บทที่ 3 เจอกันอีกครั้ง

1320 คำ
บทที่ 3 เจอกันอีกครั้ง บ้านพิชญานนท์ ทันทีที่รถหรูของครามขับเข้ามาจอด เขาก็เดินลงมาจากรถพร้อมกับคุณหญิงจิตตรี แม้เขาจะไม่ได้อยากมาเหยียบที่นี่สักเท่าไหร่แต่เมื่อผู้เป็นแม่เอาเรื่องบาดเจ็บเรื่องโรคภัยมาเป็นตัวการ เขาจึงต้องยอมจำใจมาให้มันจบๆ ไป พ่อเลี้ยงและคุณแม่ของน้ำรินรีบเดินออกมาต้อนรับคุณหญิงจิตตรี ส่วนน้ำรินได้แต่ถอนหายใจอยู่ในครัวพร้อมกับแม่บ้านที่พากันเห็นอกเห็นใจเมื่อรู้เรื่องราวที่เธอเล่าเมื่อวานนี้ "คุณหนูคะคุณหญิงให้มาตามแล้วค่ะ" "ค่ะ" น้ำรินหันไปหยิบถาดน้ำก่อนจะเดินออกมาที่ห้องรับแขก คุณแม่ของเธอรีบส่งสายตาให้เธอรีบเดินมาเร็วๆ "สวัสดีค่ะคุณป้า สวัสดีค่ะคุณคราม" "ไม่เจอกันตั้งนานยิ่งโตยิ่งสวยนะเราเนี่ย" "ขอบคุณค่ะคุณป้า ดื่มน้ำเก๊กฮวยก่อนนะคะ" "น้ำรินตื่นมาทำตั้งแต่เช้าแล้วค่ะคุณพี่ พอรู้ว่าคุณพี่จะมาก็ตื่นเต้นรีบลุกมาตั้งแต่ตีห้าเลย" "น่ารักมากแบบนี้สิถึงจะเหมาะสมกับตำแหน่งลูกสะใภ้ของป้า" ไม่รู้แม่ของเธอพูดแบบนั้นไปได้ยังไงแค่น้ำเก๊กฮวยทำไม่ถึงชั่วโมงก็เสร็จแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องตื่นมาตั้งแต่ 5:00 น ด้วยซ้ำ "วันนี้ที่ดิฉันมาก็เพื่ออยากจะมาคุยเรื่องงานแต่งของตาครามกับหนูน้ำริน หนูน้ำรินเรื่องที่เกิดขึ้นป้าขอโทษแทนพี่ครามด้วยนะ ตอนนี้ป้าจัดการย้ายเลขาไปทำงานที่โรงงานแล้วหนูจะไม่ได้เจอกับเลขาคนนั้นอีก" "หึ!" น้ำเสียงของครามที่ดังออกมาจากในลำคอทำให้น้ำรินจ้องมองไปยังใบหน้าและรอยยิ้มที่แสนเจ้าเล่ห์ของเขา เขาดูไม่ใช่คนดีและไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลยสักนิด "แม่ตกลงที่จะให้เราแต่งงานกับพี่ครามเขาแล้วนะ งานแต่งจะจัดขึ้นช่วงกลางเดือนที่จะถึงนี้เตรียมตัวให้ดีนะลูก" "ทำไมเร็วแบบนี้ล่ะคะ!" "นั่นสิครับไม่เร็วไปหรือครับคุณแม่ ผมกับน้องยังไม่ได้ทำความรู้จักอะไรกันเลย" "ไม่เร็วหรอกลูกเอาเป็นว่าค่าสินสอดดิฉันจะจัดการให้อย่างสมเกียรติ เรื่องสถานที่ก็จัดกันที่โรงแรมงานแต่งงานครั้งนี้จะต้องใหญ่โตฉันทุ่มไม่อั้นค่ะคุณน้อง" น้ำรินเริ่มนั่งไม่ติดแล้วทำไมทุกคนไม่ถามความคิดเห็นของเธอบ้างเลย คุณพ่อกับคุณแม่เธอก็เหมือนกัน ดีใจจนออกนอกหน้ารีบจัดการโทรหาญาติพี่น้องที่ต่างประเทศ ส่วนคุณป้ากับลูกชายก็มีอาการขึงตาใส่กัน ดูก็รู้ว่าคุณครามไม่ได้อยากแต่งงานกับเธอแต่ทำไมผู้ใหญ่ทุกคนถึงได้ตัดสินใจกันแบบนี้ น้ำรินขอตัวเดินออกมาด้านนอกเพื่อส่งข้อความหาธนา อย่างน้อยก็มีธนาที่รับฟังเรื่องราวของเธอ ทุกครั้งเวลาที่เธอมีปัญหาเธอก็มักจะส่งข้อความไประบายความอัดอั้นกับเขาประจำ "ดูท่าครอบครัวของเธอจะอยากได้เงินมากกว่าปกป้องศักดิ์ศรีของลูกสาวนะ" "คุณคราม!" "ตกใจเหรอ" "ในเมื่อคุณก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับฉัน ทำไมคุณไม่คุยกับคุณป้า ทำไมคุณไม่พูดไปเลยว่าคุณไม่อยากแต่ง" "ฉันพูดไปแล้วแต่แม่ฉันไม่ฟังยังยืนยันที่จะเอาเธอมาเป็นเมียฉันให้ได้ ฉันอยากรู้นักว่าผู้หญิงแบบเธอมันมีอะไรดีบ้าง" "ฉันอาจจะไม่ได้ดีพร้อมหรือดีพอสำหรับคุณ ถ้ามันมีปัญหามากนักก็ไม่ต้องแต่งค่ะ" "บ้านฉันทุ่มเงินกับงานแต่งไปเป็นสิบล้านเพื่อเอาเธอเข้ามาเป็นสะใภ้ เธอคิดว่าการยกเลิกมันง่ายขนาดนั้นเลยใช่ไหม ถ้ามันง่ายแบบนั้นวันนี้ฉันไม่มาเหยียบบ้านเธอหรอก!" "แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไงในเมื่อผู้ใหญ่ตกลงกันแล้ว!" คุณครามชะงักไปเล็กน้อยเหมือนเขาเองก็กำลังมีความคิดที่จะจัดการแก้ปัญหาครั้งนี้แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าจะหาทางลงยังไงดี "เอาแบบนี้เธอกับฉันแต่งงานกันไปก่อนแล้วหลังจากนั้นต่างคนต่างอยู่พอถึงเวลาค่อยหย่ากันทีหลัง" "หย่า! ฉันต้องจดทะเบียนสมรสกับคุณด้วยหรือคะ!" "ก็ใช่น่ะสิพ่อเลี้ยงของเธอเป็นคนยื่นข้อเสนอนี้เอง หัวหมอฉิบหายถ้าเลิกกันก็ต้องแบ่งสมบัติฉันอยากรู้นักว่าครอบครัวของเธอมันจะไปสุดที่ตรงไหน อยากได้เงินจากครอบครัวฉันจนจับลูกสาวใส่ตะกร้าล้างน้ำมาให้บ้านฉัน" "คุณจะดูถูกฉันมากเกินไปแล้วนะคะคุณคราม ถ้าคุณไม่ชอบพ่อเลี้ยงของฉันคุณก็ไปจัดการแก้แค้นกันเองไม่ใช่มาพูดจาดูถูกฉันแบบนี้ ฉันเองก็มีศักดิ์ศรีมีความเป็นคนไม่เหมือนกับคุณ!" "ปากเก่งให้มันได้ตลอดนะน้ำริน!" นิ้วชี้จ่อเข้ามาที่หน้าฉันจนเสียงผู้ใหญ่หัวเราะดังมาใกล้ คุณครามถึงได้ดึงมือกลับไปยืนล้วงกระเป๋าเหมือนเดิม ส่วนฉันรีบถอนหายใจออกมาเพราะกลัวว่าเมื่อกี้จะถูกเขาทำร้ายจนเจ็บตัว "เป็นยังไงบ้างตาครามคุยกับน้องรู้เรื่องแล้วใช่ไหม" "ครับคุณแม่ ผมคุยกับน้องเรียบร้อยแล้ว" "งั้นก็ตกลงตามนี้วันพรุ่งนี้เราไปรับน้องที่มหาวิทยาลัย ไปดูชุดกันให้เรียบร้อยเดี๋ยวเรื่องสถานที่กับเรื่องแขกในงานแม่กลับบ้านของหนูน้ำรินจะเป็นคนจัดการเอง" "ครับ" "หนูน้ำรินเดี๋ยวป้ากลับก่อนนะลูกพี่เขามีประชุมใหญ่ ตอนนี้เลขาก็ไม่อยู่แล้วป้าคงต้องรับเลขาคนใหม่มาช่วยงานหนูเองก็รีบเรียนให้จบจะได้มาช่วยงานพี่ครามนะลูก" "ค่ะ..." ฉันเดินออกมาส่งทั้งสองคนเมื่อรถของคุณครามขับออกพ้นประตูบ้าน พ่อเลี้ยงของฉันก็เดินเข้ามาหาพร้อมปรบมือที่ฉันสามารถเก็บอารมณ์เอาไว้ได้เป็นอย่างดี "เก่งมากลูกตอนนี้สิ่งที่พวกเราต้องทำคือการประคับประคองธุรกิจครอบครัวรวมทั้งหา connection ใหม่ๆ" "ด้วยการบังคับหนูให้แต่งงานกับนักธุรกิจเหรอคะ" "อย่าเรียกว่าบังคับเลยเรียกว่ามันเป็นหน้าที่ดีกว่า โรงงานผลิตน้ำหอมที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกแม้จะผลิตในประเทศไทยแต่กลับเป็นที่ต้องการของต่างประเทศ รายได้ต่อปีเป็นหมื่นล้านถ้าปล่อยให้หลุดมือไปคงจะน่าเสียดาย สมัยนี้ไม่มีใครมาห่วงเรื่องความรักกันหรอกเขาห่วงเรื่องเงินกันทั้งนั้น" "เหมือนที่คุณพ่อมาอยู่กับคุณแม่ใช่ไหมคะ ความรักมันคงไม่ใช่สิ่งสำคัญไม่เหมือนเงินทอง" "น้ำรินจะพูดอะไรก็ขอให้นึกถึงวันที่ครอบครัวของเธอกำลังตกต่ำถึงที่สุดถ้าไม่ได้ฉันเข้ามาช่วย ป่านนี้เธอกับแม่ก็คงไม่มีที่ซุกหัวนอนแล้ว ฉันส่งเสียให้เรียนจนจะจบปริญญานึกถึงข้าวแดงแกงร้อนที่ฉันให้บ้างอะไรตอบแทนได้เธอก็ต้องทำ" "ค่ะ!" อะไรตอบแทนได้ฉันก็ต้องทำเหอะ! อย่ามาพูดเรื่องบุญคุณให้ฉันได้ยินอีกเลย ที่ผ่านมาก็ได้จากคุณแม่ฉันไปไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ถ้าได้แต่งงานอย่างน้อยฉันก็จะบอกกับคุณค่าว่าฉันจะออกไปอยู่ข้างนอกและไม่ขอไปอยู่กับเขาต่างคนต่างอยู่ฉันอาจจะมีชีวิตอิสระที่ดีกว่ากันอยู่ที่บ้านก็ได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม