บทที่ 1- 1/2

818 คำ
สิบปีก่อน... “อันอัน! อังกอร์! อังกอร์!” เสียงแฟนคลับตะโกนก้องไปทั่วหลังจากที่ฉันร้องเพลงสุดท้ายจบลงและก้าวลงจากเวที เสียงเรียกร้องทั้งจากหนุ่ม ๆ สาว ๆ ดังสนั่นจนทีมงานหลังเวทีหันมามองหน้ากันเป็นแถว ฉันที่ตอนนี้เปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืดสีขาวกับยีนส์ธรรมดา ๆ ยืนฟังเสียงเรียกชื่ออย่างคนยังตั้งตัวไม่ทัน ก่อนพยักหน้าให้โปรดิวเซอร์ แล้วรีบก้าวขึ้นเวทีอีกครั้งตามเสียงกรี๊ดที่แทบทำลมหายใจสั่น ยืนมองทะเลคนตรงหน้า รอยยิ้มเจิดจ้าเต็มใบหน้า... แหม ใครจะไปคิดว่างานแฟนมีตติ้งของฉันจะจัดได้ใหญ่ขนาดนี้ สนามกีฬาแห่งชาติเลยนะจ๊ะคนดี! คนเป็นหมื่น! โอ๊ย ขนลุก! “โอ๊ย!” จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกเจ็บแปลบที่แก้มทั้งสองข้าง รีบยกมือจับทันที เฮ้ย! ทำไมหน้าแม่ใหญ่ขนาดนี้เนี่ย!? “โอ๊ย!” อีกที คราวนี้เสียงดังมาจาก...ฉันเอง “นี่แน่ะ ยังไม่ยอมตื่นอีก! รู้มั้ยตอนนี้กี่โมงแล้ว!? วันนี้มีงานพิธีกรตอนบ่ายไม่ใช่เหรอ ยังจะนอนอีก เดี๋ยวก็ไปถึงที่ถ่ายช้า!” เสียงแม่ดังมาพร้อมมะเหงกลงกลางหัวฉันอย่างจัง “แม่อ่ะ! อันกำลังฝันหวานอยู่เลย!” ฉันพูดพลางขยี้หัวงง ๆ “ฝันหวานอะไรอีก! รีบตื่นไปแต่งตัวได้แล้ว งานก็ต้องไปให้ตรงเวลา จะได้ไม่เสียชื่อเสียง แล้วมากินข้าวเช้าด้วยนะ ก่อนจะเย็นชืดหมด” แม่สั่งย้ำอีกรอบ “ค่า ๆ ตื่นแล้วค่า ท่านแม่~” ฉันตอบยืดยาวพลางหาวหวอด แล้วค่อย ๆ ลุกเดินไปห้องน้ำในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น … อ้อ ฉันลืมแนะนำตัวไป! ฉันชื่อ อรอนงค์ แต่ทุกคนเรียกฉันว่า อันอัน ฟังดูเหมือนชื่อร้านอาหารจีนสักแห่งใช่มั้ยล่ะ? แต่ฉันขอบอกเลยว่ามันมาพร้อมเรื่องราวอันยิ่งใหญ่! จริง ๆ แล้ว ฉันเป็นลูกสาวคนแรก (และคนเดียวด้วยแหละ) ของครอบครัว ป๊าฉันเลยอินสุด ๆ กับการตั้งชื่อให้ลูกสาวสุดที่รัก ถึงขั้นเปิดพจนานุกรมนั่งค้นอยู่ทั้งวันเหมือนจะตั้งชื่อให้เจ้าหญิงดิสนีย์ สุดท้ายก็เจอคำว่า “อรอนงค์” ที่แปลว่า หญิงสาวผู้มีความงาม เริ่ดมั้ยล่ะ? ฟังแล้วเหมือนฉันต้องตื่นมาพร้อมแสงแดดที่ส่องลงบนหน้าอย่างงดงามทุกวันยังไงอย่างงั้น ทีนี้เรื่องชื่อนิกเนมของฉันก็แข่งกันฮาไม่แพ้กัน ตอนเกิดมา แม่ตั้งชื่อเล่นให้ว่า “แอนนา” เพราะดูฝรั่ง ดูแพง แต่พออาม่าฉันเรียก “อาแอน~ อาแอน~” ด้วยเสียงแปร่ง ๆ สำเนียงจีน ๆ ไป ๆ มา ๆ เสียงมันกลายร่างกลิ้งไปกลิ้งมาจนกลายเป็น “อันอัน” แล้วทุกคนก็เรียกตามกันซะงั้น... สรุป ฉันก็เลยกลายเป็นคุณหนู ‘อันอัน’ ตั้งแต่นั้นมา...ลูกสาวผู้มีความงาม (ตามพจนานุกรม) และชื่อที่อาม่าเป็นคนตั้งโดยอุบัติเหตุ! ปีนี้ ฉันอายุ 18 ปีแล้ว กำลังสดใสซาบซ่าเหมือนโซดาผสมน้ำมะนาว เพิ่งสอบติดมหาวิทยาลัยชื่อดังติดท็อป 5 ของประเทศ ไม่ถึงอันดับหนึ่งก็ไม่เป็นไรหรอกเนอะ คนมันเก่งรอบด้านอยู่แล้ว! นอกจากเรียนหนังสือแล้ว ฉันยังเป็น นักแสดง ด้วยนะ ถามว่าทำไมถึงได้มาเป็นนักแสดงเหรอ? เรื่องมันเริ่มตอนฉันอายุ 16 ตอนนั้นอยู่ ม.4 พอดี วันหนึ่งฉันตามเพื่อนไปกองถ่าย เพราะเจ๊หวาน พี่สาวของแหวว เพื่อนของฉัน ทำงานอยู่ที่นั่น แล้วจู่ ๆ ก็มีประกาศว่าขาดตัวประกอบสองคน และแน่นอนค่ะ ผู้โชคดีคือฉันกับแหววนั่นเอง ตอนนั้นแค่ต้องนั่งนิ่ง ๆ ทำหน้าเนียน ๆ อยู่สามสี่ชั่วโมง ก็ได้เงินค่าขนมมาแบบงง ๆ พอได้รสชาติหอมหวานของเงินที่หาได้เองครั้งแรก ด้วยความงก ฉันก็พูดเล่น ๆ กับเจ๊หวานว่า “พี่มีงานตัวประกอบอีกไหมคะ หนูพร้อมเสมอค่ะเพื่อเจ๊!” ใครจะไปคิดว่าพูดเล่น ๆ จะกลายเป็นเรื่องจริง เพราะหลังจากนั้น เจ๊หวาน ก็จิกฉันไปกองถ่ายแทบทุกสัปดาห์! เหตุผลน่ะเหรอ? ก็เพราะมีตัวประกอบบางคนชอบหายตัวแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยน่ะสิ! สุดท้าย “อีหนูอันอัน” คนนี้ก็กลายเป็นตัวประกอบสำรองประจำกอง ต้องคอยแสตนด์บายเหมือนยามเฝ้ากอง โทรมาปุ๊บ ต้องพร้อมวิ่งปั๊บ! จนวันหนึ่ง ผู้ช่วยผู้กำกับละครเรื่องหนึ่งให้ฉันลองเล่นบท “สาวใช้จอมซื่อบื้อ” ใครจะไปรู้ว่าบทนั้นมันจะเข้าทางฉันสุด ๆ! ฟ้าส่งฉันให้มาเกิดเป็นนักแสดงแน่ ๆ เลย ^_^
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม