บทที่ 2
ใจร้าย NC
น้ำรินยืนน้ำตาไหลมองหน้าว่าที่สามีด้วยความกลัว สุดท้ายพอให้เดินก้าวเข้ามาประชิดตัวเธอพร้อมใช้ปลายจมูกคลอเคลียอยู่ที่แก้มไล่มาจนถึงกกหู มือสากลูบไล้อยู่ที่พวกแก้มนุ่มๆ ของเธอ
"สกปรก! ปล่อยมือของคุณเดี๋ยวนี้นะคะ!"
"เธอสะอาดมากเลยใช่ไหม?"
"ฉันก็ไม่ได้ขิตใจสกปรกเหมือนคุณ ขอตัวนะคะ!"
น้ำรินตัดสินใจโยนถุงยางในมือทิ้งแล้วหันหลังเดินออกมาที่ประตู ไม่ทันที่เธอจะเอื้อมมือไปจับลูกบิด เธอก็ได้ยินเสียงบางอย่างดังตามหลังมาติดๆ
ปึก! ปึก! ปึก!
"อ๊ะ! อ๊าา~ อ๊าาา~ ท่านประธานคะ~ เบาๆ หน่อยคะ~"
"อ่าา~ แม่งขมิบหน่อยได้ไหมจะหลวมไปถึงไหน~ อ่าา~"
ปึ้ง!
น้ำรินปิดประตูจนเสียงดังสนั่น สองขาก้าวเดินมาที่ลิฟต์พอกันทีกับว่าพี่สามีคนนี้ไม่มีทางที่เธอจะแต่งงานกับเขาเด็ดขาด
ภาพที่มันยังติดตาเธออยู่ยังคงตามหลอกหลอน เธอมาจนถึงมหาวิทยาลัยน้ำรินเดินมาหาธนาเพื่อนชายของฉันที่คอยช่วยเหลือช่วยงานที่มหาวิทยาลัยเธออยู่ตลอดเวลา
เรื่องที่เธอต้องแต่งงานกับคุณครามธนาก็รับรู้และยังคอยให้กำลังใจน้ำรินอยู่ตลอดเวลาด้วย
"ทำไมทำหน้าแบบนี้ อย่าบอกนะว่าทะเลาะกับที่บ้านมาอีก"
"ยิ่งกว่าทะเลาะกับที่บ้านมาอีกน่ะสิ ธนานายรู้ไหมวันนี้ฉันไปเจอคุณครามมาด้วย"
"เหรอ... เป็นยังไงบ้างล่ะตัวจริงหล่อเหมือนในทีวีหรือเปล่า"
"อย่าให้ฉันต้องพูดเลย"
"เธอเกริ่นมาขนาดนี้พูดเถอะฉันขอร้อง"
"เฮ้อ... ฉันไปเจอเขากำลังมีอะไรกับผู้หญิงในห้องทำงาน แถมเขายังใช้ให้ฉันไปซื้อถุงยางอนามัยอีกทุเรศที่สุด!"
"เฮ้ย! บ้าไปแล้วทั้งๆ ที่คุณครามก็รู้อยู่เต็มอกว่าอนาคตต้องแต่งงานกับเธอเนี่ยนะ"
"อืม!"
"เธอควรจะบอกเรื่องนี้กับพ่อกับแม่เธอนะ ยังไงพวกท่านน่าจะเข้าใจคงไม่มีใครอยากเห็นลูกตัวเองต้องไปเจ็บช้ำเพราะผู้ชายแบบนั้นหรอก"
"เรื่องนี้ฉันต้องปรึกษาคุณแม่ยังไงคุณแม่น่าจะเข้าใจฉันเพราะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน"
น้ำรินคิดแบบนั้นและเชื่อแบบนั้นมาโดยตลอด จนถึงเวลาที่เธอขับรถกลับมาที่บ้านแม่บ้านที่วิ่งมาต้อนรับพร้อมหยิบกระเป๋าและสัมภาระของเธอขึ้นไปเก็บบนห้อง น้ำรินจึงเดินเข้าไปหาคุณแม่ที่ห้องนั่งเล่น
ท่านกำลังนั่งจิบชาฟังเพลงสุนทรีอารมณ์ดีพร้อมกับเครื่องเพชรที่วางอยู่ตรงหน้า
"คุณแม่ขาสวัสดีค่ะ"
"กลับมาแล้วเหรอลูก เป็นยังไงบ้างล่ะไปเจอพี่ครามมา ถูกใจไหมจ๊ะ"
"หนูขอไม่แต่งงานกับผู้ชายคนนั้นได้ไหมคะ จะให้หนูแต่งงานกับใครก็ได้แต่ถ้าเป็นผู้ชายคนนั้นหนูขอบายค่ะ"
"ทำไมพูดแบบนี้ล่ะลูก! ผู้ใหญ่ตกลงกันแล้วว่ายังไงลูกก็ต้องแต่งงานกัน ถ้าไม่อยากแต่งตอนนี้หมั้นเอาไว้ก่อนก็ได้แบบนี้โอเคไหม"
"ไม่ค่ะไม่โอเคมากๆ รินไม่โอเคที่ต้องแต่งงานกับผู้ชายคนนี้ค่ะ คุณแม่รู้ไหมคะตอนที่รินไปหา คุณครามกำลังมีอะไรกับผู้หญิงในห้องทำงานแถมยังโยนเงินให้รินไปซื้อถุงยางอนามัยด้วย ผู้ชายคนนี้หรือคะที่คุณแม่อยากได้มาเป็นลูกเขย!"
คุณแม่ของน้ำรินตกใจมากท่านยกมือขึ้นทาบอก เหมือนจะลังเลกับสิ่งที่ลูกสาวพูดออกมา แต่เมื่อพ่อเลี้ยงของน้ำรินเดินกลับเข้ามาท่านก็เอ่ยปากด้วยประโยคที่ทำให้น้ำรินรู้สึกโมโหจนเลือดขึ้นหน้า
"มันเป็นเรื่องธรรมชาติของผู้ชาย ยังไม่แต่งงานมันก็ต้องมีกินเล็กกินน้อยเป็นเรื่องธรรมดาเราอย่าคิดมากเลยน้ำริน"
"ดูเหมือนคุณพ่อจะมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาตินะคะ ในเมื่อรู้อยู่เต็มอกว่าต้องแต่งงานกับรินแต่ทำไมยังมีพฤติกรรมแบบนี้ ทั้งๆ ที่รินยืนอยู่ตรงนั้นเขาควรจะหยุดแต่กลับทำต่ออย่างหน้าตาเฉย!"
"เดี๋ยวแต่งงานไปเรื่องแบบนี้มันก็คงไม่มีหรอก กลับมาเหนื่อยๆ ขึ้นไปพักเถอะลูกเดี๋ยวพ่อจะคุยกับแม่เรื่องงานแต่งของเราเอง"
"คุณแม่คะ!"
"ขึ้นไปพักจ๊ะเดี๋ยวแม่จะคุยกับพ่อเรื่องนี้เอง"
"ก็ได้ค่ะ"
น้ำรินจำใจเดินกลับขึ้นมาบนห้อง ทั้งเหนื่อยทั้งท้อเจอผู้ชายคนนั้นมันทำให้เธอเสียพลังงานทำให้สมองของเธอคิดเรื่องเรียนไม่ได้ กลับมาบ้านแทนที่จะสบายใจกลับต้องมาเจออะไรก็ไม่รู้
บ้านราชานนท์
รถแลมโบกินี่สีดำขับมาจอดที่โรงจอดรถพร้อมกับชายร่างสูงที่เดินควงกุญแจผิวปากเข้ามาในบ้านอย่างอารมณ์ดี วันนี้เขาได้เจอว่าที่เจ้าสาวของเขาแล้วแม้เขาจะรู้สึกไม่ถูกชะตาตั้งแต่พ่อเลี้ยงของเธอและแม่ของเธอ จนกระทั่งได้เห็นหน้าเธอความรู้สึกเกลียดขี้หน้ามันก็ทำให้เขาอยากผลักไสไล่ส่งครอบครัวนี้ออกไปจากหุ้นส่วนของบริษัทของเขาเหลือเกิน
"ตาครามมานี่เดี๋ยวนี้"
น้ำเสียงของคุณหญิงจิตตรีดังมาจากห้องนั่งเล่นท่านวางแก้วชาอังกฤษลงบนโต๊ะ พร้อมกับมองหน้าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนที่พึ่งสร้างเรื่อง จนครอบครัวของน้ำรินต้องโทรมาฟ้องถึงพฤติกรรมอันเลวทรามครั้งนี้
"มีอะไรครับคุณแม่"
"ทำไมลูกถึงทำแบบนี้!"
"ผมทำอะไรครับ?"
"วันนี้หนูน้ำรินไปหาลูกแต่ลูกกับทำพฤติกรรมอันเลวทรามแบบนั้นได้ยังไง!"
"เหอะ! ผมบอกกับคุณแม่แล้วไงครับว่าผมไม่ชอบครอบครัวของเด็กคนนั้น แม้แต่ตัวเธอผมก็ไม่ชอบคุณแม่ยังจะบังคับให้ผมแต่งงานกับเธออีก"
"เรื่องนี้เราคุยกันไว้แล้วลูกเอ็งก็รับรู้มาโดยตลอด แม่เคยบอกกี่ครั้งแล้วว่าพนักงานคนในองค์กรลูกห้ามมาพัวพันแบบนี้ แต่ลูกก็ยังคว้าเอาเลขาหน้าห้องมาทำเรื่องอัปยศ แม่รับไม่ได้แม่จะไล่เลขาของลูกออก!"
"แล้วถ้าเลขาของผมมีลูกกับผมล่ะครับ คุณแม่จะทำยังไง?"
"ตาคราม!"
"เลิกบังคับผมสักทีเถอะครับคุณแม่ ที่ผ่านมาผมทั้งบริหารงานดูแลทุกคนผมก็เหนื่อยพออยู่แล้วยังต้องให้ผมมาเหนื่อยใจเพราะเรื่องไร้สาระพวกนี้อีก ยังไงผมก็ไม่มีทางแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น"
"งั้นเสียใจด้วยนะเพราะแม่ตกลงกันไปแล้ว วันพรุ่งนี้เราต้องพาแม่ไปที่บ้านของหนูน้ำริมเพื่อไปคุยกับผู้ใหญ่ทางนั้นให้รู้เรื่อง ส่วนเราก็เตรียมตัวแต่งงานได้เลยแม่กำหนดวันเอาไว้แล้ว!"
"คุณแม่จะเล่นแบบนี้ใช่ไหมครับ!"
"แม่ไม่ได้เล่น ในเมื่อครามไม่คิดจะฟังแม่ แม่ก็ต้องทำแบบนี้!"
"จะให้ผมแต่งงานกับใครผมไม่ติดเลยแต่ทำไมต้องเป็นครอบครัวนี้ ผมเคยบอกคุณแม่ไปแล้วว่าครอบครัวนี้มันกำลังจะถังแตก ถ้าไม่ได้หุ้นส่วนจากบริษัทของเราป่านนี้คงไม่มีเงินมากินมาใช้มาทำหน้าสลอนเหมือนทุกวันนี้หรอกครับ!"
"นั่นมันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหนูน้ำรินเลย เด็กคนนี้แม่เองก็รักและเอ็นดูมาก"
"งั้นคุณแม่ก็แต่งเองเลยสิครับ ผมอนุญาตเดี๋ยวผมจะไปเป็นเถ้าแก่ให้คุณแม่แบบนี้ดีไหมครับ"
"ตาคราม!"
คุณหญิงจิตตรีลุกขึ้นด้วยความโมโหมือที่ชี้หน้าลูกชายสั่นเทาไปด้วยความโกรธ สุดท้ายท่านก็เป็นลมเพราะความโมโหทำให้แม่บ้านรีบเข้ามาประคอง รวมทั้งลูกชายตัวดีที่มีอาการหน้าเสียเมื่อเห็นคุณแม่เป็นลมเพราะตนเอง
"คุณแม่ครับ!"