กักขังครั้งที่ 12

4430 คำ
​#Wolf 11/02/20xx 12.06 น. "แม่ทำของอร่อยๆไว้เยอะเลยนะลุกออกจากเตียงมากินข้าวกับแม่ดีกว่ามะ" "ไม่เอามี๊วูฟไม่หิว!" พลั่ก! "โอ้ยไรเนี้ยป๋า!!?" "นั้นแม่มึงนะใครสั่งใครสอนให้เสียงดังใส่ห๊ะ?" "แล้วป๋ายันผมทำไมว่ะเนี้ยผมเจ็บนะ!" ผมมองไปที่พ่อของตัวเองอย่างไม่พอใจแต่พ่อแท้ๆของผมกลับแสยะยิ้มมุมปากกลับมาพร้อมกับเดินไปนั่งที่เก้าอี้ภายในห้องของผมด้วยท่าทีกวนๆจนผมต้องเขยิบเข้าไปนอนหนุนตักแม่ตัวเองด้วยท่าทีอ้อนๆ "มี๊ป๋าถีบวูฟที่เอวอ่ะวูฟเจ็บ" "แล้วจะยันวูฟทำไมคะเวย์เห็นไหมว่าแค่นี้วูฟก็เจ็บอยู่แล้ว!" "มันเจ็บที่หน้าไหมคะเคสแล้วอีกอย่างไอ้วูฟมันสอนไม่จำแถมยังนิสัยเสียอีกไปโอ๋ให้มันเหลิงทำไมเนี้ย?" "นิสัยเสียได้ใครละคะ?" "อ้าว...มันเสียของมันเองนะคะเวย์ไม่รู้เรื่อง" "ป๋าหยุดพูดคะขาต่อหน้าผมได้ไหมเห็นแล้วรู้สึกอี๋ไงก็ไม่รู้" พรึ่บ! "ไอ้วูฟ!" "หยุดเลยๆพอเลยทั้งสองคนจะเถียงกันให้มันได้อะไรคะเนี้ย?" ผมเลิกคิ้วใส่พ่อตัวเองอย่างกวนๆทันทีที่ท่านจะเดินมาหาผมพร้อมกับมือของผมเองที่กอดเอวแม่ไว้แน่น แม่ก้มลงมามองผมก่อนจะตีที่หัวผมเบาๆ "เราด้วยถ้าแม่ยังเห็นว่าไม่ยอมลุกจากที่เตียงอีกแม่จะโกรธจริงๆแล้วนะ!" "แต่แม่ครับ...!" ฟึ้บ! ผมมองตามแม่ตัวเองที่ลุกขึ้นจากเตียงที่ให้ผมทิ้งหัวลงที่เตียงอีกครั้งอย่างทำอะไรไม่ถูก พ่อหัวเราะออกมาอย่างสะใจพร้อมกับเหลือบตามองมาที่ผมอย่างผู้ชนะ "สม! ไม่มีใครให้พูดนะคะๆด้วยล่ะสิเพิ่งรู้นะว่ามีลูกขี้อิจฉา ^^" "โว้ยย ป๋า!" ผมดิ้นไปมากับเตียงพร้อมกับพ่อที่หัวเราะเสียงดังขณะที่เดินออกไปจากห้องนอนของผม ผมดิ้นมันอยู่แบบนั้นจนผ้าปูและหมอนทุกอย่างตกลงที่พื้นก่อนจะนอนนิ่งหอบหายใจเสียงดัง...ใครอิจฉากันผมหรอจะอิจฉาพ่อตัวเองที่มีคนไว้ให้อ้อนน่ะ หึแต่มันก็ถูกแล้วพ่อคิดถูกแล้วล่ะ! พรึ่บ... ผมพลิกตัวนอนคว่ำหน้าไปกับเตียงพร้อมกับถอนหายใจออกมาเสียงดังขณะที่มือตัวเองก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าไปที่รูปตัวเองไปด้วยผมเลื่อนมันไปเรื่อยๆจนถึงรูปที่ผมไม่เคยที่จะกลับมาดูมันซ้ำเป็นครั้งที่สองเลยหลังจากที่ถ่ายมันผมมองรูปที่มิวสิคยิ้มให้กล้องด้วยรอยยิ้มที่กว้างพร้อมกับผมที่นั่งทำหน้านิ่งอยู่ข้างหลังผมจำได้หน่อยๆว่าตอนนั้นมิวกวนผมและผมกำลังไม่พอใจแต่ก็นะ...รู้ว่ามีแต่ไม่เคยคิดจะสนใจดูมันจนมันหายไปนั้นแหละผมถึงรู้ว่าแค่รูปก็มีค่ามากขนาดไหน ผมกำลังแย่แย่เพราะผมกำลังคิดถึงเธอคนที่ผมทำร้ายเธอมานานจนมันยากที่จะให้อภัย "..." เสียงถอนหายใจออกมาผมดังขึ้นอีกครั้งก่อนที่ผมจะตัดสินใจลุกขึ้นและเดินออกมานอกห้องพร้อมกับมองแม่ที่กำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่ เธอยิ้มให้ผมนิดๆก่อนจะหันไปสนใจอาหารตรงหน้าต่อผมจึงเลือกที่จะเดินไปนั่งที่โซฟาข้างๆพ่อที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว วันนี้ท่านมาหาผมเพราะรู้ว่าผมมีเรื่องน่ะคือถ้ามีเรื่องธรรมดาก็ไม่อะไรมากหรอแต่เพราะผมเมาด้วยแถมยังโดนทิ้งให้นอนหมดสภาพอย่างหมาข้างถนนอีก ดีนะที่ไอ้ทร็อตมันมาเจอไม่งั้นผมคงต้องนอนที่ถนนทั้งคืนอ่ะ "ทร็อตเล่าให้ฉันฟังว่าแกต่อยกับชินน์และถ้าฉันจำไม่ผิดเขาเป็นเด็กบริษัทฉัน" ผมเหลือบตามองพ่อที่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำของตัวเองด้วยสายตานิ่งเรียบก่อนจะพยักหน้าช้าๆ พ่อผมเป็นเจ้าของค่ายเพลงน่ะแล้วผมก็รู้ว่าไอ้พี่ชินน์อะไรนั้นเป็นเด็กค่ายพ่อเมื่อไม่นานมานี้เช่นกัน พ่อหันมามองผมก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ "ฉันไม่รู้หรอกนะว่าปัญหาแกมันเรื่องอะไรแต่แกก็คิดบ้างว่าแม่แกจะรู้สึกยังไง ดีแค่ไหนที่เคสไม่เป็นลมตอนรู้ว่าแกนอนหมดสภาพที่สนามน่ะ" "ผมขอโทษ ผมก็ไม่รู้แม่งเหมือนกันว่าทำไมเรื่องมันเลวร้ายขนาดนี้" "ไปทำใครท้อง?" "ไม่ใช่ป๋า!" "ก็ไหนว่าเลวร้าย..." ผมเม้มริมฝีปากอย่างหงุดหงิดพร้อมกับมองพ่อที่มองมาที่ผมอย่างไม่พอใจ พ่อมองมาที่ผมอย่างเพลียๆก่อนจะหันไปมองแม่ที่ยังอยู่ในครัวและหันมาหาผมพร้อมกับขยับเข้ามาใกล้แถมยังพาดแขนไปที่โซฟาด้วยท่าทางเสี่ยๆไปด้วย "อยากจะปรึษาไหมแบบตามประสาพ่อลูก?" "..." ผมยกมือขึ้นเสยผมทันทีที่พ่อพูดจบ และถึงพ่อผมจะดูมีท่าทางไม่จริงจังแต่สายตาที่มองมามันทำให้ผมรู้สึกอยากจะพูดออกมาให้ท่านรู้ทั้งหมดทุกเรื่องทุกเรื่องที่คนโง่ๆอย่างผมกำลังเป็น "ผมทำร้ายคนๆนึง ผมทำให้เธอเสียใจเป็นพันครั้งได้แล้วมั่ง" "แล้ว..?" "แล้วเธอก็ไล่ผมออกมา" "เออ ก็สมควรแล้วไหม?" "ป๋า..." "หึ แล้วแกก็เพิ่งรู้ตัวว่ารักเธอใช่ไหมล่ะ?" "..." "แล้วไงล่ะแกทำเลวๆกับเธอไว้เยอะและแกก็ไม่เคยทำอะไรดีๆให้เธอเลย" ผมขมวดคิ้วเข้าหากันทันทีที่พ่อพูดอะไรงงๆออกมา "ก็ทำให้เธอเห็นสิว่ะว่าแกรักและสามารถทำเรื่องดีๆเพื่อเธอได้" "...ผมไม่เข้าใจ" "แกโง่กว่าที่ฉันคิดนะวูฟ" พ่อมองมาที่ผมอย่างไม่เชื่อสายตาก่อนจะมองมาที่ผมด้วยแววตาจริงจัง "ถ้าแกเอาแต่พูดว่ารักเธออย่างงั้นอย่างงี้แต่ไม่เคยทำให้เธอเห็นเลยว่าแกรักเธอแล้วเธอจะเชื่อหรือให้อภัยแกได้หรอว่ะ แค่ลมปากใครจะไปเชื่อ" "ผมต้องทำให้เธอเห็นหรอ?" "เออ!" "แล้วผมต้องเริ่มยังไง?" "ไม่รู้โว้ย คิดบ้างดิมีสมองไว้กั้นแค่หูรึไงไอ้ลูกคนนี้!" "มาทานข้าวได้แล้ว แม่เตรียมเสร็จแล้ว" "ดีเลยเวย์กำลังหิวพอดี" พ่อลุกขึ้นยืนทันทีที่แม่เรียกและก่อนที่ท่านจะเดินผ่านผมไปท่านก็หยุดยืนตรงหน้าผมก่อนจะก้มลงมองผมอีกครั้งพ่อของผมเหยียดยิ้มออกมานิดๆและมองมาที่ผมอย่างเข้าใจ "ฉันก็ไม่ใช่คนดีแต่เพื่อคนที่ฉันรักฉันก็ต้องเปลี่ยนตัวเอง มันไม่ยากเลยแค่ทำเพื่อคนที่เรารักน่ะถ้าแกรักเธอจริงๆแกก็ต้องเปลี่ยน ^^" พรึ่บ.. ผมยังคงนั่งนิ่งอยู่กับที่เพราะยังคงประมวณคำพูดพ่อตัวเองอยู่อย่างงงๆ คือที่ท่านพูดมันก็ถูกทั้งหมดอ่ะที่ผมเอาแต่พูดว่ารักมิวและอยากให้มิวยกโทษแต่ผมกลับไม่เคยทำให้เธอเห็นเลยว่าผมรักเธอ...ผมนี่มันโง่เกินกว่าจะคิดได้ว่าควรจะเริ่มยังไงควรจะเริ่มตรงไหนเพื่อให้มิวรู้ว่าผมรักเธอและรู้ว่าเธอนั้นสำคัญ มันยากที่ผมจะไถ่โทษกับสิ่งที่ทำไปแต่ผมก็ไม่ยอมที่จะเสียเธอไปเช่นกัน ต่อให้มิวเบื่อขี้หน้าผมแต่ผมต้องหน้าด้านมากกว่าเดิมแล้วล่ะ "แม่กลับแล้วนะ ดูแลตัวเองด้วยอย่ามีเรื่องบ่อยอาทิตย์หน้ากลับบ้านด้วยล่ะวันเกิดแม่ทร็อตจำได้ใช่ไหม?" "จำได้สิครับแม่...ขอโทษนะครับที่วูฟทำให้เป็นห่วง" แม่มองมาที่ผมก่อนจะถอนหายใจเบาๆและดึงผมเข้าไปกอดไว้ผมกอดตอบแม่แน่นพร้อมกับซบใบหน้าตัวเองลงที่ไหล่เธอด้วยท่าทีอ้อนๆเหมือนที่ชอบทำเธอยกมือขึ้นลูบผมผมเบาๆ "วูฟไม่ใช่คนไม่ดีแต่วูฟต้องมีสติมากกว่าที่เป็นอยู่รู้ใช่ไหม?" "...ครับ" "รับปากและทำด้วยอย่าทำให้แม่เป็นห่วงบ่อยฉันขี้เกียจพามาหา" "เวย์!" "หยอกก" ผมหัวเราะออกมาเบาๆขณะที่ล่ะตัวเองออกมาจากอ้อมกอดแม่และมองแม่ที่หันไปมองพ่ออย่างดุๆ ผมโบกมือลาแม่กับพ่ออีกครั้งพร้อมกับยืนมองทั้งสองคนที่ขับรถออกจากสนามผมยิ้มๆก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือตัวเองขึ้นดูเวลาก่อนจะพบว่าตอนนี้เกือบจะบ่ายสามแล้วให้ตาย!จะทันไหมนะ...ผมมีที่ที่ต้องไปอย่างน้อยวันนี้ขอแค่ได้เห็นหน้าก็ยังดีแม้เธอจะไม่อยากเจอผมก็เถอะ #Music​ 15.55 น. "จะไปชมรมหรอ?" "อืม มีประชุม" "ว่าจะชวนไปกินข้าว" "โทษทีนะ" "ไม่เป็นไรหรอกไปเถอะๆไว้วันหลังก็ได้" ฉันยิ้มออกมาบางๆให้นินิวก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ภายในห้องเรียนและโบกมือลามันยิ้มๆหลังจากที่เรียนเสร็จ คือฉันก็อยากจะไปกินข้าวกับทั้งสองอบู่นะแต่ติดที่ต้องไปที่ชมรมนี่สิ วันนี้ยิ่งไม่ได้กินข้าวเที่ยงมาอยู่ด้วยหิวก็หิว "..." แปลกๆแฮะ...ฉันส่ายหน้าไปมาช้าๆก่อนจะมองไปข้างหลังตัวเองด้วยความสงสัยคือฉันคิดว่ามีคนเดินตามมาน่ะแต่ฉันคงคิดมากไปเอง ฉันหันกลับมามองถนนทางเดินไปที่รถตัวเองอีกครั้งก่อนจะต้องชงักขาตัวเองอีกครั้งเมื่อสายตาของฉันปะทะเข้ากับรถสีขาวคุ้นตาที่จอดอยู่ข้างๆรถของฉัน มือของฉันกำเข้าหากันแน่นทันทีพร้อมกับสายตาฉันที่มองไปรอบๆอย่างไม่วางใจมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ที่เขาจะมาจอดรถไว้ข้างๆรถฉันแบบนี้ ฟึ้บ... "ไง..." "..." ฉันหันหลังกลับไปตามเสียงที่ทักขึ้นทันทีพร้อมกับมองร่างสูงที่อยู่ในชุดสียืดกางเกงยีนส์ธรรมดาอยู่...วันนี้ปกติเขาไม่มีเรียนนิแล้วมาที่นี่ทำไม หรือว่าจะมาหาเรื่องฉันอีกฉันมองใบหน้าที่ยังมีรอยช้ำที่มุมปากด้วยสายตาที่พยายามจะนิ่งเรียบให้ได้มากที่สุดก่อนจะต้องขมวดคิ้วเข้าหากันพร้อมกับก้าวถอยหลังทันทีที่วูฟเดินเข้ามาหา "จะมาหาเรื่องอะไรกันอีกล่ะ หรือจะเอาค่าพยาบาล?" "โดนต่อยแค่นั้นมันไม่ทำให้ผมเข้าห้องโรงบาลหรอกนะ" "แล้วต้องการอะไรอีกล่ะ??" ฟึ้บ! "อะ...อะไร?" ฉันมองถุงพลาสติกตรงหน้าที่วูฟยื่นมาให้อย่างไม่เข้าใจและยิ่งเห็นของที่อยู่ข้างในมันยิ่งทำให้ฉันงงมากไปกว่าเดิมอีก วูฟสบสายตากับฉันนิ่งก่อนจะยัด!ย้ำว่ายัดถุงนั้นใส่มือฉันอย่างรวดเร็วและหันหน้าหนีไปด้วยท่าทีที่ดูเหมือนกำลังทำตัวไม่ถูก "ปกติวันนี้ไม่ชอบกินข้าวตอนเที่ยงนิเลยซื้อขนมมาให้กินรองท้องเดียวก็ปวดท้องอีก" "..." "..." วูฟยกมือขึ้นเกาหัวตัวเองแต่สายตากลับไม่ยอมมองมาที่ฉันเลย ฉันก้มลงมือถุงที่อยู่ในมือด้วยสายตานิ่งเรียบถึงแม้ว่าภายในใจฉันจะเต้นแรงขนาดไหนแต่อีกด้านมันกลับตีรวนตลอดเวลาว่าสิ่งที่เขากำลังทำเพราะต้องการสิ่งตอบแทน ฉันยื่นถุงในมือไปตรงหน้าวูฟทันทีพร้อมกับสบสายตาเขาที่กำลังมองมาอย่างไม่เข้าใจด้วยสายตานิ่งๆ "ไม่เอา" "...ทำไม มิวยังไม่ได้กินอะไรนิ?" "ถึงฉันจะหิวแต่ฉันก็ไม่กินของที่นายซื้อมาแน่ เอาคืนไป!" "มิวสิค" พรึ่บ! "ไม่ต้องมาทำเป็นห่วงฉันหรอกแค่นี้ฉันซื้อกินเองได้ ฉันไม่ปล่อยให้ตัวเองหิวตายหรอก!" ฉันว่าพร้อมกับเดินมาที่รถและเปิดประตูเข้าไปนั่งภายในรถทันที วูฟมองมาที่ฉันพร้อมกับถุงขนมที่อยู่ที่มือเขาไม่วางตา ฉันสตาร์ทรถและขับออกมาทันทีและเหลือบมองวูฟที่ไม่โวยวายอย่างเคยเขาเพียงแค่ยืนนิ่งและหลุบตาลงต่ำมองถุงในมือตัวเองด้วยท่าทีนิ่งๆแทน ฉันถอนหายใจออกมาเสียงดังพร้อมกับล่ะสายตาออกมาจากกระจกหลังทันที...ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่เขากำลังทำนั้นคืออะไรแต่มันกลับไม่ดีเอาซะเลยไม่ดีต่อใจฉันเลยจริงๆ "งานที่เราไปแสดงครั้งก่อนได้รับคำชมเยอะมากและเพราะเราเป็นหน้าเป็นตาให้มหาลัยทางมอเลยให้ค่าขนมเรา...ห้าพันครับผม!!" "วู้ๆๆ" "คือเรื่องที่พี่นัดพวกเรามาที่ชมรมวันนี้ก็เพราะพี่คิดว่ามันก็นานแล้วที่ชมรมเราไม่ได้ไปกินอะไรกันเท่าไหร่ เพราะงั้นอยากกินอะไรในงบห้าพันนี้พูดมาเลย!" "เนื้อย่าง!/เหล้า!!" ฉันหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อคนในชมรมเริ่มแตกออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายทางน้องผู้ชายก็เหล้าซะส่วนใหญ่แต่ฝ่ายผู้หญิงกลับเนื้อย่างเสียงดังเล่นเอาฉันกับลุลาที่นั่งข้างๆกันอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เตอร์ที่ยืนถามมีหน้าตาที่คิดหนักอย่างเห็นได้ชัด "เนื้อย่างกินวันไหนก็ได้มะ เหล้าดีกว่าพี่ผมว่า" "คือเพื่อนบางคนก็กินไม่ได้ไหม!" "กินไม่ได้ก็เดียวเราสอนกินไง ไปดื่มเหอะนะพี่เตอร์ดื่มๆ" "เอ่อ..." "ไม่ไงบางคนนี่ก็กินไม่ได้จริงๆนะคะพี่เตอร์!" ฉันมองพวกเด็กๆในชมรมที่เริ่มจริงจังขึ้นมายิ้มๆก่อนจะเหลือบมองเตอร์ที่เริ่มหน้าเครียดขึ้นมาอย่างขำๆ "คือฉันก็บอกมันแล้วให้คิดมาเลยว่าจะพาน้องไปไหนแต่นี่นางอยากมาถามไง เป็นไงล่ะน้องทะเลาะกันเลยเห็นมะ" "ธรรมดาแหละแต่ก็นะ" "แล้วทำไมเราไม่ทำทั้งสองอย่างพร้อมกับเลยล่ะ?" "แต่พี่ชินน์งบมันอาจจะเกินนะครับ" พี่ชินน์เลิกคิ้วขึ้นนิดๆก่อนจะลุกขึ้นและเดินออกมายืนตรงหน้าน้องๆด้วยใบหน้ายิ้มๆอย่างที่เขาชอบทำ "ถ้ามันเกินเดียวพี่ออกเองไม่ได้ไปกินกันนานแล้วนิ" "หูยยยย!" "อีกอย่างพี่ก็รู้จักร้านนั่งกินชิวๆด้วยเพราะงั้นก็ไปกินกันที่นั้นเลยดีไหม?" "ดี!!" "โอเคงั้นไปวันนี้เลยนะพี่จะโทรจองโต๊ะ" "ครับ/ค่ะ" ฉันเหลือบมองลุลาที่ตบมือขึ้นอย่างดีใจเมื่อมีคนที่เข้ามาแก้ปัญหาให้ได้แล้ว ฉันยิ้มออกมาบางๆพร้อมกับมองไปที่พี่ชินน์อีกครั้งเขามองมาที่ฉันก่อนจะยิ้มให้ซึ่งฉันก็ยิ้มตอบพี่ชินน์ไปเช่นกัน เฮ้อ...ไม่อยากจะคิดถ้าพี่ชินน์ไม่มาแก้ปัญหานี่จะไปจบกันที่ตรงไหน "งั้นเดียวพี่ไปรับนะ" "คะ?" "ก็มิวไม่รู้จักร้านนิกว่าจะหาทางไปอีกเดียวพี่ไปรับเลยดีกว่า" "มันจะไม่เสียเวลาหรอคะเดียวพี่ก็วกไปวกมาอีกเสียเวลาแย่" "ไม่หรอกมันไม่ใช่เรื่องลำบากเลย เพราะงั้นเดียวพี่ไปรับนะครับ" "...งั้นก็ได้ค่ะ" ฉันตอบกลับพี่ชินน์เบาๆขณะที่กำลังจะเดินไปที่ลานจอดรถ พี่ชินน์ยิ้มออกมาบางๆก่อนจะเอื้อมมือตัวเองขึ้นลูบผมฉันเบาๆด้วยสายตาที่กำลังเอ็นดูอย่างเห็นได้ชัด ฉันยิ้มออกมานิดๆเพื่อให้พี่ชินน์สบายใจว่าฉันไม่ได้อะไรแต่ภายในใจฉันมันกลับเกรงใจเขาจะแย่อยู่แล้วตายเถอะฉันอยากจะบอกเขาจังว่าฉันเกรงใจอ่ะ มันก็ใช่ว่าจะไม่ดีที่พี่เขาจะมารับแต่มันกลับทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด...มันเป็นความอึดอัดแปลกๆ 21.36 น. "ชนนนน!" เสียงของคนในชมรมดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าพร้อมกับแก้วที่ถูกยกขึ้นชนแม้บางคนจะดื่มได้แค่โค้กแต่มันกลับทำให้บรรยายกาศภายในร้านนื้อย่างที่พี่ชินน์แนะนำมาดีอย่างบอกไม่ถูก ฉันยกแก้วน้ำที่มีน้ำเปล่าขึ้นดื่มนิดๆก่อนจะวางมันลงและหันไปย่างเนื้อให้น้องๆต่อ ฉันกะว่าจะพักแฮลกอฮอล์น่ะเพราะตั้งแต่ไปทำงานที่ร้านพี่กรนี่กินเกือบเมาเกือบทุกครั้งที่ทำงาน "พี่มิวกินบ้างเถอะค่ะ เดียวหนูย่างเอง" "เฮ้ย ไม่เป็นไรพี่กินเยอะแล้วน่ะเริ่มอิ่มแล้วพวกเราน่ะกินเยอะๆเถอะได้มาทั้งที ^^" "หูย เกรงใจนะเนี้ยงั้นหนูฝากย่างสามชั้นด้วยนะคะ" "เดียวเถอะ!" ฉันมองเด็กในชมรมด้วยสายตาดุๆก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อพวกเธอทำหน้าอ้อนๆใส่ ฉันส่ายหน้าไปมายิ้มๆก่อนจะคีบเอาสามชั้นลงย่างให้ไปเรื่อยๆเด็กในชมรมฉันทุกคนก็สนิทกับฉันดีสนิทถึงขนาดกวนกันได้เลยล่ะซึ่งฉันว่ามันดีนะที่เราได้รู้จักใครหลายคนในมอน่ะยิ่งคนที่ชอบอะไรเหมือนๆกัยเรานี่ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่ "อิ่มแล้วหรอ?" "อ่อค่ะ พี่ชินน์ล่ะเอาเนื้อเพิ่มไหม?" "ไม่ล่ะพี่ก็อิ่มแล้วเหมือนกัน" "อ่อ..." "อยากกลับรึยัง?" "กลับได้หรอ นึกว่าจะอยู่กับน้องจนกินเสร็จ" "กลับได้ดิเราก็ปล่อยให้น้องๆกินไปเตอร์กับลุลาก็กำลังจะกลับ" ฉันมองไปที่ลุลากับเตอร์นิดๆและพบว่าทั้งสองคนจะกลับจริงๆ คือฉันก็อยากกลับหน่อยๆอยู่แล้วล่ะเพราะมีงานที่ต้องเคลียร์ฉันมองกลับมาที่พี่ชินน์อีกครั้งก่อนจะพยักหน้าเบาๆ "เค เดียวพวกพี่กลับแล้วนะถ้าจะสั่งเพิ่มก็สั่งได้เลยนะพี่บอกกับเจ้าของร้านไว้แล้ว ^^" "ขอบคุณค๊าบบ กลับดีดีนะครับพี่ๆ" "อืม อย่าดื่มกันเยอะล่ะ" ฉันโบกมือลาน้องๆอีกครั้งก่อนจะหยิบกระเป๋าตัวเองและเดินออกมาจากร้านพร้อมกับพี่ชินน์และพวกเตอร์ พวกเราลากันที่หน้าร้านนิดหน่อยก่อนที่ฉันกับพี่ชินน์จะแยกมาที่รถของเขา "แวะไปที่นึงก่อนได้ไหม?" "ได้สิคะนี่รถพี่นะ ^^" พี่ชินน์ยิ้มออกมาบางๆก่อนที่เขาจะหันไปสนใจถนนต่อหลังจากที่หันมาถามฉันแบบนั้น ฉันมองไปตามทางที่พี่ชินน์พาฉันขับออกมาก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาดูนั้นี่ไปเรื่อยก่อนจะต้องขมวดคิ้วนิดๆเมื่อมีข้อความจากใครบ้างคนส่งเข้ามา...ฉันเม้มริมฝีปากนิดๆก่อนจะปัดดูมันช้าๆ Wolf : กินข้าวรึยัง? มือที่กำลังถือโทรศัพท์อยู่กำมันแน่นขึ้นเมื่อเห็นข้อความนั้นที่ส่งมา ฉันจ้องมองมันนานนับนาทีแต่ไม่ได้ตอบอะไรไปและต่อมาไม่นานข้อความใหม่ก็ถูกส่งมาอีกครั้ง Wolf : ทำอะไรอยู่หรอ? ผมเห็นนะว่ามิวอ่านอยู่ อย่างน้อยส่งแค่สติกเกอร์ตอบกลับมาก็ยังดี ฉันกดล็อคหน้าจอทันทีพร้อมกับเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าอย่างไม่คิดจะสนใจมันอีกต่อไป วูฟเขาคิดจะทำอะไรอีกหรอ...ทั้งข้อความบ้าๆนั้นแล้วยังการกระทำแปลกๆของเขาอีกมันทำให้ฉันงงนะฉันควรจะทำยังไงกับสถานการณ์แบบนี้กัน!? "มิวสิค.." "คะ...คะ?" "ถึงแล้วล่ะ" ฉันมองไปข้างหน้าตัวเองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยทันทีที่พี่ชินน์บอกแบบนั้น ที่นี่มันริมแม่น้ำไม่ใช่รึไง...แล้วพี่ชินน์จะพาฉันมาทำไมกันในตอนนี้ ฉันมองไปที่ร้านขายของต่างๆที่กำลังขายกันอยู่อย่างงงๆขณะที่เปิดประตูลงจากรถไปด้วย "พี่ชินน์จะมาซื้ออะไรกินหรอคะ?" "เปล่า พี่แค่อยากมาที่นี่กับมิวน่ะ" พี่ชินน์ตอบฉันกลับมาเบาๆก่อนที่มือของเขาจะเอื้อมมือตัวเองมากุมมือฉันไว้เบาๆ ฉันก้มลงมองมันอย่างทำอะไรไม่ถูกก่อนจะเงยหน้ามองพี่ชินน์ที่กำลังมองมาที่ฉันอยู่ เขายิ้มออกมาบางๆและพาฉันเดินไปเรื่อยๆจนเรามาถึงกลางสะพานลมเย็นๆพัดตีหน้าฉันเบาๆมันจึงทำให้ระหว่างเราสองคนไม่อึดอัดมากนัก "พี่อยากมาที่นี่กับมิวนานแล้วล่ะ" "..." "ที่นี่สวยมากๆเลยนะตอนค่ำน่ะพี่ว่ามันคงจะดีถ้าได้มากับคนที่พี่รักสักครั้ง" ฉันเบิกตากว้างพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองพี่ชินน์ที่พูดแบบนั้นขึ้นมาทันทีขณะที่เขาก็กำลังมองมาที่ฉันอยู่...คือมันจะว่ายังไงดีล่ะตอนนี้ฉันรู้สึกยังไงระหว่างตกใจกับตื่นเต้นที่เขาพูดออกมาแบบนั้นพี่ชินน์ยิ้มออกมาบางๆก่อนจะเอื้อมมืออีกข้างมากุมมือฉันไว้เบาๆ "ที่นี่สวยไหม?" ฉันมองไปรอบๆเมื่อพี่ชินน์ถามขึ้นแบบนั้นก่อนจะค่อยๆหลับตาลงช้าๆ...ฉันไม่รู้จะบอกเขายังไงดีว่าที่นี่วูฟเคยพาฉันมาแล้วใช่ว่ามันสวยจริงๆและตอนนี้ฉันรู้ว่าฉันมากับใครฉันมากับพี่ชินน์แต่ความรู้สึกภายในของฉันมันกลับไม่ได้รู้สึกดีเท่าที่ควรฉันค่อยๆลืมตาขึ้นสบสายตากับสายตาอ่อนโยนตรงหน้าช้าๆ "สวยค่ะ...ที่นี่เป็นที่ที่มิวชอบมากเลยล่ะ" "..." "..." "มิวคงจะรู้อยู่แล้วว่าพี่รักเรา...และพี่อยากจะปกป้องมิวเหมือนกับผู้ชายทั่วๆไปที่อยากจะปกป้องผู้หญิงที่ตัวเองรัก" "..." ริทฝีปากฉันเม้มเข้าหากันแน่นทันทีที่พี่ชินน์เอ่ยขึ้นมาแบบนั้น เขาจ้องลึกเข้ามาในนัยตาของฉันด้วยแววตาที่ดุดันและจริงจังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน "คบกับพี่นะ เป็นแฟนกับพี่แบบที่ไม่ใช่เพราะใครคบกับพี่เหมือนผู้ชายผู้หญิงเขาคบกัน" "...พะพี่ชินน์" พี่ชินน์เม้มริมฝีปากตัวเองแน่นพร้อมกับมองมาที่ฉันเพื่อรอคำตอบ แววตาฉันสั่นไหวทันทีที่เห็นสายตานั้นของเขามือของฉันที่ถูกเขากุมไว้อยู่สั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และหัวใจฉันมันกำลังเต้นแรง...แต่ที่มันเต้นแรงไม่ใช่เพราะมันกำลังรู้สึกตื่นเต้นแต่เพราะมันกำลังเต้นแรงด้วยความรู้สึกผิด ฉันที่เพิ่งโดนขอคบแต่ฉันกลับไม่ได้รู้สึกดีใจอย่างที่มันควรจะเป็น น้ำตาของฉันค่อยๆไหลลงมาช้าๆพร้อมกับแววตาฉันที่กำลังมองไปที่พี่ชินน์อย่างรู้สึกผิดฉันรู้สึกผิดที่ตอบรับเขาไม่ได้...ฉันทำแบบนั้นไม่ได้จริงๆ "มิว...มิวขอโทษ" "..." ฟึ้บ... ฉันยกมือตัวเองขึ้นปิดปากเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นตัวเองทันทีที่พี่ชินน์ค่อยๆปล่อยมือออกจากฉันอย่างไม่มีเรียวแรงเขาถอยออกไปเหมือนคนหมดแรงพร้อมกับเท้าแขนไปกับสะพานเหม่อมองไปข้างหน้าด้วยสายตานิ่งเรียบ ฉันเดินเข้าไปใกล้เขาพร้อมกับเอื้อมมือไปจับชายเสื้อพี่ชินน์ไว้เบาๆ "มิวขอโทษ แต่มิวก็ไม่อยากทำร้ายพี่อึ่ก...มิวพยายามแล้วมิวพยายามเปิดใจให้พี่แล้วแต่หัวใจมิวมันกลับไม่ทำตามที่มิวสั่งเลย" "..." "พี่ พี่ชินน์เป็นคนดีดีจนมิวไม่อยากดึงให้พี่อยู่กับมิวพี่เลิกรักมิวเถอะนะ...มิวเชื่อว่าคนดีๆอย่างพี่ต้องมีคนที่รักพี่มากแน่ๆ" "มันไม่ง่ายมิวก็รู้" "อึ่ก..." พรึ่บ! ดวงตาของฉันเบิกกว้างทันทีที่ร่างของฉันถูกพี่ชินน์ดึงเข้าไปในอ้อมกอด เขากอดฉันไว้แน่นพร้อมกับซบใบหน้าตัวเองลงมาที่ลานไหล่ฉันแต่นั้นกลับทำให้ฉันร้องไห้ออกมาดังขึ้นไปอีกเพราะฉันรู้รู้ว่าตอนนี้เขาเจ็บขนาดไหนยังไงล่ะ "พี่คงเป็นมากกว่าพี่ชายที่ดีไม่ได้จริงๆสินะ..." น้ำตาฉันไหลลงมามากขึ้นเมื่อเสียงทุ้มต่ำของพี่ชินน์เอ่ยขึ้นพร้อมกับปลายเสียงที่ติดจะสั่นนิดๆ ฉันสะอื้นไห้เสียงดังเพราะความรู้สึกตอนนี้มันกำลังเสียใจจริงๆฉันทั้งเสียใจและรู้สึกผิด ฉันโกรธตัวเองที่มันไม่เข้มแข็งพอที่จะตัดใครอีกคนให้ขาดมันจึงทำให้คนตรงหน้าฉันต้องมาเสียใจไปด้วย...มันแย่แต่ฉันก็ตอบรับคำขอของเขาไม่ได้เพราะฉันไม่อยากทำร้ายพี่ชินน์ไปมากกว่านี้ ฉันจะคบกับเขาได้ยังไงในเมื่อหัวใจของฉันมันมีใครอีกคนเต็มทั้งใจขนาดนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม