บทที่ 2 หย่ากันก็อดตาย 3

966 คำ
ร่างเพรียวบางที่เพียรดื้รนขัดขืนมาตลอดทางตั้งแต่คฤหาสน์เลิศภูวันนท์ถูกผลักเข้าห้อง ก่อนจะพลิกตัวดันแผ่นหลังแนบชิดติดประตู ข้อมือเล็กถูกฝ่ามือหนาขึงพืดกดตรึงอยู่ข้างศรีษะ ใบหน้าคมสันที่ยื่นเข้ามาใกล้เผยความไม่พอใจสุดขีด มองภรรยาอย่างเย็นชา ก่อนจะเอ่ยเสียงลอดไรฟันว่า “เธอวางแผนอะไรอยู่กันแน่ อยากจะหย่า? นี่เป็นวิธีหาเงินเข้ากระเป๋าแบบใหม่ของพวกคนบ้านพีรกิจรึไง ใครสอนมาล่ะ พี่ชายที่เป็นผีพนันหรือพ่อที่ไม่ได้เรื่องของเธอ พวกเธอนี่มันหน้าด้านกันทั้งโคตร ทำตัวเป็นปลิงคอยสูบเลือดบ้านฉันยังไม่พอ ยังคิดจะใช้ลูกมาเกาะครอบครัวฉันไปจนตายเลยรึไง” เผชิญหน้ากับความเดือดดาลของภรัณ เฌอปัณณ์ขบริมฝีปากแน่น กัดฟันตอบกลับว่า “เฌอไม่เคยคิดแบบนั้น” “เฮอะ!” ภรัณแค่นเสียงเยาะขึ้นจมูก “ถ้าไม่คิดแล้วเธอจะรวมหัวกับพ่อกับพี่ชายของเธอ วางแผนยอมเอาตัวเข้าแลก เพื่อจะจับฉันทำผัวให้ได้ทำไม ทั้งที่เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าฉันไม่ได้รักเธอ ผู้หญิงโลภมากแบบเธอไม่เคยอยู่ในสายตาของฉันซะด้วยซ้ำ นอกจากจะไม่รักแล้ว ยังฉันรังเกียจพฤติกรรมต่ำๆ ของเธออีก” ถูกเขาตอกย้ำใส่หน้ากันจังๆ เฌอปัณณ์ก็ปวดใจจนหน้าซีด แววตาเหยียดหยามที่เขามองกันทำเอาจุกอยู่ในอก ใช่...ภรัณพูดไม่ผิดสักคำ ที่เธอกลายมาเป็นภรรยาที่ถูกยัดเยียดให้เขาเช่นทุกวันนี้ เป็นเพราะแผนร้ายของพ่อกับพี่ชายเธอจริงๆ เพื่อเอาตัวรอดในภาวะวิกฤตที่บริษัทพีรกิจกำลังจะล้มละลาย พวกเขาวางยาปลุกเซ็กส์เธอในงานเลี้ยง ใส่ไว้ในเครื่องดื่มจนไม่ได้สติ ก่อนจะประเคนตัวเธอส่งให้ภรัณถึงห้องภายในโรงแรมที่จัดงาน กว่าจะล่วงรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็ปาเข้าไปอีกวันแล้ว เธอลืมตาอีกครั้งก็เห็นเพดานสีขาวและโคมไฟระย้า ข้างกายมีภรัณนอนเปลือยเปล่าคว่ำหน้าอยู่บนเตียงกว้าง เธอเองก็ล่อนจ้อนไปทั้งตัว เสื้อผ้ากระจัดกระจายอยู่เต็มพื้น บนเตียงก็ยับยู่ยี่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวใคร่ เฌอปัณณ์เบิกตาโพลง สะดุ้งเฮือก ดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันที แต่แล้วก็ต้องนิ่วหน้า ยกมือกุมท้องน้อย ล้มลงไปนอนตัวงออีกครั้งด้วยความเจ็บปวดราวกับถูกม้าแยกร่าง เธอกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก น้ำตาเอ่อคลอ รับรู้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ถึงจะไม่เคยมีประสบการณ์ แต่ใช่ว่าจะไม่ประสีประสาจนไม่รู้ความ อาการที่ฟ้องชัดบ่งบอกว่าเธอเสียความบริสุทธิ์ให้กับผู้ชายคนนี้แล้ว... แถมค่ำคืนที่ผ่านมาคงจะเร่าร้อนน่าดู! หญิงสาวไม่กล้าคิด ได้แต่นอนหน้าแดง สองมือกอบกุมผ้าห่มกำแน่น สายตาเหลือบไปเห็นรอยจูบและรอยสัมผัสอันวาบหวามเต็มผิวขาวอย่างน่าอดสู แล้วยิ่งทำอะไรไม่ถูก ยังไม่ทันได้คิดว่าจะทำอย่างไร พ่อกับพี่ชายเธอก็เปิดประตูเข้ามาพร้อมด้วยพ่อแม่ของภรัณ เธอตกใจจนแทบจะเป็นลม อับอายเสียจนอยากจะกัดลิ้นตายให้รู้แล้วรู้รอด ยังจำได้ติดตาตอนที่ท่านพูดมัดมือชกให้ภรัณรับผิดชอบแต่งงานกับเธอ เขาจ้องเธออย่างขยะแขยงชิงชัง แววตาดำมืดเผยความอำมหิตที่ทำให้เธอถึงกับตัวสั่น ถ้าสายตาฆ่าคนตายละก็ เธอคงถูกเขาฆ่าตายเป็นร้อยๆ ครั้งแล้วละมั้ง “ถึงเฌอจะบอกว่าเฌอไม่เคยรู้เรื่องที่พ่อกับพี่พลทำเลยสักนิด เฌอเองก็ตกเป็นเหยื่อเหมือนกัน พี่ภามก็คงไม่เชื่ออยู่ดี” คนพูดยิ้มขื่น ใช่ว่าไม่เคยพยายามอธิบายกับภรัณเรื่องนี้ แต่พูดสักกี่ครั้ง น้ำตาไหลอาบหน้ากี่หน เขาก็ไม่เคยฟังไม่เคยเชื่อใจกันเลยสักครั้ง พูดจนเธอท้อ สิ้นหวังและถอดใจเลิกพูดไปเอง “ช่างมันเถอะค่ะ” เฌอปัณณ์ถอนหายใจอย่างปลงตก “เอาเป็นว่าหลังจากที่เราหย่ากันแล้ว เราก็เป็นแค่คนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกันอีก พี่ภามก็ไม่จำเป็นต้องให้เงินครอบครัวของเฌออีกต่อไป” ภรัณกระตุกยิ้มเยาะ มองเธอราวกับเด็กน้อยไร้เดียงสา “พูดง่ายไปรึเปล่า ต้องให้ฉันช่วยเตือนเธอมั้ยว่าสามปีมานี้ พ่อกับพี่เธอไถ่เงินจากฉันไปตั้งเท่าไหร่ ปากทำเป็นพูดว่าจะเอาไปลงทุนเพื่อช่วยพยุงบริษัท แต่เงินทุกบาทกลับหายเข้าบ่อนไม่มีเหลือ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะครอบครัวฉันคอยช่วยอยู่เบื้องหลังละก็ ป่านนี้บ้านเธอคงล้มละลาย พ่อกับพี่ชายเธอได้ไปนอนอยู่ข้างถนนตั้งนานแล้ว” เฌอปัณณ์พยักหน้ารับ ไม่ปฏิเสธคำพูดแดกดันอย่างแสบสันของภรัณ แม้จะอับอายขายหน้าจนแทบจะมุดดินหนีไปเสียเดี๋ยวนี้เลยก็ตาม “ถ้ารู้ตัวว่าชีวิตของพวกเธออยู่ในกำมือฉัน ก็อย่าทำอะไรให้ฉันไม่พอใจ อยู่เงียบๆ ในที่ที่เธอควรอยู่ซะ จงพอใจในสิ่งที่ฉันให้ อย่าริจะโลภมากอยากได้นั่นได้นี่และสิ่งที่ไม่ใช่ของตัวเธอเอง เพราะความอดทนของฉันมีต่ำ ขืนเธอยังเอาแต่สร้างเรื่องวุ่นวายไม่เลิก เธอจะไม่ได้อะไรเลยสักอย่าง จำเอาไว้!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม