ดารินเงยหน้าขึ้น
เธอมองเคลี่ด้วยความประหลาดใจ เมื่อหันกลับมาก็พบว่าเหมันต์กำลังจ้องมองเธออยู่ เย็นชา ลึกซึ้ง ไร้อารมณ์ และยังมีความทดสอบเล็กน้อย
ดารินรีบหลบสายตา
"ขอโทษค่ะ เป็นความผิดของฉันเอง ฉันจะรับผิดชอบความผิดของตัวเอง ขอให้คุณเหมันต์ให้อภัยด้วย อย่าลำบากเคลี่เลยค่ะ"
"คืนนี้ เราจะให้ส่วนลด 20% สำหรับแขกทุกท่าน ขอโทษจริง ๆ ค่ะ" ผู้จัดการคริสก็รีบยิ้มขอโทษ
"ไม่จำเป็น"
เหมันต์ปัดฝุ่นที่เสื้อ เดินก้าวไปข้างหน้า
"ถ้ารู้สึกไม่สบายก็พักผ่อนให้ดี ครั้งหน้าก็อย่าเข้าไปพิงคนอื่นง่าย ๆ"
ผู้จัดการคริสยิ้มขอโทษอีกครั้ง
กลุ่มคนค่อย ๆ เดินจากไป
เหมันต์มองดูมือขวาของตัวเอง
"เป็นอะไรหรือเปล่าครับพี่เหม มือขวาไม่สบายเหรอ?"
เหมันต์ดึงมือกลับ "ไม่มีอะไร"
เมื่อกี้...เขาเพิ่งโอบเอวของเธอไว้ เอวที่นุ่มนวลไม่มีไขมันส่วนเกิน ราวกับว่ายังมีความอบอุ่นหลงเหลืออยู่ในมือ
ดูเหมือนว่า...สัมผัสจะดีมาก
…………
เมื่อคนเดินจากไป ดารินก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป ร่างกายเธอลื่นไถลลงไปที่พื้น โชคดีที่ผู้จัดการคริสจับเธอไว้ได้
"ขอโทษค่ะ คืนนี้ทำให้สโมสรลำบากแล้ว"
ผู้จัดการคริสส่ายหัว โยนกุญแจรถให้เคลี่
"เธอขับรถฉันพาเธอไปโรงพยาบาล ต้องรีบหน่อย"
ดารินยังอยากจะปฏิเสธ ผู้จัดการคริสก็ขัดขึ้น
"ถ้าไม่อยากให้เสียเวลาทำงานก็ไปตรวจให้ดี ครั้งหน้าถ้าเกิดเรื่องแบบนี้อีก จะหักเงินเดือน"
ดารินเงียบ พยักหน้า
ทักษะการขับรถของเคลี่ไม่เลว รถไปถึงโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว และเข้าห้องฉุกเฉิน
ตอนตีสี่ ห้องฉุกเฉินไม่ค่อยมีคน ทางเดินแทบไม่มีใคร ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความสงบ ความเหนื่อยล้า และความเฉยชา เหมือนกับดารินเมื่อสองปีก่อน
คืนที่แม่ของเธอเสียชีวิต ก็เป็นคืนดึกเช่นนี้ เป็นห้องฉุกเฉินเช่นนี้
แม่ของเธอลื่นตกบันไดขณะทำความสะอาดบ้าน กระแทกที่ท้ายทอย ส่งโรงพยาบาลก็ไม่สามารถช่วยชีวิตได้
ตอนนั้น ใบหน้าของเธอก็มีสีหน้าเช่นนี้ สงบ เหนื่อยล้า เฉยชา
เหมือนกับว่าพระอาทิตย์ของวันพรุ่งนี้จะไม่ขึ้นอีกต่อไป
ไม่นานก็ถึงคิวของดาริน
เคลี่พอดีมีโทรศัพท์ เธอพาดารินเข้าไปในห้องฉุกเฉินแล้วก็ออกไป
"มีอาการไม่สบายตรงไหน" หมอดนัยมองดูเด็กสาวหน้าซีดตรงหน้า มีความตกใจชั่วขณะ
เด็กสาวคนนี้ ทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด เหมือนกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานาน และที่สำคัญ ใบหน้านี้ยังคล้ายกับพ่อของเธอ
เมื่อก้มมองบัตรนัดหมาย ก็ยิ่งประหลาดใจ
"เธอก็นามสกุลศิลาวงศ์เหมือนกัน"
นามสกุลศิลาวงศ์ในประเทศถือว่าหายากมาก
ดารินมองดูหมอตรงหน้าก็รู้สึกขนลุก
คนนี้...หน้าตาคล้ายพ่อสมัยหนุ่มมาก
ไม่ถึงกับเหมือน 100% แต่ก็คล้ายถึง 70% เลยทีเดียว
ถ้าพ่อมีลูกชาย ถ้าภรรยาเดิมของพ่อให้กำเนิดลูกชาย บางทีอาจจะหน้าตาแบบนี้?
เมื่อนึกถึงพ่อ ดารินก็ตาแดง ริมฝีปากเม้มแน่น
ช่างเถอะ เธอคิดอะไรอยู่ ถึงแม้ว่าคนตรงหน้านี้จะมีความเกี่ยวข้องกับพ่อจริง ๆ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอจริง ๆ ล่ะ
แม่ของเธอเป็นแค่ผู้หญิงที่พ่อมีไว้ข้างนอกโดยที่ภรรยาหลวงไม่รู้เท่านั้นเอง ส่วนตัวเธอเองก็เป็นแค่ลูกนอกสมรสที่ไม่เคยเห็นหน้าพ่อเลยตั้งแต่เกิด
ลูกนอกสมรส ไม่คู่ควรที่จะมีพ่อ
เธอฝืนยิ้มตอบคำพูดของหมอดนัยว่า
“ใช่ค่ะ บังเอิญจัง ไม่คิดว่าหมอจะนามสกุลศิลาวงศ์เหมือนกัน”
“ไม่แปลกใจเลย...”
หมอดนัยไม่ได้พูดต่อ แต่เปิดระบบคอมพิวเตอร์และเริ่มกรอกประวัติผู้ป่วย
“ร่างกายตรงไหนไม่สบาย” มองดูดวงตาที่แดงก่ำของเธอ หมอดนัยคิดว่าเขาทำให้เธอตกใจ จึงพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนขึ้น
ดารินสูดหายใจลึก ๆ แล้วค่อย ๆ เล่าอาการของตัวเองให้หมอฟัง
“เจ็บตรงนี้หรือว่าตรงนั้น”
หมอดนัยกดเบา ๆ ที่ท้องน้อย เมื่อกดถึงบริเวณท้องล่าง ดารินเจ็บจนต้องสูดลมหายใจเข้า
“มีเลือดออกไหม”
“ขะ...ข้างล่าง”
“อืม ช่องคลอด”
ดารินหน้าแดงและพยักหน้า “มีนิดหน่อย แต่ไม่มาก”
“ช่วงนี้มีเพศสัมพันธ์ไหม” หมอดนัยถามอีกครั้ง
“……” ดาริน
ใบหน้าของเธอแดงขึ้นกว่าเดิม แดงจนเหมือนจะมีเลือดหยดออกมา หลังจากนั้นเธอก็กัดริมฝีปากและพยักหน้า
“เพศสัมพันธ์รุนแรงไหม คุณสามารถบอกจำนวนครั้งได้”
“……ต้องบอกด้วยเหรอ”
“เราต้องเข้าใจสาเหตุของโรคให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการวินิจฉัยผิด”
ใบหน้าของดารินเหมือนกุ้งที่ถูกต้มสุก เธอหันหน้าไปอีกทางและพูดด้วยเสียงเบา ๆ ว่า
“สี่...ไม่สิ น่าจะห้าครั้ง”
หมอดนัยขมวดคิ้วแล้วเดินไปห้องข้าง ๆ
ไม่นานนัก หมอหญิงคนหนึ่งถือเครื่องมือเดินเข้ามา
“ดารินใช่ไหม มานี่ ฉันจะตรวจให้”
ดารินจึงต้องตามหมอหญิงไปที่ห้องตรวจ ตามคำสั่งของเธอ ถอดกางเกงและนอนลงบนเตียง
ผ่านไปสักพัก เธอจึงเงยหน้าขึ้น
“เรียบร้อยแล้ว”
ดารินลุกขึ้นจากเตียงและค่อย ๆ จัดการตัวเอง แล้วทั้งสองก็กลับมาที่หมอดนัย
“คุณเดาไม่ผิด มีรอยฉีกขาดและอักเสบเฉียบพลัน”
พูดจบก็ออกไป
“……” ไม่คิดเลยว่ามาตรวจโรคจะทำให้รู้สึกอับอายขนาดนี้
ถ้ารู้ว่าเป็นปัญหาด้านนี้ เธอคงไปแผนกนรีเวชแล้ว ตอนนี้ดันเจอหมอผู้ชาย...อยากขุดหลุมฝังตัวเองจริง ๆ
“ตอนนี้ยังเจ็บอยู่ไหม” หมอดนัยขมวดคิ้ว
ดารินพยักหน้า มือเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น
“วันนี้จะฉีดยาแก้ปวดให้ก่อน กลับไปแล้วให้กินยาให้ตรงเวลา เมื่อกี้คุณหมอตาลพูดแล้วใช่ไหม ต่อไปเวลามีเพศสัมพันธ์ก็อย่ารุนแรงเกินไป บอกแฟนของคุณให้ระวังหน่อย ช่องคลอดบอบบางมาก ถ้าภูมิคุ้มกันไม่ดี หลังจากบาดเจ็บแล้วจะติดเชื้ออักเสบเฉียบพลันได้ง่าย เข้าใจไหม”
ดารินพยักหน้า “ระ...รับทราบแล้วค่ะ”
เมื่อได้รับใบสั่งยา ดารินเตรียมตัวออกจากห้อง
“เดี๋ยวก่อน” หมอดนัยมองดูเธอจากด้านหลัง รู้สึกสงสารขึ้นมา
เขาเขียนอะไรบางอย่างลงบนกระดาษโน้ตแล้วยื่นให้เธอ
“เบอร์โทรฉัน ถ้าหลังจากนี้ไม่สบาย ก็โทรมาสอบถามได้”
ดารินกล่าวขอบคุณ
เคลี่รับโทรศัพท์เสร็จแล้ว ดารินดึงเธอออกจากแผนกฉุกเฉิน
ขณะนั้น เหมันต์ที่ออกมาจากลิฟต์พอดี เห็นเงาของเธอที่รีบผ่านไป
"ดูอะไรอยู่ครับ คุณชายใหญ่ตระกูลเวลรีย์" ดนัยเดินไปหาเหมันต์ พร้อมกับโบกมือทักทาย
"นั่นคนไข้ของคุณเหรอ" เหมันต์พยักหน้าไปทางที่ดารินเดินจากไป
"ใช่ครับ น่าสงสารมาก ยังเด็กอยู่เลย ไม่รู้อะไรเลย คนรักก็ไม่รู้จักระวัง ทำให้บาดเจ็บ คิดว่าเป็นปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร"
ดนัยส่ายหัว ถอนหายใจ
เหมันต์ดูไม่ค่อยสบายใจนัก "เรื่องนั้นเหรอ"
"จะเป็นเรื่องไหนได้อีก การอักเสบเฉียบพลัน เด็กน้อยน่าจะเจ็บปวดมานานแล้ว แต่ก็ทนได้ดีจริง ๆ"
"......" เหมันต์
"รอผมแป๊บนะครับ ผมจะให้หมอตาลมาแทน แล้วเดี๋ยวจะไปกับคุณ"
ตระกูลเวลรีย์และตระกูลศิลาวงศ์มีความร่วมมือกัน เหมันต์และดนัยก็รู้จักกันมานาน ถือว่าเป็นเพื่อนที่สนิทกัน
เดิมทีนัดกันไว้แล้วว่าจะออกเดินทางตอนเช้าไปเยี่ยมเพื่อนที่ป่วยในเมืองข้างเคียง แต่กลับมาเจอดารินที่นี่