บทที่1 - วุ่นวาย

1723 คำ
-บริษัทธราธร- ‘เธียรธรรม’ ประธานเจ้าหน้าที่บริษัทธราธร จำกัด(มหาชน) ก้าวเข้ามารับช่วงต่อยอดธุรกิจของครอบครัวได้ใช้ความสามารถจนนำพาธุรกิจให้เติบโตยืนอยู่ในแถวหน้าของวงการอสังหาริมทรัพย์ในวัยเพียง28ปี โดยมีทรัพย์สินเข้าตลาดหลักทรัพย์มูลค่ากว่าสองแสนล้านบาทในปีนี้ “ข่าวของพี่ขึ้นหนังสือพิมพ์หน้าแรกเกือบทุกฉบับเลยค่ะ” “…..” เจ้าของเรื่องที่ถูกพูดถึงพ่นควันบุหรี่ออกทางริมฝีปากหนาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ถึงแม้คนอื่นจะเชิญชมและเยินยอแต่เขากลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร “พี่ชายของน้องเก่งที่สุด ธารภูมิใจในตัวพี่มากเลยนะ ถ้าพ่อกับแม่รู้พวกท่านคงดีใจมากเหมือนกัน” สายธารพูดด้วยแววตาเป็นประกาย เธอเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเธียรธรรมที่มีอายุห่างกันมากถึงหกปี พ่อกับแม่ประสบอุบัติเหตุทางเครื่องบินเสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน ทำให้เธอต้องอาศัยอยู่กับพี่ชายกันตามลำพัง เลยทำให้นับถือพี่ชายเปรียบเสมือนพ่อแม่อีกคนที่ช่วยเลี้ยงดูเธอมา “อย่ามัวแต่ชมคนอื่น แล้วเรื่องเรียนของตัวเองไปถึงไหนแล้ว” “วิชาภาษาไทยน้องตั้ง96เลยนะ” “แล้วทำไมไม่ทำให้ได้100คะแนนเต็ม?” ชายหนุ่มมองไปยังน้องสาวด้วยสายตาคาดโทษ เพราะตอนที่เขายังเรียนมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะปริญญาตรีหรือปริญญาโทก็ได้ถึงเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง คนตัวเล็กแสดงสีหน้าเจื่อนลงเมื่อได้ยินแบบนั้น ถึงแม้จะพยายามมากแค่ไหนแต่มันก็ยังไม่พอสำหรับเขาอยู่ดี “เอ่อ…ก็วิชานี้มันยาก ธารก็ทำเต็มที่แล้วนะ” “ตั้งใจเรียนให้มากกว่านี้หน่อย ถ้ามัวแต่ทำตัวแบบนี้ อนาคตโตขึ้นมาจะเป็นยังไง” “…..” “หวังว่าครั้งหน้าธารคงไม่ทำให้พี่ผิดหวังนะ” “คะ…ค่ะ” บทสนทนาเมื่อสักครู่เป็นของพี่ชายฉันเอง เขาชื่อเธียร หรือเธียรธรรม ธราธร ผู้บริหารสุดเนี๊ยบแห่งบริษัทยักษ์ใหญ่เบอร์ต้นๆ ของประเทศแถมยังดุเหมือนหมาแม่ลูกอ่อน พนักงานในบริษัทต่างพากันเกรงกลัวจนเยี่ยวเล็ดเพราะเขาเป็นคนที่เด็ดขาดมาก มากจนทำให้คนรอบข้างเครียดตามไปด้วย รวมถึงฉันอีกคน! “พรุ่งนี้วันเกิดพี่ ธารขอชวนเพื่อนมากินข้าวที่บ้านเราด้วยได้ไหม” ฉันส่งสายตาออดอ้อนเพื่อว่าเขาจะยอมเห็นใจ “ใคร?” “ยัยปริมค่ะ” “…..” พี่เธียรเงียบไปเมื่อได้ยินชื่อของปริมที่เป็นเพื่อนฉันเอง ความจริงพี่เธียรกับปริมก็เคยเห็นหน้าค่าตากันมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำความรู้จักอะไรกันมากมาย “นะพี่เธียร ให้เพื่อนน้องมางานวันเกิดพี่ด้วยได้ไหม พี่ก็รู้ว่านอกจากปริมแล้ว น้องไม่มีเพื่อนที่ไหนอีก” “ถ้าน้องจะชวนเพื่อนมาก็ได้ แต่อย่าให้มาวุ่นวายกับพี่ก็แล้วกัน” “ไม่วุ่นวายแน่นอน” ฉันรีบรับปากในทันทีเพราะกลัวพี่ชายตัวดีจะเปลี่ยนใจ “คุณเธียรครับ อีกสิบนาทีได้เวลาประชุมแล้วครับ” “ขอบใจมาก เดี๋ยวฉันตามไป” -มหาวิทยาลัย- “แกชวนฉันไปงานวันเกิดพี่เธียรจริงๆ เหรอ?” ปริมดูดีใจไม่น้อยหลังจากที่ฉันออกปากชวนไปงานวันเกิดของพี่เธียรคืนนี้ เป็นแค่การทานมื้อค่ำด้วยกันนิดๆ หน่อยๆ “ก็ใช่น่ะสิ แกห้ามปฏิเสธนะ เพราะพี่ฉันอนุญาตแล้ว” “…..” ปริมเอาแต่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เพราะเพื่อนฉันแอบชอบพี่เธียรมาตั้งนานแล้ว “ชอบพี่เธียรไม่ใช่เหรอ เวลานี้เหมาะสมที่สุดแล้ว จะได้อยู่ใกล้ชิดกันไง” “แต่พี่แกดุมากเลยนะ แถมยังชอบทำเหมือนรำคาญฉันอีกด้วย” สีหน้ากังวลของปริมแสดงขึ้นมาอย่างชัดเจน “เขาก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ไม่มีอะไรหรอก แกอย่าคิดมาก” “งั้นไปก็ได้” พอได้ยินแบบนั้นพิมพ์จึงรีบตอบตกลงในทันที “งั้นสองทุ่มเจอกันนะ ห้ามมาช้าด้วย” “แล้วเจอกัน” -บ้านสิริรัฐภาค- “วันนี้แต่งตัวซะสวยเชียวนะยัยผีแม่ชี” ปาลินออกปากชมพี่สาวเมื่อเห็นปริมกำลังยืนแต่งตัวทำผมอยู่หน้ากระจกภายในห้อง “ลินว่าใครเป็นผีแม่ชี” “ว่าตัวนั่นแหละ ขนาดจะออกไปเที่ยวยังใส่ชุดคลุมหัวเข่า กลัวผู้ชายเห็นขาอ่อนหรือไงย่ะ” “วันนี้อารมณ์ดีไม่อยากทะเลาะกับลินนะ” “ว่าแต่แต่งตัวสวยจัดเต็มขนาดนี้ จะไปเที่ยวไหนไม่ทราบคะ” ปาลินเดินเข้ามาชะโงกหน้าใกล้ๆ พี่สาวด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ไปงานวันเกิดเพื่อน” “ขออนุญาตพ่อหรือยัง” “ขอแล้ว พ่อบอกห้ามกลับเกินห้าทุ่ม” “ลองเอาชุดลินไปใส่ไหม จะได้แซ่บให้ผู้ตะลึง แย่งซีนเจ้าของงานไปเลย” “ไม่เอาหรอก ชุดลินมีแต่โป๊ๆ ทั้งนั้น” ปริมรีบยกมือห้าม ก่อนจะรีบเก็บข้าวของที่จำเป็นยัดใส่กระเป๋าใบหรูที่แม่เพิ่งซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด “ใครๆ เขาก็ใส่กันทั้งนั้น ไม่เรียกว่าโป๊หรอก” “ได้เวลาแล้ว ปริมไปก่อนนะ” “แล้วจะไปยังไง ใครมารับ?” “ขับรถไปเอง” “อย่าลืมเอาแว่นไปด้วยนะ สายตาปริมไม่ค่อยดี ขับรถกลางคืนมันอันตราย” “ใส่คอนแทคเลนส์แล้วไม่เป็นไรหรอก” “ดูแลตัวเองดีๆ ถ้ามีปัญหาให้โทรหาลินเลยนะ” “โอเค พี่ดูแลตัวเองได้” ร่างบางพยักหน้ารับพร้อมเดินเข้าไปกอดน้องสาวเหมือนทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน -บ้านธราธร- “ทางนี้ยัยปริม” ใช้เวลาขับรถราวๆ เกือบสี่สิบนาทีก็มาถึงสถานที่นัดหมายคือคฤหาสน์หลังใหญ่ใจกลางกรุง คนตัวเล็กกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปหาเพื่อนสาวด้วยท่าทางรีบร้อนเมื่อรู้ตัวว่ามาสายเกินเวลานัด “เราคงไม่ได้มาช้าไปใช่ไหม” “ไม่ช้าหรอก รีบไปหาพี่เธียรกัน” หัวใจดวงน้อยพองโตหลังจากได้ยินชื่อของเธียรธรรม พี่ชายของเพื่อนที่เธอแอบรักมาเกือบสองปี “เดี๋ยวก่อนสายธาร” “มีอะไร?” “ปริมดูโอเคไหม?” เธอพูดอย่างไม่มั่นใจก่อนจะหมุนรอบโตเพื่อให้สายธารช่วยดูความเรียบร้อย “สวยแล้ว แกน่ะสวยที่สุด” เมื่อทุกอย่างโอเคราบรื่น หญิงสาวทั้งสองจึงจับมือกันไว้แน่นแล้วรีบเดินไปยังห้องรับประทานอาหาร “พี่เธียร! เพื่อนน้องมาแล้วค่ะ” “สวัสดีค่ะ ดีใจที่ได้เจอพี่อีกครั้งนะคะ” ปริมยกมือไหว้พร้อมยิ้มกว้างทักทาย เธอหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ สายธารโดยมีเธียรธรรมนั่งอยู่หัวโต๊ะ “ไม่รู้จักมารยาทหรือไง ถึงได้มาสายไปตั้งสิบห้านาที” ชายหนุ่มหยิบแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างละเมียดละไมก่อนจะมองไปยังคนที่เพิ่งมาใหม่ด้วยสายตาเรียบเฉย “สิบห้านาทีเองพี่เธียร ยัยปริมขับรถไม่ค่อยเก่งเลยมาถึงช้าหน่อยค่ะ” “ถ้ารู้ว่าช้าก็ควรเพื่อเวลา ไม่ใช่ให้ผู้ใหญ่มานั่งรอแบบนี้” “ปริมขอโทษค่ะพี่เธียร” คนตัวเล็กยกมือไหว้ขอโทษด้วยความรู้สึกผิดโดยไม่มีข้อโต้แย้ง “เราไม่ได้สนิทกัน ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพี่” “เอ่อ…” คนกลางอย่างสายธารถึงกลับลำบากใจทำอะไรไม่ถูก แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าพี่ชายเป็นคนแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว “ปริมขอโทษค่ะคุณเธียร” “ไม่เป็นไรนะปริม กินข้าวกัน” เมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนไม่ดี สายธารจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัด “…..” ปาลิดาก้มหน้าก้มตาทานอาหารของตัวเองแบบเงียบๆ การนั่งร่วมโต๊ะกับเธียรธรรมในครั้งแรก ทำให้รู้สึกเกร็งไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่กลับต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงของสายธารที่กระซิบอยู่ข้างหู “เมื่อกี้ฉันเห็นพี่เธียรแอบมองแกอยู่บ่อยๆ ด้วยนะ” “มีอะไรหรือเปล่า?” “เขาชอบกินปลา แกลองตักปลาให้เขาดูสิ” “จะดีเหรอธาร ปริมไม่กล้า” ร่างบางส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมหรี่สายตามองไปยังเธียรธรรมอย่างกล้าๆ กลัว “เอาเลย ตักเลย เอาใจพี่เธียรไง” “คุณเธียรทานปลาไหม เดี๋ยวปริมตักให้” คนตัวเล็กรวบรวมความกล้าก่อนจะใช้ช้อนกลางตักปลานึ่งชิ้นโตใส่จานให้ชายหนุ่ม แต่สิ่งที่เขาทำคือเขี่ยมันออกไปไว้ข้างจานอย่างที่ไม่คิดจะกินมัน “ถ้าคุณเธียรไม่ชอบปลา งั้นเอากุ้งไหมคะ” “อย่ามายุ่งกับฉัน!” “…..” ร่างบางสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อถูกตอกกลับใส่หน้ามาแบบนั้น เธอรีบชักมือกลับแล้ววางกุ้งใส่จานของตัวเอง “พี่เธียรอย่าดุเพื่อนน้อง” “งั้นก็บอกเพื่อนน้องสิ ว่าอย่ามาวุ่นวายกับพี่” คนที่ได้ฟังถึงกลับก้มหน้าน้ำตก เธอแค่หวังดีแต่มันกลับกลายเป็นความรำคาญ “พี่เธียรใจร้าย ดูสิ! เพื่อนน้องจะร้องไห้แล้วนะ” สายธารยกมือลูบหลังเพื่อนสาวเพื่อเป็นการปลอบ ทั้งๆ ที่ภายในใจอยากตะโกนใส่หน้าพี่ชายดังๆ แต่ก็ต้องเก็บมันไว้ “อะ…อันนี้เป็นของขวัญวันเกิดจากปริมเองค่ะ สุขสันต์วันเกิดนะคะ” ปริมหยิบกล่องของขวัญขนาดพอดีที่อยู่ในกระเป๋าวางลงบนโต๊ะ เธอตั้งใจจะเอามาให้เขา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะรังเกียจเธอนักหนา “เราขอตัวกลับก่อนนะธาร” “จะไปไหน?” สองขาเรียวหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงของเธียรธรรมที่พูดตามหลังมา ครั้งนี้เธอค่อยๆ หันกลับไปสบตากับเขาแบบตรงๆ “ปริมจะกลับบ้านค่ะ” “คิดจะไปจะมาตามใจตัวเองหรือยังไง หรือว่าไม่เห็นหัวฉันแล้ว” “เปล่านะคะ ปริมไม่ได้คิดแบบนั้น” “กลับมานั่งที่เดิม” “…..” ด้วยความเกรงใจเพื่อน เธอเลยยอมเดินกลับมา ก่อนจะยืนคิดอยู่ชั่วครู่ว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี “ไม่ได้ยินที่ฉันบอกหรือไง นั่งลง!” “…..”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม