ครืด~ ครืด~ ครืด~
เสียงโทรศัพท์สั่นไม่หยุดบนโต๊ะกระจก ขณะที่ราชันย์ยังคงยืนพิงราวระเบียงสูบบุหรี่เงียบๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาหรี่ตาใส่มวนบุหรี่ ก่อนพ่นควันออกอย่างหงุดหงิด
“อย่าบอกนะว่าเงินที่ให้ไปยังไม่พอ”
เขาบ่นพึมพำกับตัวเอง น้ำเสียงต่ำและเย็น ก่อนคาบบุหรี่ไว้ที่ริมฝีปากแล้วก้าวกลับเข้ามาในห้อง
ราชันย์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย
“ว่าไง”
น้ำเสียงห้วน กระด้าง บ่งบอกอารมณ์ไม่พอใจอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าเบอร์คนโทรเข้าเป็นของลูกน้องคนสนิท ทั้งที่ผู้หญิงคนนั้นเพิ่งเดินออกไปได้ไม่นาน
ปลายสายพูดขึ้นทันที
“นายครับผู้หญิงที่นายสั่งให้ผมหา มาถึงแล้วครับนาย”
คิ้วเข้มของราชันย์ขมวดมาทันที
“มึงว่าไงนะ”
รพีรีบตอบซ้ำ
“ผู้หญิงที่นายสั่ง มาถึงแล้วครับนาย”
ความเงียบกดทับอยู่เพียงเสี้ยววินาที ก่อนราชันย์จะพูดเสียงต่ำราวกับคำราม
“แล้วผู้หญิงคนเมื่อกี้ มึงไม่ได้หามาหรอ”
รพีชะงัก
“คนไหนครับนาย”
ราชันย์ถอนหายใจหนัก กัดฟันกรอดในลำคอ
“เวรละกู”
ราชันย์สบถคำออกจากปาก ก่อนมองไปที่เตียงนอน ที่มีคราบเลือดเลอะเป็นวงกว้างอยู่บนที่นอน พร้อมกับคราบของน้ำกามที่เลอะอยู่หลายจุด ก่อนหลุบตามองไปที่กระเป๋าของตัวเอง ที่ตกอยู่ที่พื้นหน้าประตูห้อง
"เวร...เวรอะไรครับนาย"
“แล้วกระเป๋าใบนี้มาได้ยังไง”
ราชันย์ถามปลายสายด้วยน้ำเสียงขรึม ดวงตาคมขมวดเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
“กระเป๋าของนายใช่ไหมครับ”
รพีถามย้ำอย่างสุภาพ
“อืม”
ราชันย์ตอบรับสั้นๆ แต่เต็มไปด้วยความกดดันในน้ำเสียง
“ผมฝากพนักงานของคอนโดเอาขึ้นไปให้นายน่ะครับ นายได้รับหรือยังครับ”
รพีตอบเสียงเรียบ เขาเองก็ยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรในห้องก่อนหน้านี้
ราชันย์กัดฟันแน่นเล็กน้อย ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกวะ”
เขาเดือดไม่ใช่เพราะเรื่องกระเป๋า แต่เพราะคำถามชัดในหัวว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร และแสดงว่าเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้คืออะไร
‘ถึงว่าทำไมมันขึ้นมาเร็วขนาดนั้น ทั้งที่ยังสูบบุหรี่ไม่ถึงมวนเลยด้วยซ้ำ เด็กผู้หญิงคนนั้นก็เข้ามาแล้ว’ ราชันย์นึกย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ ก่อนที่เสียงของรพีจะดังแทรกขึ้น ทำให้ความคิดของเขาสะดุดลงทันที
“นายจะให้ผมพาเธอไปเลยไหมครับ”
รพีถามขึ้นด้วยน้ำเสียงรอคำสั่ง
ราชันย์ยกมือขึ้นกดขมับตัวเอง ความหงุดหงิดเริ่มพุ่งเพราะเรื่องมันเริ่มไม่เข้าทาง ไม่ใช่แบบที่เขาต้องการเลยแม้แต่น้อย
“ไปตามหาเธอให้เจอ แล้วถามเธอมาว่าเธอเป็นใคร”
ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนรพีถามกลับอย่างไม่เข้าใจ
“เธอไหนครับนาย”
ราชันย์กัดฟันกรอดด้วยความโมโหปนหงุดหงิด ที่ลูกน้องเอาแต่ถามจนน่ารำคาญ
“แม่มึงมั้ง!”
“อะ…อ้าวนาย คือผมไม่เข้าใจจริงๆครับนาย นายจะให้ผมตามหาใครครับ ผมขอโทษครับนายผมไม่รู้จริงๆ”
ราชันย์หงุดหงิดจนเสียงต่ำลงกว่าเดิม
“ไปตามหาไอ้คนที่มันเอากระเป๋าขึ้นมาให้ฉัน! ฉันอยากรู้ว่าเธอเป็นใครกันแน่ แม่งจัดเธอไปตั้งหลายรอบเหี้ยจริงๆ"
เขาออกคำสั่งอย่างหัวเสีย ฟังได้ชัดเจนว่าสติเริ่มพลุ่งพล่านไม่ต่างจากอารมณ์ ก่อนจะสบถคำออกมาเสียงเบาลงเหมือนพูดกับตัวเอง แต่ลูกน้องตัวดีกับได้ยินซะงั้น
"อย่าบอกนะครับว่านายจัดผิดคน"
เสียงของรพีดังลอดปลายสายด้วยความตกใจปนไม่อยากเชื่อ ราชันย์ถึงกับหรี่ตาลงทันที คิ้วคมกระตุกอย่างหงุดหงิด
“ไปตามเธอมา แล้วถามว่าเธออายุเท่าไร แล้วถ้าเธออายุยังไม่ถึง 18 ก็เอาเงินปิดปากเธอเพิ่มซะ อย่าให้กูต้องติดคุกหัวโต”
ราชันย์กำหมัดแน่นจนเส้นเลือดปูด ความหงุดหงิดพุ่งขึ้นจนแทบควบคุมไม่อยู่ เมื่อภาพเด็กผู้หญิงคนนั้นผุดขึ้นมาในหัวอีกครั้ง คนที่ไม่ควรมาอยู่ตรงนั้น คนที่ไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาสั่งให้หา และคนที่เขาใส่เธอไม่ยั้งด้วยความหน้ามืดตามัว แถมเจ้าหล่อนยังทำความต้องการของเขาพุ่งกระฉูดอีกด้วย
“ครับนาย ผมจะรีบตามหาเธอให้เจอครับ”
"อืม~"
“ผะ...ผมขอโทษครับนาย ผมคิดว่ามัน...”
“ช่างแม่ง!”
ราชันย์ขัดทันที
“มึงไปตามหาผู้หญิงคนนั้นมาให้เจอก็พอ แล้วเอาให้รู้ว่าเธอเป็นใคร ทำงานตำแหน่งอะไร แล้วเธออยากได้ค่าตอบแทนอะไรเพิ่มหรือเปล่า”
รพีกลั้นใจถามซ้ำอีกครั้ง ทั้งที่น้ำเสียงยังสั่นนิดๆ จากความกดดันของปลายสาย
“แล้วผู้หญิงคนนี้ล่ะครับนาย นายจะให้ผมพาขึ้นไปหานายเลยไหมครับ”
รพีถามเสร็จก็เงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนเสียงเข้มเย็นของราชันย์จะดังขึ้น เสียงนั้นหงุดหงิดจนฟังแล้วขนลุก
“มึงจะเอาขึ้นมาทำซากอะไรวะ”
น้ำเสียงนั้นตัดบทแบบไม่ให้มีพื้นที่คิดต่อ และอารมย์ตอนนี้เขาไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น
“ครับนาย ผมจะรีบตามหาเธอให้เจอครับ”
ราชันย์กดสายทันทีโดยไม่รอคำพูดต่อ กรามแข็งขึ้นอย่างชัดเจน 'เด็กผู้หญิงคนนั้นเธอไม่ได้มาขายตัวเลยด้วยซ้ำ แต่เล่นจัดเธอปางตาย เพราะคิดว่าเธอมาเพื่อรับงาน'
"แม่งเอ้ย...ถึงว่าแม่งยังซิง ที่แท้ก็พนักงานของไอ้อัคนี"
เช้าวันใหม่ภายในร้านอาหารสุดหรู
ราชันย์เพิ่งกลับจากต่างประเทศ ยังไม่ทันเหยียบพื้นบ้านตัวเองด้วยซ้ำ เพื่อนสนิทสองคนก็ลากเขามากินข้าวเช้าที่ร้านหรูประจำเสียก่อน
“ไอ้ราชันย์ ทำไมมึงต้องขมวดคิ้วตลอดเวลาแบบนั้นวะ นี่มึงไม่อยากกลับมาขนาดนั้นเลยหรอวะ กูเห็นมึงแม่งทำหน้าแบบนี้ตั้งแต่มาถึงแล้วนะเว้ย”
คีรินถามขึ้น พลางจ้องหน้าเพื่อนเหมือนหงุดหงิดแทน
ราชันย์ถอนหายใจออกแรงๆ หนึ่งทีเหมือนคนรำคาญ ก่อนตอบสั้นๆตามนิสัย
“เปล่า”
อัคนีที่นั่งฝั่งตรงข้ามยกคิ้วขึ้น ก่อนถามอย่างรู้ทัน
“เมื่อคืนเด็กที่ลูกน้องหามาไม่ถูกใจหรือไงวะ ถึงได้อารมณ์ไม่ดีตั้งแต่เช้า”
อัคนีรู้ดีว่ารพีลูกน้องคนสนิทของราชันย์ ก็เพิ่งกลับมาที่ไทยโดยไม่ทันได้ตั้งตัวเหมือนกัน การที่จะหาผู้หญิงที่ตรงสเปกแบบเป๊ะๆ ตามที่ราชันย์ต้องการมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอะไรนัก
ราชันย์ไม่ตอบในทันที แต่แววตาที่เห็นดูไม่สบอารมย์มากขึ้นไปอีก ทำให้เพื่อนทั้งสองคนยิ่งสงสัยกว่าเดิม
“กูเย็ดผู้หญิงมาผิดคนน่ะสิวะ ไอ้เหี้ย!”
ราชันย์สบถเสียงต่ำด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
อัคนีชะงักไปทันที ก่อนเลิกคิ้วถาม
“เดี๋ยวๆ อะไรวะเย็ดผิดคน”
ราชันย์ถอนหายใจแรงราวกับหงุดหงิดกับตัวเองมากกว่าคนอื่น เขายกมือขึ้นลูบหน้า ก่อนพูดช้าๆตามสไตล์คนที่ไม่ค่อยยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง
“กูขอโทษนะเว้ย กูคิดว่าเป็นผู้หญิงที่ไอ้รพีหามา แต่แม่งไม่ใช่ว่ะ กูเสือกไปเย็ดลูกน้องมึงว่ะไอ้อัคนี"
อัคนียกยิ้มเบาๆ คีรินทำตาโต ก่อนหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ เหมือนเป็นเรื่องปกติ
“ผิดก็ผิดดิวะ มึงจะซีเรียสทำไมวะ ปกติกูก็ไม่เห็นมึงแคร์เลยนี่หว่า”
ราชันย์กดฟันแน่น คิ้วขมวดจนแทบผูกกัน สีหน้าเต็มไปด้วยความหงุดหงิด แบบคนที่ไม่เคยทำอะไรผิดพลาดขนาดนี้มาก่อน แต่ดันมาพลาดเอาเรื่องนี้
“เออนั่นแหละกูไม่ได้ซีเรียสเว้ย แต่กูแม่งทำพลาด ทั้งที่กูไม่เคยพลาดเรื่องพรรค์นี้มาก่อน”
คีรินอุทานเสียงดัง
“ไอ้เหี้ย! มึงไปเย็ดใครเขาวะนั่น นี่มึงเ****นจนหน้ามืดตามัวขนาดนั้นเลยหรอวะ ฮ่าๆๆ แม่งเพิ่งลงเครื่องมาไม่ถึงวันก็สร้างเรื่องซะแล้ว"
คีรินเงยหน้ามองราชันย์อย่างไม่อยากเชื่อ ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
อัคนีเองก็กระตุกยิ้มขำไม่ต่างกัง ก่อนถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ ราวกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับตัวเองเลย
“แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นไงบ้างวะ”
ราชันย์ถอนหายใจแรงจนหน้าอกขยับ
“ก็จะเป็นไงละ มึงก็รู้นี่หว่าจะถามทำไมวะ มึงก็ไม่น่าถาม”
คำตอบสั้นๆ ก่อนที่คีรินจะส่ายหน้าอย่างเอือมระอาปนขำ
"ป่านนี้คงหายาแก้อักเสบแดกแล้วมั้ง ได้ข่าวว่าแม่งอัดอั้นมาเต็มที่ไม่ใช่หรอมึงอ่ะ"
"อืม~"
ราชันย์พยักหน้าเบาๆเป็นการยอมรับ ก่อนยกแก้วขึ้นดื่มทีเดียวหมด ใบหน้าคมยังเคร่งเครียดไม่เปลี่ยน เหตุการณ์เมื่อคืนยังคงกวนใจเขาไม่หยุด มันมากเสียจนแม้แต่เพื่อนสนิทยังรู้สึกได้