บทที่ 01
เพราะเหล้าเป็นเหตุ [1]
“อิ่มจังเลยค่ะ” ณาลัลน์บ่นพลางหันมายิ้มแห้ง
“นี่ถ้าพี่ไม่เห็นเองกับตาพี่คงไม่เชื่อเหมือนกันนะคะว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างน้องลัลน์จะกินเก่งขนาดนี้” ศิลาแซวยิ้มๆ ก่อนจะเบี่ยงตัวออกด้านข้างเล็กน้อยเพื่อเปิดทางให้เธอเดินนำเขาออกจากลิฟต์
เขาพาณาลัลน์มาดินเนอร์ตามที่ประมุขต้องการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหากไม่ใช่ณาลัลน์แล้วล่ะก็ เขาเองก็ยังไม่รู้ว่ามื้ออาหารที่ผ่านมาจะน่าอึดอัดแค่ไหน เพราะโดยปกติแล้วเขาไม่ดินเนอร์กับใคร ส่วนมากจะเน้นชวนกันไปกินอย่างอื่นเสียมากกว่า
“ถ้าไม่ใช่พี่จากัวร์ ลัลน์ก็คงไม่กล้ากินเยอะแบบนี้เหมือนกันค่ะ ดูสิพุงป่องเลย” เธอว่าอย่างไม่อาย พลางดึงเสื้อเชิ้ตสีหวานแนบไปกับหน้าท้องอวดพุงน้อยๆ ให้เขาดู
“ไม่เห็นจะมีพุงเลยค่ะ”
“โอ้โห พี่จากัวร์ไม่ต้องมาปากหวานหรอกค่ะ ลัลน์ไม่ใช่คนอื่น รู้นะคะว่าพี่ตกใจแต่เก็บอาการ”
“เปล่าสักหน่อยค่ะ พี่ว่าจริงๆ น้องลัลน์อ้วนกว่านี้อีกสักนิดก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย เวลาน้องลัลน์อ้วนน้องลัลน์จะมีแก้ม น่ารักดีออกค่ะ” คำชมของเขาทำเธอเขินหน้าแดง
“พี่จะได้ดึงแก้มลัลน์เล่นน่ะเหรอคะ ไม่เอาหรอก ลัลน์อยากหุ่นดีเหมือนนางแบบบ้าง เดี๋ยวคงต้องกลับไปออกกำลังกายใช้กรรมสักหน่อย” เธอยังหยอกล้อกับเขาอยู่ตลอดกระทั่งเดินมาถึงรถ
ศิลาอมยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินตรงไปเปิดประตูรถให้เธอตามมารยาท
“คุณศิลาคะ”
ทว่ายังไม่ทันที่ณาลัลน์จะได้ก้าวเท้าขึ้นรถ ทั้งเขาและเธอก็ต้องชะงักและหันกลับไปมองหญิงสาวคนหนึ่งที่เดินตรงเข้ามาทักทาย
“น้องลัลน์นั่งรอพี่ในรถก่อนแล้วกันนะคะ นี่กุญแจค่ะ เอื้อมกดปุ่มสตาร์ตแล้วล็อกรถด้วยนะคะ”
“โอเคค่ะ ถ้าไม่ติดตรงที่ดินเนอร์คืนนี้คุณลุงเป็นคนจอง ลัลน์ก็ไม่ว่าอะไรนะคะถ้าพี่จะไปต่อกับเธอ แต่คืนนี้ขอไว้ก่อนก็แล้วค่ะ” ณาลัลน์ว่าพลางขยิบตาอย่างรู้กันกับเขา ซึ่งเขาเองก็รีบพยักหน้ารัวๆ แทนการรับปาก ก่อนจะปิดประตูรถลงทันทีเมื่อณาลัลน์ก้าวเท้าเข้าไปนั่งลงที่เบาะด้านข้างคนขับเรียบร้อย
“นั่นนางแบบสังกัดไหนคะ หน้าไม่คุ้นเลย คู่นอนคนล่าสุดของคุณเหรอคะ”
คำถามจากนางแบบสาวทำให้ศิลารู้สึกหงุดหงิด พยายามจะนึกชื่อเธอแต่จนถึงตอนนี้เขาก็ยังนึกไม่ออก จำได้เพียงว่าเป็นคนที่เขาควงขึ้นคอนโดเมื่ออาทิตย์ก่อน
“คุณศิลาคะ”
ไม่เพียงร้องเรียกเขาเฉยๆ แต่เธอยังฉวยโอกาสระหว่างที่เขายังคงยืนเงียบๆ เพื่อใช้ความคิดเดินเข้าไปกอดแขนเขา ทั้งยังรีบซบหัวลงกับอกของเขาอย่างออดอ้อน
หากแต่ศิลาไม่ใช่ผู้ชายที่จะเข้าถึงได้ง่ายๆ ถ้าเขาไม่ได้เป็นคนอนุญาต
“โอ๊ย” นางแบบสาวร้องเสียงหลงจนณาลัลน์ที่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือรออยู่ในรถต้องหันมามอง เธอไม่ได้คิดจะสนใจเรื่องของเขาเพราะเห็นจนชินตา และบางครั้งตัวเธอเองก็เป็นคนช่วยจัดการเรื่องพวกนี้ให้เขาด้วยซ้ำไป
สำหรับเธอแล้วการเรียกร้องความสนใจจากศิลาเป็นเรื่องที่เสียเวลาเปล่า เพราะหากศิลาสนใจ เขาจะเป็นฝ่ายพุ่งตัวไปหาเอง
“คุณใจร้ายไปหน่อยรึเปล่าคะ คนกันเองแท้ๆ อีกอย่างเธอเองก็รู้ไม่ใช่เหรอคะว่าอะไรเป็นอะไร ในเมื่อตกลงรับงานแล้วก็หมายความว่ายังไงเสียคืนนี้เธอก็คงไม่หนีไปจากคุณหรอกค่ะ”
“หมายความว่าเธอเองก็คงรู้ว่าอะไรเป็นอะไรเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นทำไมเธอไม่เป็นฝ่ายรีบไปให้พ้นหน้าฉันเสียเองล่ะ” เขาย้อนถามเสียงเข้มก่อนจะเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปทันที
บรื้น
“ใจเย็นๆ ค่ะ หายใจเข้าลึกๆ นะคะ” ณาลัลน์หยอกยิ้มๆ เพราะรู้ดีว่าคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยในตอนนี้กำลังหัวเสียหน้าดู
“พี่ขอโทษนะคะ น้องลัลน์อย่าไปฟังที่ผู้หญิงคนนั้นพูดเลยนะ”
“ลัลน์ไม่เคยให้ค่ากับคำพูดของคนที่เขาไม่รู้จักลัลน์อยู่แล้วค่ะ พี่จากัวร์สบายใจได้” ณาลัลน์บอกอย่างไม่ถือสา และมันก็ทำให้ศิลารู้สึกเบาใจขึ้นมาได้นิดหน่อย
“อ้อ เดี๋ยวพี่จากัวร์ส่งลัลน์ที่ไนต์คลับใกล้ๆ นี่ก็พอนะคะ เดี๋ยวลัลน์บอกทาง พอดีลัลน์นัดเพื่อนเอาไว้”
“อ้าว ไหนตอนพี่ถามน้องลัลน์บอกพี่ว่าว่างไงคะ”
“ลัลน์เพิ่งอ่านไลน์กลุ่มค่ะ” ณาลัลน์สารภาพ ศิลาลอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกอีกที คิดว่าตัวเองจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอต้องผิดนัดกับเพื่อนเสียแล้ว
---
SURA Club
ไม่นานศิลาก็จอดรถส่งณาลัลน์ที่หน้าร้าน ‘สุราคลับ’ ไนต์คลับที่ณาลัลน์บอก
“ขอบคุณมากนะคะพี่จากัวร์”
“เดี๋ยวครับน้องลัลน์” ศิลาตะโกนเรียกพลางรีบวิ่งตามเธอลงมาจากรถ
“มีอะไรเหรอคะ”
“แล้วเดี๋ยวน้องลัลน์จะกลับยังไงคะ”
“อ้อ เดี๋ยวลัลน์ค้างที่คอนโดเพื่อนเลยค่ะ”
“เพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชายคะ”
“เอ่อ...” ณาลัลน์อึกอักอยู่ในที อยู่ๆ ก็รู้สึกแปลกใจกับคำถามของเขาขึ้นมาเพียงเพราะไม่เคยมีใครถามแถมยังทำหน้าดุใส่เธอแบบนี้มาก่อน
“พี่แค่ถามเฉยๆ น่ะค่ะ น้องลัลน์ก็น่าจะรู้ว่าช่วงนี้พี่โดนพ่อจับตามองอยู่ ถ้าพ่อรู้ว่าพี่พาน้องลัลน์มาทิ้งไว้ที่ไนต์คลับแล้วตัวเองหนีกลับไปนอน พรุ่งนี้เราได้ถูกจับแต่งงานกันแน่ๆ”
“จริงด้วยค่ะ งั้นเอาแบบนี้ดีไหมคะ”
“ยัยลัลน์”
ไม่ทันที่ณาลัลน์จะได้บอกแผนการ 'แพตตี้' เพื่อนสาวคนสนิทของณาลัลน์ที่เพิ่งจะมาถึงก็รีบพุ่งตัวเข้ามาหา ทว่าสายตาของเธอกลับจ้องมองไปที่ศิลาราวกับตกหลุมรักเขาตั้งแต่แรกพบ
“อะแฮ่ม”
เห็นจ้องอยู่นานณาลัลน์จึงต้องส่งสัญญาณเตือนด้วยการกระแอมเบาๆ ในลำคอ
“ใครอะ แฟนแกเหรอ โคตรหล่อเลย”
“โอ๊ย เบาๆ ก็ได้ไหมล่ะแก นี่พี่จากัวร์ เขาเป็น...”
“ยัยลัลน์พาผู้มาเปิดตัวแล้วเว้ยพวกเรา”
“เดี๋ยว ยัยแพต ยัยแพต ยัย...”
“ทุกคน ยัยลัลน์ยอมเปิดตัวผู้แล้ว โคตรหล่อเลยแกเอ๊ย ไม่เชื่อดู”
ณาลัลน์พยายามแล้วที่จะคว้าโทรศัพท์มือถือของแพตตี้เอาไว้ แต่ว่าไม่ทัน เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแพตตี้กำลังวีดีโอคอลคุยกับเพื่อนคนอื่นๆ ที่นั่งรออยู่ด้านในทั้งหมดแล้ว
“ไปค่ะ เข้าไปข้างในกันนะคะคุณแฟนเพื่อน ปล่อยยัยลัลน์มันไว้นี่แหละค่ะ มันไม่หลงหรอก ร้านนี้น่ะป่าขี้มันเลย”
“ยัยแพตตี้!”
ไม่ทันได้รั้ง แพตตี้ก็อาสาจูงมือของศิลาพาเขาเดินเข้าไปในร้านเสียแล้ว แม้แต่ศิลาเองก็ไม่ทันจะได้ตั้งตัวกับการถูกจู่โจมอย่างรวดเร็ว เขาไม่รู้ว่าควรจะปฏิเสธอย่างไร ครั้นจะสะบัดมือออกเหมือนที่ทำกับนางแบบสาวเมื่อครู่ก็ไม่ได้เพราะอย่างน้อยๆ เธอก็เป็นเพื่อนของณาลัลน์