เวลาห้าปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว สองหมาป่ารูปหล่อย่างก้าวเข้าวัย 33 แต่ความหล่อเหลาคมคายกลับเพิ่มมากขึ้น ทั้งหมาป่าสาวที่เคยอยู่ฝูงเดียวกันและต่างฝูง ทั้งมนุษย์สาวน้อยใหญ่ต่างก็หลงใหลใฝ่ฝันสองหนุ่มที่เริ่มอยู่ในช่วงวัยที่รุ่งโรจน์อย่างเต็มพิกัด
ในระยะเวลาห้าปีที่พวกเขาส่งจันทร์เจ้าไปเรียนที่อเมริกาพวกเขาเปลี่ยนผู้หญิงมากหน้าหลายตา บางครั้งก็ร่วมรักกับผู้หญิงคนเดียวกันพร้อมกัน บางครั้งก็แยกกันร่วมรักกับผู้หญิงของใครของมัน แล้วแต่ว่าผู้หญิงชอบแบบไหนและอารมณ์ของพวกเขาตอนตัวเมียตัวนั้นติดสัดเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ ๆ พวกเขารักษาสัญญาที่ให้ไว้กับจันทร์เจ้า... พวกเขาไม่เคยคิดจะเอาใครขึ้นมาเป็นเมียเหมือนที่เคยบอกกับน้อง
ตัวจันทร์เจ้าเองในช่วงปีแรกก็กลับเมืองไทยช่วงปิดเทอม แต่พอปีที่สอง สาม สี่ ห้า เธอกลับไม่ยอมกลับมาเลย พวกเขาสองคนจะตามไปหาที่อเมริกา เด็กสาวก็ห้ามปราม อ้างแต่ว่าหากพวกพี่ ๆ ยกโขยงกันมาเธอกลัวพวกปิศาจหมาในจะล่วงรู้ว่าพี่ ๆ ส่งเธอมาเรียนต่อที่อเมริกาแล้วหาทางตามมาล่าตัวเธอ
ยิ่งนานวันเด็กสาวก็ยิ่งส่งข่าวคราวให้พวกเขาน้อยลง บางครั้งที่พวกเขาอยากรู้ความเป็นไปของน้องพวกเขาถึงกับต้องร้องขอให้คริสและภรรยาที่รับเป็นโฮสต์แฟมิลี่ให้กับจันทร์เจ้าแอบถ่ายรูปน้องส่งมาให้
จากรูปเด็กหญิงวัย 15 ที่ทำหน้างอตอนไปถึงอเมริกาใหม่ ๆ ปีแรกที่กลับมาหาพี่ ๆ ยังออดอ้อนอยากอยู่กับพี่ ๆ นาน ๆ แต่พอปีที่สองภาพถ่ายของเด็กหญิงกลายเป็นเด็กสาวมีรอยยิ้มร่าเริง ปีที่สามจันทร์เจ้าก็เริ่มสูงขึ้นอีกนิดหน่อย รูปร่างเพรียวขึ้น พอปีที่สี่เด็กสาวเริ่มกลายเป็นสาวน้อย เธอดูเปล่งประกาย รู้จักแต่งตัวตามแบบวัยรุ่นชาวอเมริกา สวมเสื้อเอวลอย เปิดเผยเนื้อหนังมังสา ไม่ได้แต่งตัวเหมือนตุ๊กตาแบบที่ภูวินท์เคยชื่นชอบอีกต่อไป ย่างเข้าปีที่ห้า แก้มอ้วนยุ้ยเต็มไปด้วยเนื้อของจันทร์เจ้าเริ่มหายไปกลายเป็นสาวน้อยหน้าเรียวรูปไข่ดูสวยน่ารัก รอยยิ้มของเธอสดใสเหมือนจันทร์กระจ่างยามคืนเดือนมืด
ในรูปล่าสุดที่คริสถ่ายส่งมาให้พี่ ๆ จันทร์เจ้าในวัย 19 ย่าง 20 ปล่อยผมยาวสยายหยักเป็นลอนให้ปลิวลู่ไปตามลม สาวน้อยสวมเสื้อเอวลอยสีชมพู กางเกงยีนขาสั้นยาวแค่คืบ เผยเรียวขาสวย เธอไม่ได้สูงขึ้นมากนัก แต่ทั้งอกและสะโพกผายใหญ่เน้นให้เห็นรูปร่างและความสวยเป็นสาวสะพรั่งเต็มตัว เอวคอดกิ่วของเธอเล็กเว้า ทำให้สาวน้อยรูปร่างเล็กแต่ดูเซ็กซี่อย่างน่าประหลาด และเหมือนสาวน้อยจะรู้ว่าขาของเธอแม้จะไม่ยาวเท่าสาวไซซ์ฝรั่งแต่มันเรียวเนียน สวยน่าจับ เธอจึงนิยมสวมกางเกงขาสั้นมากกว่าสวมกระโปรงเหมือนเมื่อตอนยังเด็ก
“ดูอะไรวะไอ้วิน?” ภูดิสเดินเข้ามาแล้วถามพี่ชายที่นั่งมองจอแล็ปท็อปแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“รูปจั่น มีงานไอริชเฟสติวัลที่นิวยอร์ก น้องไปเที่ยวงาน ไอ้คริสเลยถ่ายรูปส่งมาให้” ภูวินท์สางมือใหญ่ เสยผมยาวสีเงินงามแล้วตอบน้องชายพลางหันแล็ปท็อปให้น้องดู
ภูดิสขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นภาพสาวน้อยในชุดล่อแหลม
“เชี่ย! ทำไมไอ้คริสปล่อยจั่นแต่งตัวแบบนั้นวะ? แม่ง... แบบนี้พวกผู้ชายไม่ตามกลิ่นกันเกรียวเหรอวะ? กูบอกให้ดูน้องดี ๆ นี่อะไร นับวันยิ่งแต่งตัวไปกันใหญ่ แทบจะเปลือยเดินอยู่แล้ว” ภูดิสบ่นน้ำเสียงหงุดหงิดเต็มที่
“น้องชอบก็ปล่อยน้องแต่ง น้องแต่งเพราะน้องคิดว่าน้องสวยเวลาแต่งแบบนี้ น้องมีความสุขก็พอแล้วนี่ หรือมึงคิดว่าน้องไม่สวย ไอ้ดิน?” ภูวินท์ถามยิ้ม ๆ เอ็นดูน้องชายของตัวเองก็ด้วย เขาเองบางทีก็มีความคิดเหมือนภูดิส ไม่อยากให้จันทร์เจ้าแต่งตัวโป๊จนเกินไป แต่หากจันทร์เจ้าพอใจ ใครจะห้ามเจ้าหล่อนได้? เธอโตแล้ว เป็นสาวเต็มตัวแล้ว และย่อมมีสิทธิในร่างกายของตัวเองมากกว่าพวกเขาที่ชุบเลี้ยงอยู่แล้ว
“สวยก็สวยแหละ ไม่น่าเชื่อว่ายัยตัวกลมจะกลายเป็นสาวสวยขนาดนี้ได้ แต่หลัง ๆ จั่นเล่นไม่ยอมกลับไทยเลย โทรคุยกันก็แค่สั้น ๆ วิดีโอคอลก็ไม่ค่อยมีมาเหมือนตอนแรกที่ไปถึงอเมริกา ถ้าไอ้คริสกับเมียไม่ถ่ายรูปส่งมาให้ก็คงไม่ได้เห็นหน้าค่าตา หรือว่า... จั่นจะเจอคู่และอยากอยู่ยาวที่อเมริกาแล้ววะไอ้วิน?” ภูดิสถามพี่ชาย น้ำเสียงครุ่นคิด
“แล้วไม่ดีหรือไง? ตอนแรกที่พวกเราส่งจั่นไปเรียนต่อก็เพราะเราอยากให้น้องมีชีวิตอยู่ในสังคมมนุษย์นี่ และยิ่งไกลยิ่งดี... ยิ่งให้ไอ้พวกปิศาจหมาในตามกลิ่นไม่เจอยิ่งดีเข้าไปใหญ่...” ภูวินท์บอกน้องชายแล้วหวนคิดถึงวันที่เขาและภูดิสปรึกษากันว่าจะส่งตัวจันทร์เจ้าไปให้ไกล
“นานขนาดนี้ไอ้พวกหมาในมันหาเจ้าสาวคนอื่นให้จ่าฝูงมันเรียบร้อยไปแล้วมั้งมึง 15 ปีเข้าไปแล้ว... มันจะรอจั่นแค่คนเดียวถึง 15 ปีเลยเหรอ? จะรักจริงเกินไปหน่อยไหมมึง? ไอ้จ่าฝูงหมาในมันยังไม่เคยเห็นหน้าจั่นด้วยซ้ำ มีแค่ลูกน้องมันที่ล่าเด็กหวังไปเอาหน้ากับจ่าฝูง” หนุ่มหล่อผมทองออกความคิด
“ก็ขอให้เป็นจริงตามนั้น...” ภูวินท์พูดพึมพำเหมือนบ่นกับตัวเอง
“จั่นจะมีผัวกูก็ไม่ว่าหรอก เด็กมันจะ 20 แล้ว แต่น้องเล่นไม่กลับมาเยี่ยมพวกเราเลยนี่สิ พวกเราอุตส่าห์ไม่จริงจังกับใคร กลัวน้องโกรธที่จู่ ๆ จะมีเมียไม่ยอมปรึกษาน้อง แล้วนี่อะไร? ไม่คิดถึงใจพี่ ๆ เลย หลงตัวผู้อยู่ที่โน่นจนลืมพี่” ภูดิสพูดแล้วนิ่วหน้า ปกติเขาเป็นคนร่าเริง น้อยครั้งนักที่จะบ่นเรื่องจันทร์เจ้าออกมา
แต่เมื่อเห็นรูปสาวน้อยจากแล็ปท็อปของพี่ชายเขาก็อดน้อยใจไม่ได้
ในวันที่เขาและภูวินท์อายุย่างเข้า 33 ปี เด็กหญิงวัยห้าขวบที่พวกเขาช่วยเหลือจากปิศาจหมาในก็กลายเป็นสาวสะพรั่งในวัย 20 ไม่น่าเชื่อว่าเด็กตัวกลมน้ำตาเปื้อนแก้มจะเติบโตขึ้นเป็นสาวน้อยสวยหวานในรูปที่ตรงหน้า
“น้องไม่กลับมาก็ดีไปอีกอย่าง... พวกเราเคยคุยกันไว้แล้วนี่นาว่าเราอยากให้น้องได้มีชีวิตเหมือนมนุษย์ปกติ การที่น้องอยู่อเมริกาแล้วใช้ชีวิตที่มีความสุข ไม่ต้องติดเราแจอาจปลอดภัยกับน้องมากกว่าด้วย เพราะมึงก็รู้ดี... ยิ่งโตกลิ่นน้องยิ่งแรง...” ภูวินท์พูดแล้วคิดถึงวันแรกที่เขายกเรื่องส่งน้องไปเรียนต่อต่างประเทศขึ้นมาพูดกับภูดิส
.....................
5 ปีก่อน
“จั่นเริ่มมีกลิ่น... กลิ่นฟีโรโมนแบบสัตว์ป่า ตอนเด็ก ๆ ยังไม่รุนแรงขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรมนุษย์อย่างน้องถึงมีกลิ่นนี้ได้ แต่ถ้าเราเก็บน้องไว้กับเราแบบนี้เรื่อย ๆ สักวันไอ้พวกหมาในมันต้องตามกลิ่นน้องเจอแน่” ชายหนุ่มหน้าหวานเสยผมยาวขึ้นแล้วมองไปนอกหน้าต่าง เขาจับตามองเด็กหญิงจันทร์เจ้าที่วิ่งไล่จับผีเสื้ออยู่ตรงสนามหญ้าหลังบ้านด้วยความรักใคร่ปนกังวล
“กูก็ได้กลิ่นน้อง... ไม่ใช่แค่พวกหมาใน... ยิ่งโตกลิ่นฟีโรโมนของจั่นยิ่งแรง เหมือนกลิ่นตัวเมียตอนติดสัด เราสองคนเองถ้าอยู่ในช่วงอยากผสมพันธุ์แล้วได้กลิ่นแบบนี้ก็คงอันตรายกับน้องเหมือนกัน” ภูดิสพูดขึ้นแล้วต้องยอมรับความจริงด้านมืดของตัวเองอย่างจำใจ
“แต่พวกเราไม่ใช่สัตว์แบบเต็มตัว พวกเราเป็นมนุษย์หมาป่า เราต้องหักห้ามใจให้ได้ เราไม่ใช่เดรัจฉานร้อยเปอร์เซ็นต์ เอาใครไม่เลือกไม่ได้ และที่สำคัญเราจะบังคับน้องไม่ได้... มึงจะว่ายังไงถ้ากูจะส่งจั่นไปเมืองนอก... ไกลจากพวกหมาใน และที่สำคัญ... ไกลจากพวกเรา” ภูวินท์ถามน้องชายเสียงเศร้า
เขาและภูดิสเป็นเหมือนฝาแฝดแต่ก็ไม่ใช่แฝดเสียทีเดียว พวกเขาเป็นหมาป่าที่เกิดครอกเดียวกันแต่ต่างสี ตัวหนึ่งสีเงิน ตัวหนึ่งสีทอง หน้าตาก็แตกต่างกัน มีแต่รูปร่างสูงใหญ่กำยำที่ได้จากพ่อมาคล้ายคลึงกันอยู่หลายส่วน ดังนั้นส่วนใหญ่ทั้งนิสัยใจคอ ความคิดของสองหนุ่มหล่อล้วนต่างกันอยู่มากโข เห็นจะมีแต่เรื่องรสนิยมทางกามารมณ์และเรื่องของจันทร์เจ้าที่พวกเขามีความเห็นตรงกัน
“กูเห็นด้วย ให้จั่นได้มีชีวิตเหมือนเด็กสาวทั่วไป พวกเราต้องส่งจั่นไปอยู่กับคนที่ดูแลจั่นได้ และที่สำคัญ... ถ้าเป็นมนุษย์หมาป่าเหมือนพวกเราได้ยิ่งดีและต้องมีเมียแล้วเท่านั้น” ภูดิสตอบพี่ชาย
“ไอ้คริสไง มันอยู่อเมริกา มีเมียแล้ว เพิ่งมีลูกเมื่อปีที่แล้วด้วย แล้วทำไมต้องเลือกมนุษย์หมาป่าที่เมียแล้ววะ?” ภูวินท์ตอบแล้วถามน้องไปพร้อมกัน
“มึงก็รู้ว่าพอหมาป่าตัดสินใจเลือกตัวเมียมาเป็นคู่มันจะปักใจแต่คู่มันเท่านั้น ไอ้คริสมีเมียแล้ว ถึงจั่นจะมีฟีโรโมนแรงแค่ไหนมันก็คงไม่หักใจทำเมียเจ็บได้ ไอ้คริสมันต้องรักและซื่อสัตย์กับเมียมันมาก... มึงกับกูก็เหมือนกัน ถ้าเมื่อไหร่พวกเราปักใจจะแต่งงานกับใครสักคน ไม่ว่าจะแต่งเมียคนเดียวกันหรือแต่งแบบแยกเมีย กูก็มั่นใจว่ากูกับมึงจะไม่มองใครนอกจากเมีย”