วันรับปริญญาของมหาวิทยาลัย เต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้ ลูกโป่ง และรอยยิ้มของผู้คนนับพัน แสงแดดแผดจ้าสะท้อนกับชุดครุยวิทยฐานะสีดำขลิบทองดูสง่างาม
แต่สำหรับลลิน... วันนี้คือวันแห่งการ "อำลา"
เธอเดินฝ่าฝูงชนเข้ามาในลานคณะ ในมือถือช่อดอกทานตะวันดอกเล็กๆ เพียงดอกเดียวที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาลเรียบง่าย มันเทียบไม่ได้เลยกับช่อเงินสดหรือช่อดอกไม้นำเข้าขนาดใหญ่ที่คนอื่นถือกัน
แต่เธอตั้งใจซื้อมันมา ด้วยเงินเก็บที่สะสมมา ก่อนที่เธอจะบินไปญี่ปุ่นในอีก 3 วันข้างหน้า เธอมาเพื่อบอกลา เพื่อตัดใจ และเพื่อแสดงความยินดีในฐานะ "รุ่นน้อง"
"เฮ้! ลลิน! ทางนี้!"
เสียงทุ้มที่คุ้นเคยตะโกนเรียก ลลินเงยหน้าขึ้น มองเห็น ภาคิน ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางกลุ่มเพื่อนและครอบครัว ข้างกายเขาคือ พิมพ์ลดา ซึ่งมาในชุดราตรีผ้าไหมที่ดูมีราคา พิมพ์ลดายืนเคียงคู่กับภาคินอย่างเป็นธรรมชาติ รอยยิ้มที่มอบให้กันไม่ได้มีแค่ความรักแบบคนหนุ่มสาว แต่มี ความเข้าใจและสายสัมพันธ์ ที่ถูกสร้างจากสถานะทางสังคมที่เท่าเทียมกัน ทุกอิริยาบถของพิมพ์ลดาแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของและ ‘ตัวจริง’ อย่างไร้ข้อกังขา
ลลินมองเห็นครอบครัวของภาคิน... บิดาที่ดูภูมิฐาน มารดาที่แต่งตัวหรูหรา ทั้งหมดต่างยืนถ่ายรูปร่วมกันอย่างมีความสุข ภาพนั้นสมบูรณ์แบบจนบาดตา มันคือภาพของ โลกที่เธอไม่มีวันก้าวเข้าไป
‘หมาหลงทางอย่างเธอ ไม่คู่ควรกับเขา...’ คำพูดของพิมพ์ลดาย้อนกลับมาตอกย้ำ ทุกอย่างที่เธอเห็นอยู่ตรงหน้า คือหลักฐานชั้นดีว่าการตัดสินใจตัดใจของเธอนั้นถูกต้องแล้ว
ใบหน้าหล่อเหลาเปื้อนรอยยิ้มกว้างที่มีความสุขที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็น เขารีบขอตัวจากวงญาติ แล้วเดินแหวกผู้คนตรงดิ่งมาหาเธอทันที
"พี่นึกว่าลินจะไม่มาซะแล้ว"
ภาคินพูดเสียงหอบเล็กน้อย แต่แววตาเป็นประกาย
"ต้องมาสิคะ... รุ่นพี่คนเก่งจบทั้งที" ลลินฝืนยิ้ม ยื่นดอกทานตะวันให้เขา
"ยินดีด้วยนะคะพี่ภาคิน ขอให้พี่ประสบความสำเร็จ เป็นผู้บริหารที่เก่งกาจนะคะ"
ภาคินรับดอกไม้ไป เขามองมันด้วยสายตาอ่อนโยนราวกับเป็นของมีค่าที่สุด
"ขอบคุณมากครับลิน... ขอบคุณจริงๆ"
เขามองหน้าเธอ นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอื้อมมือมาวางบนศีรษะเธอ แล้วโยกเบาๆ สัมผัสที่เคยทำให้หัวใจเธอพองโต วันนี้มันกลับกรีดลึกลงไปในแผลสด
"พี่ดีใจนะที่ได้ดูแลลินมาตลอด ลินเป็น น้องสาว ที่น่ารักและเก่งที่สุดเท่าที่พี่เคยเจอ"
คำว่า 'น้องสาว' ชัดเจน... หนักแน่น... และไร้ข้อกังขา สิ่งที่พิมพ์ลดาพูดเป็นความจริงสินะ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา มีแค่เธอที่คิดไปเอง สำหรับเขา เธอเป็นแค่น้องสาวที่น่าสงสาร ลลินกลืนก้อนสะอื้นลงคอ พยักหน้ารับคำนั้น
"ค่ะ... พี่ภาคินก็เป็น พี่ชาย ที่ดีที่สุดของลินเหมือนกัน"
"ไปญี่ปุ่นก็ดูแลตัวเองดีๆ นะ ตั้งใจเรียน ไม่ต้องห่วงทางนี้" ภาคินพูดด้วยความปรารถนาดีจากใจจริง
"ถ้ามีอะไรให้ช่วย... อย่าลืมนะ... พี่อยู่นี่เสมอ" เขายิ้มให้เธอเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะมีเสียงเรียกจากญาติๆ ให้เขาไปถ่ายรูปรวม
"พี่ไปก่อนนะลิน... โชคดีนะ" ภาคินหันหลังเดินกลับไปหาครอบครัวที่รออยู่... กลับไปหาครอบครัวและเพื่อนๆ โดยมีพิมพ์ลดาที่ยืนควงแขนคุณแม่ของเขาอย่างสนิทสนม
ภาพที่เหมาะสมและสมบูรณ์แบบนั้น ทำให้ลลินรู้ตัวว่าเธอเป็นเพียงส่วนเกิน เธอกำลังจะหันหลังกลับ
แต่สายตาเจ้ากรรม ดันเหลือบไปเห็นบางอย่างวางอยู่บนม้านั่งหินอ่อนใกล้ๆ จุดที่ภาคินเพิ่งลุกออกไป มันคือ "ใบปริญญาบัตร" และสมุดเฟรนด์ชิปที่เขาวางลืมไว้ตอนรีบเดินมาหาเธอ
ด้วยความหวังดี ลลินจึงเดินเข้าไปหยิบมันขึ้นมา ตั้งใจจะเอาไปคืนให้ญาติของเขา หน้าปกปกแข็งสีน้ำเงินกรมท่าสลักตรามหาวิทยาลัยสีทองอร่าม
ลมร้อนพัดวูบมา ทำให้ปกใบปริญญาเปิดแง้มออก ลลินไม่ได้ตั้งใจจะละลาบละล้วง แต่สายตาของเธอกวาดไปเห็นชื่อและนามสกุลเต็มของเขาบนกระดาษใบนั้นโดยอัตโนมัติ
นายภาคิน สุทธาทร เกียรตินิยมอันดับ 1
มือของลลินที่ถือปกปริญญาอยู่ สั่นระริก โลกทั้งใบหยุดหมุน เสียงอื้ออึงรอบข้างดับวูบไป เหลือเพียงเสียงวิ้งๆ ในหู
"สุทธาทร" นามสกุลนี้... มันไม่ใช่นามสกุลดาษดื่นทั่วไป แต่มันคือนามสกุลที่สลักลึกอยู่ใน "ใบแจ้งหนี้" และ "เอกสารฟ้องล้มละลาย" ของพ่อเธอ
มันคือนามสกุลของตระกูลมหาเศรษฐีเจ้าเล่ห์ ที่ใช้กลโกงทางธุรกิจฮุบกิจการของพ่อเธอ บีบให้ครอบครัวเธอหมดตัว จนพ่อกับแม่ต้องขับรถหนีหนี้และตกเขาตายในคืนฝนตกพายุโหมกระหน่ำ
นามสกุลของ "ฆาตกร" ที่พรากทุกอย่างไปจากชีวิตเธอ
"เป็นไปไม่ได้..." ลลินพึมพำเสียงสั่น ปากซีดเผือด เธอรู้จักเขาในชื่อ 'ภาคิน' มาตลอด เธอรู้แค่ว่าเขาบ้านรวย แต่เธอไม่เคยถามนามสกุลจริง
หรือบางที... เขาอาจจะใช้นามสกุลแม่ในการเข้าเรียนเพื่อเลี่ยงความวุ่นวาย
แต่วันนี้บนเอกสารราชการนี้... ความจริงปรากฏชัด ผู้ชายที่แสนดีคนนั้น ผู้ชายที่เธอรักหมดหัวใจ ผู้ชายที่เป็นแสงสว่างเดียวในชีวิตเธอ คือทายาทของปีศาจร้ายที่ทำลายชีวิตเธอ
"น้องครับ? เป็นอะไรรึเปล่า?"
รุ่นพี่คนหนึ่งเดินเข้ามาทักเมื่อเห็นเธอยืนตัวแข็ง ลลินสะดุ้งสุดตัว เธอวางใบปริญญานั้นลงบนม้านั่งราวกับมันเป็นของร้อน แล้วออกวิ่ง!
เธอวิ่งหนี วิ่งฝ่าฝูงชนออกมาอย่างไม่คิดชีวิต น้ำตาแห่งความสับสนและความเจ็บปวดไหลทะลักออกมา เธอวิ่งไปจนถึงหลังตึกคณะที่เงียบสงบ ทรุดตัวลงนั่งพิงกำแพง หอบหายใจอย่างหนักหน่วงเหมือนคนกำลังจะขาดใจตาย
มืออันสั่นเทาล้วงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มีคนเดียวที่จะยืนยันเรื่องนี้ได้ เธอจัดการกดโทรออกหา "คุณลุงธนู" ผู้ปกครองเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่
"ฮัลโหล... ลลิน มีอะไรลูก เสียงใจดีของลุงธนูดังขึ้น
"คุณลุงคะ..." ลลินเสียงสั่นเครือ พยายามควบคุมสติ
"ลินขอถามอะไรหน่อย... บริษัทที่โกงพ่อกับแม่... บริษัทที่ทำให้เราล้มละลาย... เจ้าของคือนามสกุล 'สุทธาทร' ใช่ไหมคะ?"
ปลายสายเงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนที่น้ำเสียงใจดีของคุณลุงธนู จะเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่เคร่งขรึมและเย็นเยียบ
"ทำไมจู่ๆ ถึงถามเรื่องนี้... ลินไปรู้อะไรมา?"
"ตอบลินมาเถอะค่ะลุง! ใช่ หรือ ไม่ใช่!" ลลินตะโกนทั้งน้ำตา
"ใช่..." ลุงธนูตอบชัดเจน
"ตระกูลสุทธาทร... พวกมันคือคนที่เหยียบย่ำครอบครัวเรา ใส่ร้ายพ่อของลินว่ายักยอกเงิน ทั้งที่พวกมันนั่นแหละที่เป็นคนทำ แล้วโยนความผิดให้พ่อเราตายฟรี... ลินถามทำไม?"
ลลินปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น เธอใช้กำปั้นทุบหน้าอกตัวเองที่เจ็บเจียนตาย
"รุ่นพี่ภาคิน... คนที่ลินเล่าให้ลุงฟัง... คนที่ลินรัก..." เธอกัดฟันพูดด้วยความเจ็บปวด
"เขาคือนายภาคิน สุทธาทร..." ความเงียบเข้าปกคลุมบทสนทนาอีกครั้ง
ลลินรอคอยคำปลอบโยน รอคอยให้ลุงบอกให้เธอตัดใจและหนีไปให้ไกล แต่สิ่งที่เธอได้ยิน... กลับเป็นเสียงหัวเราะ หึ หึ ในลำคอของคุณลุงธนู เสียงหัวเราะที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน
"โชคชะตามันเล่นตลกดีจริงๆ..." ลุงธนูเอ่ยขึ้น น้ำเสียงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง มันเต็มไปด้วยความเคียดแค้นที่ถูกกดทับมานานนับสิบปี
"ลิน... ฟังลุงนะ"
"คะ... คุณลุง?"
"ร้องไห้ให้พอ... เสียใจให้พอวันนี้ แล้วจงจำความเจ็บปวดนี้ไว้" ลุงธนูพูดช้าๆ ชัดๆ
"ไอ้เด็กนั่นมันอาจจะไม่รู้เรื่อง แต่มันก็เสวยสุขอยู่บนกองเงินกองทองที่ปล้นมาจากพ่อแม่ลิน มันมีความสุข ในขณะที่ลินต้องดิ้นรนแทบตาย"
"..."
"ความรักมันกินไม่ได้หรอกลิน... แต่มันฆ่าเราได้ ลินเห็นแล้วใช่ไหมว่าจุดจบของคนอ่อนแอคืออะไร" ลุงธนูเว้นจังหวะ ก่อนจะเอ่ยประโยคที่เปลี่ยนชีวิตลลินไปตลอดกาล
"ไปญี่ปุ่นซะ... ไปเรียนให้จบแล้วกลับมา... ลุงไม่อยากให้ลินกลับมาในฐานะ 'เหยื่อ' อีกต่อไป"
"..."
"แต่ลุงอยากให้ลินกลับมาเพื่อทวงทุกอย่างคืน... ทำให้พวกสุทธาทรมันรู้ว่า การสูญเสียสิ่งที่รักที่สุด... มันรสชาติเป็นยังไง แล้วลุงจะเตรียมทุกอย่างไว้รอลินกลับมา"
ลลินลดโทรศัพท์ลงช้าๆ คำสั่งของลุงธนู ดังก้องสะท้อนไปมาในหัว ผสมกับภาพรอยยิ้มของภาคิน... ภาพใบปริญญา... และภาพงานศพของพ่อแม่ ความรักที่เธอมีให้ภาคิน... มันบริสุทธิ์ แต่ความจริงที่โหดร้าย... มันสกปรกโสมม
เธอมองไปยังทิศทางที่ภาคินอยู่ เขาคงกำลังถ่ายรูป ยิ้มแย้ม มีความสุขกับครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ บนความทุกข์ของครอบครัวเธอ ความเจ็บปวดในอกค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความร้อนรุ่ม น้ำตาของลลินแห้งเหือดไป เหลือเพียงแววตาที่ว่างเปล่า... และแข็งกร้าวขึ้นมาทีละน้อย
"ลาก่อนค่ะ... พี่ชายที่แสนดี"
ลลินพึมพำกับสายลม เธอปาดคราบน้ำตาทิ้ง ลุกขึ้นยืนอย่างมั่นคง เธอจะไม่ใช่ลลินคนเดิมที่ร้องไห้ฟูมฟายอีกแล้ว เธอจะไปญี่ปุ่น... ไม่ใช่เพื่อหนี... แต่เพื่อเตรียมอาวุธ และวันหนึ่ง เธอจะกลับมา... ไม่ใช่เพื่อรักเขา แต่เพื่อ "แค้นรักคุณ"