EP.1 | ท้องไม่รับ?🔥

1498 คำ
EP.1 ชญานินท์ ปิ่นมณี หรือ นิน คือชื่อของฉัน ฉันเพิ่งอายุครบยี่สิบปีไปเมื่อสองเดือนก่อน ปีนี้เป็นปีแรกที่ฉันตัดสินใจจัดงานฉลองวันเกิดเพื่อให้รางวัลกับตัวเองที่ทำงานหาเงินได้ตั้งแต่อายุยังน้อยๆ แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าจากที่จะให้รางวัลกับตัวเอง..กลับกลายเป็นว่าฉันลงโทษกับตัวเองไปซะงั้น.. “นิน วันนี้กลับเร็วได้นะพรุ่งนี้มีเรียนไม่ใช่เหรอ” พี่คิวเจ้าของร้านอาหารบอกกับฉันอย่างเป็นมิตร ตอนนี้ฉันทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดอยู่ในร้านอาหารขนาดกลางของพี่คิว ถึงร้านนี้จะไม่ได้กว้างขวางนักแต่ก็สามารถดึงดูดลูกค้ากระเป๋าหนักได้จากการตกแต่งที่หรูหราอย่างคนมีระดับ งานที่นี่หนักใช้ได้เลยล่ะเพราะทุกอย่างต้องสะอาดเนี้ยบอยู่ตลอดเวลา แต่แน่นอนว่าเรื่องรายรับก็ได้มากไม่แพ้กัน “ไม่เป็นไรค่ะ นินทำไหว” ฉันใช้หลังมือปาดหยาดเหงื่อเบาๆ แล้วคลี่ยิ้มให้พี่เขา งานหนักแค่ไหนปากก็ต้องบอกว่าไหวเอาไว้ก่อน ไม่อย่างงั้นอาจะโดนไล่ออกเอาได้ ถึงฉันจะค่อนข้างมั่นใจว่าพี่คิวคงไม่กล้าไล่ฉันออกก็เถอะ.. ทำไมฉันถึงมั่นใจเหรอ? ก็.. “ถ้าวันไหนเหนื่อยก็ลาหยุดได้นะ พี่ไม่หักเงิน” “อย่าเลยดีกว่าค่ะ นินไม่อยากเอาเปรียบคนอื่น” ฉันบอกอย่างเกรงใจ “ช่างคนอื่นสิ สำหรับพี่คนอื่นก็คือคนอื่น แต่กับนิน..นินคือคนสำคัญ” พี่คิวทำเสียงอ่อน สีหน้าเขาวูบไหวเล็กน้อย ดวงตาคมเจือความรู้สึกรักบริสุทธิ์ พี่คิวแอบชอบฉัน..เรื่องนี้ฉันรู้ดี.. “นินรู้ค่ะ..แต่ว่านิน..” “นินไม่ได้คิดอะไรกับพี่..พี่ก็รู้” พี่คิวก้มหน้าลงแล้วแค่นหัวเราะเบาๆ คล้ายกับกำลังสมเพชตัวเอง ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับพี่คิวนะ ฉันก็รู้สึกดีที่พี่เขาดีกับฉัน จนบางครั้งก็เคยแอบคิดว่าจะเปิดใจให้พี่เขาเข้ามาจีบอย่างเต็มที่เลยดีไหม เพราะการจะหาใครสักคนที่รักเรามั่นคงมาตลอดหลายปีนั้นหายากยิ่งกว่างมเข็ม แต่มันก็แค่เคย..เพราะตอนนี้ฉันคงไม่ดีพอสำหรับคนอย่างพี่คิวอีกต่อไป..ผู้หญิงที่มีตำหนิแถมยังมีลูกติดอย่างฉันใครจะอยากไปเป็นคู่ชีวิตล่ะจริงไหม.. “ขอโทษทีนะที่พี่ดึงดราม่า นินทำงานต่อเถอะพี่ไม่กวนแล้วดีกว่า” เมื่อเห็นฉันเงียบพี่คิวก็พูดขึ้นอีกครั้ง พี่เขาส่งยิ้มผิดหวังมาให้ก่อนจะปลีกตัวเดินจากไป เฮ้อ..รู้สึกแย่เลยแฮะเรา.. ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ บอกตัวเองให้ตั้งสติแล้วก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไป เพราะเดี๋ยวช่วงดึกจะมีแขกจากตระกูลใหญ่มาใช้บริการ เมื่อทำงานในส่วนของตัวเองเสร็จ ฉันก็มานั่งพักกินข้าวเพราะตอนนี้ไม่ใช่แค่ฉันที่เริ่มจะหิว แต่เจ้าตัวเล็กในท้องก็เริ่มประท้วงแล้วเช่นกัน “เมนูวันนี้ข้าวผัดปลากระป๋อง..อร่อยไหมลูก” ฉันเคี้ยวข้าวไปก็ลูบท้องคุยกับลูกไป หากย้อนกลับไปในวันแรกที่รู้ตัวว่าท้อง ตอนนั้นฉันเสียใจมาก ความหวาดกลัวถาโถมเข้าใส่หัวใจจนมืดแปดด้าน ทว่าพอมาวันนี้ฉันกลับดีใจและมีความสุขที่ได้ใช้ทุกๆ วินาทีของชีวิตไปพร้อมกับลูก รู้ตัวอีกทีก็รักและอยากจะดูแลเขาให้ดีที่สุดไปแล้ว.. “อิ่มไหมลูก ฝีมือแม่อร่อยใช่ไหม” ฉันยิ้มร่าก่อนจะวางช้อนแล้วลูบท้องตัวเองเบาๆ ทุกครั้งหลังกินอิ่มฉันมักจะทำแบบนี้เสมอ เป็นการกล่อมลูกนอนน่ะ รู้นะว่าลูกยังไม่เป็นตัวเป็นตนเท่าไหร่ แต่ทำแบบนี้แล้วมันสุขใจดีนี่นา.. เมื่อคิดว่าลูกหลับแล้วฉันก็รีบเก็บจานไปล้าง แล้วเตรียมตัวรอต้อนรับลูกค้าที่มาจากตระกูลใหญ่ ใหญ่มากไหมไม่รู้แต่เขาลงทุนเหมาทั้งร้านเพราะอยากได้ความเป็นส่วนตัว คงจะรวยล้นฟ้ากันน่าดู.. ครึ่งชั่วโมงต่อมาลูกค้ากลุ่มที่ฉันว่าก็มาถึงพอดี พวกเขามาด้วยกันทั้งหมดประมานสิบคนได้ ฉันไม่ได้ออกไปเห็นหรอก แต่ได้ยินพี่ๆ พนักงานเสิร์ฟเขาพูดกันน่ะ “อร้าย..แกเห็นผู้ชายใส่สูทสามคนนั้นไหมนุ่น..หลัวมาก!” พี่เจนสะกิดเมาท์กับพี่นุ่นขณะเดินเข้ามาหลังร้านด้วยกันอย่างกระดี้กระด้า “เห็นสิยะ! หล่อเหลาสมชื่อกันจริงๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้หญิงทั้งโลกถึงได้อยากเป็นสะใภ้ของบ้านนี้” พี่นุ่นกุมมือตัวเองทำหน้าเพ้อฝัน “แต่ฉันว่าคนที่นั่งตรงกลางดูดึงดูดมากที่สุด บอกตรงๆ ว่าถ้าได้แบบนี้สักทีสัญญาว่าจะตั้งใจทำงานเลย” “พวกพี่เมาท์ไรกันคะเนี่ย” ฉันแซวปนขำ “ก็ลูกค้าที่มาเหมาร้านวันนี้น่ะสิโคตรหล่อเลยนิน บอกตรงๆ พวกพี่นี่คันคะเยอนักเชียว” พี่เจนว่าพร้อมสั่นร่างตัวเองเบาๆ ทำเอาฉันอดหัวเราะไม่ได้ “ฮ่าๆ เชื่อแล้วค่ะ” “โอ๊ย..เป็นไรวะอยู่ๆ ก็ปวดขี้” พี่นุ่นโอดครวญแล้วยกมือขึ้นกุมท้อง “นินพี่ฝากยกออเดอร์ต่อไปทีนะ ขอไปเข้าห้องน้ำแป๊บ” พูดจบพี่นุ่นก็รีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำทันที “ดูมันๆ ฉันก็บอกแล้วนะว่าอย่ากินเยอะส้มตำปลาร้าน่ะ ท้องเสียจนได้” พี่เจนว่าให้ทีหลังอย่างไม่จริงจังนัก “เจน นุ่นออเดอร์เสร็จแล้ว” ระหว่างนั้นเสียงของพี่ต็อบพ่อครัวของที่นี่ก็ดังขึ้น ฉันและพี่เจนพยักหน้าให้กันเบาๆ แล้วรีบเดินไปรับออเดอร์ออกไปเสิร์ฟให้ลูกค้า พอเดินออกมาได้เพียงแค่สองก้าวขาฉันมันก็ชะงักกึกอยู่กับที่เมื่อมองตรงไปแล้วพบเข้ากับผู้ชายในคืนนั้น.. ผู้ชายที่ฉันไม่ได้เจอหน้ามาตลอดหนึ่งเดือนเต็ม.. คุณเหม.. ถึงแม้บนโต๊ะนั้นจะมีผู้ชายที่มีใบหน้าคล้ายกับเขาอยู่ถึงสองคน แต่คนตรงกลางต้องเป็นเขาไม่ผิดแน่ คิ้วหนาดกดำ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากหยักน่าจูบ..มีเพียงแค่เขาคนนี้เท่านั้นแหละ บนโต๊ะของเขามีหญิงวัยชราอยู่หนึ่งคน และมีคู่ชายหญิงวัยกลางคนทั้งหมดสามคู่ รวมถึงชายหนุ่มที่ดูจะเป็นรุ่นลูกรุ่นหลานทั้งหมดสามคน รวมคุณเหมด้วย หัวใจฉันมันเต้นเร็วแรงจนรู้สึกวาบหวิวในอก มันประหม่าและกดดันไปหมด ไม่รู้ว่าถ้าเราเจอหน้ากันฉันควรจะต้องทำตัวแบบไหน “นิน! ยืนเหม่ออะไรอยู่ รีบยกไปเสิร์ฟเร็วลูกค้ารอนานแล้ว” เสียงเรียกของพี่เจนรั้งสติของฉันให้กลับมา ห้ามอ่อนแอเด็ดขาดนะชญานินท์ เจอหน้าเขาแล้วมันยังไงล่ะ เจอก็เจอสิ.. “ค่ะๆ ขอโทษทีค่ะพี่เจน” เมื่อคิดได้แบบนั้นฉันก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อทำใจ ก่อนจะเดินเอาปลาเก๋าสามรสไปวางเสิร์ฟบนโต๊ะของคุณเหม กึก! พรึ่บ! ทันทีที่ฉันวางจานลงคุณเหมก็เงยหน้าขึ้นมาพอดี เราจึงได้สบตากันอย่างบังเอิญ ไม่รู้ว่าเป็นจังหวะซวยอะไรของฉัน ทีตอนพี่เจนเสิร์ฟเมื่อกี้เขายังไม่เงยหน้าขึ้นมามองเลย.. สีหน้าของคุณเหมที่ได้เจอฉันดูตกใจเล็กน้อย แต่แค่ครู่เดียวทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ แล้วนั่นก็ทำให้ฉันดึงสติของตัวเองกลับมาได้ เขาดูไม่ได้รู้สึกอะไร ฉันเองก็ควรจะทำแบบนั้นบ้างเหมือนกัน.. ฉันก้มศีรษะให้ทุกคนบนโต๊ะแทนการกล่าวคำขอโทษ แล้วรีบเดินกลับเข้าไปที่หลังร้านทันที พอกลับเข้ามาก็เห็นว่าพี่นุ่นออกมาจากห้องน้ำแล้ว ฉันจึงมอบหน้าที่นี้กลับคืนให้พี่นุ่น จากนั้นก็เดินขึ้นไปบนชั้นสองเพื่อขอพี่คิวเลิกงานก่อนเวลา ขืนยังอยู่ที่นี่ต่อมีหวังฉันคงเสียอาการมากกว่านี้แน่ๆ หลังลาพี่คิวเสร็จฉันก็เดินกลับเข้าไปในห้องพักพนักงานเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บของ แต่แล้วฉันก็ต้องชะงักเมื่อเห็นร่างสูงของใครบางคนกำลังยืนเอามือล้วงกระเป๋าอยู่ที่หน้าประตูห้อง “คะ..คุณเหม..” ใช่..เขาคนนั้นก็คือคุณเหม “ไง..ไม่เจอกันนานนิ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม