ตำหนักจื่อเฉิน
เงาราตรีอันมืดมิดโอบรอบตำหนักจื่อเฉินเงียบสงัดยิ่งนัก
สายลมต้นฤดูหนาวพัดมาเยือนเมืองหลวงอีกครั้ง
เว่ยชิงฟงสวมอาภรณ์พื้นเข้มปักลายมังกรสีม่วงยืนอยู่บนขั้นบันใดหลักของตำหนักจื่อเฉิน
ที่นี่ฝังกลบความทรงจำมากมายของตัวเขาในอดีตไว้ไม่น้อยโดยเฉพาะกับเตียงบรรทมที่ด้านในนั้น
….เว่ยชิงฟงกลางอกซ้ายพลันรู้สึกเจ็บแปลบ…..
ชินอ๋องสูดหายใจเข้าลึกก่อนเดินเข้าไปในตำหนักภาพแผ่นหลังอันสูงส่งงามสง่าช่างสะกดสายตาผู้คน
ชั่ววินาทีนั้นเกาซู่หนิงดั่งได้เห็นภาพซ้อนทับอันคุ้นตาของบุรุษผู้สวมอาภรณ์มังกรทองสว่างไสว
“ทูลท่านอ๋อง...หวังเยียประทับอยู่ห้องทรงพระอักษรพะย่ะค่ะ”
“เชิญท่านอ๋องทางนี้พะย่ะค่ะ”
ลู่กงกงขันทีคนสนิทพระบิดาน้อมกายคำนับเว่ยชิงฟง
ไม่นานนักเงาร่างของโอรสสวรรค์คนปัจจุบันในอิริยาบทนั่งอยู่หลังตั่งทรงงานปรากฏให้เห็น
เว่ยชิงฟงคุกเข่าโขกศีรษะคำนับเว่ยหลี่หยวนหวังเยียแคว้นเว่ยคนปัจจุบัน
“ชิงฟงลุกขึ้นเถอะ เจ้าไม่ต้องมากพิธี”
พระสุรเสียงกังวานเอ่ยบอก พระเนตรใสกระจ่างจับจ้องใบหน้าพระโอรสองค์รอง
“เจ้ามีอันใดจะบอกพ่อ จงว่ามาเถอะ”
เว่ยชิงฟงยังคงไม่ลุกขึ้นสองมือประสานอยู่เบื้องหน้า
“ชาตินี้หม่อมฉันเป็นลูกอกตัญญู หม่อมฉันขอพระราชทานราชโองการขึ้นเหนือเข้าเขตชายแดนพะย่ะค่ะ”
เว่ยชิงฟงหลุบสายตา
“เจ้าแน่ในหรือ”
สายพระเนตรคมกริบจ้องหน้าพระโอรส
“พะย่ะค่ะลูกไม่เปลี่ยนใจ”
“เช่นนั้นเราอนุญาต”
เว่ยหวังเยียหลี่หยวนโบกพระหัตถ์เป็นเชิงอนุญาต ลู่กงกงนำทางงเว่ยชิงฟงออกจากตำหนักจื่อเฉิน
ภายหลังเว่ยชิงฟงกลับออกไปแล้วเว่ยหวังเยียเงยหน้าขึ้นจากกองฏีกาบนตั่งเตี้ย
ยามนี้แม้แคว้นเว่ยจะกำราบแคว้นฉู่ทางเหนือได้อย่างราบคาบแล้ว
ถึงกระนั้นเขตชายแดนทางเหนือยังมีแม่ทัพกู้เซ่าฉิงรักษาการณ์อยู่
รัชทายาทมากความสามารถหากแต่ยังไม่เด็ดขาดพอ
ภายภาคหน้าสิ่งนี้ย่อมย้อนกลับมาทำร้ายแคว้นเว่ยหากปล่อยให้รัชทายาทครองบัลลังก์
ยามนี้พระองค์ทรงลงมือกับรัชทายาทไม่ถนัดติดตรงที่บุตรชายคนนี้มีสัมพันธ์อันดีกับแม่ทัพใหญ่สกุลกู้
พระองค์ทรงรอเวลาที่จะส่งชินอ๋องไปคานอำนาจคนสกุลกู้ที่เขตชายแดน
หนนี้ถึงกับยอมสละหมากสำคัญในมือเช่นซูเฟย
....เว่ยชิงฟงชินอ๋อง....
บุตรชายผู้ที่พระองค์เคียวกรำเองกับมืออย่างลับๆ ส่งเขาไปคานอำนาจคนสกุลกู้ยามนี้ย่อมเป็นเรื่องดี
ตำหนักซ่างเหอ
เว่ยชิงฟงกลับมาถึงตำหนักซ่างเหอยามอ้าย(สี่ทุ่ม) โคมไฟประดับในอุทยานด้านนอกดับแสงลงหมดแล้ว
อดีตหวังเยียผู้ยิ่งใหญ่ไม่อาจข่มตาหลับลง แม้จะรู้ว่าพระบิดาคือผู้อยู่เบื้องหลังการตายของพระมารดา
เพื่อบีบให้เขาห่ำหั่นกับรัชทายาทโดยตรง
เว่ยหวังเยียหลี่หยวนจะล่วงรู้หรือไม่ แม้ไม่ใช้ชีวิตพระมารดาเป็นเหยื่อล่อ
ชาตินี้ทั้งชาติเขากับเว่ยชิงหานหาได้อยู่ร่วมโลกเดียวกันได้
จะเว่ยชิงหานหรือกู้หยุนเหลียนก็ดีในเมื่อมาถึงขั้นนี้เว่ยชิงฟงผู้นี้ก็จะไม่ปล่อยให้ผู้ใดได้สงบสุข
ดอกบัวดอกเล็กในอ่างข้างหน้าต่างห้องบรรทมชูก้านดอกตูมโผล่พ้นน้ำ
....กู้หยุนเหลียน.... ดอกบัวน้อยของข้า
“ตัวข้าหาได้เป็นคนดีอะไร ต่อให้สวรรค์จะให้ข้าย้อนกลับมาอย่างไร”
“ข้าไม่อาจยั้งมือได้อีกแล้ว”
เว่ยชิงฟงดึงดอกบัวสีขาวดอกนั้นขึ้นมาจุมพิตร้อนลวกจากริมฝีปากสัมผัสกลีบดอกบัวในมือแผ่วเบา
‘แม้ย้อนกลับไปได้ ข้าไม่ขอเปลี่ยนใจจากเจ้า’
จากนี้เว่ยชิงฟงยังมีเวลาต่อกรกับรัชทายาทอีกสองปี
ชาติก่อนนั้นช่วงเวลาที่เขาออกเดินทางไปเขตสุยโจวอยู่ห่างจากนี้อีกหนึ่งเดือน
ดวงตามังกรลุ่มลึกพลันฉายแววอันตราย
เว่ยชิงฟงชิงตัดหน้าขอราชโองการไปก่อนคราวนี้ก็เพื่อแวะจัดการธุระสำคัญที่เขาหนานซาน
....หมอเทวดาฉานจิ่นเจ้าของยาเม็ดตลบสวรรค์ในชาติก่อน....
เพราะยาเม็ดนั้นทำให้ชีวิตของเว่ยชิงฟงติดอยู่ในเงาของรัชทายาทเว่ยชิงหานไปจนตาย
ชาตินี้หากไม่เอาคืนให้สาสมบรรดาภูติผีในนรกจะโอดครวญได้ว่าข้านั้นคืนชีพมาเสียเปล่า!!!
---------------------------------------------
สามารถติดตามภาค 1 ในเรื่อง 'ชะตารักตำหนักสุสาน'
หากชื่นชอบโปรดกดติดตาม
เป็นกำลังใจให้นักเขียนได้นะคะ
รักนักอ่านมาก 'เสี่ยวเกอเกอ'