ความบังเอิญ 50%

1451 คำ
งานเลี้ยงฉลองรับปริญญาโทของณัฐรดา จัดขึ้นในโรงแรมห้าดาวกลางเมืองหลวง เดิมทีวีรชัยคิดจัดงานที่บ้าน เชิญญาติพี่น้องมาร่วมแสดงความยินดีกับความสำเร็จของลูกรัก แต่คนรักบุตรสาวไม่ยอม เพราะอยากเปิดตัวณัฐรดาในฐานะคนรักอย่างเป็นทางการ ให้ญาติพี่น้อง กลุ่มเพื่อนของเขาให้รับรู้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม อีกทั้งงานวันนี้ บิดามารดาตนเดินทางมาจากฝรั่งเศส เพื่อยลโฉมว่าที่ลูกสะใภ้ด้วย เมื่อรู้ความต้องการของวรธันต์ ครอบครัววีรชัยยิ้มไม่หุบ ไม่ขัดความประสงค์ชายหนุ่ม ต่างคนต่างเชิญแขกมาร่วมงาน รวมแล้วกว่าสี่สิบคน โดยเจ้าของงาน มีแขกมาราวยี่สิบห้าคน งานค่ำนี้จัดแบบบุฟเฟ่ต์นานาชาติพรีเมี่ยม ทุกเมนูวรธันต์เลือกเอง มีให้เลือกสี่สัญชาติ ไทย จีน ญี่ปุ่นและตะวันตก ที่ขนความอร่อยมาให้เลือกลิ้มชิมรส เขาไม่สนใจว่า ค่าหัวต่อคนสูงถึงสี่พันบาท เงินแค่นั้นเทียบไม่ได้กับความรักที่เขามีต่อณัฐรดา “ฉันล่ะอิจฉาแกจริงๆ เลยเนม ว่าที่ผัวแก ทุ่มไม่อั้น เปย์หนักแบบไม่เกรงใจใครเลย” วารินปฏิเสธยากว่า รู้สึกริษยาเพื่อนสนิท ที่นอกจากได้คนรักหล่อและรวย ยังทุ่มเทให้ณัฐรดาแบบไม่สนใจว่า ค่าใช้จ่ายงานนี้หมดไปเท่าไหร่ “แกก็หาผู้ชายรวยๆ เหมือนพี่เจย์สิ แกจะได้ไม่ต้องอิจฉาเนม” รัชนกบอกทางออก “ถ้ามันหาง่ายตามที่แกพูดมาก็ดีน่ะสิ สมัยนี้ผู้ชายไม่ได้โง่ให้ผู้หญิงหลอกเอาเงินนะ นอกจากพวกคนแก่หลงสาวๆ ซึ่งฉันไม่นิยมคนแก่ย่ะ” วารินตอบทันที “เรื่องแบบนี้แข่งกันไม่ได้ แล้วแต่บุญใครบุญมัน” “ก็จริง ฉะนั้นเราก็ปลงกันซะ ทำบุญเยอะๆ เผื่อจะมีคนหล่อ คนรวยหลงมาหาเรา” รัชนกหวังอย่างนั้น “คุยอะไรกันครับสาวๆ” เสียงทุ้มดังถาม ขณะเจ้าของเสียงเดินมายืนข้างณัฐรดา “กำลังคุยว่า อิจฉาเนมค่ะ ที่ได้แฟนหล่อ รวย แถมสายเปย์ ทุ่มไม่อั้น เห็นแล้วก็อยากมีแฟนแบบพี่เจย์บ้าง แต่วาสนาคงไม่ถึงค่ะ” วารินตอบ “พี่รักของพี่ จัดใหญ่มากกว่านี้พี่ก็ให้ได้ครับ” วรธันต์พูดให้สามสาวอิจฉาณัฐรดามากขึ้น “พี่ขอตัวพาเนมไปพบคุณพ่อคุณแม่ของพี่ก่อนนะครับ” วรธันต์บอกเสียงนุ่ม โอบเอวณัฐรดาไปพบบุพการี ท่ามกลางสายตาริษยาของสามเพื่อนสนิทณัฐรดา “แข่งอะไรก็แข่งได้นะแก แต่แข่งบุญแข่งวาสนาน่ะไม่ได้” รัชนกพูดปลอบใจเพื่อน และตัวเอง “ก็จริง เนมบุญพาวาสนาดีมาตั้งแต่เกิด พ่อแม่ก็รวย รักและตามใจมันอยู่คนเดียว พอได้แฟน แฟนก็รักมันมากอีก เปย์ให้ไม่อั้น ไม่อิจฉายังไงไหว” วารินเห็นด้วย “ไปหาอะไรกินกันแก้เซ็งดีกว่า เผื่อความอิจฉาเนมจะลดลง” สามสาวจึงพากันไปเลือกทานอาหาร ละความสนใจเรื่องณัฐรดาชั่วคราว วรธันต์พาคนรักไปพบบิดามารดาและเพื่อนสนิทอีกสามสี่คน ที่ณัฐรดายังไม่เคยรู้จัก วรธันต์เป็นชายหนุ่มผู้มีฐานะร่ำรวย ถึงขั้นมหาเศรษฐี ในเมืองไทยเขาอาจไม่ค่อยมีชื่อเสียงเท่าไหร่นัก เนื่องจากจากบ้านเกิดเมืองนอนไปตั้งแต่อายุเก้าปี ไปใช้ชีวิตในเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส กับวรรณวิภาหรือวิภา ในชื่อฝรั่งเศสคือ ธันญ่า และอองโซ โอลิเวีย ดูปลองค์ วัยหกสิบเจ็ดปี ที่เวลานี้ยกสมบัติและกิจการทั้งหมดให้ลูกเลี้ยงดูแล วรธันต์จึงกลายเป็นมหาเศรษฐีติดอันดังหนึ่งในยี่สิบของโลก วรรณวิภากับอองโซมองว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยความชื่นชม ในความสวยและความเก่ง อีกทั้งกิริยามารยาทน่ารัก ยังออกปากชมณัฐรดาต่อหน้าวีรชัย จรรยาและสุภาพร ที่ยิ้มไม่หุบ ยิ่งคำพูดวรรณวิภา ยิ่งเรียกรอยยิ้มให้ครอบครัวณัฐรดามากขึ้น “ดิฉันจองหนูเนมเป็นลูกสะใภ้นะคะ อย่ายกให้ใครเชียว ลูกสะใภ้ดิฉันคือหนูเนมคนเดียวค่ะ” วรรณวิภาถอดแหวนบนนิ้วนางข้างซ้ายออกมา อีกมือจับมือณัฐรดายกขึ้นสูง “จองปากเปล่าก็กระไรอยู่ ป้าให้แหวนนี้เป็นการจองนะ ในวันหมั้นรับรองว่า เพชรเม็ดใหญ่กว่านี้จ้ะ” ก่อนบรรจงสวมใส่นิ้วนางข้างซ้ายณัฐรดา คนถูกสวมแหวนยิ้มไม่หุบ มองดูแหวนเพชรสีชมพูระยิบระยับด้วยความตื่นเต้นระคนดีใจ “คุณแม่เซอร์ไพร์สผมนะครับเนี่ย ไม่เห็นบอกผมเลยว่าจะมัดจำเนมไว้ก่อน” คนเป็นลูกไม่รู้เรื่องนี้จริง “ก็แม่กลัวว่าแกจะไปคว้ากรวดมาเป็นเมียน่ะสิ แม่ไม่ยอมนะ แกมีเพชรอยู่ในมือแล้ว ห้ามทำหลุดมือเด็ดขาด” คนเป็นแม่กำชับลูกชาย “แน่นอนอยู่แล้วครับ ผมไม่มีวันมองสาวคนไหน ในสายตาผมมีแค่เนมคนเดียวครับ” ลูกชายตอบกลับ หันมาส่งสายตาหวานๆ ฉ่ำรักให้ณัฐรดาที่ยิ้มเขิน หัวใจพองโตมาก การกระทำของวรธันต์กับครอบครัว ทำให้ณัฐรดามั่นใจเกินล้านเปอร์เซ็นต์ว่า ตนได้เป็นภรรยาวรธันต์แน่นอน มั่นใจแบบไม่เผื่อความผิดหวังสักนิดเดียว งานเลี้ยงดำเนินต่อไป วรธันต์โอบเอวณัฐรดาพูดคุยกับแขกทั่วงาน ใครเห็นต่างพากันพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เหมาะสมราวกับกิ่งทองใบหยก วีรชัยมองลูกสาวด้วยรอยยิ้ม เขาไม่เคยผิดหวังกับลูกสาวคนนี้เลย นอกจากความสวยโดดเด่น ทางด้านการศึกษาก็ตั้งใจเรียนจนได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง ทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ไม่เคยทำให้ตนผิดหวัง เสียหน้า เสียความรู้สึกเลยสักครั้ง ต่างกับลูกสาวอีกคน ที่เขาไม่อยากเอ่ยถึง ไม่อยากนึกถึงเลยด้วยซ้ำไป อาจพูดได้ว่า อยู่คนละโลก ทั้งที่ทรัพย์สินเงินทองทั้งหมดที่ตนใช้จ่าย เป็นเงินของลูกสาวแสนเกลียดชังทั้งสิ้น ค่ำนี้ภายในโรงแรมเดียวกัน มีงานเลี้ยงหลายงาน งานที่ใหญ่ที่สุดคงเป็น งานเลี้ยงฉลองวิวาห์แห่งความสุข ของคู่บ่าวสาว ลูกหลานนักการเมือง หนึ่งในคนที่มาร่วมงาน เป็นสตรีวัยยี่สิบเจ็ดปี ความสวย รูปร่างอวบอั๋น สรีระน่ามองในชุดราตรีสั้นเกาะอกสีฟ้าอ่อน แต่งด้วยลูกไม้ ส่งผลให้หล่อนตกเป็นเป้าสายตาชายหลายคน ที่มองมาด้วยความชื่นชมและอยากครอบครอง หญิงสาวเดินออกจากห้องจัดเลี้ยง จุดหมายของหล่อนคือห้องน้ำ ทำธุระเสร็จสาวสวยเดินออกมาด้านนอก จังหวะนั้นเสียงมือถือในกระเป๋าถือดังขึ้น หล่อนไม่หยุดเดิน ก้าวเดินไปก้มหน้าหยิบมือถือไป จนถึงทางเลี้ยวที่เชื่อมไปยังทางเดินห้องจัดเลี้ยงต่างๆ “อุ้ย!” ความที่หล่อนมัวแต่สนใจหยิบของในกระเป๋า ทำให้ไม่ทันระวัง เดินชนกับชายคนหนึ่งที่เดินเลี้ยวไปทางเดินเข้าห้องน้ำ “ขอโทษครับ ผมไม่ทัน...” วรธันต์ปากขอโทษ ทว่าลำแขนเขาไวไม่แพ้กัน โอบร่างเล็กที่ทำท่าจะหงายหลังไว้ทันท่วงที และวินาทีนี้ ตาสบตากันอย่างไม่ตั้งใจ คล้ายบทพระนางเจอกันไม่มีผิด โลกทั้งใบหยุดนิ่งไปชั่วขณะหนึ่งก็ว่าได้... ตื๊ด...ตื๊ด...ตื๊ด เสียงมือถือระบบสั่นรินธดาดังขึ้นหลายครั้ง ดึงสติเขาและหล่อนให้กลับมา วรธันต์คลายอ้อมแขนจากร่างแน่งน้อย ที่คลี่ยิ้มให้ ว้าว...ยิ้มสวยมาก สวยเหลือเกิน วรธันต์เอ่ยในใจ วินาทีนี้ วรธันต์ไม่ได้นึกถึงณัฐรดา ราวกับว่าหล่อนถูกปัดออกไปจากความทรงจำ ด้วยความชิดใกล้ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ แต่ทรงพลัง สะกดเขาได้อยู่หมัด หัวใจเต้นโครมคราม ราวกับเจอรักแรก “ขอโทษค่ะ ฉันก็ผิดที่สนใจแต่จะหยิบมือถือ ขอบคุณมากค่ะที่ช่วยรับตัวฉันไว้” รินธดาเอ่ยเสียงหวาน “ฉันขอตัวนะคะ” หล่อนเดินจากไปพร้อมกับหยิบมือถือมากดรับสาย โดยไม่ได้หันมองด้านหลังว่า วรธันต์มองตามร่างตน สายเขาร้อนแรงมาก บ่งบอกถึงความปรารถนาชัดเจน วรธันต์ละสายตาก้าวเท้าเดินไปตามทางเข้าห้องน้ำ แต่เขารู้สึกว่า ตนเหยียบอะไรบางอย่าง เขาชักเท้าออก ใบหน้าคมหล่อก้มดูสิ่งของบนพื้น ต่างหู.... วรธันต์ก้มลงเก็บมัน จ้องมองก่อนหันไปมองสาวสวยที่เดินห่างออกไปแล้วกระตุกยิ้ม สอดมันไว้ในชุดสูท จากนั้นเขาเดินเข้าห้องน้ำ ตามความตั้งใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม