ชะตารักตำหนักมังกร
[1]
นิทราหนึ่งตื่น
เงาราตรีอันมืดมิดโอบรอบตำหนักจื่อเฉินเงียบสงัดยิ่งนัก สายลมต้นฤดูหนาวคอยพัดพาสรรพสำเนียงยามราตรีให้ได้ยิน
กู้หยุนเหลียนอยู่ในอาภรณ์สีขาวบริสุทธิ์ดวงหน้าซีดเซียวของนางแต่งแต้มสีชาดเล็กน้อย
ใบหน้างดงามกับดวงตาหงส์ กิริยาสงบนิ่งดุจเซียนสวรรค์ต่างจากรูปลักษณ์ยามปกติของอัครชายาเสียนเฟยเช่นนาง
นานเท่าใดแล้วที่นางไม่ได้แต่งกายเรียบง่ายเช่นนี้
แม้นางจะงดงามเป็นหนึ่งหากแต่สิ่งที่แต่งแต้มลงใบหน้านั้นคล้ายปกปิดตัวตนที่แท้จริงอยู่หลายส่วน
ยามปลายเท้าแผ่วเบาย่างเข้ามาในตำหนักจื่อเฉินครั้งใดดั่งวันเวลากำลังหมุนย้อนคืนกลับ
‘เมื่อหลายปีก่อนนางพบคนผู้นั้นครั้งแรกก็เป็นที่พระตำหนักจื่อเฉินแห่งนี้’
ดวงตาหงส์งดงามเหม่อมองไปยังเบื้องหน้าแท่นบรรทม
ร่างสูงในอาภรณ์มังกรสีทองคุ้นตาแผ่นหลังตั้งตรงของเว่ยหวังเยียหันพระพักตร์มาหานางในที่สุด
เว่ยชิงฟงใบหน้างดงามซูบตอบลงกว่าครึ่งถึงกระนั้นพระองค์ยังส่งยิ้มอ่อนโยนให้นางดั่งเช่นทุกครั้งที่พบกัน
กู้หยุนเหลียนส่งยิ้มตอบกลับเช่นกันพร้อมกับหยดน้ำตาวาววับไหลลงอาบแก้ม
“....หยุนเหลียน....มาหาข้า......”
เว่ยชิงฟงยื่นมือข้างหนึ่งไปทางกู้หยุนเหลียน ริมฝีปากแห้งผากเอ่ยเรียกสตรีผู้ครองหัวใจรักพระองค์ให้เข้ามาใกล้
ร่างงามเดินเข้ามาหาเขาอย่างว่าง่ายเว่ยชิงฟงไม่มีแรงพอแม้จะรั้งร่างกู้หยุนเหลียนเข้ามา
สตรีโฉมงามผู้เป็นที่รักเบื้องหน้าพระองค์นางเพียงนั่งอยู่บนเตียงบรรทมเช่นเดียวกัน
นิ้วมือเรียวยาวซูบผอมสั่นระริกยามยกขึ้นลูบไล้รอยน้ำตาบนแก้มนวล
“ยามนั้น....ข้าเพิ่งเข้าวังครั้งแรกข้าเป็นเด็กไม่รู้ความวิ่งเล่นเข้ามาจนถึงที่นี่”
“วันนั้นข้าไม่ทันระวังจนวิ่งชนเข้ากับเด็กผู้ชายสวมชุดสีทอง”
“เขาบอกข้าว่าเขาไม่โกรธข้า ให้ข้าอย่าไปบอกผู้ใด”
“หลังจากวันนั้นข้าก็เฝ้าติดตามข่าวคราวของเขา”
“เด็กผู้ชายสวมชุดสีทองคนนั้น”
กู้หยุนเหลียนดวงตาเลื่อนลอยยามเอ่ยถึงความทรงจำวัยเด็ก
หยาดน้ำตาเม็ดโตไหลร่วงราวหยาดพิรุณเว่ยชิงฟงปิดเปลือกตาลงแน่น
“..เขาใช่บอกเจ้าว่า.....หากเจ้าอยากวิ่งเล่น เขาก็จะไม่บอกผู้ใด”
เว่ยชิงฟงเอ่ยเสียงแผ่วเบาจนเป็นเสียงกระซิบกู้หยุนเหลียนแย้มยิ้มเต็มใบหน้า
รอยยิ้มของนางช่างเจิดจ้าเช่นเดียวกับวันวานที่นางวิ่งชนเขาในตำหนักจื่อเฉิน
“กว่าข้าจะรู้....ก็แก้ไขสิ่งใดไม่ได้แล้ว”
“เป็นข้าที่โง่เขลา....เป็นข้าเอง…”
กู้หยุนเหลียนซบใบหน้าลงกับฝ่ามือหลั่งน้ำตาดั่งคนใจสลาย
ครั้งนั้นเป็นนางที่เข้าใจผิดไปว่าเด็กผู้ชายชุดสีทองคนนั้นคือรัชทายาทเว่ยชิงหาน
แม้หลายปีให้หลังนางจะรู้ความจริง...หากแต่ทั้งดวงใจของนางมีรัชทายาทเว่ยชิงหานอยู่เต็มหัวใจเสียแล้ว
...หาใช่ชินอ๋องเว่ยชิงฟงผู้เป็นพระอนุชา…
“ข้าทำร้ายท่าน”
กู้หยุนเหลียนเงยหน้าสบตาเว่ยชิงฟง
“เกิดมาทั้งที....รักก็รักแล้วแค้นก็แค้นแล้ว ชาตินี้ทั้งชาติถือว่าข้าไม่เสียชาติเกิด”
“หากวันนั้นท่านไม่ดื้อดึงรักข้า”
กู้หยุนเหลียนเอ่ยถ้อยคำแผ่วเบา
“เด็กโง่..สายน้ำไหลไปมีที่ใดไหลย้อนกลับ”
“แม้ย้อนกลับไปได้...ข้าก็จะไม่ขอเปลี่ยนใจจากเจ้า”
เว่ยชิงฟงเอื้อมมือไปเกี่ยวปอยผมข้างหนึ่งของสตรีผู้เป็นที่รัก
นางยังคงงดงามเฉกเช่นเมื่อหลายปีก่อนกาลเวลาช่างเมตตาต่อเมียรักของเขานัก
“หากวันนั้นข้าบอกเจ้าว่าข้าเป็นใคร...เจ้าจะเลือกข้า....จะเฝ้ารัก....เฝ้ารอข้าหรือไม่...”
เว่ยชิงฟงจ้องมองดวงตาหงส์คู่งามนั้น
“สายน้ำไหลไป....มีที่ใดไหลย้อนกลับ”
กู้หยุนเหลียนเอ่ยประโยคเดียวกันกับเว่ยชิงฟงเมื่อครู่ดวงตาหงส์ฉายแววอ่อนละมุน
“เดิมทีข้าอยากให้ท่านค่อยๆ ตายอย่างทรมาน”
“แต่พอข้าได้แก้แค้นท่านสมใจ...ข้ากลับไม่อยากให้ท่านตายเช่นนั้น”
กู้หยุนเหลียนเอื้อนเอ่ยวาจาไปเรื่อยคล้ายกำลังพูดคุยเรื่องสัพเพเหระทั่วไป
มีดสั้นเล่มงามในมือนางจ่อเข้าที่ขั้วหัวใจเว่ยชิงฟงสองมือบอบบางของนางกำด้ามมีดไว้จนข้อมือขาวซีด
ปลายมีดคมกริบสั่นระริก
ไม่อาจทราบได้ว่าเพราะเหตุใด กู้หยุนเหลียนไม่อาจหักใจกดคมมีดลงดั่งใจนึก
เว่ยชิงฟงแย้มยิ้มเต็มใบหน้าแววตาเจิดจ้าทอประกายวาบก่อนโอบกอดร่างกู้หยุนเหลียนเข้ามาให้คมมีดแหลมเล็กกรีดแทงทะลุขั้วหัวใจพระองค์พอดิบพอดี!!!
“...ชิงฟง!!!!...”
กู้หยุนเหลียนกรีดร้องสุดเสียง มือน้อยผลักร่างเว่ยชิงฟงออกห่าง
แรงสะท้อนดีดร่างสูงในอาภรณ์มังกรทองล้มลงไปบนฝูกนิ่มดั่งผ้าเก่าขาดผืนหนึ่ง
เลือดสีเข้มไหลทะลักอาบย้อมอาภรณ์มังกรจนเป็นสีแดงฉาน
“......ไม่!!!.....”
กู้หยุนเหลียนพลันปล่อยมือจากมีดสั้นร่างบางกรีดร้องลั่นตำหนักจื่อเฉินสองมือกดห้ามเลือดบนบาดแผลกลางอกเว่ยชิงฟง
ยามได้เห็นบุรุษผู้เฝ้ารักถนอมนางดั่งชีวิตลมหายใจขาดห้วงไป
กู้หยุนเหลียนกรีดร้องดั่งคนเสียสติเลือดก้อนโตพลันพุ่งทะลวงขึ้นมาจากภายใน
ก่อนมากู้เสียนเฟยดื่มยาพิษเตรียมไว้ก่อนแล้ว
ผู้ใดจะรู้ได้ยามเมื่อเห็นบุรุษผู้เฝ้ารักนางอย่างบ้าคลั่งมาทั้งชีวิตกำลังสิ้นลมหายใจลงต่อหน้านางกลับไม่ได้ยินดี
กู้หยุนเหลียนร่างกายสิ้นเรี่ยวแรงซบร่างลงบนแผงอกแกร่ง เปลือกตางดงามปิดลงหยาดน้ำตาสีไข่มุกไหลลงอาบแก้มนวลเป็นสาย
“....เด็ก...โง่....”
เว่ยชิงฟงน้ำเสียงเบาหวิวสองมือตกลงข้างลำตัวดวงตาปิดสนิทใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มงดงาม
สิ้นสุดรัชสมัยหวังเยียผู้ยิ่งใหญ่ภายใต้นามเว่ยชิงหาน...หาใช่เว่ยชิงฟง....
‘หากวันนั้น เจ้ารู้ว่าเด็กคนนั้นคือข้า’
‘เจ้าจะรักข้า เช่นที่เจ้ารักคนผู้นั้นหรือไม่’
---------------------------------------------
สามารถติดตามภาค 1 ในเรื่อง 'ชะตารักตำหนักสุสาน'
หากชื่นชอบโปรดกดติดตาม
เป็นกำลังใจให้นักเขียนได้นะคะ
รักนักอ่านมาก 'เสี่ยวเกอเกอ'