คิดถึงภาพความวุ่นวายและความสับสนที่เคยเกิดขึ้น...
แม้ว่าเธอจะยังไร้เดียงสาเกินไป แต่ก็ทำให้เขาได้สัมผัสถึงรสชาติที่ยากจะลืมเลือน
รสชาตินั้น ไม่ได้ดีหรือแย่ แต่ก็อดคิดถึงไม่ได้ อดสงสัยไม่ได้ อดลิ้มรสไม่ได้
เหมันต์รวบรวมสติ
เขากดความรู้สึกที่ไม่รู้จักในอกลงไป หยิบบุหรี่ออกมาจากกระเป๋า แต่พอคิดว่านี่คือโรงพยาบาลก็เก็บกลับเข้าไป
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดดูแชตของดารินและเพิ่งจะเห็นว่าเธอโอนเงินหนึ่งแสนคืนมาให้เขา เขาขมวดคิ้วแล้วกดโอนกลับคืนอีกครั้ง
ระบบแจ้งว่า : ขออภัย คุณไม่สามารถส่งเงินในไลน์เพย์ได้ เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามยังไม่ได้เพิ่มเพื่อนกับคุณในไลน์ กรุณากดเพิ่มเพื่อนก่อนกดส่งเงิน
ลบเพื่อนเขาแล้วเหรอ
เด็กน้อยคนนี้ดื้อจริง ๆ
เขาหัวเราะเบา ๆ สองครั้ง ออกจากหน้าจอแชต แล้วปิดโทรศัพท์ลง
............
เธอรู้สึกโล่งใจและมั่นใจมากขึ้น เริ่มเปิดเหล้าให้แขก ชงเหล้า และเมื่อไม่มีเพลง เธอก็เลือกเพลงที่พวกเขาชอบฟังเพื่อไม่ให้ห้องเงียบเกินไป
หลังจากเลือกเพลงเสร็จ ดารินก็กลับไปที่มุมห้องเพื่อชงชาอีกครั้ง
ทักษะการชงชาของเธอดีมาก เคยได้รับคำชมจากผู้จัดการโดยตรง
ตั้งแต่อายุเพียงหกขวบ เธอเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับพิธีชงชา ตั้งแต่การรู้จักชา การเลือกชา วัฒนธรรมชา และการชงชา เรียกได้ว่าเชี่ยวชาญจนเป็นธรรมชาติ พนักงานของสโมสรบลูไทเกอร์เพิ่งเรียนรู้เพียงพื้นฐานเท่านั้น จะมาเทียบกับเธอได้อย่างไร
เหตุผลที่เรียนชงชา ก็เพราะแม่บอกว่าพ่อชอบดื่มชามาก การเรียนรู้การชงชาเท่ากับการจับหัวใจของเขาไว้ครึ่งหนึ่ง
น่าขำ เธอเกิดมาจนถึงตอนนี้ยังไม่เคยเห็นหน้าพ่อเลย
ขณะนั้น ประตูห้องเปิดออกอย่างกะทันหัน
เหมันต์และดนัยเข้ามาอย่างรีบร้อน
“รอพวกนายอยู่พอดี พี่เหมันต์ ดนัย”
“เครื่องบินดีเลย์หรือเปล่า ไม่ได้นั่งเครื่องบินของตัวเองเหรอ คุณชายกู้เป็นยังไงบ้าง หนักไหม?”
คุณชายเมฆาเสนอที่นั่งให้เหมันต์
เหมันต์ไม่ได้นั่งลงที่นั่งนั้น แต่กลับเลือกที่นั่งตามสบาย
“บาดเจ็บหนัก คงต้องนอนพักสักครึ่งปี”
สายตาของเขากวาดมองบนโต๊ะ เหมือนกำลังมองหาอะไรบางอย่าง
ทุกคนต่างพากันถอนหายใจและพูดคุยเกี่ยวกับคุณชายวายุ ไม่มีใครสังเกตเห็นสายตาของเหมันต์
ดารินรู้หน้าที่ เดินเข้าไปเติมชา
เหมันต์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นว่าเป็นเธอ ก็ถอนสายตากลับ
“ชานี้ดีนะ” ดนัยเงยหน้าขึ้น ตรงกับสายตาของดารินพอดี
“เป็นเธอ” เขาประหลาดใจ
“คุณหมอดนัย” ดารินยิ้มบาง ๆ
ดนัยพยักหน้า ไม่พูดอะไร ไม่คิดว่าเธอจะทำงานในที่แบบนี้ ทันใดนั้นก็คิดถึงเรื่องที่เธอมาหาเขาเพราะป่วย ทำให้เขาเงียบไปชั่วขณะ สีหน้าก็เย็นลงเล็กน้อย
ดารินรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่เธอไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร เติมชา เสิร์ฟเหล้า ส่งผ้าขนหนู ทำงานเสร็จแล้ว ดารินก็กลับไปซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้องอย่างเงียบ ๆ
คุณชายทั้งหลายดื่มกันไปหลายรอบ บรรยากาศเริ่มคึกคักขึ้นอีกครั้ง และเตรียมจะเล่นไพ่กัน
ดารินจัดเตรียมโต๊ะไพ่ไว้ล่วงหน้า เมื่อมีคนหกเจ็ดคน ก็รวบรวมได้สี่คน คนอื่น ๆ ก็ร้องเพลง ดื่มเหล้า หรือเล่นเกมอื่น ๆ กันไป
โทรศัพท์ของเหมันต์ดังแล้ววาง วางแล้วดังอีก
“พี่เหมันต์ ไม่รับสายหน่อยเหรอ เผื่อมีเรื่องด่วน”
คุณชายเมฆาเห็นชื่อที่แสดงบนหน้าจอ รู้ว่าเป็นสายจากบ้าน จึงแนะนำอย่างสุภาพ
เรื่องด่วน จะมีเรื่องด่วนอะไร
ก็แค่เร่งให้เขาไปดูตัว เร่งให้เขาแต่งงาน เหมันต์อายุสามสิบแล้ว การงานรุ่งเรือง แต่เรื่องส่วนตัวยังไม่ได้แก้ไข ครอบครัวก็เลยกังวลมาก
เหมันต์รู้สึกรำคาญ กดรับสายแล้วออกไป คุณชายเมฆาชี้ไปที่ดาริน
“มาเร็ว ๆ เธอมาเล่นไพ่แทนพี่เหมันต์หน่อย”
ดารินไม่อยากปฏิเสธ สุดท้ายก็ไป
เล่นรอบหนึ่ง ชนะ
“เมื่อกี้ถ้าเล่นไพ่นี้ จะชนะมากกว่านี้”
ไม่ทันสังเกตว่าเมื่อไหร่ เหมันต์ปรากฏตัวอยู่ข้างหลัง ชี้ไปที่ไพ่ที่เธอเพิ่งเล่น
“ทักษะการเล่นไพ่ของฉันไม่ดีเท่าคุณเหมันต์ หรือให้คุณเหมันต์เล่นเองดีไหม”
เมื่อได้กลิ่นที่คุ้นเคย ดารินรู้สึกอึดอัดในอก โดยไม่รู้ตัวก็ถอยหลัง
“ฉันยังมีเรื่องต้องจัดการ เธอเล่นไปเถอะ” เหมันต์กลับกดไหล่เธอไว้
เล่นต่อไปจนจบเกม
ไม่รู้ว่าพวกเขาแกล้งทำเป็นแพ้อีกหรือเปล่า แต่ครั้งนี้ดารินชนะตลอด สนุกจนสุดขีด
"สาวสวยเอ๋ย ทักษะการเล่นไพ่ของเธอไม่ธรรมดาเลย ครั้งก่อนยังแพ้ยับเยินอยู่เลย ครั้งนี้ถึงตาเราบ้างแล้ว" หนึ่งในคุณชายบ่นอุบ
"บอกหน่อยสิ แอบไปเรียนรู้เคล็ดลับมาจากไหน"
"หรือว่าเป็นพี่เหมที่สอนทักษะการเล่นไพ่ให้ ถ้าเป็นอย่างนั้น ต่อไปฉันคงไม่กล้าดูถูกเธอแล้ว"
"ฉันกับคุณเหมันต์ไม่คุ้นเคยกันหรอก อย่าล้อเล่นกันเลย"
ดารินยิ้มหวานอย่างมีเสน่ห์ตอบรับทุกคำพูด สายตาเผลอมองผ่านใบหน้าของดนัย
ยิ้มบาง ๆ ที่แฝงด้วยความเกลียดชังและเยาะเย้ยเล็กน้อย
ดารินหยุดยิ้ม ไม่พูดอะไร มือที่เก็บโต๊ะสั่นเล็กน้อย
คืนนี้ดื่มเหล้าไม่มาก ตอนเลิกงานทุกคนยังมีสติอยู่ ดารินส่งแขกออกไปแล้วกลับมาที่ห้องนั่งเล่น นั่งที่ตำแหน่งเดิมของเธอ รอเหมันต์ที่ยังคุยโทรศัพท์อยู่ที่ระเบียง
ถึงเวลาเลิกงานแล้ว แขกไม่กลับ เธอก็ไม่สามารถเลิกงานได้
ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง เหมันต์เพิ่งคุยโทรศัพท์เสร็จแล้วเข้ามาในห้อง เขาหยิบแก้วเปล่าบนโต๊ะมาเติมเหล้าให้เต็ม แล้วดื่มทีละแก้ว ดูเหมือนว่าโทรศัพท์สายนี้จะไม่ค่อยราบรื่น
ดื่มหมดสามแก้วแล้วก็เทอีกสามแก้ว เขามองไปข้างหน้าอย่างลึกซึ้ง ดวงตาเต็มไปด้วยความลึกซึ้ง
"ทำไม แขกคนอื่นไปแล้ว ที่นี่ก็ไม่ให้บริการแล้วเหรอ?"
ดารินจึงต้องเข้าไปเทเหล้าให้เขา และอุ่นผ้าเช็ดหน้าให้
อีกสามแก้ว หูของเขาเริ่มแดง และในสายตาก็มีความเมาเล็กน้อย
"ร่างกายเป็นยังไงบ้าง" เขาถาม
ดารินอึ้งไปครู่หนึ่ง แล้วถึงนึกออกว่าเขาพูดถึง ‘เหตุการณ์ชน’ ครั้งก่อน
"ไม่มีอะไรแล้ว ขอบคุณคุณเหมันต์ที่เป็นห่วง"
"ครั้งก่อนเป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้ดูถูกคุณ" เขาดูเหมือนจะเมาจริง ๆ น้ำเสียงอ่อนโยนขึ้นมาก พูดถึงเรื่องเช้าวันนั้นอีกครั้ง
"ขอโทษคุณเหมันต์ด้วยค่ะ ท่าทีของฉันก็มีปัญหา"
แม้ว่าเธอจะไม่คิดว่าตัวเองผิด แต่เธอกำลังทำงาน ลูกค้าคือพระเจ้า เธอต้องพูดในสิ่งที่ลูกค้าอยากฟัง
ผ่านไปอีกสักพัก "จบการศึกษามานานแค่ไหนแล้ว?"
"สองปี"
"ทำไมถึงทำงานที่นี่"
"ขาดเงิน"
คราวนี้ถึงตาเหมันต์เงียบไป
คนที่ขาดเงินมีมากมาย การมาทำงานที่นี่ก็เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม พวกเธอเป็นคนที่พยายามใช้ชีวิต เขาเกิดมาอยู่บนจุดสูงสุด ไม่มีสิทธิ์ที่จะวิจารณ์ และไม่สามารถเข้าใจได้
เขาไม่ถามต่อ ดื่มเหล้าเงียบ ๆ จนกระทั่งผู้จัดการคริสมาถึง เขาก็เมาจนหลับตานวดขมับเพื่อพักผ่อน
"ดาริน เธอพาคุณเหมันต์ขึ้นไปพักผ่อนข้างบน"
ผู้จัดการคริสเหมือนฝนที่มาทันเวลา ส่งบัตรห้องชุดชั้นบนมาให้
"......" ดาริน
"ไปเถอะ ส่งเขาขึ้นไปแล้วเธอก็เลิกงานได้ พรุ่งนี้มาเร็วหน่อย ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ"
"คุณราเชนไม่ขึ้นมาด้วยเหรอ?" ครั้งก่อนยังมีคนขับรถราเชนมาด้วย ตอนนี้มีแต่เธอคนเดียวที่จะส่งเหมันต์ พูดตามตรง เธอรู้สึกกลัวเล็กน้อย
"เขามีธุระ เพิ่งโทรมาหาฉัน ส่งคุณเหมันต์ขึ้นไปก็พอ"
โอเค
แต่นี่เป็นงานของเธอ เธอหาข้ออ้างที่จะปฏิเสธไม่เจอ
ดารินรับบัตรห้อง พยักหน้าเห็นด้วย หันไปมองเหมันต์ เขายังมีสติอยู่ แม้จะเดินเซเล็กน้อยแต่ยังเดินเองได้ ดารินเดินตามหลังเขาอย่างเงียบ ๆ รู้สึกโล่งใจ
ออกจากลิฟต์ รูดบัตร เปิดประตู
เมื่อเดินเข้าไปในห้องชุด เหมันต์ก็จับข้อมือของเธอและดึงเธอเข้าไปข้างใน ประตูปิดลงทันที
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก จนดารินยังไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อเธอรู้สึกตัวอีกที เธอก็อยู่ในห้องแล้ว
เธอพิงประตูอยู่ และตรงหน้าคือเหมันต์ที่สูงโปร่ง เสื้อผ้าของทั้งสองคนเสียดสีกัน ระยะห่างแทบไม่มี
“คุณเหมันต์ คุณจะทำอะไรคะ”
ดารินพยายามรักษาความสงบ แต่เมื่อมองไปที่ชายตรงหน้า เธอก็ไม่สามารถสงบได้
ในพื้นที่ปิดนี้ หัวใจของเธอเต้นแรง บรรยากาศที่กดดัน ทำให้เธอตื่นเต้นจนถึงขีดสุด
เหมันต์มองไปที่ริมฝีปากสีแดงสด ใบหน้าสีขาวราวกับเครื่องเคลือบที่มีสีแดงระเรื่อ ดวงตาเหมือนจิ้งจอกที่เป็นประกาย ทำให้เขาย้อนกลับไปคืนนั้น
คืนนั้น เธออยู่ใต้เขา มองเขาด้วยสายตาแบบเดียวกัน เพียงแต่คืนนั้น สายตาของเธอมีความมึนเมาเล็กน้อย ราวกับยาเสพติดที่ปลุกสัตว์ร้ายในตัวเขา
บางอย่างในตัวเขารู้สึกขึ้นมา เขาถามว่า “ทำไหม?”