ตอนที่ 3

3548 คำ
เมื่อถึงบ้านสามสาวต่างวัยก็เดินเข้าไปในบ้านที่มีธนินท์กับระสินและพัชรินนั่งคุยกันอยู่ในห้องรับแขกหรูหราโอ่อ่าที่ใครๆก็บอกว่าสวยสมกับคฤหาสน์ของมหาเศรษฐีตระกูลเก่า “สวัสดีค่ะป๊า คุณอาสินคุณอาพัช” เภตรายกมือไหว้พ่อและน้องชายของพ่อกับอาสะใภ้แล้วเดินไปหาพ่อ “สวัสดีน้องเฟย์/สวัสดีจ้ะน้องเฟย์” ระสินกับพัชรินรับไหว้หลานสาวและยิ้มให้ “ไม่เจอกันแป๊บเดียวหลานสาวอาโตเป็นสาวแล้วนี่นาจริงมั้ยครับพี่นินท์” ระสินพูดกับพี่ชายมองหลานสาวแล้วยิ้มทั้งที่ในใจอยากฆ่าให้ตายด้วยซ้ำเพื่อลูกของเขาจะได้ครอบครองทรัพย์สินทั้งหมดของพี่ชาย เภตราเกิดมาเป็นมารความสุขของลูกเขาทุกอย่างและทำให้ความฝันของเขาพังสลายแต่เขาไม่ยอมแพ้ทำทุกอย่างเพื่อให้พี่ชายต่างแม่ไว้ใจและใช้ลูกสาวเป็นตัวกลางเพราะรู้ว่าพี่ชายรักลูกสาวของเขา “ป๊าขาเฟย์กลับมาแล้วไม่ดีใจเหรอคะ” เภตราเดินไปนั่งคุกเข่าตรงหน้าพ่อกอดเอวหนาอย่างออดอ้อนเพราะนานๆจะได้เจอท่าน “ดีใจสิครับ ป๊าขอโทษที่ไม่ได้ไปรับลูกเฟย์นะครับ” ธนินท์ขอโทษลูกสาวสุดที่รักและโอบกอดอย่างรักใคร่ เขาแต่งงานกับภรรยาได้ห้าปีถึงมีลูกสาวเพราะเขาทำแต่งานทำให้ร่างกายไม่สมบูรณ์จึงมีลูกยากกว่าภรรยาจะท้องก็หมดไปเยอะจนท้อแล้วจู่ๆจีสุดาก็ท้องเขาจึงรักลูกสาวมากแล้วเภตราก็เป็นความหวังเดียวของเขาที่จะสานต่อธุรกิจที่กำลังเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ “เฟย์เข้าใจค่ะ ป๊าทำงานเยอะก็ต้องพักผ่อนด้วยนะคะเดี๋ยวเฟย์เรียนจบแล้วจะรีบกลับมาช่วยป๊าค่ะ” เด็กสาวบอกพ่ออย่างจริงจังเธอเห็นท่านทำงานหนักมาตลอดขนาดโทรหาท่านก็ได้คุยกันแป๊บเดียว “ขอบใจมากลูกเฟย์ ป๊าจะรอนะลูก” คนเป็นพ่อแสนจะปลื้มใจเมื่อลูกสาวคนเดียวก็สนใจงานของครอบครัวที่เขาทำงานหนักเพื่อให้บริษัทมีรากฐานแข็งแรงเนื่องจากมีลูกสาวกลัวจะไปสู้รบปรบมือกับพวกเสือสิงห์ผู้คร่ำหวอดในวงการธุรกิจไม่ไหวและตอนนี้บริษัทมั่นคงเป็นมหาชนมีการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์และบริษัทก็ทำผลกำไรได้มากขึ้นทุกปี “น้องเฟย์อยากเรียนอะไรล่ะครับ” ระสินถามหลานสาวที่อวบอ้วนสวยสู้ลูกสาวของเขาไม่ได้ “เฟย์จะเรียนบริหารธุรกิจระหว่างประเทศค่ะอาสิน จะได้มาช่วยงานป๊า” เภตราตอบระสินตามที่เธอคิดไว้แม้จะยากแค่ไหนเธอก็จะพยายยามทำเพื่อพ่อกับแม่เต็มที่ทำเอาคนเป็นพ่อยิ้มแก้มแทบแตกปลื้อมปริ่มใจ “มันยากมากนะน้องเฟย์ ดูพี่ปิ๋มสิเรียนจนไม่มีเวลาไปเที่ยวไหนเลยว่างเมื่อไหร่ก็ไปเรียนพิเศษเรียนซัมเมอร์ติวกับเพื่อนจนอาแทบไม่ได้เจอพี่เขาเลย” ระสินบอกหลานสาวเพราะเขาเห็นลูกสาวเรียนหนักแทบไม่มีเวลาพัก แต่ความจริงทิพพาไปเรียนพิเศษจริงแต่ไม่ได้ไปเรียนทุกครั้งเธอไปเดินห้างดูหนังกับเพื่อนมากกว่าและไปซัมเมอร์เธอก็เน้นเที่ยวเวลาไปติวเธอก็ไปปาร์ตี้กับเพื่อนซึ่งใช้เป็นข้ออ้างว่าเรียนหนักพ่อแม่ก็เชื่อแล้วเพราะการเรียนก็อยู่ในเกณฑ์ดี “เฟย์จะพยายามค่ะ ถึงจะเรียนไม่เก่งเฟย์ก็จะเอาปริญญามาฝากพ่อให้ได้ค่ะ” เภตราตั้งมั่นว่าเธอจะตั้งใจเรียนเพื่อให้พ่อภูมิใจในตัวเธอและสามารถช่วยงานของท่านได้ “งั้นอาขอแสดงความยินดีกับน้องเฟย์ล่วงหน้านะครับ พี่นินท์สบายใจได้ว่ายังไงน้องเฟย์ต้องมาสานต่องานของบริษัทแน่นอนครับ” ระสินทำเป็นพูดดีกับพี่ชายที่ทายาทคนเดียวจะสืบสานงานต่อ "ขอบคุณค่ะคุณอาสิน" “ขอบใจมากนะลูกเฟย์ที่จะเรียนบริหารเพื่อมาสานต่องานบริษัทของเรา งั้นป๊าว่าเราไปกินข้าวกันดีกว่า คุณร้อยมีอะไรให้ลูกเฟย์ของฉันกินบ้างล่ะ” ธนินท์พูดกับพวงร้อยแม่บ้านและพี่เลี้ยงของลูกสาวยืนยิ้มอยู่ตรงประตูพร้อมเด็กในบ้านหลายคนต่างดีใจเมื่อคุณหนูกลับบ้าน “คุณท่านก็ให้ร้อยกอดคุณหนูของร้อยก่อนสิคะ” แม่บ้านสาวใหญ่ท้วงเจ้านายที่กอดคุณหนูของเธอไม่ปล่อย “สวัสดีค่ะน้าร้อยขา เฟย์คิดถึงน้าร้อยที่สุดในโลกค่ะ” เภตราเห็นพี่เลี้ยงก็ลุกไปกอดอย่างรวดเร็วด้วยความคิดถึงเธอรักและนับถือพวงร้อยเหมือนญาติสนิทพวงร้อยเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็ก “คุณหนูของน้าร้อย” พวงร้อยกอดคุณหนูของเธอด้วยความรักใคร่เพราะเลี้ยงมาตั้งแต่แรกคลอดเธอเป็นพยาบาลมาก่อนพอจีสุดาท้องธนินท์ก็จ้างเธอมาดูแลภรรยาอย่างใกล้ชิดและพวงร้อยก็ทำหน้าที่ได้ดีทำให้จีสุดาขอให้มาเป็นพี่เลี้ยงของลูกสาวและเธอก็ทำงานมาจนถึงป่านนี้แม้เภตราจะโตแล้ว “กอดกันเสร็จแล้วก็ไปตั้งโต้ะนะคุณร้อย น้องเฟย์หิวแล้วมั้งตั้งแต่ลงเครื่องมายังไม่ได้กินอะไรเลย” ทิพพาพูดกับแม่บ้านสาวใหญ่อย่างไม่พอใจที่พวงร้อยกระด้างกระเดื่องกับเธอและแม่มาตลอดและรู้ทันเธอ “ค่ะคุณปิ๋ม” “ป้าร้อยไม่ต้องรีบหรอกค่ะเฟย์ยังไม่หิว” เภตราพูดกับพี่เลี้ยงอย่างอ่อนหวานด้วยความดีใจที่จะได้กลับบ้านหลังจากไปเรียนตั้งแต่อายุสิบสองจนตอนนี้เธออายุสิบห้าปีได้กลับบ้านเฉพาะช่วงปิดเทอมใหญ่ส่วนเทอมเล็กเธอเลือกเรียนซัมเมอร์พร้อมกับอรนาและมารีน่า เซียนต้า เพื่อนสาวอีกคนเป็นลูกสาวของนายฮองผู้ว่าการธนาคารแห่งสิงค์โปรกับนางลีจงนักธุรกิจหญิงชื่อดังสายเลือดซามูไรเกิดและโตที่สิงค์โปรทำให้มารีน่าเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นกับสิงค์โปรหน้าตาน่ารัก “น้าให้แม่ครัวเตรียมของโปรดคุณหนูไว้เยอะเลยค่ะ” พวงร้อยบอกคุณหนูของเธออย่างเอ็นดูพอคุณหนูไปเรียนต่อเธอก็ทำหน้าที่แม่บ้านตามที่จีสุดาขอให้เธออยู่ด้วยกันเหมือนญาติไปจนแก่เพราะเธอไม่มีครอบครัวนอกจากพี่ชายที่อยู่หนองคาย “ก็ได้ค่ะน้าร้อยงั้นเฟย์ขอกินอาหารไทยให้อร่อยก่อนค่ะ” เภตราก็เลือกกินอาหารกลางวันก่อนเพราะพี่เลี้ยงอุตส่าห์จัดเตรียมไว้ให้ “น้าไปจัดการให้คุณหนูก่อนนะคะ ไปเถอะเด็กๆยังไงก็ได้เจอคุณหนูอีกนานกว่าจะเปิดเทอม” พวงร้อยต้อนเด็กในบ้านที่ยืนอยู่หน้าประตูไปเตรียมอาหารกลางวันให้เจ้านาย “เด็กคนใช้พวกนี้แย่จริงๆไม่มีมารยาทถ้าแขกไปไทยมาจะอายเขาได้นะคะพี่จี” พัชรินพูดกับพี่สะใภ้ของสามีเพราะไม่ชอบสายตารู้ทันของพวงร้อยและไม่อยากมาที่บ้านหลังนี้หากไม่จำเป็น “ช่างเถอะคุณริน เด็กเขาคงอยากเห็นลูกเฟย์น่ะไปห้องอาหารกันดีกว่าไปค่ะคุณพี่ เชิญค่ะคุณสินคุณริน” จีสุดาตอบน้องสะใภ้เธอรู้ว่าพัชรินไม่ชอบแม่บ้านของเธอแต่มันไม่เกี่ยวกันเพราะอยู่คนละบ้านและพวงร้อยก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีแล้วชวนสามีและครอบครัวของน้องสามีไปกินอาหารกลางวันหลังจากสละเวลามาต้อนรับลูกสาวของเธอ “ผมว่าพี่นินท์พี่จีต้องปรามเด็กมันไว้บ้างเดี๋ยวจะได้ใจนะครับ” ระสินไม่ชอบที่พวงร้อยกระด้างกระเดื่องกับเขาที่เคยมีปัญหากันมาก่อนสมัยที่พวงร้อยมาดูแลพี่สะใภ้ตอนท้องแล้วเขาจะปล้ำเธอแต่พวงร้อยต่อสู้และพี่สะใภ้มาเจอก่อนจึงทำให้พวงร้อยโกรธเขามาจนถึงป่านนี้ “เรื่องเด็กในบ้านพี่ยกให้คุณร้อยเธอจัดการและท่าผ่านมาก็เรียบร้อยดีจ้ะ ไปจ้ะลูกเฟย์” จีสุดารู้ว่าระสินพูดแขวะพวงร้อยและเธอก็เลือกเข้าข้างคนของเธอมากกว่าเพราะรู้นิสัยของน้องชายสามีดีว่าสมัยก่อนเกเรมากขนาดไหนกว่าจะเป็นคนดีได้แต่ก็ไม่เต็มร้อยยังดีที่ภรรยากับลูกสาวไม่เป็นด้วยแล้วเรื่องที่ระสินจะปล้ำพวงร้อยก็มีแค่เธอกับสามีและพวงร้อยและคนก่อเรื่องเท่านั้นที่รู้ส่วนพัชรินไม่รู้เรื่อง “ไปค่ะป๊า” เภตราควงแขนพ่อแม่แล้วเดินไปที่ห้องอาหารที่พี่เลี้ยงให้เด็กในบ้านยกมาจัดให้เต็มโต้ะ “คุณหนูอยากกินอะไรก็บอกน้าร้อยนะคะ” พวงร้อยบอกคุณหนูของเธอที่มองอาหารบนโต้ะตาวาวแล้วยิ้ม “ขอบคุณค่ะน้าร้อย เฟย์ขอชิมเลยนะคะ” เภตรายิ้มให้ทุกคน “ลงมือเลยลูกเฟย์ คุณร้อยเธอจัดแต่ของโปรดให้หนูทั้งนั้นเลยลูก” ธนินท์บอกลูกสาวและตักอาหารให้ลูกสาวจนเต็มจานอย่างมีความสุข “น้องเฟย์กินเยอะๆนะคะ” ทิพพาก็ตักอาหารให้น้องสาวเหมือนรักมากเสียเต็มประดาทั้งที่ทำเพื่อเอาหน้า “ถ้าเฟย์กินแบบนี้ทุกวันคงอ้วนแย่เลยค่ะพี่ปิ๋ม” “น้องเฟย์ตัวเล็กนิดเดียว ไม่อ้วนหรอกค่ะ” ทิพพาพูดกับญาติผู้น้องตัวเล็กอวบอิ่มจนเกือยจะอ้วนในความรู้สึกของเธอทั้งที่เภตราแค่อวบอิ่มตามประสาเด็กที่กำลังจะโตเป็นสาวและเริ่มจะรักสวยรักงาม “เฟย์อยู่ที่โน่นต้องอดอาหารและออกกำลังกายยังเอาไม่อยู่เลยค่ะ ไม่เหมือนพี่ปิ๋มสวยมากขนาดนี้หนุ่มๆคงแย่งกันจีบแน่เลยจริงมั้ยคะอาสินอาริน” เภตรามองพี่สาวคนสวยและเซ็กซี่คงมีหนุ่มมาจีบมากมาย “ไม่มีหรอกจ้ะน้องเฟย์ ส่วนมากก็มีแต่เพื่อนกันเท่านั้นอีกอย่างพี่อยากเรียนจบไวๆเพื่อมาช่วยงานคุณลุงกับคุณพ่อจ้ะ” ทิพพาตอบญาติผู้น้องที่มีแต่คนรักและเอ็นดูขนาดพ่อแม่ของอนาวิลยังพูดถึงทีกับเธอก็แค่ยิ้มให้เท่านั้น “กว่าน้องเฟย์จะเรียนจบอีกหลายปียังไงน้องปิ๋มก็เรียนจบก่อนแล้วก็มาช่วยงานพ่อกับลุงนินท์ก่อนก็ได้ลูก” ระสินสนับสนุนลูกสาวให้มาช่วยงานที่บริษัทของพี่ชาย “พี่เห็นด้วยนะสินแต่ให้หนูปิ๋มเรียนจบปริญญาโทก่อนไม่งั้นจะควบคุมพนักงานในบริษัทไม่ได้” ธนินท์สนับสนุนการเรียนของหลานสาวเพื่ออนาคตจะได้มาช่วยลูกสาวของเขา “ยัยปิ๋มวางแผนจะไปเรียนต่อที่อเมริกาค่ะพี่นินท์ แต่ว่าค่าใช้จ่ายมันเยอะพัชก็เลยจะให้ลูกไปเรียนที่ญี่ปุ่นค่ะ” พัชรินฉลาดพูดยังไงธนินท์ก็ต้องช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเรียนของลูกสาวเธอ “เรื่องค่าใช้จ่ายการเรียนของหนูปิ๋มพี่จะจัดการให้อยากเรียนสูงแค่ไหนก็บอกลุงนะลูก” ธนินท์รู้อยู่แล้วว่าน้องชายไม่สามรถส่งลูกสาวไปเรียนต่อต่างประเทศได้เพราะเงินเดือนที่ได้และเงินปันผลก็หมดไปกับการเล่นพนันและเที่ยวดื่มกินคงคิดว่าเขาไม่รู้ที่น้องชายยังไม่เลิกเล่นการพนันและยังเอาสมบัติเก่าที่พ่อและแม่ของเขาแบ่งให้ไปขายและเขาก็รับซื้อคืนทุกชิ้นโดยที่น้องชายและภรรยาลูกสาวไม่รู้ ทุกวันนี้เขาก็ดูแลค่าใช้จ่ายของหลานสาวทุกเดือน “ขอบคุณพี่นินท์กับพี่จีมากครับที่เมตตายัยปิ๋ม ลำพังผมกับพัชคงไม่มีปัญญาส่งลูกเรียนหรอกครับ” ระสินก็รู้ตัวดีว่าเขาไม่สามารถส่งลูกสาวไปเรียนต่างประเทศได้ทุกวันนี้ก็ได้พี่ชายกับพี่สะใภ้จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายการเรียนของลูกสาวอยู่ในสังคมเดียวกันและยังซื้อรถให้ขับไปเรียนเมื่อลูกสาวของเขาสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดังของเมืองไทยได้ “ยัยปิ๋มเป็นหลานของพี่แกไม่ต้องห่วงยังไงพี่ไม่ทิ้งหลานหรอก” ธนินท์บอกน้องชายยังไงก็เป็นสายเลือดเดียวกันก็ต้องดูแลช่วยเหลือกันไปและทิพพาก็เป็นเด็กดีมาตลอดและยังเรียนเก่งอีกด้วยเขาจึงสนับสนุนให้เรียนเต็มที่จะเรียนสูงแค่ไหนเขาก็จะส่งเสียจนจบ “ขอบคุณค่ะคุณลุงนินท์ ปิ๋มจะตั้งใจเรียนค่ะ” ทิพพายกมือไหว้ลุงกับป้าอย่างอ่อนหวานทำให้คนมากวัยกว่ายิ้มเพราะลูกกับหลานรักใคร่กันดี “กินข้าวเถอะลูก ปิ๋มบอกแม่ว่ามีเรียนตอนบ่ายไม่ใช่เหรอลูก” พัชรินบอกลูกสาวเบาๆด้วยความเกรงใจพี่ชายของสามีกับภรรยา “ค่ะคุณแม่” จากนั้นทั้งหมดก็กินอาหารกลางวันด้วยกันอิ่มแล้วทิพพาก็ขอตัวไปเรียน ธนินท์ก็เข้าบริษัทพร้อมกับน้องชายน้องสะใภ้ปล่อยให้ภรรยาอยู่กับลูก “คุณแม่คะเฟย์นัดกับยัยอุ๋ยไว้ว่าพรุ่งนี้จะไปช้อปปิ้งและจะขอไปเที่ยวทะเลด้วยค่ะ” เภตราเก็บเสื้อออกจากกระเป๋าและแยกของฝากให้คนในบ้านจึงขออนุญาตแม่ไว้ก่อนและรอเพื่อนคอนเฟิร์มมาอีกครั้งถึงจะบอกพ่อแม่ได้ว่าเธอจะไปเที่ยวที่ไหนและมีใครไปบ้างแต่ที่แน่ๆมีเธอกับอรนาส่วนมารีน่าบอกว่าจะตามมาเที่ยวเมืองไทยกับเธอด้วยแต่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ “ลูกเฟย์จะไปกับใครบ้างจ้ะ” จีสุดาถามลูกสาวที่เพิ่งกลับมาถึงเมืองไทยแต่จะไปเที่ยวแล้ว “ไปกับอุ๋ยค่ะแม่แต่มารีนน่าบอกว่าจะมาเที่ยวด้วยแต่เฟย์ไม่แน่ใจว่าจะได้ไปเที่ยวทะเลด้วยกันหรือเปล่าค่ะ” เธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามารีน่าจะไปเที่ยวด้วยกันมั้ย อรนาเพิ่งชวนตอนขึ้นเครื่องกลับเมืองไทยนี่เองยังไม่ได้คุยกันเลย “แต่แม่ว่าลูกเฟย์เพิ่งมาถึงจะไปเที่ยวแล้วเหรอลูกแม่ยังไม่หายคิดถึงลูกเฟย์เลยนะจ้ะ” จีสุดาพูดกับลูกสาวแม้เธอจะไปเยี่ยมลูกสาวบ่อยแต่คนเป็นแม่ก็ทั้งรักและเป็นห่วงลูก “เฟย์ยังไม่ไปตอนนี้หรอกค่ะแม่ เฟย์ขออนุญาตคุณแม่ไว้ก่อนค่ะ” เภตราบอกแม่อย่างออดอ้อนซึ่งไม่มีเลยสักครั้งที่จีสุดาจะใจแข็งกับลูกได้แล้วที่เธอกับสามียอมให้เภตราไปเรียนต่างประเทศก็เพื่ออนาคตของลูกสาวคนเดียวจะได้กลับมาดูแลสานต่อกิจการของครอบครัว “ได้จ้ะลูก เดี๋ยวแม่จะบอกคุณพ่อให้ชวนลุงนาทกับป้ารสไปเที่ยวด้วย นานแล้วที่พวกเราไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันดีมั้ยลูก” จีสุดาพูดกับลูกสาวช่วงนี้งานไม่เยอะและเธอกับเพื่อนไม่ได้ไปเที่ยวกันนานแล้วถือโอกาสที่ลูกสาวของเธอกับลูกสาวของเพื่อนกลับมาเยี่ยมบ้านชวนไปเที่ยวด้วยกัน “ดีค่ะคุณแม่ เฟย์อยากไปเที่ยวกับคุณพ่อคุณแม่ค่ะ” เภตราตอบแม่ด้วยความดีใจเพราะเธอไม่ได้ไปเที่ยวกับท่านนานแล้ว “งั้นลูกเฟต์จัดของก่อนนะลูก แม่จะโทรไปคุยกับป้ารสก่อนจะได้เคลียงานไปเที่ยวด้วยกัน” จีสุดาพูดกับลูกสาวอย่างอ่อนโยนแล้วลูบศีรษะเบาๆก่อนจะเดินออกไปจากห้องลูกสาวเพื่อโทรชวนเพื่อนไปเที่ยว “ดีจังจะได้ไปเที่ยวกับคุณพ่อคุณแม่” เด็กสาวยิ้มอย่างดีใจปกติพ่อแม่ไปหาเธอก็ได้เที่ยวกันแค่สองวันที่เป็นวันหยุดและก็ต้องกลับมาทำงานแล้วเธอก็ต้องเรียนและครั้งนี้พ่อแม่ไปเที่ยวด้วยแค่คิดเธอก็มีความสุขมาก เวลาผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ที่เภตรากลับมาเมืองไทยและในอาทิตย์ที่สองเธอก็ได้ไปเที่ยวทะเลสมใจเมื่อพ่อแม่เคลียงานไปเที่ยวด้วยกันพร้อมกับครอบครัวของเพื่อนรักที่ไปเที่ยวด้วยกันพร้อมหน้า “ก๊อกๆๆ..” “คุณหนูคะ แต่งตัวเสร็จหรือยังคะคุณพ่อคุณแม่ให้น้าร้อยมาตามค่ะ” พวงร้อยเรียกคุณหนูของเธอเพราะเจ้านายทั้งสองและครอบครัวของระสินรออยู่ที่ห้องรับแขก “เฟย์เสร็จแล้วค่ะน้าร้อย” เด็กสาวเปิดประตูออกมาจากห้องและตอบพี่เลี้ยง “คุณพ่อคุณแม่อยู่ไหนคะน้าร้อย” “รออยู่ที่ห้องรับแขกค่ะ คุณหนูของน้าร้อยสวยมากเลยค่ะ” พวงร้อยชมคุณหนูของเธอที่ใส่ชุดเอี้ยมยีนส์สีซีดขายาวเสื้อยืดแขนสั้นสีขาวถักเปียเดี่ยวพันรอบศีรษะใบหน้ารูปหัวใจเนียนใสดวงตากลมโตแวววาววิบวับปากนิดจมูกหน่อยสวยน่ารักสมวัย “อ้วนๆอย่างเฟย์นี่นะคะสวย น้าร้อยพูดผิดแล้วค่ะคนสวยต้องพี่ปิ๋มโน่นค่ะ” เด็กสาวตอบพี่เลี้ยงที่ชมคนผิดเพราะเธออ้วนแก้มอย่างกับซาลาเปาเอวก็ไม่มีขาก็ตันดูสวยตรงไหน “คุณหนูไม่อ้วนสักหน่อยค่ะ ไม่รู้แหละยังไงคุณหนูของน้าก็สวยกว่าใครค่ะ” พวงร้อยยังยืนยันว่าคุณหนูของเธอสวยที่สุดส่วนลูกสาวของนายระสินหน้าตาก็อย่างนั้นแหละสวยสู้คุณหนูของเธอไม่ได้เวลาอยู่ต่อหน้าเจ้านายทั้งสองแสนจะเรียบร้อยแต่พอลับหลังจิกใช้พวกเธอและดูถูกพวกเธอแต่ไม่มีใครกล้าฟ้องเจ้านายทั้งสองและทิพพาก็มาบ้านนี้บ่อยกว่าระสินกับพัชรินที่นานๆมากินข้าวเย็นบ้าง “งั้นเรารู้กันสองคนนะคะน้าร้อยว่าเฟย์สวยกว่าใคร คริๆๆ..” เภตราคุยกับพี่เลี้ยงแล้วหัวเราะลงไปหาพ่อแม่และอาที่ห้องรับแขก “หัวเราะเสียงดังอะไรกันลูกเฟย์” ธนินท์ได้ยินเสียงลูกสาวหัวเราะชอบใจดังมาจากหน้าห้องรับแขกพอโผล่หน้าเข้ามาก็ยิ้มและถามลูกสาวสุดที่รัก “ไม่มีอะไรค่ะป๊า เราจะไปกันเลยมั้ยคะเฟย์พร้อมแล้วค่ะ” เภตรายิ้มให้ทุกคนอย่างน่ารักแต่ในสายตาของระสินกับพัชรินนั้นมันน่าหมั่นไส้และอยากให้หายไปจากโลกนี้เพื่อให้ลูกของพวกเขาได้ครอบครองทุกอย่าง “ไปสิลูกเฟย์ป่านนี้หนูอุ๋ยคงไปถึงหัวหินแล้วมั้งลูก” ธนินท์พูดกับลูกสาวอย่างรักใคร่ “เฟย์ไม่ช้านะคะป๊า นี่เห็นมั้ยว่าเฟย์ลงมาตรงเวลาเป้ะเลยค่ะ” เด็กสาวยื่นโทรศัพท์ในมือให้พ่อดูเพื่อยืนยันว่าเธอไม่ได้ตื่นสาย “อย่ามัวแต่เถียงกันเลยค่ะคุณพี่ จีว่าเราออกเดินทางกันเลยดีกว่าสายกว่านี้อากาศจะร้อนค่ะ” จีสุดาห้ามสองพ่อลูกที่ถกเถียงหยอกเย้ากันแล้วยิ้ม “งั้นผมขับรถตามรถพี่นินท์ไปนะครับ” ระสินบอกพี่ชายเพราะเขาจะขับรถไปเอง "ปิ๋มนั่งรถไปกับน้องเฟย์นะคะคุณพ่อคุณแม่” ทิพพาบอกพ่อแม่ของเธอตามที่พวกเขาบอกให้เธอเอาใจญาติผู้น้องเพื่อให้ลุงป้าเอ็นดู “ดีเลยจ้ะหนูปิ๋ม น้องเฟย์จะได้ไม่เหงา” จีสุดาพูดกับหลานสาวแล้วให้พวงร้อยขึ้นไปนั่งเบาะหลังคนเดียวตามด้วยทิพพา เภตราและเธอกับสามีนั่งเบาะหน้า “เฟย์ไม่เหงาหรอกค่ะ มีทั้งคุณแม่คุณพ่อและน้าร้อย เฟย์กลัวพี่ปิ๋มจะเบื่อเสียงเฟย์มากกว่าค่ะ” เภตรารู้สึกว่าญาติผู้พี่เปลี่ยนไปบางทีเห็นสายตาของทิพพามองเหมือนไม่พอใจพอเธอมองตรงก็เจอรอยยิ้มจึงไม่แน่ใจว่าทิพพาคิดยังไงกับเธอกันแน่เพราะไม่ได้เจอกันนาน “พี่จะเบื่อน้องเฟย์ได้ยังไงคะ เราไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันตั้งนานพอคุณลุงนินท์ชวนพี่ไปเที่ยวกับน้องเฟย์พี่ตกลงทันทีเลยค่ะ” ทิพพายิ้มให้ญาติผู้น้องที่มองเธอแปลกๆจึงเก็บความรู้สึกไว้บางทีเธออาจเผลอแสดงออกไปก็ได้ “นั่นสิคะ เราไม่ได้เที่ยวด้วยกันสามปีได้มั้งคะ” เภตราครุ่นคิดว่าเธอกับญาติสาวผู้พี่ไม่ได้เที่ยวด้วยกันนานแล้วแต่มีเจอกันบ้างตอนเธอกลับมาเยี่ยมบ้านปีละครั้งแม้จะมีเงินมากแต่เธอก็ไม่ได้ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเหมือนลูกคนมีเงินทั่วไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม