แพรวพรรณจ้องมองชายหนุ่มผู้มีนามว่า พฤกษ์ อย่างตะลึงงัน สมองของเธอประมวลผลข้อมูลที่ได้รับอย่างยากลำบาก เจ้าป่า...ผู้พิทักษ์...และเมื่อครู่เขาคือเสือโคร่งตัวมหึมาที่อยู่ตรงหน้าเธอ!
“คุณ...คุณเป็นเสือ...แปลงร่างมาเหรอคะ?” แพรวพรรณถามออกไปด้วยเสียงตะกุกตะกัก ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อ แต่เป็นเพราะมันเหนือจินตนาการเกินกว่าที่พยาบาลสาวผู้ยึดมั่นในหลักวิทยาศาสตร์อย่างเธอจะเข้าใจได้
พฤกษ์คลี่ยิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มนั้นงดงามจนทำให้แพรวพรรณรู้สึกใจเต้นแรงอย่างประหลาด ราวกับดวงใจเธอถูกกระตุกเบาๆ "เจ้าจะเรียกเช่นนั้นก็ได้" เขาตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำและนุ่มนวล "ข้าคือจิตวิญญาณแห่งผืนป่าแห่งนี้ เป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ปกป้องทุกสรรพสิ่งในไพรพฤกษ์"
เขาเหลือบมองไปยังข้อเท้าของแพรวพรรณที่เคยบวมเป่ง ตอนนี้อาการบวมลดลงอย่างเห็นได้ชัด ความเจ็บปวดแทบจะหายไปจนหมดสิ้น แพรวพรรณลองขยับข้อเท้าเบาๆ รู้สึกประหลาดใจกับผลลัพธ์ที่เหลือเชื่อ
"คุณ...คุณทำให้มันหายได้ยังไงคะ?" เธอถาม พลางมองมือของพฤกษ์ที่เคยเปล่งแสงสีเขียว
“พลังของป่า” พฤกษ์ตอบสั้นๆ ดวงตาคมกริบของเขายังคงจ้องมองเธอไม่วางตา แพรวพรรณรู้สึกเหมือนถูกสะกด ยิ่งมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้น เธอยิ่งรู้สึกถึงความลึกซึ้งที่ไม่อาจหยั่งถึง และมีบางสิ่งบางอย่างที่ดึงดูดใจเธออย่างรุนแรง
“คุณมองฉันมาตลอดเลยใช่ไหมคะ?” แพรวพรรณตัดสินใจถามออกไปตรงๆ เธอจำดวงตาคู่นั้นได้ดี ดวงตาที่จ้องมองเธอจากความมืดมิดในตอนกลางวัน
พฤกษ์พยักหน้าช้าๆ "ใช่ ข้าเฝ้ามองเจ้าตั้งแต่ที่เจ้าก้าวเข้ามาในเขตป่าของข้า เจ้าแตกต่างจากมนุษย์คนอื่นๆ ที่เคยเข้ามาที่นี่"
"ฉันแตกต่างยังไงคะ?"
"เจ้าไม่ได้มาเพื่อทำลาย ไม่ได้มาเพื่อครอบครอง...แต่มาเพื่อค้นหาบางสิ่งบางอย่างในใจ" พฤกษ์ตอบ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเข้าใจ แพรวพรรณรู้สึกราวกับถูกมองทะลุปรุโปร่ง เธอรู้สึกเขินอายเล็กน้อยที่ความรู้สึกข้างในถูกเปิดเผยออกมาง่ายดายเพียงนี้
บรรยากาศรอบตัวเริ่มเงียบงันลงอีกครั้ง มีเพียงเสียงน้ำในลำธารที่ไหลเอื่อย และเสียงแมลงกลางคืนที่กระซิบกระซาบ แพรวพรรณรู้สึกว่าการอยู่ใกล้พฤกษ์นั้นแปลกประหลาด เขาไม่ใช่คนธรรมดา แต่เธอกลับรู้สึกปลอดภัยอย่างไม่น่าเชื่อ แม้ว่าเมื่อครู่เขาจะเพิ่งกลายร่างมาจากเสือโคร่งก็ตาม
“คุณจะทำอะไรกับฉันคะ?” แพรวพรรณรวบรวมความกล้าถามออกไปอีกครั้ง แม้จะเริ่มรู้สึกไว้วางใจ แต่สัญชาตญาณของการเอาตัวรอดก็ยังคงทำงาน
พฤกษ์คลี่ยิ้มบางๆ อีกครั้ง “ข้าไม่ได้จะทำอะไรเจ้า แพรวพรรณ เจ้าบาดเจ็บ และอีกไม่นานฟ้าก็จะมืดมิด เจ้าไม่อาจเดินทางต่อไปในสภาพนี้ได้” เขาผายมือไปยังกระท่อมหลังเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากลำธารนัก “เจ้าพักอยู่ที่กระท่อมของข้าก่อนได้ จนกว่าเจ้าจะฟื้นตัวและพร้อมที่จะออกเดินทาง”
แพรวพรรณหันไปมองกระท่อมไม้ซุงหลังเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหมู่ต้นไม้ใหญ่ มันดูกลมกลืนไปกับธรรมชาติราวกับเป็นส่วนหนึ่งของป่าจริงๆ มีควันบางๆ ลอยออกมาจากปล่องไฟเล็กๆ บนหลังคา บ่งบอกว่ามีคนอาศัยอยู่
เธอเงยหน้าขึ้นมองพฤกษ์อีกครั้ง เขายืนอยู่ตรงหน้าเธอ ร่างกายกำยำเปลือยเปล่าท่อนบน ยืนท้าทายกับแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา ดวงตาคมกริบสีเขียวอมฟ้ายังคงจับจ้องเธออย่างอ่อนโยน ความรู้สึกใจสั่นๆ หวิวๆ เริ่มแล่นขึ้นมาในอกของแพรวพรรณ เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้คืออะไร...ความกลัว ความตื่นเต้น หรือบางสิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้น
“แต่...ฉันจะไปรบกวนคุณหรือเปล่าคะ?”
“ไม่หรอก” พฤกษ์ตอบเสียงเรียบ “ข้าไม่ค่อยมีแขก”
แพรวพรรณพยักหน้าช้าๆ เธอไม่มีทางเลือกอื่นจริงๆ ตอนนี้เธอทั้งเหนื่อย บาดเจ็บ และอ่อนแรง การอยู่ในป่าลึกยามค่ำคืนคนเดียวเป็นอันตรายเกินไป และชายหนุ่มตรงหน้า...แม้จะลึกลับและเหนือธรรมชาติ แต่เธอก็รู้สึกได้ถึงความปลอดภัยจากเขาอย่างประหลาด
“งั้น...รบกวนด้วยนะคะ” เธอกล่าว
พฤกษ์ยื่นมือที่แข็งแกร่งมาตรงหน้าเธอ ดวงตาของเขาดูอ่อนโยนขึ้นอีก แพรวพรรณลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ยื่นมือเรียวเล็กของเธอไปสัมผัสกับฝ่ามือของเขา
ทันทีที่มือทั้งสองสัมผัสกัน กระแสความอบอุ่นก็แผ่ซ่านขึ้นมาจากมือของพฤกษ์มายังแขนของแพรวพรรณ มันเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดแต่ก็อบอุ่นจนน่าประหลาดใจ
พฤกษ์ดึงร่างของแพรวพรรณให้ลุกขึ้นยืนช้าๆ แพรวพรรณทรงตัวได้มั่นคงขึ้นผิดปกติราวกับว่าข้อเท้าของเธอไม่ได้บาดเจ็บเลย แพรวพรรณมองเขาด้วยความทึ่ง
"ไปกันเถอะ" พฤกษ์กล่าว เขาเดินนำหน้าเธอไปที่กระท่อม แพรวพรรณเดินตามไปอย่างเงียบๆ ตลอดทาง เธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของธรรมชาติที่ติดตัวพฤกษ์มา มันเป็นกลิ่นของดิน กลิ่นของป่าฝน และกลิ่นของดอกไม้ป่าที่เธอไม่คุ้นเคย เป็นกลิ่นที่ทำให้เธอรู้สึกสงบและปลอดภัยอย่างไม่น่าเชื่อ
เมื่อมาถึงกระท่อม พฤกษ์เปิดประตูออก ภายในกระท่อมดูเรียบง่ายแต่สะอาดสะอ้าน มีเตาผิงที่กำลังปะทุไฟให้ความอบอุ่น และกลิ่นหอมอ่อนๆ ของสมุนไพรป่าลอยฟุ้งไปทั่ว
"เชิญ" พฤกษ์ผายมือให้เธอเข้าไป
แพรวพรรณก้าวเข้าไปในกระท่อม พลันสายตาก็เห็นสิ่งที่ทำให้เธอต้องชะงัก บนโต๊ะไม้กลางกระท่อม มี ตะกร้าผลไม้ป่าสดๆ และ ถ้วยดินเผา วางอยู่ และข้างๆ กันนั้นคือ กองสมุนไพรสด ที่ถูกจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ
"คืนนี้เจ้าพักผ่อนเถอะ" พฤกษ์กล่าว "ส่วนเรื่องอาหาร เดี๋ยวข้าจะจัดการให้"
แพรวพรรณพยักหน้า เธอมองไปรอบๆ กระท่อมอีกครั้ง ก่อนจะหันมามองพฤกษ์ที่ยืนอยู่หน้าประตู เขามองเธอด้วยสายตาที่ลึกซึ้งและอบอุ่นอย่างประหลาด แพรวพรรณรู้สึกถึงความรู้สึกใจสั่นๆ หวิวๆ ที่แล่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอไม่เข้าใจความรู้สึกนี้เลย แต่มันก็ทำให้เธอรู้สึก...ดีอย่างประหลาด
เธอรู้ว่าการผจญภัยในป่าของเธอเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น และการมาเยือนของเจ้าป่าผู้นี้ จะเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเธอไปตลอดกาล