10 ปีต่อมา
ผู้ปกครองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่หนึ่งถึงหก เริ่มทยอยเข้ามาในหอประชุม วันนี้โรงเรียนมีการมอบประกาศนียบัตรแก่นักเรียนที่จบระดับมัธยมต้นและปลาย รวมถึงมอบเกียรติบัตรให้นักเรียนที่ทำชื่อเสียงให้กับโรงเรียน และนักเรียนดีเด่นประจำปี
ครอบครัวเอกวีรชัยมากันพร้อมหน้า นำโดยวีรชัย หัวหน้าครอบครัว จรรยา ภรรยาคู่ชีวิต สุดาพร มารดาวีรชัย ทั้งสามมาให้กำลังใจและแสดงความยินดีกับ เด็กหญิงณัฐรดาหรือน้องเนม ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ด้วย ทั้งสามหน้าชื่นตาบาน พูดคุยกับผู้ปกครองที่เอ่ยชมณัฐรดาในความเก่งด้านการศึกษา ความสวยงามไม่เป็นรองใคร โดดเด่นจนโรงเรียนส่งเข้าประกวดนางนพมาศ แข่งขันกับตัวแทนจากอีกสิบเก้าโรงเรียน และได้รับชัยชนะ ถือถ้วยรางวัลมาถึงสองรางวัล
หลังจากผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวเปิดงาน การมอบประกาศนียบัตรเริ่มต้นขึ้น เริ่มจากนักเรียนที่จบระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่สาม ตามด้วยปีที่หก ก่อนมอบเกียรติบัตรให้กับนักเรียนคนอื่นๆ
ครอบครัววีรชัย ปรบมือและยิ้มเมื่อณัฐรดา เอกวีรชัยขึ้นไปรับเกียรติบัตรนักเรียนดีเด่นประจำปี สายตาทั้งสามขณะมองณัฐรดาเปี่ยมไปด้วยความรัก ความยินดีและภาคภูมิใจ รอยยิ้มไม่เคลื่อนไปจากใบหน้า
“ลำดับต่อไป เป็นเกียรติบัตรพิเศษค่ะ มอบให้แก่นักเรียนที่เข้าประกวดเรียงความระดับภาค และได้รับรางวัลชนะเลิศค่ะ” พิธีกรเกริ่น “มอบให้แก่ นางสาวรินธดา เอกพีระพัฒน์ นักเรียนประจำชั้นม.5/2 ค่ะ”
นามสกุลเอกพีระพัฒน์ เป็นนามสกุลเดียวกับนางสาวณัฐรดา นักเรียนดีเด่นที่ได้รับเกียรติบัตรเมื่อครู่ ทว่าวีรชัย จรรยาและสุดาพร ไม่ได้ปรบมือ ใบหน้าไม่ได้แสดงให้รู้สึกเลยว่า ยินดีกับความสำเร็จเล็กๆ ของรินธดา
“นางสาวรินธดา เป็นตัวแทนนักเรียน กล่าวขอบคุณผู้ปกครองที่มาร่วมงานค่ะ”
รินธดามายืนตรงโพเดียม หญิงสาวทำหน้าที่ตามอาจารย์สั่ง โดยไม่อ่านโพย เพราะหล่อนเป็นคนเรียบเรียงข้อความในโพยเอง จึงจดจำได้ทุกตัวอักษร หลังจากทำหน้าที่เสร็จสิ้น อาจารย์วิชาภาษาไทย และเป็นพิธีกรของงาน เดินมาประกบตัวรินธดา
“ปีหน้าหนูรินธดาจะเข้าประกวดเรียงความระดับประเทศ ในหัวข้อเรื่อง อาชีพในฝัน หากชนะรินธดาจะได้ทุนการศึกษาไปเรียนต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกาค่ะ” ศิริลักษณ์กล่าวอย่างภูมิใจในตัวลูกศิษย์คนโปรด ต่างกับวีรชัย บิดาผู้ให้กำเนิด ที่อยากลุกออกจากหอประชุม ที่จำต้องนั่งต่อไป เพราะเขานั่งอยู่ข้างเสกสรร รองผู้อำนวยการของโรงเรียน
“คุณวีรชัยคงภูมิใจมากเลยใช่ไหมครับ ที่ลูกสาวทั้งสองคนเก่งไม่แพ้กันเลย” เสกสรรหันมาพูดกับวีรชัยด้วยรอยยิ้ม วีรชัยไม่ได้ตอบรับ เขาคลี่ยิ้มบางส่งให้เท่านั้น ก่อนหันหน้ามองเวที มองลูกสาวคนโตที่เกิดจากภรรยาคนแรก จังหวะนั้นรินธดามองมายังบิดาพอดี สองพ่อลูกจึงมองหน้ากัน
“หัวข้อการประกวดคือ อาชีพในฝัน ครูอยากรู้ว่าโตขึ้น หนูรินธดาอยากเป็นอะไรคะ และเพราะอะไรค่ะ” หูฟังคำถาม สายตายังมองไปยังวีรชัยตามเดิม
“อยากเป็นเมียน้อยค่ะ” เป็นคำตอบที่เรียกความตกใจและเสียงฮือฮาให้คนในหอประชุม โดยเฉพาะวีรชัยที่ไม่คิดว่า นี่คืออาชีพในฝันของบุตรสาวคนโต “เพราะหนูอยากได้รับความรักค่ะ คุณพ่อรักชู้ รักเมียน้อยมากกว่าคุณแม่ของหนู รักลูกชู้มากกว่าหนูด้วย วันที่คุณแม่หนูเสียชีวิต คุณพ่อมีความสุขอยู่กับเมียน้อยค่ะ เมียน้อยที่ตอนนี้เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของคุณพ่อค่ะ”
รินธดายิ้มกว้าง ส่งยิ้มให้บิดาที่รีบลุกขึ้นเดินออกจากหอประชุม จรรยากับสุดาพรรีบลุกเดินตามไป ไม่กล้าสบตาสายตาหลายคู่ที่มองมายังจรรยา พร้อมกับเสียงซุบซิบนินทา อีกคนที่อายไม่แพ้กันคือ ณัฐรดา ที่รีบวิ่งตามบิดามารดาไป หนีความอับอายที่ใครต่อใครรู้ว่า มารดาคือเมียน้อยบิดา
มันคือจุดเริ่มต้นของการแตกหักระหว่างสองพ่อลูก ที่ยากประสาน หลังจากนั้นสามเดือน รินธดาถูกบิดาบังคับให้ลาออกจากโรงเรียน และส่งตัวไปเรียนต่อในประเทศอังกฤษ และนับจากนั้นรินธดาไม่เคยได้กลับเมืองไทยอีกเลย