28/10/20xx
20.36 น.
"แล้วเรียนหนักไหม?"
(ก็ไม่ ก็เรียนแบบปกติแหละแค่มันได้ปฎิบัติเยอะ)
"แต่ก็ดีเลยดิ เราก็จะได้ฝึกไปด้วยเลย"
(อืม แต่ก็เบื่ออยู่นะเพราะสิ่งที่เรียนมันเคยทำหมดแล้ว)
"ก็ใช่สิทร็อตมีอู่เป็นของตัวเองแล้วนิ"
(อืม นั้นก็อีกเรื่องนึงไหมโยงทำไมเนี้ย?)
"พูดถึงไม่ได้"
(พูดถึงตลอดแต่พอชวนมาดูกลับปฎิเสธนี่มันน่าจับตีก้นไหมล่ะ?)
"ตีบ้าตีบออะไรล่ะ!"
(หน้าแมวเอ้ย...)
"จิ๊!"
ฉันขู่คนที่อยู่ในจอโทรศัพท์ตัวเองเบาๆพร้อมกับทร็อตที่หัวเราะออกมาอย่างกวนๆกับการขู่แบบเด็กๆของฉัน ตอนนี้เรากำลังวิดิโอคอลกันอยู่น่ะและฉันก็กำลังถามเรื่องที่เรียนของทร็อตอยู่แต่ไม่รู้ว่าทำไมสุดท้ายแล้วเราก็วกกันมาเรื่องนี้ ตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมาคงมีวันนี้ละมั่งที่ฉันได้คุยกับทร็อตจริงจังเพราะฉันก็ติดเรียนละงานมาตลอดส่วนทร็อตเขาก็เช่นกันอีกอย่างฉันก็เพิ่งรู้ว่าเจ้าตัวเปิดอู่ด้วย...นี่เขาไม่ใช่รวยแบบธรรมดาแล้วล่ะฉันว่า แต่ทร็อตก็ไม่ใช่ผู้ชายที่จะชอบอวดอะไรเขาออกจะกวนโอยซะด้วยซ้ำหลังจากที่คุยๆกับเขามาเกือบอาทิตย์
(วันนี้นอนที่อู่คนเดียวล่ะ)
"แล้ว...?"
(ฉันกลัวผี อีกอย่างที่นี้มันก็หนาวมาก)
"หรอ ผ้าห่มนายผืนใหญ่กว่าฉันด้วยซ้ำทร็อตอย่ามา"
(ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย โคตรกลัว)
"พูดอะไรก็ให้มันสัมพันธ์กับสายตาตัวเองหน่อยเถอะ"
ฉันว่าขึ้นยิ้มๆพร้อมกับมองทร็อตที่นอนคว่ำหน้าไปกับเตียงมองมาที่ฉันอยู่ด้วยสีหน้านิ่งๆของเจ้าตัว แต่มันกลับให้ความรู้สึกว่าสายตาเขาในตอนนี้มันดูอ้อนๆเหมือนกับพวกหมาน้อยเลยล่ะ...หมาที่กำลังอ้อนเจ้าของ
(มานอนด้วยกันไหม?)
"ทร็อต!"
(อะไรเล่า?)
"คิดอะไรบ้างครั้งก็ไม่ต้องพูดออกมาก็ได้มะ"
(คิดอะไรก็แค่ชวนมานอนเฉยๆ หนามล่ะคิดอะไร...หื้ม?) ฉันขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่พอใจพร้อมกับมองทร็อตที่กำลังยิ้มอย่างพอใจอยู่ (ถ้าทำหน้าแบบนี้เวลาอยู่ตรงหน้านะ...)
"ทำไม จะทำอะไร?"
(ไม่รู้ แต่รับรองว่าหนามลืมไม่ลงแน่ๆ)
"ถ้ายังไม่หยุดจะตัดสายละนะ"
(ใจร้ายว่ะ)
"ใจร้ายอะไร ใจร้ายยังไง ^^"
(ก็ที่ทำอยู่นี่อ่ะใจร้าย)
ฉันหรี่ตามองทร็อตที่เงียบไปด้วยสายตากวนๆ ก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อเจ้าตัวค่อยๆมุดหน้าลงไปกับที่นอนของตัวเองจนทำให้ฉันในตอนนี้เห็นแค่ผมของเขา
"อยากนอนยัง นอนไหม?"
(นี่ไล่?)
"ก็เปล่า เห็นมุดหน้าหนีก็นึกว่าจะนอน"
(...พรุ่งนี้ว่างไหม?)
"อืม...ก็ว่างนะวันเสาร์พอดี"
(ไปเที่ยวกันไหม?)
"เที่ยว? เที่ยวไหน?"
(ไม่รู้...แต่อยากไปเที่ยวกับหนาม)
ฉันนิ่งไปทันทีที่ทร็อตว่าขึ้นแบบนั้นเขาสบสายตากับฉันนิ่งผ่านจอโทรศัพท์ของเราสองคน ฉันค่อยๆยิ้มออกมาก่อนจะพยักหน้าลงช้าๆ...ไปเที่ยวกับทร็อต มันก็ไม่มีเหตุผลที่ฉันจะปฎิเสธนิ
(จริงน่ะ?)
"เอ้า จริงดิทำไมหรือพูดเล่น?"
(บ้าใครพูดเล่นกัน งั้นพรุ่งนี้ตอนเช้าจะไปรับอยู่บ้านนะ)
"มารับหน้าปากซอยดีกว่านะ เดียวหนามออกไปรอหน้าเซเว่น"
(เอางั้นหรอ?)
"อืม...งั้นนอนเลยไหม"
(หนามนอนเลย)
"อ้าวไมไม่นอนอ่ะ?"
(ให้หนามนอนก่อน ไม่ต้องตัดสายนะ)
ฉันยิ้มออกมาอย่างทำอะไรไม่ถูกเมื่อทร็อตบอกแบบนั้นพร้อมกับมือของฉันที่ค่อยๆยกขึ้นเกาหัวตัวเองเบาๆ ทร็อตที่ยังคงมองฉันอยู่มันจึงทำให้ฉันทำอะไรไม่ได้ไปกว่าทำตามเขา...มันก็เขินๆนะที่ทร็อตจะมามองฉันนอนแบบนี้ ฉันค่อยๆทิ้งหัวลงบนหมอนโดยที่มืออีกข้างก็ถือโทรศัพท์ไปด้วย
"จะนอนมองกันงี้จริงๆอ่ะ?"
(อืม...ทำไมเขินหรอ?)
"..."
เออดิว่ะ ถามแปลกๆไอ้นี่!....ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆกับความคิดของตัวเองก่อนจะเอามือถือไปวางอิงหัวเตียงไว้ให้เห็นฉันที่กำลังนอนอยู่มันจึงทำให้เราสองคนในตอนนี้กำลังนอนมองหน้ากันอยู่
(ฝันดี)
"อืมฝันดี ^^"
ฉันเอ่ยตอบเขาเบาๆพร้อมกับตาตัวเองที่ปิดลงช้าๆเพราะความเพลีย ฉันที่เหนื่อยมาทั้งวันจึงหลับเข้าไปสู่ห้วงแห่งความฝันทันทีหลังจากบอกทร็อตไปแบบนั้นฉันไม่รู้ว่าเขาหลับไปตอนไหนแต่ฉันกลับฝันดีอย่างบอกไม่ถูก มันเป็นความฝันที่ดีเอามากๆและฉันก็หวังว่าคนที่บอกฝันดีฉันจะฝันดีเช่นกัน....
29/10/20xx
09.36 น.
"วันนี้วันหยุดนิ จะไปไหน?"
"ไปเที่ยวกับเพื่อนน่ะค่ะ"
"แทนที่วันหยุดจะรู้จักอยู่บ้าน นี่แรดไปนั้นนี่เหมือนแม่ไม่มีผิด!"
ฉันที่กำลังก้มใส่รองเท้าอยู่ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองประตูบ้านตัวเองด้วยสายตาเอือมๆก่อนที่จะค่อยๆลุกขึ้นยืนและหันไปมองแม่เลี้ยงฉันที่กำลังนั่งอยู่โซฟากลางบ้านด้วยสายตานิ่งเรียบ
"จะว่าก็ว่าแค่หนามคนเดียวเถอะค่ะ อยากเอาคนอื่นมายุ่งเลย"
"หึ ปกป้องมันดีนิมันเคยปกป้องอะไรแกไหมล่ะ?"
"ไม่เคยค่ะ แต่ก็ไม่เคยทำร้ายเหมือนใครบางคน"
ปึ่ก!
"เดียวนี้แกกล้าย้อนฉันหรอนังหนาม!"
"ปรกติหนามก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วนิคะ ถ้าจะหาเรื่องด่าก็ด่ามาเถอะค่ะอย่ามาโยงแม่น้ำเลย!"
"อีเด็กเนรคุณ นี่ไม่เคยสำเนียกเลยรึไงว่าใครเลี้ยงแกมา!"
"พ่อค่ะ พ่อเลี้ยงหนามมา!"
"แต่พ่อแกตายแล้วและที่แกมีที่ซุกหัวนอนอยู่ทุกวันนี้มันเพราะฉันจำใส่กะโหลกแกไว้ด้วยนะ!!"
"โว๊ย!! เสียงดังอะไรแต่เช้าวะ!!?"
ฉันเม้มปากเข้าหากันแน่นพร้อมกับมองไตตั้ลที่เดินออกมาจากห้องตัวเองด้วยความโมโห มันหรี่ตามองมาที่ฉันอย่างสงสัยก่อนจะเหยียดยิ้มออกมาช้าๆ
"แต่งตัวสวยแบบนี้จะไปเดท?"
"ฉันจะไปไหนก็เรื่องของฉัน!"
"พูดกับคนที่เขาเป็นพี่แกให้มันเพราะๆหน่อยหนามเตย แต่เดียวนะนี่แกคบผู้ชายงั้นหรอ?"
"เออสิแม่ รวยด้วยนะ ^^"
ฉันมองไอ้ไตตั้ลที่มันว่าขึ้นแบบนั้นด้วยสายตาเรียบนิ่งและคำตอบของมันนั้นทำให้แม่ที่ฟังอยู่ตาลุกทันที เธอลุกขึ้นและเดินเขามาหาฉันและมองฉันอย่างไม่เชื่อสายตา
"นี่แกมีแฟนรวยทำไมไม่บอกฉัน!?"
"เขาไม่ใช่แฟนหนาม"
"เขามาตามจีบมันน่ะแม่ ไอ้นั้นเป็นเจ้าของอู่ซ้อมรถด้วยแม่น่าจะเคยเห็นร้านมันนะมีร้านเดียวที่โคตรจะใหญ่"
"ห๊ะ นี่ไอ้หนุ่มนั้นมันรวยขนาดนั้นเลยรึไง!?"
"เออดิ น้องมันก็มีสนามแข่งนี่แค่ลูกๆผมล่ะไม่อยากจะคิดว่าถ้าเป็นพวกพ่อกับแม่นี่จะขนาดไหน"
"แล้วทำไมแกไม่รีบบอกฉันห๊ะไอ้ตั้ล!"
"อ้าว แม่เคยอยู่บ้านซะที่ไหน?"
"ช่างเถอะ! หนามแกต้องคว้ามันให้ได้เลยนะ"
"แล้วทำไมหนามจะต้องทำ"
เพี๊ยะ!
"แค่นี้ก็ไม่มีจะแดกกันอยู่แล้วอย่ามาทำเป็นห่วงศักดิ์ศรี!!"
ฉันหันหน้าหนีทันทีที่โดนเธอตีแขนอย่างแรงก่อนจะเดินหนีหากเธอไม่จับต้นแขนฉันไว้และดึงให้กลับไปยืนต่อหน้าเธอ คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยงฉันมองฉันด้วยสายตาหน้ากลัวพร้อมกับบีบแขนฉันแรงมากขึ้น
"แม่ไม่ต้องทำมันขนาดนั้นหรอก...ถ้ามันไม่คิดจะเอาเขามันจะไปเที่ยวกับเขาทำไม?"
"เออว่ะ..." เธอสบัดมือออกจากแขนของฉันพร้อมกับยิ้มออกมารอยยิ้มที่น่ารังเกียจ เธอยกนิ้วขึ้นชี้หน้าฉันช้าๆ "อย่าคิดจะไปสบายคนเดียว เพราะแกยังต้องตอบแทนฉันอีกมากหนามเตย!"
พรึ่บ! ปั่ง!
ฉันมองขึ้นฟ้าทันทีขณะที่ขาตัวเองก็เร่งเดินออกมาให้ห่างจากบ้านหลังนี้ ฉันปล่อยให้น้ำตาตัวเองไหลลงและปาดมันทิ้งแทบจะทันทีร้องไห้น่ะร้องได้แต่ฉันพูดกับตัวเองแล้วว่าจะต้องไม่มีใครที่จะได้เห็นมัน...ฉันเคยบอกแล้วไงว่าหากไตตั้ลรู้แม่ของมันก็จะรู้ด้วยและยิ่งเธอได้รู้ว่าทร็อตรวย มันยิ่งทำให้เธอกระหายมากขึ้นเท่านั้น ฉันพยายามจะเลี่ยงเธอมาหลายครั้งแล้วแต่สุดท้ายก็จบลงที่เดิม...และสุดท้ายคนที่แย่คงไม่ไม่ใช่ใครถ้าไม่ใช่เขา ฉันไม่อยากลากเขาให้เข้ามายุ่งกับครอบครัวบ้าๆของฉันแบบนี้เลย ทร็อตไม่ควรที่จะรู้จักฉันด้วยซ้ำ
"เตย...หนามเตย"
"อ๊ะ...!"
ฉันสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงความเย็นที่แนบอยู่ที่ใบหน้าตัวเองก่อนจะเงยหน้ามองทร็อตอย่างตกใจ เจ้าตัวที่เห็นฉันที่ตกใจขนาดนั้นยิ้มออกมาบางๆ ก่อนที่เขาจะยกขวดน้ำที่ตัวเองเอามาแนบหน้าฉันขึ้นพร้อมกับโบกไปมาคล้ายกำลังทักทายฉันอยู่ ฉันยกมือขึ้นจับผมตัวเองทัดหูช้าๆก่อนจะส่งยิ้มกลับให้เขาบางๆ
"คิดอะไรอยู่ ฉันมาตั้งนานจนไปซื้อน้ำเสร็จเธอก็ยังไม่รู้ตัวว่าฉันมา?"
"โทษที...พอดีคิดอะไรเพลินๆอยู่น่ะ"
"คงไม่ได้คิดถึงใครที่ไหนนอกจากฉันใช่ไหม?"
"มาถึงก็ขู่เอาขู่เอา"
"หยอกหรอกน่ะ"
"หน้าตานี่โคตรจะจริงจัง!"
ฟึ้บ!
"อย่าเดียวผมยุ่ง!"
"ห่วงสวยทำไม สวยแค่ให้ฉันดูคนเดียวก็พอ!"
ฉันเม้มปากเข้าหากันทันทีพร้อมกับมองคนตรงหน้าที่กำลังเอื้อมมือตัวเองมาขยี้ผมฉันอยู่อย่างไม่พอใจ จะห้ามก็ห้ามไม่ทันแล้วล่ะผมฉันมันยุ่งไปหมดแล้ว! ทร็อตยิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนจะเอื้อมมือมากุมมือฉันไว้และออกแรงดึงให้เดินตามเขาไปที่รถมอไซต์คันใหญ่ของเขาที่จอดอยู่ ฉันเหลือบมองมือตัวเองที่ถูกมือใหญ่ของคนตรงหน้ากุมไว้อยู่ด้วยใบหน้าที่กำลังร้อนวูบไม่ต้องบอกก็คงรู้ใช่ไหมว่าตอนนี้ฉันกำลังเขินขนาดไหน ฉันมองทร็อตที่วันนี้อยู่ในเสื้อยืดสีขาวธรรมดาๆและเสื้อโค้ทสีดำตัวใหญ่และกางเกงยีนส์สีดำธรรมดาๆแต่มันกลับดูดีสุดๆเมื่อได้อยู่บนตัวของเขา...ให้ตายออร่าคนรวยกระแทกตาเกือบแตก
"แล้วตกลงจะพาฉันไปไหน?"
"ไม่ไกลหรอก แต่ก็ไม่ใกล้"
"งงได้ไหมอ่ะ?"
"มันเป็นที่ที่ฉันชอบไปขับรถเล่นน่ะ วิวมันสวยดี"
"แต่เราไปแต่เช้าแบบนี้วิวมันจะดีหรอ"
"หมายถึงตอนค่ำหรอก ขี้สงสัยจังนะ"
"อ้าว...ก็อยากรู้นิ"
ทร็อตหันกลับมาหาฉันและใช่สายตานิ่งๆของตัวเองสบสายตากับฉันนิ่งเมื่อเราเดินมาถึงรถที่จอดอยู่ ฉันมองหน้าทร็อตอย่างไม่เข้าใจ
"อะไร?"
"...ไม่รู้สิ แค่รู้สึกว่าวันนี้เราแต่งตัวคล้ายกันดี ^^"
ฉันก้มลงมองตัวเองที่ใส่เสื้อยืดสีดำและกางเกงยีนส์ขาดเข่าสีดำก่อนจะเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง ก็ปกติฉันใส่แบบนี้อยู่แล้วอ่ะเลยไม่ค่อยแปลกอะไรเท่าไหร่นัก
ฟึ่บ!
"ทร็อต?"
"ลืมบอกให้เอาเสื้อแขนยาวมา และก็พอดีว่าฉันมีเสื้ออีกตัวติดมาด้วยเพราะงั้นก็ใส่คลุมซะนะมันร้อน ^^"
"ดูบังเอิญดีจัง"
ฉันประชดขึ้นเบาๆพร้อมกับมองทร็อตที่เพิ่งเอาเสื้อหนังสีดำไม่ต่างจากที่เขาใส่มาคลุ่มไหล่ฉันไว้พร้อมกับมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่กำลังพอใจสุดๆ มันไม่ได้บังเอิญหรอกเพราะไซส์เสื้อที่เขาเอามาให้ฉันมันไซส์ผู้หญิงดูยังไงเจ้าตัวก็ดูจงใจสุดๆ ฉันส่ายหน้าไปมาเบาๆก่อนจะสอดแขนใส่เสื้อที่เขาเอาให้
"ไปเลยไหม?"
"แป๊บ"
ฉันยืนมองทร็อตอีกครั้งก่อนที่เขาจะหันกลับมาหาฉันพร้อมกับหมวกกันน็อคสีดำในมือฉันที่เข้าใจว่าเขาจะเอามาให้ฉันใส่ยื่นมือเตรียมจะรับมาแต่ทร็อตกลับยกหมวกนั้นขึ้นสูงและเป็นคนสวมให้กับฉันเอง ตาของฉันเบิกขึ้นนิดๆและมองเขาที่ขยับเข้ามาหาฉันอย่างไม่เชื่อสายตา ทร็อตค่อยๆสวมหมวกลงที่หัวฉันเบาๆและติดล็อคให้เรียบร้อย เขามองฉันผ่านกระจกที่กั้นเราอยู่นิ่งๆก่อนจะรวบผมฉันไปไว้ข้างหลังให้ช้าๆ
"ป่ะ ไปกันเถอะ ^^"
ให้ตาย...หัวใจเกือบหยุดเต้นแน่ะ!! ฉันมองทร็อตที่หันหลังไปใส่หมวกให้ตัวเองด้วยแววตาที่กำลังวูบสั่นอย่างห้ามไม่อยู่เขาก้าวขึ้นและสตาร์ทมันอย่างคล่องตัวและหันมาหาฉันอีกครั้ง
"ขึ้นสิครับ"
ฉันที่เพิ่งรู้ตัวว่ายืนมองเขาอยู่จึงก้าวขึ้นด้วยความทุลักทุเลขั้นสุดรถที่ว่าสูงยังไม่เท่าเบาะนั่งของคนช้อนที่อยู่สูงกว่าฉันกลื่นน้ำลายลงคออย่ากลัวๆและหันมองข้างหลังตัวเองอย่างเกร็งๆด้วยที่มันเป็นรถแบบที่ผู้ชายเขาชอบขับมันจึงไม่มีที่จับข้างหลังเหมือนรถมอไซต์ธรรมดาอ่ะ...คือถ้าเขาขับๆไปแล้วหันมาอีกทีฉันไม่อยู่แล้วล่ะถ้าฉันกระเด็นตกรถงี้
กึก!
"อ๊ะ!"
ฉันยกมือขึ้นจับหมวกตัวเองไว้ทันทีที่ถูกหมวกใหญ่ของคนตรงหน้าชน ทร็อตหันมามองฉันก่อนจะเปิดกระจกตัวเองขึ้น
"กลัว?"
ฉันพยักหน้าช้าๆพร้อมกับมองทร็อตนิ่งๆ เขามองฉันมาอีกแวบก่อนจะทำให้ฉันต้องใจสั่นอีกครั้งเมื่อมือใหญ่ของเขาจับแขนฉันให้สอดรัดเอวเข้าไว้ และเมื่อฉันจะยื้อออกเจ้าตัวก็ยื้อมันไว้แน่นเช่นกัน
"ถ้าไม่กอดแบบนี้ รับรองตกแน่นอน"
"ก็ขับช้าๆสิ!"
"ก็ถ้าขับช้าแล้ววันไหนจะถึง?"
ฉันที่กำลังจะตอบกลับทร็อตกรี๊ดออกมาอย่างตกใจเมื่อจู่ๆเขาก็บิดคันเร่งรถตัวเองโดยไม่บอกฉันสักคำมันจึงทำให้แขนทั้งสองข้างของฉันในตอนนี้กอดเอวทร็อตไว้แน่นอย่างลืมตัว ทร็อตหันกลับมาสบสายตาฉันอีกครั้งพร้อมกับริมฝีปากเขาที่กระตุกยิ้มอย่างะอใจ
"จะเถียงอีกไหม?"
"มะไม่เถียงแล้ว.."
"ก็แค่นี้..."
กึก!
ฉันมองทร็อตที่เอียงหมวกกันน็อคตัวเองมาเคาะหมวกกันน็อคฉันอีกครั้งก่อนที่เขาจะหันไปข้างหน้าเมื่อทุกอย่างพร้อม เขาเอื้อมมือมาบีบมือฉันที่กอดเอวเขาไว้อยู่เบาๆเหมือนจะบอกว่าเรากำลังจะไปกันแล้วก่อนที่เขาจะเลื่อนมันไปที่คันเร่งและค่อยๆออกตัวช้าๆ ในตอนแรกฉันค่อนข้างนั่งเกร็งจนรู้สึกปวดตัวไปหมดแต่เมื่อเริ่มชินและจับทางได้มันจึงเปลี่ยนไปเป็นผ่อนคลายและทำให้ฉันสามารถมองไปที่วิวข้างทางได้ ฉันยอมรับว่าทร็อตขับรถเร็วมากแต่ฉันกลับไม่รู้สึกกลัวเลยแต่มันกลับรู้สึกดีไปอีกแบบรู้สึกดีเมื่อโดนลมปะทะตัวแต่มันก็โดนฉันไม่มากหรอกเพราะทร็อตที่อยู่ข้างหน้าฉันรับแรงลมแทนแล้ว ถึงไม่อยากยอมรับแต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าในตอนนี้มันดีขนาดไหนมันทำให้ฉันสงบใจมาก...มากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ฉันกระซับอ้อมแขนตัวเองที่กอดเขาไว้แน่นขึ้นพร้อมกับค่อยๆซบลงบนแผ่นหลังกว้างของคนข้างหน้าพร้อมกับมองเส้นทางที่ทร็อตพาฉันขับผ่านอย่างรู้สึกดี
17.30 น.
"ไม่คิดว่าจะมีที่ที่สวยขนาดนี้มาก่อน มันสวยมากเลยทร็อต!"
"ไม่งั้นจะอยากพามาหรอ"
ฉันยิ้มกว้างพร้อมกับหันกลับมามองวิวตรงหน้าอีกครั้ง เบื้องหน้าฉันตอนนี้คือพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้าและที่ๆฉันอยู่ในตอนนี้มันคือจุดชิมวิวบนภูเขาแทบชานเมืองที่ทร็อตพาฉันมา คือหากเรายืนอยู่บนนี้เราสามารถเห็นเมืองนี้ได้ทั้งเมืองและตลอดทั้งวันที่ผ่านมาทร็อตพาฉันไปทัวร์มาเกือบทุกมุมและทุกซอย มันน่าทึ่งมากๆที่มีเมืองเล็กๆที่ถูกล้อมรอบด้วยภูเขาอยู่และที่น่าทึ่งกว่านั้นคือทร็อตรู้จักที่แบบนี้ด้วย
"สวยมากๆเลย อากาศบนนี้ดีสุดๆ"
ฉันที่ยังคงไม่หายทึ่งยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้รั่วที่เขากั้นไว้อีกก่อนจะพบว่ามันสูงมาก แต่อากาศเย็นสบายๆแบบนี้มันก็โคตรจะดีมากเช่นกัน ฉันหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาถ่ายวิวตรงหน้าไว้โดยไม่ลืมที่จะเชลฟีตัวเองด้วย ฉันยิ้มให้กล้องกว้างก่อนที่สายตาจะเหลือบเห็นทร็อตที่นั่งอยู่บนรถของตัวเองและเขากำลังมองมาที่ฉันอยู่ ฉันกวักมือเรียกร่างสูงทันที
"มาถ่ายรูปกัน! ^^"
"เธอถ่ายเถอะ..."
ฟึ่บ!
"บ้ารึไงมาก็มาด้วยกันก็ต้องถ่ายด้วยกันสิ"
ฉันเดินมาจับแขนทร็อตไว้อย่างรวดเร็วก่อนจะลากเขาให้เดินตามมาที่จุดที่ฉันถ่ายรูปเมื่อกี้อีกครั้ง ฉันยกกล้องขึ้นก่อนจะหันหน้าไปหาทร็อตที่กำลังทำหน้านิ่งใส่ฉันอยู่อย่างขัดใจ
ฟึ้บ...
"ยิ้มอ่ะยิ้ม ยิ้มแบบนี้ ^^"
ฉันว่าพร้อมกับยิ้มกว้างให้เขาก่อนจะหันกลับมาที่กล้องตัวเองอีกครั้งทร็อตมองกล้องในมือฉันก่อนจะค่อยๆยิ้มออกมาช้าๆหลังจากที่ฉันเอื้อมมือขึ้นบีบแก้มเจ้าตัว ฉันถ่ายมันอยู่แบบนั้นก่อนจะชงักไปนิดเมื่อสังเกตเห็นว่าตอนนี้สายตาทร็อตมันไม่ได้มองที่กล้องในมือฉันแต่กลับเป็นฉันเองที่เขากำลังจ้องมองอยู่มันจึงทำให้ฉันเริ่มจะรู้ตัวว่าเราในตอนนี้ใกล้กันขนาดไหน
"คือ..."
"ที่ตรงนี้มันพิเศษสำหรับฉันมากรู้ไหม"
"..."
ฉันเม้มปากเข้าหากันช้าๆเมื่อเสียงนิ่งๆของทร็อตเอ่ยขึ้น เขาขยับเข้ามาหาฉันมากขึ้นจนเราในตอนนี้แทบจะไม่มีช่องว่างระหว่างกัน หัวใจของฉันเต้นแรงขึ้นอีกเท่าตัวเมื่อคนตรงหน้าโน้มใบหน้าตัวเองลงมาใกล้ฉันจนรู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆของเขา
"เป็นที่ที่คนพิเศษของฉันเท่านั้นที่จะได้รับสิทธิ์นั้น ไม่ว่าจะเป็นเบาะรถที่ที่ไม่เคยมีใครได้นั่งหรือวิวตรงนี้ที่ฉันไม่เคยพาใครมาดู"
"..."
"แต่เธอเป็นคนคนนั้น...เป็นคนพิเศษสำหรับฉัน"
ทร็อตสบสายตาฉันนิ่งและสื่อความรู้สึกที่เขามีต่อฉันออกมาทั้งหมดอย่างไม่ปิดบัง มือของเขาค่อยๆเอื้อมขึ้นมาจับใบหน้าฉันไว้พร้อมกับนิ้วของเขาที่เกลี่ยแก้มฉันเบาๆ มันทำให้ฉันแทบจะหนีไปไหนไม่ได้เพียงแค่ถูกสายตาและมือเขาที่สัมผัสอยู่อย่างนั้น ทร็อตค่อยๆโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ฉันอีกนิดจนเรารู้สึกถึงลมหายใจร้อนๆของกันและกัน...ทร็อตรักฉันและเขาไม่เคยปิดมันแต่คงเป็นฉันเองที่ขี้ขลาด ฉันที่ขี้ขลาดเกินกว่าจะดึงเขาให้เขามาใกล้ฉันมากกว่านี้
ฟึ่บ!
"ฉะ ฉันว่าเรากลับกันเถอะพระอาทิตย์ตกดินแล้วด้วย"
ฉันเอ่ยขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมกับตัวฉันที่เบี่ยงออกมาจากเขาและเดินกลับมาที่รถ ฉันไม่รู้ว่าทร็อตยังยืนอยู่ที่เดิมไหมแต่ฉันในตอนนี้มันไม่สามารถยืนอยู่ตรงนั้นได้...ไม่ได้จริงๆ
พรึ่บ!!
"อ๊ะ!"
"คิดว่าฉันไม่รู้สึกเลยรึไงว่าวันทั้งวันเธอเอาแต่คิดเรื่องอะไรอยู่ อย่าเอาแต่หนีแบบนี้หนามเตยเธอมีอะไรอยู่ในหัวกันแน่!?"
"ฉะ ฉันไม่ได้..."
"อย่ามาโกหก!"
ฉันชงักไปทันทีที่ถูกทร็อตตวาดใส่ เขาก้าวเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้นจนในตอนนี้ตัวของฉันแทบจะเกยอยู่บนรถเขาแล้ว ฉันพยายามจะหลีกหนีสายตานิ่งๆที่จ้องจะจับผิดฉันอย่างทำอะไรไม่ถูกจนทร็อตที่ดูจะทนไม่ไหวอุ้มฉันขึ้นนั่งบนเบาะรถของเขาพร้อมกับกักฉันไว้ด้วยแขนของตัวเองเล่นเอาฉันไม่สามารถหนีเขาไปไหนได้รอด ไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือสายตา
"เธอมีเรื่องอะไรในใจอะไรถึงขนาดที่ปฎิเสธฉันทั้งๆที่สายตาเธอมันกำลังอาวรณ์ฉันขนาดนั้น?"
"ฉันไม่มี!"
"งั้นเธอก็อธิบายมาหนามเตยว่าสายตาที่เธอกำลังมองมาที่ฉันตอนนี้มันหมายความว่ายังไง?"
"มันไม่ได้แปลว่าอะไรทั้งนั้นทร็อตฉันแค่เหนื่อยและอยากกลับบ้าน"
พรึ่บ!
"อย่าโกหกฉัน...เพราะมันฟังไม่ขึ้น!"
ฉันกัดปากตัวเองอย่างคิดหนักเมื่อโดนสายตาคมกริบตรงหน้ากดดัน ทร็อตมองฉันนิ่งและกดดันฉันผ่านสายตาจนทำให้ฉันแทบจะอยากร้องไห้...ฉันส่ายหน้าไปมาช้าๆพร้อมกับถอนหายใจออกมาเบาๆ
"ฉันทำไม่ได้หรอก..."
"..."
"ฉันให้นายเข้ามาใกล้ฉันมากกว่านี้ไม่ได้"
"ทำไม?"
ฉันเบี่ยงสายตาหนีทร็อตพร้อมกับมือตัวเองที่กำเข้าหากันแน่น ถึงฉันอยากจะปิดแต่มันก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นหากฉันไม่พูดเรื่องจริง...เรื่องจริงที่ครอบครัวฉันเป็นยังไง ฉันลากสายตาขึ้นสบตากับทร็อตอีกครั้งด้วยแววตาจริงจัง
"ครอบครัวฉันมันไม่ได้อบอุ่นอย่างที่ควรจะเป็น"
"..."
"พ่อฉันไม่อยู่กับฉันแล้ว ตอนนี้ฉันอยู่กับแม่เลี้ยงและพี่ชายที่เป็นลูกติดแม่เลี้ยง...ถึงฉันจะอยู่บ้านแต่ที่นั้นมันก็ไม่ใช่เพราะฉันมันไม่ต่างจากคนนอก"
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่เราจะรักกัน?"
"ก็นี่ล่ะที่ฉันจะบอก...แม่เลี้ยงฉันเธอไม่ใช่คนที่คนแบบนายจะตามทัน เธอค่อนข้างเอาเงินเป็นใหญ่" ประโยคสุดท้ายฉันพูดมันเบาลงไปนิดพร้อมกับเลี่ยงที่จะสบตากับทร็อต ฉันบีบมือเข้าหากันแน่นขึ้น "และพอเธอรู้เรื่องนาย...เธอบอกให้ฉันจับนายไว้เพราะนายรวย"
"..."
"นายเข้าใจที่ฉันพยายามจะบอกแล้วใช่ไหมทร็อต...เข้าใจแล้วใช่ไหมว่าทำไมฉันถึงให้นายเข้ามามากว่านี้ไม่ได้"
ฉันเงยหน้าสบสายตากับทร็อตอีกครั้งและครั้งนี้เป็นเขาเองที่หันหน้าหนี ฉันกัดปากตัวเองไว้พร้อมหัวใจตัวเองที่มันกำลังรู้สึกเจ็บ...ใครบ้างที่รู้เรื่องแบบนี้แล้วจะยังอยู่ และยิ่งเป็นทร็อตมันยิ่งไม่มีทางที่จะเป็นไปได้ที่เขาจะรับได้
"ขอโทษสำหรับที่ผ่านมา...และขอบคุณที่พามาที่ๆสวยขนาดนี้นะ"
ฉันเอ่ยขึ้นอีกครั้งก่อนจะค่อยๆลงจากรถของเขา ฉันกลื่นน้ำลายตัวเองลงคออย่างยากลำบากก่อนจะเดินเบี่ยงออกมา
พรึ่บ!
"..."
เกิดความเงียบระหว่างเราสองคนอีกครั้งเมื่อฉันที่ยังเดินไปไม่ไกลจากตรงนี้ถูกทร็อตดึงกลับมาและดันให้หลังฉันไปติดที่รถตัวเองอีกครั้ง ฉันเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เข้าใจต่างจากทร็อตที่ก้มลงมามองฉันด้วยสายตาเรียบนิ่งก่อนที่เจ้าตัวจะหัวเราะออกมาเบาๆ
"คิดว่าที่ฉันทำมาทั้งหมดแล้วฉันจะหยุดเพียงเพราะเรื่องแค่นี้งั้นหรอ?"
"..."
"รู้อะไรไหมว่าแทนที่ฉันจะตกใจหรืออะไรแต่ฉันกลับรู้สึกดีใจ...โคตรจะดีใจที่เธอก็รู้สึกเหมือนกับฉัน และห่วงฉันขนาดนี้ทั้งๆที่เรายังไม่เป็นอะไรกัน"
"ทร็อต..."
"ในเมื่อเราคิดเหมือนกัน อุปสรรคเล็กแค่นี้เธอคิดว่าฉันจะพาเธอข้ามมันออกมาไม่ได้รึไง?"
"ฉันไม่..."
"ไม่ต้องพูดแล้ว...ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้ว ^^"
ฉันเงยหน้ามองทร็อตอย่างไม่เชื่อสายตา เขายิ้มกว้างกว่าครั้งไหนๆที่เขาเคยยิ้มและมันเป็นรอยยิ้มให้ทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงตามไปด้วยเพราะไม่รู้ว่าตอนนี้ภายในหัวใจฉันมันรู้สึกดีใจ แปลกใจ หรืออะไรเพราะมันรวมกันไปหมด ทร็อตเป็นคนแรกที่พร้อมที่จะพุ่งชนไปพร้อมกับฉันขนาดนี้และถึงเขาไม่บอกฉันก็รู้ว่าคนตรงหน้าฉันเขาจะปกป้องฉันได้ขนาดไหน
ร่างสูงตรงหน้าฉันขยับเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้นพร้อมกับใบหน้าเขาที่โน้มลงมาหาฉัน ทร็อตสอดมือเข้าที่เอวคอดฉันไว้และดึงให้ฉันเขยิบเข้าไปใกล้ตัวเองมากขึ้นมือใหญ่ของเขาเอื้อมขึ้นมาสัมผัสใบหน้าฉันไว้อย่างแผ่วเบาและอ่อนโยนไม่ต่างจากสายตาของเขาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนที่เจ้าตัวพร้อมที่จะให้ฉันได้คนเดียว
"ยังไงฉันก็ยังยืนยันคำเดิม...ว่ายังไงคนพิเศษของฉันก็คือเธอหนามเตย"
ฉันยิ้มออกมาบางๆพร้อมกับริมฝีปากทร็อตที่ค่อยๆจรดลงบนริมฝีปากฉันอย่างแผ่วเบา เขากดมันไว้อย่างนั้นไม่รุกล้ำแต่กลับชัดเจนในความรู้สึก ฉันยิ้มออกมาอีกครั้งก่อนจะยกแขนขึ้นคล้องคอเขาไว้ ทร็อตละริมฝีปากตัวเองออกนิดๆพร้อมกับสบสายตากับฉันนิ่งก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆและอุ้มฉันนั่งบนเบาะเขาอีกครั้งพร้อมกับกดริมฝีปากตัวเองลงมาอีกครั้งแต่ครั้งนี้มันเต็มไปด้วยสัมผัสที่เร้าร้อนและเอาแต่ใจของเจ้าตัว ฉันค่อยๆหลับตาลงรับสัมผัสดุดันของเขาอย่างสมยอม...แต่ถึงมันจะดูเอาแต่ใจขนาดไหนแต่รสของจูบนี้มันกลับหวานจนฉันแทบลืมไม่ลงเลยล่ะ