❤︎ เปิดปมลึกของ แฟ้มลับ และขยับความสัมพันธ์ของลินาและหมอภาคินให้ลึกซึ้งขึ้น ขณะที่พวกเขาเผชิญความจริงที่ไม่ใช่แค่เกี่ยวกับสงคราม..แต่เกี่ยวกับอดีตของทั้งสองคนเอง
❤︎ ห้องปลอดภัยลับในสวิตเซอร์แลนด์ – 48 ชั่วโมงหลังการหลบหนี
❤︎ ห้องกระจกใสล้อมด้วยหิมะขาวโพลน โลกเงียบสงบจนไม่น่าเชื่อว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงกลางห้อง..เคยผ่านนรกมาแค่สองวันก่อน
❤︎ ลินาหลับสนิท ใบหน้าที่เคยเปื้อนเลือดกลับสะอาด ผิวซีดแต้มสีชมพูอ่อนจากน้ำเกลือที่ไหลผ่านแขน
สายออกซิเจนยังคาอยู่ใต้จมูกบอบบาง เธอดูเหมือน
“หญิงสาวธรรมดา”..ไม่ใช่มาเฟียผู้ที่มีเป้าหมายล่า
❤︎ ภาคินยืนเฝ้าเธอไม่ห่าง มือเขากำแฟลชไดรฟ์ไว้แน่น แน่นยิ่งกว่าครั้งไหน
❤︎ แฟ้มลับ ปฏิบัติการลับที่เคยถูกระบุว่า “ล้มเหลว” ในฐานข้อมูลพันธมิตร แต่ความจริงที่เขาพบ..คือมันไม่เคยถูกยกเลิกเลย
❤︎ เขาเสียบไดรฟ์เข้าคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมผ่านระบบปิด หน้าจอแสดงข้อมูลอย่างรวดเร็ว ชื่อ..วันที่..ตำแหน่ง..และภาพเก่าๆ ของชายในเครื่องแบบทหาร
❤︎ แต่ชื่อที่ทำให้มือเขาชะงัก..คือชื่อสุดท้ายในแฟ้ม
ดร.นที ธาราพิสุทธิ์ ผู้อำนวยการภาควิชาศัลยกรรมหัวใจ/ที่ปรึกษาพิเศษด้านการเจาะระบบทางชีวภาพ
❤︎ ภาคินแทบหยุดหายใจ
❤︎ พ่อของเขา..มีส่วนร่วมใน ปฏิบัติการแฟ้มลับ
❤︎ เขากะพริบตาช้าๆ เหมือนพยายามลบสิ่งที่เห็น
❤︎ แต่ข้อมูลยังไหลต่อ..“หน่วย Ashthorn พัฒนาระบบควบคุมชีวเคมีผ่านคลื่นหัวใจ เพื่อเจาะระบบอาวุธไฮเทคของตระกูลเดอลาเซ่ โดยใช้คนกลางที่มีพันธุกรรมตรงกัน..” “เป้าหมายปลายทาง ลินา เดอลาเซ่ทายาทที่ไม่เคยถูกเปิดเผย”
❤︎ ภาคินขยับตัวถอยราวถูกผลักด้วยแรงที่มองไม่เห็น ลินาไม่ใช่แค่เป้าหมาย..เธอคือหัวใจของทั้งระบบ..?
และเขา..คือหมอที่ถูกฝึกให้เจาะรหัสนั้นผ่านชีพจรของเธอ
“ฉันถูกส่งมาเพื่อเข้าถึงเธอ..ในทุกทาง”
เขากำหมัดแน่น เสียงหัวใจเต้นรัวไม่ต่างจากตอนที่เขารู้ว่าเธอจะตาย
❤︎ แต่ตอนนี้..เขากลัวว่าเธอจะมีชีวิตอยู่ แล้วเกลียดเขาไปตลอด
“คุณควรจะบอกฉันก่อน”
❤︎ เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นเบาๆ จากเตียง ภาคินสะดุ้ง หันไปเห็นลินาลืมตา มองเขานิ่งๆ ไม่มีแววโกรธ แต่มีอะไรบางอย่างลึกกว่านั้น
“ฉันไม่รู้..” เขากลืนน้ำลาย “ฉันไม่เคยรู้ว่าพ่อมีส่วนร่วม..จนวันนี้”
❤︎ ลินาหลบตา เหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่างในใจ
“แล้วถ้าฉันเป็นแค่กุญแจ..คุณยังอยากรักษาฉันอยู่ไหม?”
❤︎ ภาคินเดินเข้ามาใกล้ จับมือเธอไว้ มือที่เคยเปื้อนเลือดแต่บัดนี้อ่อนโยน
“ฉันไม่รักษากุญแจ ฉันรักษาหัวใจ
❤︎ หัวใจของผู้หญิงคนหนึ่ง..ที่เคยยอมตายเพื่อไม่ให้ใครเจ็บแทนเธออีก”
❤︎ เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยกมือเขาขึ้นแตะแก้มตนเอง
“งั้นรักษาฉันให้อยู่..จนกว่าจะถึงวันที่เราจะเปิดโปงความจริงไปด้วยกัน”
❤︎ เขาพยักหน้า
❤︎ และในวินาทีนั้น เขารู้ว่าเธอไม่ใช่ เป้าหมายอีกต่อไป เธอคือพาร์ตเนอร์ของเขาในสงครามที่ทั้งโลกยังไม่รู้ว่าจะเริ่มขึ้นเมื่อใด
❤︎ ได้เวลาให้ “หัวใจ” ได้พักจากสนามรบสักครู่ เพื่อเติมความอบอุ่นและความใกล้ชิดระหว่าง ลินา และ หมอภาคิน ในช่วงพักฟื้นที่เงียบสงบ เต็มไปด้วยอารมณ์ที่อัดแน่นอยู่ภายในตลอดหลายวันที่ผ่านมา
❤︎ อุณหภูมิของหัวใจ
❤︎ วันที่ 5 หลังการผ่าตัด – ห้องพักฟื้นส่วนตัวในสวิตเซอร์แลนด์
❤︎ แสงแดดยามบ่ายส่องผ่านม่านผ้าสีครีมอบอุ่น กลิ่นดอกลาเวนเดอร์แห้งในแจกันกระเบื้องลอยบางเบาในห้องพักฟื้น
❤︎ เตียงผู้ป่วยกลางห้องไม่ได้ดูเหมือนสถานพยาบาล แต่คล้ายห้องนอนรีสอร์ตหรูในเทือกเขาเงียบสงบ
❤︎ ลินานั่งเอนพิงหมอนสูง ใบหน้าเริ่มมีเลือดฝาด ผมยาวปล่อยสยายเป็นคลื่นเหนือบ่าที่คลุมด้วยเสื้อคลุมไหมขาว
❤︎ เธอมองออกไปยังทิวเขาเบื้องนอกอย่างเหม่อลอย ก่อนจะได้ยินเสียงฝีเท้าแผ่วเบา
“ไข้ไม่มีแล้ว” ภาคินพูดพลางเดินเข้ามาพร้อมแก้วชาร้อน
“แต่หัวใจยังเต้นแรงอยู่” เขาแกล้งกระซิบเบาๆ ข้างหู ก่อนจะส่งถ้วยชาให้
❤︎ ลินาหันมาสบตาเขา พลางหัวเราะเบา ๆ “คุณฟังชีพจรฉันอีกแล้วใช่ไหม”
“ฉันเป็นหมอ..และเป็นคนรักที่ดีด้วยนะ” เขาพูดอย่างตรงไปตรงมา พร้อมวางมือแตะหลังมือเธอ
❤︎ บรรยากาศในห้องเงียบไปชั่วขณะ ไม่ใช่เพราะความอึดอัด แต่เพราะทุกอย่างสงบนิ่งเกินกว่าจะรีบร้อนพูดอะไร
“ภาคิน” ลินาเอ่ยเบาๆ “ถ้าวันนั้นฉันไม่บาดเจ็บหนัก..เรายังจะได้ใกล้กันขนาดนี้ไหม”
❤︎ เขานิ่ง ก่อนย่อตัวลงนั่งข้างเตียง มือเขาแตะแก้มเธออย่างแผ่วเบา
“ฉันว่ามันไม่เกี่ยวกับบาดแผลที่ร่างกาย…แต่มันคือบาดแผลในใจเธอ ที่เปิดให้ฉันได้เข้าไป”
❤︎ ลินายิ้มจางๆ แล้ววางแก้วชาไว้บนโต๊ะ
❤︎ จากนั้นเธอเอื้อมมือจับชายเสื้อกาวน์ของเขา ดึงเบาๆ ให้เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้
❤︎ เสียงหัวใจของทั้งคู่ดังก้องในความเงียบ ไม่ใช่เพราะเครื่องวัดชีพจร..แต่เพราะระยะห่างระหว่างริมฝีปากนั้นบางเกินกว่าจะปฏิเสธความรู้สึกได้
“คุณช่วยฉันไว้หลายครั้ง” เธอพูดเสียงแผ่ว
“แต่ฉันยังไม่เคยขอบคุณคุณ..ในแบบที่ฉันอยากจะขอบคุณเลย”
❤︎ เขาชะงัก แต่ไม่ถอย สายตาทั้งคู่จ้องกันอย่างคนที่รู้ว่าคำพูดไม่จำเป็นอีกต่อไป
❤︎ ริมฝีปากเธอแตะกับเขาเบาๆ..เป็นจูบที่ไม่มีความเร่าร้อน แต่กลับอบอุ่นเกินกว่าจะเรียกว่าธรรมดา
❤︎ ภาคินประคองหลังเธออย่างทะนุถนอม ปลายนิ้วไล้ผ่านแนวสันหลังที่ซ่อนรอยแผลไว้
❤︎ เธอหลับตาลงอย่างวางใจ ปล่อยให้ตัวเองได้พักเป็น “ผู้หญิงคนหนึ่ง” ไม่ใช่นายหญิงมาเฟียอีกต่อไป
❤︎ เมื่อถอนจูบออก เขาหยุดมองเธอครู่หนึ่งก่อนเอ่ยเบาๆ
“รู้ไหม..ฉันไม่ได้ตกหลุมรักเธอเพราะเธอเข้มแข็ง
แต่เพราะเธออ่อนแอได้..แค่กับฉันคนเดียว”
❤︎ น้ำตาเธอไหลช้าๆ อย่างไม่รู้ตัวไม่ใช่เพราะเจ็บ
แต่เพราะเธอเพิ่งรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่ลำพังในโลกนี้อีกต่อไป
❤︎ เธอซุกหน้ากับอกเขา ฝ่ามือกอดรัดรอบเอวเสื้อกาวน์ไว้แน่น ไม่มีเสียงปืน ไม่มีสายเลือด มีแค่เสียงหัวใจสองดวงที่บรรจบกันในจังหวะเดียว ใต้ผ้าห่มผืนเดียวในห้องฟื้นตัวกลางภูเขา
❤︎ และมันอุ่น..อุ่นกว่าทุกครั้งที่พวกเขาเคยสัมผัสไฟ
“คืนเดียว” ที่หัวใจทั้งสองดวงจะได้พักจากโลกที่เต็มไปด้วยสงคราม ความลับ และเลือด
❤︎ เพื่อใช้ช่วงเวลาแสนอบอุ่นร่วมกันอย่าง คนธรรมดา แม้เพียงค่ำคืนเดียว ก็เพียงพอให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาลึกซึ้งจนยากจะย้อนกลับไปเหมือนเดิม
❤︎ คืนเดียว..ในอ้อมกอดที่ปลอดภัย
❤︎ คืนนั้น ณ ห้องพักบนเทือกเขา
❤︎ หิมะขาวเริ่มโปรยปรายลงมานอกหน้าต่างราวกับผืนผ้าห่มจากฟ้าที่ค่อยๆ คลุมทุกบาดแผลในโลกนี้
❤︎ เตาผิงในมุมห้องเปล่งแสงส้มอบอุ่น แสงไฟสลัวสะท้อนเงาร่างของชายหญิงสองคนที่นั่งข้างกันบนโซฟากลางห้อง
❤︎ ลินานั่งพิงหมอนนุ่ม สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวของ
ภาคินแทนชุดผู้ป่วย ผมยาวเปียกหมาดๆ จากการอาบน้ำ
❤︎ ภาคินสวมเสื้อยืดธรรมดา กำลังต้มโกโก้อุ่นในครัวเล็กๆ ของห้องพัก
“คุณชอบเงียบๆ แบบนี้เหรอ” เธอถามขณะจิบโกโก้ที่เขายื่นให้
“ก็ไม่เชิง..” เขายิ้ม “..แต่ฉันชอบฟังเสียงเธอหายใจตอนไม่มีเสียงปืนขัดจังหวะ”
❤︎ ลินาหัวเราะเบาๆ แล้วเงียบไป เธอมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดโดยไม่สบตา
“คืนนี้ฉันขอนอนที่นี่ได้ไหม?”
❤︎ ภาคินชะงักไปเล็กน้อย ก่อนวางแก้วลงข้างตัว
เขาหันกลับมา มองเธออย่างตรงไปตรงมา
“นี่ไม่ใช่เพราะเธอกลัวใช่ไหม?”
❤︎ เธอสบตาเขาในที่สุด ดวงตาเต็มไปด้วยแสงที่อ่อนโยนอย่างน่าแปลก
“ไม่..ฉันแค่อยากอยู่ใกล้คนที่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือน มีชีวิตอยู่จริงๆ..สักคืน”
❤︎ ภาคินไม่ได้ตอบ เขาแค่ขยับเข้ามาใกล้ กุมมือเธอไว้ในความเงียบ และพาเธอลุกขึ้นช้าๆ ไปยังเตียงนอนริมหน้าต่าง
❤︎ หิมะยังคงตก แต่ภายในห้องกลับอบอุ่นเกินกว่าจะสวมเสื้อหนา
❤︎ เตียงเล็กๆ..แต่ใจของทั้งสองกว้างพอจะรองรับกัน
❤︎ ภาคินเอนกายลงข้างเธอ ช้าและเบาที่สุดราวกลัวทำลายความฝันนี้ให้แตกสลาย
❤︎ เขาหยิบผ้าห่มผืนเดียวคลุมตัวทั้งคู่ ก่อนจะเอื้อมแขนดึงเธอเข้ามาแนบอก
❤︎ ลินาซุกหน้าแนบแผงอกเขา มือเรียวแตะเหนือหัวใจเขาช้าๆ
“มันยังเต้นแรงอยู่เลย…”
“เพราะเธออยู่ใกล้ไง”
❤︎ เธอหัวเราะเบาๆ แล้วเงียบไป ราวกับปล่อยให้คืนที่ปลอดภัยนี้โอบกอดเธอแทนโลกทั้งใบ
เขาก้มจูบหน้าผากเธอเบาๆ ก่อนจะกระซิบ
“ถ้าโลกจะพังพินาศในวันพรุ่งนี้ ฉันก็ไม่ขอเปลี่ยนค่ำคืนนี้..แม้แต่นิดเดียว”
❤︎ เธอหลับตา ยิ้มบาง ๆ แล้วเอื้อมมือวางบนแก้มเขา
“งั้นคืนนี้..เราจะเป็นแค่ ลินา กับ ภาคิน ไม่ใช่มาเฟีย ไม่ใช่หมอ ไม่ใช่อาวุธ ไม่ใช่กุญแจ”
❤︎ ภาคินสอดมือใต้ท้ายทอยเธอ ดึงเธอเข้ามาแนบชิด ริมฝีปากแตะกันอีกครั้ง ลึกซึ้งกว่าเดิม ช้ากว่าเดิม แต่มั่นคงยิ่งกว่าเดิม
❤︎ เขาไล้ปลายนิ้วตามแนวหลังเธออย่างทะนุถนอม จูบทุกแผลเป็นราวกับบอกว่า “เธอยังสวยแม้จะผ่านนรก”
❤︎ เธอแตะหน้าท้องเขาเบาๆ แล้วซุกลงบนอกเขาเหมือนแมวหาที่นอน เป็นครั้งแรกในชีวิต..ที่เธอรู้สึก “ปลอดภัย”
❤︎ คืนนั้น..ไม่มีเสียงปืน ไม่มีระเบิด ไม่มีรหัสลับ
มีเพียงสองคน..ที่ปลดเปลื้องทุกบทบาท เพื่อเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่แค่ “รักกัน”
❤︎ และในความเงียบสงบของหิมะที่ตกช้าๆ..
พวกเขาสร้างโลกใบเล็กขึ้นมาในอ้อมแขนกันและกัน แม้เพียงคืนเดียว แต่เป็นคืนที่ไม่มีใครลบได้..แม้แต่สงคราม
❤︎ ค่ำคืนแห่งความอบอุ่นในอ้อมแขน “ภาคิน” และ “ลินา” เช้าวันใหม่ก็เปล่งประกายด้วยแสงอุ่นไม่ต่างจากหัวใจของพวกเขา เรื่องราวความโรแมนติกจะไม่เร่งรีบ…แต่จะอบอวลเหมือนกลิ่นกาแฟในยามเช้า ให้คุณสัมผัสถึงความ รักที่เติบโตจากความเข้าใจลึกที่สุด
=>แสงแรกในสายตาเธอ
❤︎ แสงแดดยามเช้าทอผ่านผ้าม่านโปร่งเบาบาง ปลายแสงแตะผิวแก้มของหญิงสาวที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง
❤︎ เธอนอนหันหน้าเข้าหาอกของเขา มือเล็กซุกอยู่ใต้เสื้อยืดของเขาอย่างเผลอไผล
❤︎ ภาคิน ตื่นก่อน ไม่ใช่เพราะเสียงนาฬิกาแต่เพราะแรงขยับเบาๆ ของเธอในอ้อมแขน
❤︎ เขามองใบหน้าของเธอในระยะประชิด..เปลือกตาบางข้างหนึ่งขยับน้อยๆ ตามฝัน ปลายปากเผยอเพียงนิดเหมือนกำลังพึมพำบางอย่าง
❤︎ เขายิ้ม..แล้วกระซิบเบาๆ ข้างหูเธอ
“อย่าบอกนะว่าฝันถึงฉัน..เพราะเมื่อคืนเราก็ใช้ฉันหมดไปทั้งคืนแล้วนะ”
❤︎ ลินาขมวดคิ้วเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ ลืมตา
เธอยกมือปิดหน้าอย่างเขินหน่อยๆ แต่ยังไม่ถอยจากอ้อมกอดของเขา
“คุณตื่นมากวนแต่เช้าเลยเหรอคะ?”
“ก็มีผู้หญิงสวยมาซุกอกทั้งคืน ใครจะหลับล่ะเขายิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะจูบเบาๆ ที่หน้าผากเธอ
“หรือ..เธอจะคิดว่าเมื่อคืนแค่ฝันไป?”
❤︎ ลินาชะงัก แล้วยิ้มมุมปากอย่างท้าทาย
❤︎ เธอเลื่อนตัวขึ้นจนระดับสายตาเท่ากัน แล้วกระซิบกลับ
“ฝันอะไรจะมีเสียงหัวใจคุณดังขนาดนี้ล่ะ”
❤︎ ภาคินหัวเราะในลำคอ ก่อนจะพลิกตัวนอนตะแคงมองเธอเต็ม ๆ
❤︎ มือเขาวาดเส้นผมของเธอเบา ๆ ไล้จากขมับลงมาจนถึงแนวกราม แล้วแตะปลายนิ้วที่ริมฝีปากเธอ
“รู้ไหม…ถ้าไม่ติดว่าเธอบาดเจ็บอยู่ ฉันคงไม่ปล่อยให้เช้านี้ผ่านไปเฉยๆ”
❤︎ ลินาหัวเราะ หยิบหมอนใบเล็กตีไหล่เขาเบาๆ“ก็คุณเป็นหมอ..คุณควรรู้นะคะว่าผู้ป่วยต้องพักผ่อน”
“แต่เธอเป็นผู้ป่วยที่ทำให้หมออยาก ‘เสียจรรยาบรรณ’ ทุกครั้งที่เห็นยิ้มแบบนั้น”
❤︎ ลินาหน้าแดง ยกผ้าห่มขึ้นบังหน้า
❤︎ ภาคินอดไม่ได้ที่จะก้มลงหอมหน้าผากเธออีกครั้ง หอมอย่างเบาที่สุด แต่ก็ลึกที่สุด
❤︎ สักพัก..เสียงจากครัวก็ดังขึ้นเบาๆ
❤︎ ภาคินลุกออกจากเตียง ห่มผ้าให้เธอ แล้วเดินไปชงกาแฟและขนมปัง
ลินามองแผ่นหลังเขา..สูง สงบ และอบอุ่น
❤︎ เธอพูดเบา ๆ เหมือนกับว่ากำลังบันทึกคำสารภาพไว้ในใจ
“ไม่รู้ว่าสงครามจะกลับมาเมื่อไหร่..แต่ฉันจะจำ เช้านี้ให้แม่นกว่าทุกภารกิจที่เคยวางแผน”
❤︎ ภาคินหันกลับมาพร้อมกาแฟสองแก้ว และเสียงหัวเราะในลำคอ
“พูดอะไรล่ะ..ฉันยังไม่ได้ยินคำว่า ‘รัก’ จากเธอเลยนะ”
❤︎ ลินาสบตาเขา แล้วพูดนิ่ง ๆ แต่หวานลึกกว่าทุกบทสนทนาในชีวิต
“หมอภาคิน..” “..ฉันรักคุณ”
❤︎ เช้าวันนั้นไม่มีข่าวลือ ไม่มีคำสั่งภารกิจ ไม่มีศัตรูในกระจก มีเพียงแค่คนสองคน ที่เคยผ่านทุกอย่างมา และสุดท้ายก็ยังเลือกจะ รักกันในวันที่ปลอดภัย
..แม้ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะปลอดภัยแค่ไหนก็ตาม
𖧷𖡼𖥧𖤥𖡼𖥧𖤥𖤣