วันขื่นคืนตรม ตอนที่ 2

1412 คำ
แสงแดดยามสายสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างภายในห้องนอนสุดหรู ชายหนุ่มขยับตัวด้วยความเมื่อยขบ ค่อยๆ ยันตัวเองลุกนั่งทั้งที่สองตายังหลับสนิท แต่เพราะถึงเวลาที่นอนจนเต็มอิ่มวงจรร่างกายก็สั่งการให้ต้องตื่นโดยอัตโนมัติ ร่างหนาบิดตัวไปมาขับไล่ความปวดเมื่อยพร้อมๆ กับลืมตารับวันใหม่ แต่สิ่งที่สองตาเห็นในแรกอรุณนั้นทำให้เขาตกใจจนตาค้าง  “เอ๊ย...อะไรกันเนี่ย...ณัฏฐนิชเธอมานอนห้องฉันได้ยังไง” เขาใช้มือผลักร่างเล็กที่นอนสงบอยู่ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน เธอยังไม่มีทีท่าว่าจะกระดิกตัว แผ่นหลังขาวสะอ้านเปลือยเปล่าที่โผล่พ้นผ้านวมผืนหนามันอธิบายอะไรๆ ได้เป็นอย่างดี “ณัฏฐนิชตื่นเดี๋ยวนี้... อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนเธอ...” เหตุการณ์ต่างๆ ในค่ำคืนที่ผ่านมาเริ่มหลั่งไหลสู่ความทรงจำ ชายหนุ่มถึงกับเลือดขึ้นหน้า สายตาคมดุเอาเรื่องกับคนที่เริ่มทุลักทุเลลุกขึ้นเพราะโดนผลักเสียเต็มแรงเมื่อครู่ “แพศยา!!!!...เป็นแผนของเธอใช่ไหม...เธอรอโอกาสฉันเมาเพื่อจะให้เป็นแบบนี้ใช่ไหม อยากเป็นเมียฉันจนตัวสั่นเลยเหรอ ฮึ...ผู้หญิงสารเลว” “...” เสียงด่าทอกู่ก้องปลุกณัฏฐนิชจากนิทราอันล้ำลึกทันที หญิงสาวลุกพรวดขึ้นนั่งกลัวจนตัวสั่นเมื่อเห็นสามีของเธอบัดนี้หน้าตาแดงก่ำด้วยความโกรธ มือสองข้างกำหมัดแน่นเสียจนเส้นเลือดปูดโปนสายตาที่มองมานั้นแทบจะฉีกเธอออกเป็นชิ้นๆ ก็ว่าได้ ร่างบางขยับหนีด้วยความตื่นตระหนกแต่ความเร็วของอสูรร้ายก็มีมากกว่า อคิราห์คลานเข่าเข้าไปจับหญิงสาวด้วยมือทั้งสองข้างแล้วเหวี่ยงลงจากเตียงเต็มแรง จนร่างเปลือยเปล่าหลุดพ้นจากผ้าห่มแล้วหล่นตุ๊บกลิ้งเกลือกลงบนพื้น  “โอ๊ย!!...คุณคีมมันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะคะ คุณกำลังเข้าใจผิด” ความเจ็บปวดที่สะโพกกระแทกพื้นอย่างจังยังไม่เทียบได้กับความปวดร้าวตรงจุดกลางใจสาวที่ถูกรุกรานแบบไม่ปราณีเมื่อคืน อีกทั้งร่างกายก็เมื่อยขบเจ็บระบมไปหมด แรงเหวี่ยงของคนตัวใหญ่ที่มีไม่น้อยส่งผลให้หญิงสาวยิ่งปวดร้าวทั่วทั้งกาย                                                                                    ณัฏฐนิชถึงกับร้องไห้โฮกับความป่าเถื่อนที่เขามอบให้ เจ็บตัวยังไม่เท่าไหร่แต่หัวใจของเธอนี่สิมันร้าวระบมจนแทบจะหยุดเต้นอยู่แล้ว  “มารยาสาไถย...ผู้หญิงกาลกินี...เพราะเธอคนเดียวขิงถึงต้องตาย แล้วนี่เธอยังจะคิดแทนที่เขาใช้แผนชั่วๆ แบบนี้กับฉันอีก ฉันเกลียดเธอณัฏฐนิช เกลียดเธอได้ยินไหม ออกไป!!! ไปสิ!!!” ชายหนุ่มย่างสามขุมออกไปหยิบผ้าขนหนูมาพันกายลวกๆ แล้วจึงเข้ามาจับณัฏฐนิชผลักไสให้ออกไปจากห้องเขาโดยเร็ว หญิงสาวกระเด็นไปตามแรงผลักทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ลุกขึ้นยืนด้วยซ้ำ เสียงสะอื้นปานจะขาดใจไม่สามารถหยุดความป่าเถื่อนของสามีเต็มตัวได้สักนิด สายตาคมแฉลบมองไปยังสมรภูมิรักเมื่อคืนที่เขาแทบจำอะไรไม่ได้เลย ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นหลักฐานเปื้อนคาที่นอน เดาได้ไม่ยากว่ามันคือผลงานของเขาเอง ความโกรธเกรี้ยวยิ่งเพิ่มทวีคูณ ไม่ได้แยแสต่อความเจ็บปวดที่เขาทำลายลง แม้ผ้าปูที่นอนนั้นจะบอกได้เป็นอย่างดีว่าเธอถูกเขาทำร้ายเท่าไหร่                                                                                                 ตาคมดุหันไปมองรูปคนรักรูปใหญ่ที่ยืนกอดอกส่งยิ้มให้มาด้วยความสำนึกผิด “ขิง...ผมขอโทษ” ชายหนุ่มก้มหน้าซ่อนน้ำตาที่ไหลปริ่มคลอเบ้า เสียใจอย่างสุดซึ้งที่ไม่สามารถรักษาสัญญากับคนรักที่จากไปได้ ผ้าปูที่นอนถูกคว้าแล้วรวบถลกออก หน้าเหี้ยมเกรียมหันกลับไปมองจำเลยสาวที่กำลังพยายามพยุงตัวยืน ผ้าปูที่นอนเจ้าปัญหาที่เต็มไปด้วยราคะและความสูญเสียของเธอถูกปาใส่หญิงสาวทันที มือใหญ่ยกขึ้นชี้หน้าสาดคำด่าทอใส่ไม่ยั้ง “เอาไปทิ้งซะ...หลักฐานความโสโครกของเธอ...ถึงขนาดลงทุนเอาความซิงมาสังเวย คิดจะมาแทนที่ขิงอยากเป็นเมียสมบูรณ์แบบเพื่อจะฮุบสมบัติบ้านฉัน...คิดตื้นๆ ไปหน่อยนะณัฏฐนิชนอนกอดทะเบียนสมรสของเธอไปเถอะ ผู้หญิงที่จิตใจต่ำช้าแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักเพื่อเงิน ทำให้คนดีๆ ต้องตายไปทั้งคนคิดเหรอว่าจะมีผู้ชายหน้าโง่ที่ไหนมันเอาทำพันธุ์ ออกไปสิ ไป!!! แล้วไม่ต้องเข้ามาเหยียบที่ห้องนี้อีก เธอไม่มีสิทธิ์จะเข้ามาที่นี่ ฉันไม่อยากให้ขิงเห็นหน้าเธอ”                                                                          “รัญ...ไม่...” เธอส่ายหน้าทั้งน้ำตาที่พร่างพราว เจ็บกว่าการถูกทำร้ายก็คือการถูกป้ายสีความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อนี่แหละ ทั้งยังไม่อาจแก้ต่างใดๆ ให้ตัวเองได้เลย “บอกให้ออกไปไงเล่า...หน้าด้านยืนแก้ผ้าอยู่ได้ ไม่ต้องมาสำออยให้เห็น ฉันไม่หลงกลเธอหรอก...แพศยาที่สุด” จะพูดอะไรไปก็คงไร้ความหมาย สำหรับเขาเธอคือตัวถ่วงมาตั้งแต่ต้นแล้ว ฉะนั้นต่อให้ร้องไห้หรือพร่ำรำพันอะไรออกไปเธอก็ผิดอยู่วันยังค่ำร่างบอบบางกอดผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดตาแต่เต็มไปด้วยราคีไว้แนบอกเพื่อปกปิดร่างเปลือยของตัวเอง แล้วเดินกะเผลกออกไปตามมือของเขาที่ชี้ไปยังประตูเพื่อขับไล่เธอไปโดยเร็ว                                                                ณัฏฐนิชหอบความปวดร้าวเดินออกไปจนพ้นประตู เมื่อประตูบานนั้นปิดลงร่างบางถึงกับทรุดฮวบลงตรงนั้นปล่อยโฮสะอื้นไห้อย่างไม่อายใคร ชีวิตของลูกผู้หญิงทุกคนย่อมจะใฝ่ฝันได้แต่งงานครองคู่กับคนที่รัก และเธอก็เช่นกันแต่ความฝันก็คือความฝันมันห่างไกลเหลือเกินกับความเป็นจริง ความฝันนั้นไม่ได้มีไว้สำหรับผู้หญิงคนนี้ แค่เริ่มต้นความร้าวรานก็มาเยือนเธอเสียแล้ว สองมือน้อยกอดกายตัวเองไว้แน่นเพื่อปลอบประโลม ถึงจะทุกข์ทรมานแสนสาหัสเพียงไหนเธอก็ยังต้องมีชีวิตอยู่ไม่ใช่หรือ ดังนั้นจงลุกขึ้นเถิดณัฏฐนิช...ลุกขึ้นสู้เผื่อว่าสักวันนึงโชคดีจะเป็นของเธอบ้าง ทางด้านอคิราห์ในตอนนี้อาการไม่ได้ต่างจากหญิงสาวด้านนอกเลย ความรู้สึกผิดเกาะกินหัวใจแทบจะมองหน้าคนรักในรูปไม่ติด เขามีความสัมพันธ์กับผู้หญิงอื่นต่อหน้าเธอได้อย่างไรกัน ป่านนี้ดวงวิญญาณของเพียงอัปสรคงร้องไห้คร่ำครวญเสียใจกับสิ่งที่เขาทำลงไปเป็นแน่ ฝ่ามือใหญ่ตบหน้าผากตัวเองสองสามครั้งก่อนจะเสยผมลวกๆ แล้วเดินไปยังรูปของหญิงคนรักที่เป็นรูปใหญ่ที่สุด                                                                     “ขิงผมขอโทษ...ผมผิดไปแล้ว แต่คุณไม่ต้องกลัวไปนะ ถึงอย่างไรหัวใจผมก็มีแต่คุณเท่านั้น เรื่องเมื่อคืนสำหรับผมไม่ได้มีความหมายอะไร คุณรู้ใช่ไหมว่าผมเมา...แล้วผู้หญิงคนนั้นก็วางแผนมาก่อนแล้ว ผมไม่น่าพลาด...คุณอย่าเสียใจไปเลยขิง ผู้หญิงคนนั้นพรากเราสองคนจากกัน ทำให้คุณจากผมไปไม่มีวันกลับ ทำให้ความสุขทุกอย่างในชีวิตผมล่มสลายไปในพริบตา ผมจะไม่มีวันปล่อยให้แม่นั่นเอ้อระเหยลอยหน้าลอยตาอย่างมีความสุขเด็ดขาด เขาจะต้องรับผิดชอบสิ่งที่ก่อเอาไว้ ขิง...ผมสัญญาว่าผู้หญิงแพศยาคนนั้นจะต้องเจ็บปวดกว่าเราสองคนเป็นร้อยเท่าพันเท่า” ใบหน้าคมคายเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด เมื่อได้มองสาวสวยที่อยู่ในฉากใหญ่เบื้องหน้า ต่อจากนี้ไปเขาจะได้เห็นเธอแค่ในรูปเท่านั้นแล้วสินะ ไม่มีวันได้กกกอดเนื้อนุ่มปันป้อนคำรักให้แก่กันเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว       ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาสูญเสียไปเป็นเพราะมีณัฏฐนิชเข้ามาในชีวิตนั่นเอง....ดังนั้นเมื่อความสุขของเขาไม่มีวันหวนกลับมา ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ควรมีความสุขไปตลอดกาลเช่นกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม