อเสียงเรื่องอื่น มากกว่าเรื่องฉ่าวโฉ่ที่ท่านทำ” ท้ายประโยคเขาเน้นย้ำด้วยน้ำเสียงแฝงแววข่มขู่ “หะ?” อู๋หมิงไม่สนใจฉางเฟิงอีกเพียงเดินไปทางร้านผ้า ฝ่ายฉางเฟิงแม้งุนงงยังคงไม่เข้าใจคำพูดของอู๋หมิงเท่าใด แต่เมื่อเสร็จธุระของตนแล้วก็ไม่คิดอยู่ต่อ รีบเข้าไปลากตัวไป๋หลิน ดึงมือนางขึ้นรถม้าพากลับจวนไปทันที จากนั้นก็เร่งขบคิดพลางมองหน้าไป๋หลินอย่างหงุดหงิด นางทำสิ่งใดให้สหายอู๋ไม่พอใจกันแน่? แต่ว่าแม้จะคิดไม่ออก เขาก็คำรามใส่หน้าภรรยา “เจ้าไปทำอะไรให้คุณชายอู๋ไม่พอใจกัน? กลับบ้านไปก็จงเก็บตัวสงบเสงี่ยมอยู่แต่ในเรือนไม่ต้องเห็นเดือนเห็นตะวันสักเดือนหนึ่งแล้วกัน” ไป๋หลินเบิกตาโพลง “ท่านพี่!” ทางด้านไป๋เล่อชิง หญิงสาวมองตามไป๋หลินที่ถูกฉางเฟิงกึ่งลากกึ่งจูงไปขึ้นรถม้าอย่างเร่งรีบด้วยความงุนงงครู่หนึ่ง พี่สาวยังไม่ได้ซื้อผ้าเลยสักพับ น่าแปลกนัก! แต่ก็ดี ไปได้เสียที นางให้รู้สึกโล่งใจเหลือเกิน ไป๋เล่อชิงไม่สนใจพี่สาวนานนักเนื่องจากมีคนที่น่าสนใจยิ่งกว่ากำลังเดินเข้าร้านอาภรณ์มา หญิงสาวมองจนเหม่อ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อใรที่อู๋หมิงยากละสายตาจากนาง เฉิงเอินเองก็หันมาสนใจอู๋หมิงเช่นกัน นางรีบสะกิดไป๋เล่อชิงยิกๆ “สามีเจ้ากำลังมา รีบยิ้มหวานเร็ว” “รู้แล้วๆ” ทั้งสองล้วนรู้ใจกัน ภรรยาที่ดีสมควรรมีจริตมารยา ไป๋เล่อชิงจึงแย้มยิ้มเฉิดฉันท์ มั่นใจมากว่ายามนี้สะสวย แต่แค่ยิ้มไหนเลยเพียงพอ นางพาร่างอรชรอ้อนแอ้นเดินเข้าไปหาอย่างมีจริตจก้านของภรรยาผู้อ่อนหวานเต็มขั้น “ท่านพี่ คุยธุระเสร็จแล้วหรือเจ้าคะ?” “เสร็จแล้ว” ชายหนุ่มตอบพลางเดินผ่านร่างงามๆของภรรยาเข้าไปที่ห้องรับรองลูกค้าของร้านผ้า ที่นี่มีบริการสำหรับสามีที่ต้องการนั่งรอภรรยาจับจ่ายซื้อของ เขาหันไปเรียกเสี่ยวเอ้อร์แล้วสั่งน้ำชากับขนมนั่งกินอย่างใจเย็น ไป๋เล่อชิงเอียงหน้ามองเขาจนคอแทบหัก นึกฉงนนัก! “ท่านพี่จะนั่งรอข้าหรือ?” “อืม” อู๋หมิงเลิกคิ้วมองภรรยา “เหตุใดถามเช่นนั้น? ข้านั่งรอไม่ได้?” หญิงสาวส่ายหน้าเล็กน้อย ยิ้มกว้างขึ้น “ไม่ใช่ว่านั่งรอไม่ได้ เพียงแต่เดิมทีคิดว่าคงต้องกลับบ้านมือเปล่าเพราะข้ายังไม่ทันซื้อผ้าแม้แต่พับเดียว” อู๋หมิงนิ่วหน้า “อ้อ หากข้าไม่รอ เจ้าก็จะรีบตามข้ากลับเลยหรือ?” ไป๋เล่อชิงกดคางถี่ๆ “ก็ใช่น่ะสิ ท่านรีบหรือไม่” “ไม่รีบ เจ้าไปซื้อผ้าเถอะ ข้านั่งรอได้” “จริงหรือ?” ใบหน้าจิ้มลิ้มยิ่งคลี่ยิ้มน่ารักขณะชี้นิ้วไปทางเฉิงเอินกับพี่สะใภ้ลู่ “เช่นนั้นข้าซื้อผ้าก่อนนะเจ้าคะ สหายรออยู่” ท่าทางดีใจประหนึ่งเด็กน้อยเช่นนี้ทำเอาชายหนุ่มนึกขันถึงขั้นหลุดยิ้ม “อืม ไปเถอะ ไม่ต้องรีบ” ไป๋เล่อชิงพลันหน้าแดงเห่อ นางเพิ่งรู้ว่าอู๋หมิงผู้นี้ปกติมักทำหน้าตาเฉยชาทึมทื่ออึมครึมมืดครึ้มไม่สดใส แต่เวลายิ้มกลับมีเสน่ห์เปล่งประกายยิ่งนัก ให้ความรู้สึกสว่างไสวปานนั้น หญิงสาวเดินเหมือนลอยได้ไปทางสหายทั้งสอง เฉิงเอินนั้นเหมือนเข้าไปนั่งกลางใจไป๋เล่อชิง นางอดไม่ได้ที่จะหยอกเย้า “เท้าของเจ้าไม่ติดพื้นแล้ว” คนถูกเย้าได้แต่คลี่ยิ้มอย่างขวยเขิน เดินตัวลอยต่อ [1] 1 จั้ง = 3.33 เมตร
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม