“เพลาๆลงหน่อยนะลูซ ระวังตัวไว้บ้างอย่าให้ใครอุ้มลูกมาหาถึงบ้านล่ะลูก” แม่ของเขาก็อดไม่ได้จะบอกลูกชายไม่ได้ในเมื่อห้ามไม่ได้ก็เตือนลูกชายให้ระวังตัวป้องกันไว้ถ้าไม่คิดจริงจังกับใคร
“ไม่มีแน่นอนครับมาดาม ผมป้องกันเป็นอย่างดีถ้ามีใครอุ้มลูกมาหาก็ไม่ใช่ลูกผมแล้วล่ะครับ” ลูเซียโนบอกแม่ของเขาอย่างมั่นใจเขาป้องกันตัวเองเป็นอย่างดีไม่มีทางที่จะพลาดเขาจะมีลูกกับคนที่เขารักเท่านั้นแต่จะเมื่อไหร่นั้นเขาไม่รู้เพราะส่วนมากผู้หญิงที่เข้ามาหาเขาก็ต้องการชื่อเสียงเงินทองทั้งนั้นแล้วเพื่อความสนุกเขาจึงยอมจ่ายตามความเหมาะสมแล้วต่างคนต่างไปแค่นั้นเอง
“จ้าพ่อลูกชายมั่นใจไปเถอะเดี๋ยวเจอของจริงแล้วแม่จะสมน้ำหน้าให้ดู ฮึ” ท่านก็รู้นิสัยของลูกชายดีว่าเป็นยังไงแต่ก็อดเตือนไม่ได้เพราะลูเซียโนเป็นลูกชายของท่านไงล่ะ
“พอแล้วครับแม่เดี๋ยวไปงานของดาวิสไม่ทันแล้วมันจะโวย แม่จะไปพร้อมผมเลยมั้ยครับ”
“ไปสิ แม่กับป้ามีอารอไปพร้อมลูซน่ะลูก ชวนยัยเซล่าไปน้องก็ไม่ยอมไป” มาดามบี๋บอกลูกชายแล้วลุกขึ้นควงแขนลูกชายคนละข้างกับพี่สามี
"วันนี้ขอควงหนุ่มหล่อหน่อยเถอะ" คนเป็นป้าคล้องแขนหลานชายแล้วยิ้ม
“ไปกันเถอะลูก” มาดามบี๋พูดจบก็พากันเดินออกไปที่เทอเรสหน้าบ้านมีลีมูซีนคันยาวจอดรอเจ้านายอยู่แล้วรถหรูก็พาทุกคนไปถึงจุดหมายใช้เวลาเกือบยี่สิบนาทีเพราะแขกเยอะจึงทำให้ล่าช้าตอนรอคิวจอดหน้าบันไดโรงแรมแต่ก็ไม่มีปัญหาเพราะยังมีเวลาเหลืออีกเยอะ
เมื่อลูเซียโนก้าวขายาวลงจากรถแสงแฟตก็กระพริบไม่หยุดนักข่าวที่รอถ่ายรูปคนดังทั้งหลายที่มางานนี้รัวชัตเตอร์ถ่ายภาพหนุ่มเนื้อหอมของสาวๆอิตาลีและทั่วยุโรปรวมไปถึงเมืองไทยด้วยเพราะเขาร่วมลงทุนกับ เฮนดริก จิโอวานี่ หนุ่มลูกครึ่งไทยอิตาลีทำธุรกิจห้างสรรพสินค้าหรูทั้งในเมืองไทยและยุโรปและหลายประเทศทั่วโลกที่มีแต่สินค้าแบรนด์ เนมชื่อดังทั้งนั้นและนาตาลี พงษ์พิสิทธ์ สาวลูกเสี้ยวไทยอังกฤษจีนหลานสาวเจ้าพ่อน้ำเมาเมืองไทย เพื่อนรักทั้งสองคนทำคอนโดหรูและบ้านหรูและธุรกิจหลายอย่างที่เทคโอเวอร์มาปรับปรุงโครงสร้างใหม่แล้วขายไปฟันกำไรดีกว่ามาเหนื่อยบริหารเองเพราะเขามีทีมงานเทคโอเวอร์ที่เก่งมากไม่เคยทำให้เขาผิดหวังและขาดทุนเพราะผลประโยชน์ที่สมน้ำสมเนื้อที่เขาไม่เอาเปรียบลูกน้องจึงทำให้ทุกคนเต็มที่กับงานที่เขามอบหมายให้
“นานๆได้ควงลูกชายออกงานสาวๆของลูกคงไม่ว่านะลูซ” มาดามบี๋ควงแขนลูกชายเมื่อลงจากรถเพื่อเดินเข้างานพร้อมกับฟรังโก้และมาลิคลูกน้องทั้งสองคนที่เดินตามหลังเจ้านายอย่างใกล้ชิด
“วันนี้ผมขอควงแม่กับป้ามีอาไม่มีสาวๆครับ” ลูซเซียโนบอกแม่กับป้าของเขาตาเป็นประกายเพราะคิดว่าคงมีนางแบบสักคนที่ถูกใจเขาในคืนนี้
“ขอให้มันจริงเถอะ ป้าว่าหลานมาหาเอาในงานนี้มากกว่านะลูซ” ป้ามีอาเดาใจหลานชายถูกเผงเลยก็ท่านเลี้ยงของท่านมาจะไม่รู้ได้ยังไงพอๆกับที่แม่เขารู้ใจลูกชายนั่นแหละ
“ป้าอ่ะ ทำไมเดาแม่นอย่างนี้ครับ ฮ่าฮ่าๆ” ลูเซียโนหัวระชอบใจทั้งแม่ทั้งป้าเดาใจเขาถูกอีกแล้ว
ลูเซียโนควงแขนแม่และป้าเข้าไปในงานใบหน้าหล่อตามสไตล์หนุ่มลูกครึ่งไทยอิตาลีตาสีฟ้าไรเคราเขียวครึ้มยิ้มแต่ละครั้งก็ทำให้สาวๆใจละลายแทบจะเอาตัวใส่พานถวายให้เขาแล้ว
“สวัสดีครับคุณแม่ คุณป้ามีอา หวัดดีลูซ น้องเซล่าไม่มาด้วยเหรอเพื่อน” ดาวิเต้ คาวาดิเย่ เจ้าของแบรนด์Angel Jewelry (แองเจิลจิวเวลรี่) ที่จัดงานในคืนนี้ออกมาต้อนรับว่าที่แม่ยาย เอ้ย แม่กับป้าของเพื่อนรักที่ให้เกียรติมางานของเขาและพวกท่านต้องได้ของติดมือกลับไปอย่างแน่นอน
“สวัสดีดาวิส ยัยเซล่าไม่ว่างแม่เลยมากับตาลูซจ้ะ”
“สวัสดีหลานชาย”
“หวัดดีเพื่อน วันนี้มีอะไรดีๆบอกกันบ้างสิวะ” ลูเซียโนถามเพื่อนรักเพราะทุกครั้งดาวิเต้จะมีเซอร์ไพรส์ตลอดและครั้งนี้เหมือนกันแต่เขาอยากรู้ก่อน
“บอกไม่ได้ว่ะ นายลุ้นเอาก็แล้วกันแต่บอกเลยว่านายพลาดไม่ได้เลยเพื่อน” ดาวิเต้ตบไหล่เพื่อนเบาๆยิ่งทำให้ลูเซียโนอยากรู้ซะแล้วว่าที่เพื่อนบอกมันจะเจ๋งแค่ไหนเพราะแต่ละคอลเล็คชั่นของแองเจิลจิวเวลรี่จะมีเครื่องเพชรชุดพิเศษหนึ่งชุดเอามาประมูลเพื่อการกุศลทุกครั้งและเป็นไฮไลท์ของงานที่แขกทุกคนรู้และต้องการส่วนเงินรายได้เขาจะนำไปบริจาคทั้งหมด
“โอเคเพื่อนงั้นวันนี้ฉันสู้หมดหน้าตักเลย” ลูเซียโนพูดจบก็เดินไปถึงเก้าอี้แถวหน้าที่ดาวเต้จัดให้เพื่อนและแม่กับป้าของลูเซียโนและที่ว่างของเฮนดริกที่ยังไม่มา
“เชิญนั่งครับคุณแม่คุณป้า” ดาวิเต้บอกแม่ของเพื่อนอย่างนอบน้อมเขาสนิทกับที่บ้านของลูเซียโนทุกคนและเข้านอกออกในเหมือนบ้านตัวเองมาตั้งแต่เด็กเพราะพ่อของเขาเป็นเพื่อนรักกับโรเรนโซ่จึงทำให้สนิทกัน
“ขอบใจมากลูก”
“ขอบใจมากหลานชาย ไปดูแลงานเถอะลูกจะได้ไม่มีอะไรผิดพลาด” ป้ามีอาบอกดาวิเต้ที่ท่านเห็นมาแต่เล็กแต่น้อยเหมือนเป็นหลานชายของท่านอีกคนหนึ่ง
“ผมขอตัวนะครับ คุณแม่กับคุณป้าถูกใจชุดไหนบอกผมได้นะครับผมจะล็อคไว้ให้ครับ” ดาวิเต้บอกท่านทั้งสองท่านแล้วก็พยักหน้าให้เพื่อนเป็นอันรู้กันแล้วเดินไปหลังเวทีที่พลุกพล่านไปด้วยบอดี้การ์ดเป็นร้อยและทีมงานนางแบบวุ่นวายกันไปหมด ตู้เซฟขนาดใหญ่วางอยู่กลางห้องที่มีบอร์ดี้การ์ดยืนล้อมสามชั้นไหนจะอยู่นอกห้องอีกเขาจึงไม่กลัวว่าจะมีเหตุการณ์ตื่นเต้นเกิดขึ้น
ลูเซียโนคุยกับแม่และป้าของเขาเรื่องเครื่องเพชรและให้แม่และป้าเลือกคนละชุดเขาจะเป็นคนจ่ายให้เองเหมือนทุกครั้งเวลาที่แด๊ดของเขาไม่มาด้วย
“หลานแน่ใจนะลูซว่าให้ป้าเลือกน่ะ” คุณมีอาถามหลานชายที่ยิ้มให้สาวสวยทีเดินผ่านไปแล้วหยิกเอวหนาของเขา
“โอ้ย,ป้าหยิกผมทำไมเจ็บนะครับ อู้ยย..” ชายหนุ่มลูบเอวตัวเองป้อยๆมีสายตาของมาดามบี๋มองลูกชายอย่างสมน้ำหน้า
“ก็หลานคุยกับป้าอยู่นะลูซ แต่ไปไปมองแม่สาวร้อนนั่นตาวาวเลยเชียว” ป้ามีอาว่าให้หลานรักอย่างหมั่นไส้เพราะผู้หญิงแต่ละคนที่เข้าหาหลานชายท่านก็มีแต่ข่าวฉาวกันทั้งนั้นทำให้ท่านไม่ชอบ
“โธ่ป้าครับ ถึงผมจะมองเธอแต่ผมก็ฟังป้าพูดนะครับ คืนนี้ป้ากับแม่อยากได้ชุดไหนผมจัดให้เลย โอเคมั้ยครับ” ลูเซียโนบอกท่านทั้งสองอีกครั้งเฮนดริกก็เดินมานั่งข้างเขาจับมือทักทายกัน
"หวัดดดีเพื่อน"
"หวัดดีเพื่อน วันนี้ฉายเดี่ยวเหรอวะลิลลี่ปล่อยเสือออกมาจากถ้ำได้ยังไงนะ" ลูเซียโนแซวเพื่อนรักที่แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว
"ลูก้าไม่สบายเลยไม่ได้มาด้วยน่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันเพื่อน"
"โอเค เพื่อน"
ไฟในงานก็หรี่ลงเหลือแต่บนรันเวย์ที่สว่างจ้าเสียงเพลงดังขึ้นอย่างเร้าใจนางแบบก็เดินออกมาตามรันเวย์เพื่อโชว์เครื่องเพชรแต่ละชุดที่ออกแบบมาอย่างสวยงามสมราคาและแน่นอนทุกคนก็อยากเป็นเจ้าของจนเวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมงนางแบบคนสุดท้ายเดินอกมาเรียกเสียงฮือฮาจากทุกคนที่อยู่ในห้องแกรนด์บอลรูมที่เห็นเครื่องเพชรสีชมพูเช็ตใหญ่ตั้งแต่ปิ่นปักผมสีพิ้งโกลด์หัวประดับด้วยเพชรหยดน้ำสีชมพูเม็ดใหญ่ก้านปิ่นประดับด้วยเพชรน้ำงามสีขาวแวววาวระยิบระยับพู่ห้อยระย้าก็เป็นเพชรสีขาวและปลายพู่มีเพชรสีชมพูเม็ดใหญ่งดงามต้องตาต้องใจทุกคนตามด้วยสร้อยคอทรงหยดน้ำร้อยเรียงเพชรสีชมพูทั้งเส้นมีเพชรขาวเรียงซ้อนประกบและโดดเด่นด้วยเพชรสีชมพูทรงหยดน้ำเม็ดใหญ่สิบกว่ากระรัตห้อยเหนือเนินอกของนางแบบและกำไลข้อมือที่ทำเหมือนโช้กเกอร์ประด้วยเพชรสีชมพูทั้งวงผสมผสานกับทองสีพิ้งโกลด์และแหวนเพชรสีชมพูเม็ดใหญ่และกำไลข้อเท้าที่ออกแบบเหมือนกำไลข้อมือแต่เล็กกว่าและมีเสียงกระดิ่งดังกรุ๋งกริ๋งทุกย่างก้าวที่พิเศษก็คือทั้งกำไลข้อมือข้อเท้ามีผู้ที่เป็นเจ้าของเท่านั้นที่ปิดเปิดล็อคได้
เมื่อนางแบบสาวสวยหยุดเดินแล้วส่งสายตาให้ลูเซียโนแต่เขาไม่ได้สนใจเพราะเล็งอีกคนไว้แล้วเขาก็ส่งสัญญาณให้ฟรังโก้คนสนิทที่เป็นทั้งเลขาและบอดี้การ์ดไปจัดการให้ พิธีกรบนเวทีก็บรรยายถึงเครื่องเพชรชุดนี้ออกแบบผสมผสานลวดลายของยุคเก่าหลากหลายจนออกมาเป็นเครื่องเพชรชุด ดวงใจพิสุทธิ์
“ทุกท่านพร้อมจะเป็นเจ้าของเครื่องเพชรชุดดวงใจพิสุทธ์กันแล้วนะครับ เครื่องเพชรชุดนี้ที่ประดับเพชรสีชมพูทั้งหมดกว่าสามสิบเก้ากระรัตและเพชรสีขาวอีกหกสิบกระรัตรวมแล้ว ชุดนี้เก้าสิบเก้ากระรัตครับ” เสียงคุยกันดังขึ้นมหาเศรษฐีทั้งหลายก็เตรียมตัวประมูลเพื่อจะได้มาครอบครอง
“ถ้าพร้อมแล้วก็ถือป้ายไว้รอเลยนะครับ ราคาประมูล ดวงใจพิสุทธ์ เริ่มต้นที่สามสิบล้านครับ” พิธีกรพูดจบทุกคนก็เตรียมยกป้าย
“สามสิบห้าล้าน สี่สิบล้าน ห้าสิบล้าน ห้าสิบสามล้าน ห้าสิบห้าล้าน หกสิบล้าน”
“ตอนนี้ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วครับ มีใครให้มากกว่าหกสิบล้านครับ”
“เจ็ดสิบล้านครับ”
“คุณลูเซียโนให้ เจ็ดสิบล้านครั้งที่หนึ่ง...”
“เจ็ดสิบห้าล้านครับ” เฮนดริกก็ยกป้ายประมูลทันที
“โอ้ ตอนนี้ คุณเฮนดริก ให้เจ็ดสิบห้าล้านครับ เจ็ดสิบห้าล้านครั้งที่หนึ่ง..” พิธีกรประกาศชื่อของเฮนดริกก็หันไปมองแล้วยกป้ายขึ้นสู้
“แปดสิบล้าน” ลูเซียโนยกป้ายสู้ราคากับเพื่อนรักของเขา
“ตอนนี้เหลือสองท่านที่ยังขับเขี้ยวกันอยู่นะครับ และแปดสิบล้านครั้งที่หนึ่ง...”
“เก้าสิบล้าน” เฮนดริกพูดเสียงดังมองหน้าลูเซียโนแล้วหยักคิ้วให้เพื่อนรักอย่างท้าทายว่าสู้หรือปล่า
“โอ้ พระเจ้า นี่เป็นการประมูลที่ทำให้ผมหัวใจเต้นแทบทะลุออกมาแล้วครับ คุณลูซเซียโนว่ายังไงครับ เก้าสิบล้านครั้งที่หนึ่ง..”
“เก้าสิบเก้าล้าน” เสียงอื้ออึงดังขึ้นเมื่อเห็นยอดตัวเลขประมูลที่สูงขึ้นทุกสายตามองไปที่เฮนดริกที่ยกมือขึ้นขอยอมแพ้ให้เพื่อนรัก
“เก้าสิบเก้าล้าน จบลงที่เก้าสิบเก้าล้านครับ และผู้ชนะการประมูลครั้งนี้คือคุณลูเซียโน เดอวาโรเซ่ เจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของอิตาลีครับ เชิญคุณลูเซียโนบนเวทีครับ” พิธีกรเชิญผู้ชนะการประมูลขึ้นมากล่าวบนเวที
“สวัสดีครับทุกท่าน ผมประมูลเครื่องเพชรชุดนี้หนึ่งเพราะเป็นเพชรหายากและผมอยากบริจาคเงินจำนวนนี้เพื่อให้การกุศลเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วยครับ” ลูเซียโนรู้ดีว่าเงินจำนวนนี้ดาวิเต้จะน้ำไปบริจาคทั้งหมดเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุถล่มทางตอนใต้ของอิตาลีเสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั้งห้องแกรนด์บอลรูม
“ขอบคุณคุณลูเซียโนมากครับ” พิธีกรก็กล่าวต่ออีกเล็กน้อยก็ปิดงานลงอย่างสวยงามในวันนี้
“ชุดนี้สวยมากเลย หลานตาถึงนะลูซ” ป้ามีอาบอกหลานชายที่ประมูลเครื่องเพชรชุดนี้มาได้
“ดีใจด้วยนะลูซ สวัสดีครับมาดาม สวัสดีครับป้ามีอา” เฮนดริกยกมือไหว้แม่กับป้าเพื่อนรักแบบไทยอย่างน่ารัก
“สวัสดีเฮนดริก วันนี้มาคนเดียวเหรอลูก” มาดามบี๋รับไหว้เฮนดริกแล้วถามเขาปกติเขาจะควงคู่มากับภรรยาสาวชาวไทยเหมือนท่าน
“วันนี้ลูก้าไม่สบายลิลลี่เลยไม่ได้มาครับ”
“อ้าวแล้วน้องลูก้าเป็นยังไงบ้างละเฮนดริก” ป้ามีอาก็ถามถึงลูกชายของเฮนดริกวัยสองขวบกว่าด้วยความเป็นห่วงเพราะเจอกันบ่อยน้องลูก้ากำลังน่ารักน่าชัง
“ดีขึ้นแล้วครับแต่ลิลลี่เป็นห่วงลูกเลยปล่อยผมฉายเดี่ยวครับ”
“แล้วนายจะกลับเมืองไทยเมื่อไหร่เฮนดริก” ลูเซียโนถามเพื่อนรักเพราะเฮนดริกมีกำหนดการว่าจะไปเมืองไทยเร็วๆนี้
“อาทิตย์หน้าแกมีอะไรเหรอลูซ” หนุ่มหล่อเลือดสีน้ำเงินตอบเพื่อนเขาจะพาลูกชายไปเยี่ยมคุณตาที่กระบี่เพราะลิลลี่เป็นสาวใต้ตาคมชาวกระบี่และเป็นเพื่อนรุ่นน้องของนาตาลี
“ก็ถามดูน่ะเพราะฉันก็จะไปเมืองไทยเหมือนกันแต่คงหลังนายเผื่อฉันจะไปเที่ยวกระบี่ด้วยไงล่ะ”
“ได้เลยลูซ แกจะไปเมื่อไหร่ก็โทรบอกฉันนะจะได้เตรียมสาว เอ้ย เตรียมห้องไว้ให้งั้นฉันไปก่อนนะ ผมขอตัวกลับก่อนนะครับคุณแม่คุณป้า สวัสดีครับ” เฮนดริกบอกเพื่อนและไหว้ลาแม่กับป้าของเพื่อน
“สวัสดีลูก/สวัสดีหลานชาย” เมื่อเฮนดริกเดินจากไปแม่บี๋ก็ถามลูกชาย
“ลูซจะไปเมืองไทยเหรอลูก แล้วไปเยี่ยมคุณยายหรือเปล่า” เพราะเธอเพิ่งกลับมาได้เดือนกว่าเองเผื่อจะฝากของไปให้มัสหยากับเขมรัฐจึงถามลูกชายก่อนท่านจะได้เตรียมของถูก
“ไปดูงานครับแม่ ผมว่าจะแวะไปเยี่ยมคุณยายด้วยครับ”
“ดีลูก ไปเมื่อไหร่บอกแม่ด้วยนะ” มาดามบี๋บอกลูกชายเธอจะฝากของไปให้แม่และมัสหยาเพราะเป็นวันเกิดของเธอซึ่งแม่บี๋ไม่เคยลืมเลยสักครั้งถึงแม้ของขวัญไปถึงช้าบ้างแต่มัสหยาก็ได้รับจากท่านตลอดมาเท่าที่เธอจำความได้
“ครับแม่ แล้วนี่แม่กับป้ามีอาเลือกไว้หรือยังครับผมจะได้เตรียมเงินไว้ให้ครับหวังว่าผมคงไม่หมดตัวนะครับ” ชายหนุ่มล้อเล่นแม่กับป้าของเขา
“แหม ตาลูซ ถ้าจะหมดตัวก็เครื่องเพชรของลูกนั่นแหละ แม่ว่าสวยมากนะลูก”
“แม่ชอบเหรอครับ เอาไหมผมยกให้” ลูกชายถามอย่างใจป้ำเพราะสำหรับแม่ของเขาแล้วลูเซียโนให้ได้อยู่แล้ว
“ขอบใจลูก แต่แม่ว่ามันเหมาะกับสาวๆมากกว่า ลูซเก็บไว้ให้ลูกสะใภ้ของแม่ดีกว่านะลูก” แม่ของเขาพูดกลายๆลูกชายรู้ว่าแม่อยากให้เขามีครอบครัวแต่เขายังไม่เจอแม่ของลูกเลย
“ครับแม่ผมจะเก็บไว้ให้แม่ของลูก ถ้าแม่กับป้ามีอาเห็นสาวคนไหนใส่ก็คนนั้นแหละคือแม่ของลูกผมและสะใภ้ของ เดอวาโรเซ่ ครับ” ลูเซียโนพูดแล้วยิ้มเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเจอผู้หญิงคนนั้นเมื่อไหร่